โรงเรียนที่เราเรียนอยู่เป็นโรงเรียนคริสต์ค่ะ นักเรียน 75% ครอบครัวนับถือคริสต์ทั้งนั้น ที่เหลือส่วนมากจะนับถือพุทธกันซึ่งก็สามารถเข้าเรียนได้นะ และก็แต่งชุดนักเรียนแบบพวกเรานี่แหละค่ะ ตอนเช้าทุกคนก็ต้องเข้าพิธีเป็นเวลาประมาณ 15-20 นาที คล้ายๆสวดมนต์ นะโม ตัสสะ ตอนเช้าของโรงเรียนพุทธนั่นแหละ ซึ่งเด็กพุทธก็ต้องเข้าด้วย แต่ไม่ต้องสวดหรือทำพิธีตาม แค่ไปนั่งดูนั่งฟังให้เท่าเทียมกันเฉยๆ แต่มีคนไม่ยอมเข้าค่ะ เด็กคนนั้นนับถืออิสลาม แล้วที่แปลกก็คือเด็กคนนั้นคลุมผมด้วย ชุดนักเรียนก็ไม่เหมือนพวกเราซึ่งครูเค้าไม่อนุญาติให้แต่งแบบนี้แต่ก็ไม่ได้บังคับให้เข้าแบบเด็ดขาดนะคะ และสุดท้ายเด็กคนนี้ก็ต้องเข้าร่วมเพราะอาจารย์ให้เหตุผลว่ามันไม่เท่าเทียมกัน ทุกคนในโรงเรียนทำอะไรเราก็ต้องทำแบบนั้นตามธรรมเนียมซึ่งเราเห็นว่าก็ถูกแล้วนะ เช่น นักเรียนนับถือคริสต์ ไปอยู่โรงเรียนพุทธ ทางโรงเรียนมีกิจกรรมเข้าค่ายศาสนาพุทธนักเรียนคนนั้นจึงต้องไปด้วยตามธรรมเนียมเพื่อความเท่าเทียมกัน ถ้ารับไม่ได้ทำไมไม่ไปเข้าโรงเรียนอิสลามกันล่ะนั่น

แต่หลังจากนั้นเราฟังต่อๆมาอีกทีก็คือเด็กคนนั้นไปฟ้องผู้ปกครอง ว่าครูไม่ให้คลุมผมต้องแต่งตัวแบบนักเรียนคนอื่นๆ แล้วก็เรียกให้เข้าโบสต์ด้วย ได้ข่าวว่าผู้ปกครองคนนั้นไปต่อว่าโรงเรียนใหญ่เลย เพราะได้ยินว่ามันผิดหลักศาสนาอิสลาม แต่เราว่าทางครูทำถูกแล้วนะคะ เพื่อไม่ให้มีการแบ่งแยกในโรงเรียน แล้วเค้าก็ไม่ได้บังคับให้สวดมนต์สรรเสริญของคริสต์ด้วย แค่ไปนั่งในพิธีเฉยๆซึ่งเด็กพุทธเค้าก็ทำกันนะ ไม่มีใครมีปัญหากันด้วยนะ โรงเรียนเราก็มีมาร้อยกว่าปีธรรมเนียมเค้าก็เป็นแบบนี้ว่านักเรียนทุกคนต้องเท่าเทียมกัน แต่ผู้ปกครองคนนั้นสรุปให้ทางโรงเรียนผิดเฉยเลย ซึ่งครูก็ขอโทษเค้าด้วยนะ O.o

แต่ว่าหลังจากวันนั้นได้ยินว่าเพื่อนในห้องของน้องคนนั้นล้อกับต่อว่าเค้าใหญ่เลยจนต้องถอดผ้าคลุมผมออกไม่ได้ใส่อีก เรื่องจบยังไงเราก็ไม่แน่ใจนะ แต่นักเรียนคนนั้นก็ยังอยุ่เพียงแต่ว่าไม่ได้คลุมผมแล้ว แล้วก็ต้องเข้าโบสถ์เหมือนนักเรียนทั่วๆไป เลยคาดว่าผู้ปกครองคนนั้นคงยอมทางโรงเรียนแล้วเพราะเป็นกฏที่มีมานานเรื่องความเท่าเทียมและธรรมเนียมของโรงเรียนจะให้เปลี่ยนเพราะเด็กคนเดียวมันก็ไม่ใช่ แต่ไม่เข้าใจว่าครูจะขอโทษทำไม?

-ในความคิดเรานักเรียนและผู้ปกครองคนนั้นผิดนะ ที่ไม่ศึกษาธรรมเนียมและกฏของโรงเรียนก่อนสอบเข้ามา แล้วรู้ทั้งรู้ว่าเป็นโรงเรียนต่างศาสนาน่าจะยอมรับผลที่ตามมาใช่ป่ะ? แถมโรงเรียนก็ทำตามกฏเค้า แล้วก็ไม่ได้บังคับให้เปลี่ยนศาสนาด้วยนะ ก็สงสัยว่าทำไมไม่ไปเข้าโรงเรียนอิสลามกันในเมื่อไม่ยอมรับกฏของโรงเรียน

เรื่องนี้เกิดตั้งแต่ต้นเทอมแล้วล่ะค่ะ แต่พึ่งมานึงสงสัยเอาตอนนี้ ก็เลยอยากถามว่าตกลงทางโรงเรียนผิดหรือว่าผู้ปกครองคนนั้นผิดกันแน่ หลายๆคนอาจจะตอบว่าผู้ปกครองนะคะเราพอจะเดาได้ แต่มองด้านเดียวก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ ต้องมองในมุมเค้าบ้างเราก็ไม่รู้ว่าศาสนาอิสลามมีกฏอะไรหรือเคร่งอะไรหรอกนะ เช่น ถ้าไปเข้าร่วมพิธีศาสนาอื่นจะทำให้ตกนรกอะไรแบบนั้นมั้ยถ้าใช่เราว่ามันก็ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเค้านะ แล้วเพราะก็สอบเข้าเสียเงินค่าเทอมมาเหมือนกัน น่าจะได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษรึเปล่า แต่โรงเรียนไม่ให้จะกลายเป็นว่าโรงเรียนผิดมั้ย? ก็เลยอยากขอความเห็นหน่อยค่ะ