บขส.เพิ่ม 2เส้นทางไปเมียนมาร์ ถึงเมืองเชียงตุงและเมียวดี

1. เชียงใหม่-เชียงตุง
2.แม่สอด-เมียวดี

________________________________________________________

บขส.ขยายเส้นทาง ตปท. รับเออีซีปี 58 เพิ่มเที่ยวรถไปเมียนมาร์ วิ่งเชียงใหม่-เชียงตุง และแม่สอด-เมียวดี หลังนำร่องวิ่งไปกัมพูชา และลาว ล่าสุด เปิดเส้นใหม่กทม.-เวียงจันทน์ ส่วนผลประกอบการปี 57 รายได้หด หลังการเมืองวุ่น น้ำมันถูกคนแห่ขับรถใช้เอง...

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บขส.มีแผนขยายเส้นทางเดินรถโดยสารไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปลายปี 58 โดยจะเปิดเส้นทางไปประเทศเมียนมาร์เพิ่ม 2 เส้นทาง คือ เชียงใหม่-เชียงตุง และแม่สอด-เมียวดี ซึ่งจะทำให้ บขส.มีเส้นทางรถโดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 14 เส้นทาง เพิ่มเป็น 16 เส้นทาง

“ปัจจุบัน บขส.มีรถโดยสารไปสปป.ลาว 12 เส้นทาง กัมพูชาอีก 2 เส้นทาง แต่ในปีนี้เพิ่มเมียนมาร์อีก 2 เส้นทางเพื่อให้บริการเพิ่มขึ้น สำหรับการเปิดเดินรถระหว่างประเทศช่วงที่ผ่านมา มีผู้โดยสารใช้บริการในอัตราที่น่าพอใจ ยอดในปี 56 มีรายได้ 79 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท โดยเส้นทางที่ทำกำไร เช่น เวียงจันทน์ หลวงพระบาง ปากเซ แต่มีบางเส้นทางที่ขาดทุน เช่น เชียงราย-บ่อแก้ว เพราะต้องนำรถไปต่อเรือ ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก แต่หลังจากนี้หากสร้างสะพานสร้างเสร็จ และมีการประชาสัมพันธ์เส้นทางเพิ่ม เชื่อว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นได้”

นอกจากนี้ ล่าสุด บขส.ได้ร่วมลงนามสัญญาเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ ไทย–สปป.ลาว กับบริษัท ขนส่งโดยสารจิดปะสงยอดนิยม นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งทดแทนสัญญาเดิมที่ทำกับ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อให้บริการเส้นทางเดินรถโดยสาร ไทย–สปป.ลาว สายที่ 6 เส้นทาง กรุงเทพฯ–นครหลวงเวียงจันทน์ ด้วยรถมาตรฐาน 1(ก) ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทาง 900 บาท ระยะทาง 648 กม.และให้เดินรถฝ่ายละ 1 เที่ยวต่อวัน

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของ บขส.ในปี 57 พบมีรายได้ 4,960 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 342 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้ลดลงจากปี 56 ประมาณ 4%เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงราคาน้ำมันที่ถูกลง ทำให้คนหันมาขับรถเองแทนใช้บริการรถสาธารณะ ส่วนผลกระทบจากสายการบินต้นทุนต่ำที่ลดค่าโดยสารจนกระทบต่อรถทัวร์นั้น ในส่วนรถ บขส.ได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะ บขส.มีเที่ยวรถวิ่งประมาณ 10% ของเที่ยวรถรวมทั่วประเทศ อีกทั้งส่วนใหญ่ไม่ได้วิ่งเส้นทางเชิงพาณิชย์ที่ทับซ้อนกับสายการบินต้นทุน ต่ำ เช่น หาดใหญ่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ดังนั้น ผู้ที่กระทบมากๆ จะเป็นรถร่วมโดยสารของเอกชนมากกว่า

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการปี 58 คาดว่า บขส.มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นจากปี 57 เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมือง และเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงมีนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเองยังนิยมใช้บริการรถทัวร์อยู่ ขณะเดียวกันมีแผนจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ชั้นเดียว ขนาด 15 เมตร จำนวน 100 คัน มาให้บริการทดแทนรถ 2 ชั้น รุ่นเก่าที่จะต้องปลดระวางลง ซึ่งช่วยกระตุ้นให้คนมาใช้บริการเพิ่ม ส่วนราคาน้ำมันที่ถูกลงไม่ได้มีอานิสงส์ต่อผลดำเนินงานนัก เพราะเมื่อน้ำมันลดลง บขส.ก็ปรับค่าโดยสารลดลงตาม

http://bit.ly/1C8QBaw
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่