ย้อนดู 10 ดาวเด่น-ดาวร่วง บนเวทีลูกโลกทองคำ 2015
โดยเว็บไซต์ cinemablend และเรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เกาะกระแสผลรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 72 กับ 10 ดาวเด่นและดาวร่วงที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
เป็นเรื่องธรรมดาที่การแข่งขันรูปแบบต่างๆ จะมีบรรยากาศของผู้ที่สมหวังและผิดหวังเป็นธรรมดา
เช่นเดียวกับงานประกาศผลลูกโลกทองคำครั้งที่ 72 ที่มีทั้งผู้ชนะสมใจและผู้แพ้แบบพลิกความคาดหมาย
โดยเว็บไซต์
Cinemablend ได้รวบรวมความสำเร็จและความผิดหวังบนเวทีลูกโลกทองคำครั้งที่ 72
มาให้ดูกันสักหน่อยว่าภาพรวมเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งผลรางวัลเหล่านี้บอกใบ้ถึงสิ่งที่เรากำลังจะได้เห็น
ตลอดเทศกาลแจกรางวัลช่วงต้นปี 2015 เราไปดูกันเลยใครจะสมหวังหรือใครจะกินแห้วกันบ้าง
ดาวเด่น
The Grand Budapest Hotel
ถึงแม้จะชวดรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายสาขาภาพยนตร์ตลก-เพลง และผู้กำกับยอดเยี่ยม
แต่ถึงกระนั้น The Grand Budapest Hotel ก็คว้ารางวัลใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอด เยี่ยมสาขาตลก-เพลง มาครองได้สมใจ
เอาชนะคู่แข่งสุดหินอย่าง Birdman ไปอย่างพลิกความคาดหมาย แต่อย่างไรก็ตามผู้กำกับ เวส แอนเดอร์สัน (Wes Anderson)
ยังต้องลุ้นให้ผลงานของตัวเองเอาชนะแชมป์สาขาภาพยนตร์ดราม่าอย่าง Boyhood บนเวทีออสการ์ให้ได้
Boyhood
หากพิจารณาความอดทนของผู้กำกับ ริชาร์ด ลิงก์เลเทอร์ (Richard Linklater) ที่ถ่ายหนังเรื่องนี้เป็นเวลาถึง 11 ปี
ก็สมควรแล้วที่ Boyhood จะคว้ารางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมไปนอนกอดแบบไม่ค้านสายตา
ซึ่งแน่นอนว่าการคว้ารางวัลนี้ส่งผลให้โอกาสในการคว้ารางวัลอื่น ๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
และถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดนี่จะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011 ที่ผู้ชนะสาขาผู้กำกับและภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์คือคนเดียวกัน
ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton)
บทของนักแสดงตกอับที่ยังยึดติดกับชื่อเสียงของตัวเองจากหนังเรื่อง Birdman คือหมัดเด็ดที่ส่งให้ ไมเคิล คีตัน
คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ตลก-เพลง ไปตามคาด
ซึ่งการคว้ารางวัลนี้ทำเขาถูกจับตาในฐานะตัวเก็งออสการ์เป็นที่เรียบร้อย โดยเขาต้องฟาดฟันกับ เอ็ดดี้ เรดเมย์น
เจ้าของรางวัลสาขาดราม่าจากเรื่อง Theory of Everything ที่มีสิทธิ์คว้าชัยพอ ๆ กัน
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ ไมเคิล คีตัน เหนือกว่าคู่แข่งเล็กน้อย
เห็นจะเป็นบทที่ว่าด้วยการผงาดของนักแสดงตกอับที่เป็นของโปรดของชาวฮอลลีวูดเหลือเกิน
เอ็ดดี้ เรดเมย์น (Eddie Redmayne)
ก่อนหน้าที่การประกาศจะเริ่มขึ้น เอ็ดดี้ เรดเมย์น ถูกพูดถึงว่าเป็นคู่แข่งที่สูสีของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์
เจ้าของบทนักถอดรหัสจากเรื่อง The Imitation Game เพราะทั้งสองคนรับบทเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
ซึ่งท้ายที่สุดปรากฏว่า เอ็ดดี้ เรดเมย์น สามารถเอาชนะคู่แข่งในหมวดนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาดราม่าไปได้อย่างสง่างาม
หลังจากนี้คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า เขาจะสมหวังบนเวทีออสการ์ด้วยหรือเปล่า
เอมี อดัมส์ (Amy Adams)
ถึงแม้การแสดงของ เอมี อดัมส์ ในหนังเรื่อง Tim Burton จะไม่โดดเด่นจนเป็นเต็ง 1
ในหมวดนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ตลก-เพลง มาตั้งแต่แรก
แต่ในที่สุดเธอก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าเธอทำได้ดีไม่แพ้ใครจริงๆ และถ้าหากโชคเข้าข้างยิ่งกว่านี้ละก็
เราอาจได้ยินชื่อของเธอถูกประกาศในงานออสการ์ประจำปีนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องดูกันอีกทีว่าดาราหญิงคนอื่นจะดวงแข็งกว่าเธอด้วยหรือเปล่า
ดาวร่วง
เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ (Benedict Cumberbatch)
ต้องยอมรับจริงๆ ว่าการแข่งขันในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเข้มข้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เข้าชิงจะมีสิทธิ์กลับบ้านมือเปล่าในเปอร์เซ็นต์เท่า ๆ กัน
แต่โชคร้ายที่หนึ่งในนั้นกลับมีชื่อของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ รวมอยู่ด้วย
เพราะการแสดงของเขาในเรื่อง The Imitation Game ได้รับคำชมอย่างล้นหลามนับตั้งแต่เทศกาลหนังเมืองโตรอนโต้
ซึ่งการพลาดหวังครั้งนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่เตือนว่า โอกาสคว้ารางวัลบนเวทีใหญ่เริ่มเลือนรางเสียแล้ว
Selma
ภาพยนตร์เรื่อง Selma ของผู้กำกับ เอวา ดูเวอร์เนย์ (Ava DuVernay) ได้รับคำชมว่าเป็นผลงานที่ทรงพลังเรื่องหนึ่งของปี 2014
แต่สิ่งที่เขาได้รับจากงานลูกโลกทองคำครั้งล่าสุด มีเพียงรางวัลสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเท่านั้น
โดยชวดรางวัลสำคัญอย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาดราม่าให้กับ Boyhood ไปอย่างน่าเสียดาย
และถึงแม้จะไม่สมหวังในเวทีนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าโอกาสบนเวทีออสการ์จะหมดลงเสียทีเดียว
The LEGO Movie
หากพูดถึงแอนิเมชั่นที่ครองใจผู้ชมในปี 2014 เชื่อได้เลยว่าชื่อของ The LEGO Movie จะต้องถูกเอ่ยถึงซ้ำไปซ้ำมา
แต่หากพิจารณาจากผลการตัดสินสาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมแล้วละก็ ดูเหมือนว่า The LEGO Movie
ไม่สามารถครองใจกรรมการได้ดีเท่า How To Train Your Dragon 2 ที่เป็นผู้คว้ารางวัลนี้ไปครอง
ซึ่งหลายคนก็วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาว่า The LEGO Movie ไม่สามารถส่งสารไปยังผู้ชมทั่วโลกได้ดีเท่าที่ควร
The Imitation Game
ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่หนังคุณภาพอย่าง The Imitation Game ต้องกลับบ้านมือเปล่าทั้งๆ ที่เข้าชิงถึง 5 สาขา
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาดราม่า บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
รวมถึงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ดราม่า โดยสาขาที่ถูกคาดหวังมากที่สุดมาจากการแสดงของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์
ที่พลาดท่าอย่างน่าเสียดาย นับจากนี้ก็ได้แต่หวังให้ผลงานชิ้นนี้โดนใจคณะกรรมการออสการ์บ้าง
โดยเฉพาะสาขาออกแบบเครื่องแต่งกายและออกแบบงานสร้างที่ไม่มีในลูกโลกทองคำ
Foxcatcher
หนังดราม่าที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง Foxcatcher เป็นอีกผลงานที่คว้ารางวัล ปิ๋ว อวอร์ด บนเวทีลูกโลกทองคำประจำปีนี้
โดยส่วนที่น่าเจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นการเข้าชิงรางวัลสาขาใหญ่ ๆ อาทิ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาดราม่า
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาดราม่า และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม แต่ไม่สามารถเอาชนะได้สักรางวัลเดียว
น่าเสียดายเหมือนกันที่การพลิกบทบาทจากมาดตลกของ สตีฟ คาเรล (Steve Carell) ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
ถึงแม้ภาพยนตร์หลายเรื่องจะไม่ประสบความสำเร็จบนเวทีลูกโลกทองคำประจำปีนี้
แต่อย่าลืมว่านี่เป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูแจกรางวัลเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีอีกหลายเวทีให้เราได้ลุ้นกันต่อ
โดยเฉพาะเวทีอันดับ 1 อย่างออสการ์ที่อาจมีเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงด้วยก็ได้
เครดิตและบทความโดย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://movie.kapook.com/view109257.html
http://www.cinemablend.com/new/10-Big-Golden-Globes-Winners-Losers-69115.html
::: 10 ดาวเด่น-ดาวร่วง บนเวทีลูกโลกทองคำ 2015 :::
ย้อนดู 10 ดาวเด่น-ดาวร่วง บนเวทีลูกโลกทองคำ 2015
โดยเว็บไซต์ cinemablend และเรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เกาะกระแสผลรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 72 กับ 10 ดาวเด่นและดาวร่วงที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
เป็นเรื่องธรรมดาที่การแข่งขันรูปแบบต่างๆ จะมีบรรยากาศของผู้ที่สมหวังและผิดหวังเป็นธรรมดา
เช่นเดียวกับงานประกาศผลลูกโลกทองคำครั้งที่ 72 ที่มีทั้งผู้ชนะสมใจและผู้แพ้แบบพลิกความคาดหมาย
โดยเว็บไซต์ Cinemablend ได้รวบรวมความสำเร็จและความผิดหวังบนเวทีลูกโลกทองคำครั้งที่ 72
มาให้ดูกันสักหน่อยว่าภาพรวมเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งผลรางวัลเหล่านี้บอกใบ้ถึงสิ่งที่เรากำลังจะได้เห็น
ตลอดเทศกาลแจกรางวัลช่วงต้นปี 2015 เราไปดูกันเลยใครจะสมหวังหรือใครจะกินแห้วกันบ้าง
ดาวเด่น
The Grand Budapest Hotel
ถึงแม้จะชวดรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายสาขาภาพยนตร์ตลก-เพลง และผู้กำกับยอดเยี่ยม
แต่ถึงกระนั้น The Grand Budapest Hotel ก็คว้ารางวัลใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอด เยี่ยมสาขาตลก-เพลง มาครองได้สมใจ
เอาชนะคู่แข่งสุดหินอย่าง Birdman ไปอย่างพลิกความคาดหมาย แต่อย่างไรก็ตามผู้กำกับ เวส แอนเดอร์สัน (Wes Anderson)
ยังต้องลุ้นให้ผลงานของตัวเองเอาชนะแชมป์สาขาภาพยนตร์ดราม่าอย่าง Boyhood บนเวทีออสการ์ให้ได้
Boyhood
หากพิจารณาความอดทนของผู้กำกับ ริชาร์ด ลิงก์เลเทอร์ (Richard Linklater) ที่ถ่ายหนังเรื่องนี้เป็นเวลาถึง 11 ปี
ก็สมควรแล้วที่ Boyhood จะคว้ารางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมไปนอนกอดแบบไม่ค้านสายตา
ซึ่งแน่นอนว่าการคว้ารางวัลนี้ส่งผลให้โอกาสในการคว้ารางวัลอื่น ๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
และถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดนี่จะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011 ที่ผู้ชนะสาขาผู้กำกับและภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์คือคนเดียวกัน
ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton)
บทของนักแสดงตกอับที่ยังยึดติดกับชื่อเสียงของตัวเองจากหนังเรื่อง Birdman คือหมัดเด็ดที่ส่งให้ ไมเคิล คีตัน
คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ตลก-เพลง ไปตามคาด
ซึ่งการคว้ารางวัลนี้ทำเขาถูกจับตาในฐานะตัวเก็งออสการ์เป็นที่เรียบร้อย โดยเขาต้องฟาดฟันกับ เอ็ดดี้ เรดเมย์น
เจ้าของรางวัลสาขาดราม่าจากเรื่อง Theory of Everything ที่มีสิทธิ์คว้าชัยพอ ๆ กัน
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ ไมเคิล คีตัน เหนือกว่าคู่แข่งเล็กน้อย
เห็นจะเป็นบทที่ว่าด้วยการผงาดของนักแสดงตกอับที่เป็นของโปรดของชาวฮอลลีวูดเหลือเกิน
เอ็ดดี้ เรดเมย์น (Eddie Redmayne)
ก่อนหน้าที่การประกาศจะเริ่มขึ้น เอ็ดดี้ เรดเมย์น ถูกพูดถึงว่าเป็นคู่แข่งที่สูสีของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์
เจ้าของบทนักถอดรหัสจากเรื่อง The Imitation Game เพราะทั้งสองคนรับบทเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
ซึ่งท้ายที่สุดปรากฏว่า เอ็ดดี้ เรดเมย์น สามารถเอาชนะคู่แข่งในหมวดนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาดราม่าไปได้อย่างสง่างาม
หลังจากนี้คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า เขาจะสมหวังบนเวทีออสการ์ด้วยหรือเปล่า
เอมี อดัมส์ (Amy Adams)
ถึงแม้การแสดงของ เอมี อดัมส์ ในหนังเรื่อง Tim Burton จะไม่โดดเด่นจนเป็นเต็ง 1
ในหมวดนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ตลก-เพลง มาตั้งแต่แรก
แต่ในที่สุดเธอก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าเธอทำได้ดีไม่แพ้ใครจริงๆ และถ้าหากโชคเข้าข้างยิ่งกว่านี้ละก็
เราอาจได้ยินชื่อของเธอถูกประกาศในงานออสการ์ประจำปีนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องดูกันอีกทีว่าดาราหญิงคนอื่นจะดวงแข็งกว่าเธอด้วยหรือเปล่า
ดาวร่วง
เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ (Benedict Cumberbatch)
ต้องยอมรับจริงๆ ว่าการแข่งขันในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเข้มข้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เข้าชิงจะมีสิทธิ์กลับบ้านมือเปล่าในเปอร์เซ็นต์เท่า ๆ กัน
แต่โชคร้ายที่หนึ่งในนั้นกลับมีชื่อของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ รวมอยู่ด้วย
เพราะการแสดงของเขาในเรื่อง The Imitation Game ได้รับคำชมอย่างล้นหลามนับตั้งแต่เทศกาลหนังเมืองโตรอนโต้
ซึ่งการพลาดหวังครั้งนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่เตือนว่า โอกาสคว้ารางวัลบนเวทีใหญ่เริ่มเลือนรางเสียแล้ว
Selma
ภาพยนตร์เรื่อง Selma ของผู้กำกับ เอวา ดูเวอร์เนย์ (Ava DuVernay) ได้รับคำชมว่าเป็นผลงานที่ทรงพลังเรื่องหนึ่งของปี 2014
แต่สิ่งที่เขาได้รับจากงานลูกโลกทองคำครั้งล่าสุด มีเพียงรางวัลสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเท่านั้น
โดยชวดรางวัลสำคัญอย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาดราม่าให้กับ Boyhood ไปอย่างน่าเสียดาย
และถึงแม้จะไม่สมหวังในเวทีนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าโอกาสบนเวทีออสการ์จะหมดลงเสียทีเดียว
The LEGO Movie
หากพูดถึงแอนิเมชั่นที่ครองใจผู้ชมในปี 2014 เชื่อได้เลยว่าชื่อของ The LEGO Movie จะต้องถูกเอ่ยถึงซ้ำไปซ้ำมา
แต่หากพิจารณาจากผลการตัดสินสาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมแล้วละก็ ดูเหมือนว่า The LEGO Movie
ไม่สามารถครองใจกรรมการได้ดีเท่า How To Train Your Dragon 2 ที่เป็นผู้คว้ารางวัลนี้ไปครอง
ซึ่งหลายคนก็วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาว่า The LEGO Movie ไม่สามารถส่งสารไปยังผู้ชมทั่วโลกได้ดีเท่าที่ควร
The Imitation Game
ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่หนังคุณภาพอย่าง The Imitation Game ต้องกลับบ้านมือเปล่าทั้งๆ ที่เข้าชิงถึง 5 สาขา
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาดราม่า บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
รวมถึงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ดราม่า โดยสาขาที่ถูกคาดหวังมากที่สุดมาจากการแสดงของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์
ที่พลาดท่าอย่างน่าเสียดาย นับจากนี้ก็ได้แต่หวังให้ผลงานชิ้นนี้โดนใจคณะกรรมการออสการ์บ้าง
โดยเฉพาะสาขาออกแบบเครื่องแต่งกายและออกแบบงานสร้างที่ไม่มีในลูกโลกทองคำ
Foxcatcher
หนังดราม่าที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง Foxcatcher เป็นอีกผลงานที่คว้ารางวัล ปิ๋ว อวอร์ด บนเวทีลูกโลกทองคำประจำปีนี้
โดยส่วนที่น่าเจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นการเข้าชิงรางวัลสาขาใหญ่ ๆ อาทิ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาดราม่า
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาดราม่า และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม แต่ไม่สามารถเอาชนะได้สักรางวัลเดียว
น่าเสียดายเหมือนกันที่การพลิกบทบาทจากมาดตลกของ สตีฟ คาเรล (Steve Carell) ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
ถึงแม้ภาพยนตร์หลายเรื่องจะไม่ประสบความสำเร็จบนเวทีลูกโลกทองคำประจำปีนี้
แต่อย่าลืมว่านี่เป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูแจกรางวัลเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีอีกหลายเวทีให้เราได้ลุ้นกันต่อ
โดยเฉพาะเวทีอันดับ 1 อย่างออสการ์ที่อาจมีเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงด้วยก็ได้
เครดิตและบทความโดย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้