day6.
[น้ำขุ่นไว้ในน้ำใสไว้นอก]
สวัสดีเกียวโต ...
หลังจากที่นั่งรถครึ่งหลับครึ่งตื่น จนในที่สุดตีห้าครึ่งเราก็ได้ลงรถมาเหยียบพื้นแผ่นดินเกียวโต
รถจะมาส่งที่หน้าสถานีเกียวโตเลย ตอนนั้นลงรถเสร็จก็รีบวิ่งๆๆหาที่หลบหนาว
ท้องฟ้ายังไม่เปิดเลย แต่เราจะยังไม่ไปที่พักกันนะ เพราะว่าจะรอซื้อตั๋ว Kansai Thru Pass กันก่อน เพื่อที่จะได้เปิดใช้บัตรเลยวันแรก
เค้าท์เตอร์ขายบัตรเปิดเจ็ดโมงครึ่ง!!! นี่เพิ่งจะหกโมงเช้า ด้วยความขี้งกไม่อยากนั่งรถย้อนไปย้อนมาเลยต้องลงไปนั่งหลบหนาวอยู่ที่ชั้นใต้ดิน
เจ็ดโมงครึ่งตรงเด๊ะๆ รีบวิ่งแจ้นกันไปยืนรอพนักงานขายกันหน้าสร่อน เมื่อได้ PASS มาแล้วก็ลากกระเป๋ากันต่อไปยังที่พักย่าน Kawaramachi
ชอบอ่ะแถวนี้ ระหว่างทางเดินไปที่พักก็จะเป็นตรอกร้านค้าเยอะแยะไปหมด ถึงจะเป็นช่วงเช้าร้านยังไม่เปิดแต่ก็รับรู้ได้ว่ามันน่าเดินเล่นมากกก
วันนี้ที่แรกที่เราจะไปก็คือออ อุโมงค์โทริอิ นั่งรถไฟมาลงสถานี Fushimi Inari ออกจากสถานีมาแล้วให้เดินไปทางซ้ายก็จะเจอกับร้านค้ามากมาย
เดินไปเรื่อยๆก็จะเป็นทางเข้าไปยังวัดแล้วววว
นอกจากวัดนี่จะมีอุโมงค์สีแดงที่โดดเด่นแล้วก็ยังมีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกนี่แหละ ที่เป็นของคู่กันกับวัดเลย
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะมีจุดพักขายน้ำ ขายเครื่องรางของขลังทั้งหลาย แล้วก็มีเดินต่อขึ้นไปอีกนะ
แต่ว่าขอพอแค่นี้ละกันเนาะ แบ่งเวลาไปที่อื่นกันบ้าง ขากลับเดินลงมาก็หาไรกินรองท้องกันไปก่อน
ต่อไปเราก็เดินทางต่อไปยังวัดน้ำใสใจจริงจร้าาาา
ออกจากวัดอุโมงค์มาก็นั่งรถสถานีเดิมที่เราลงมานั้นแหละ แล้วต่อไปสถานี Shichijo แล้วก็เดินไปทางเกียวโตมิวเซียม รอรถเมล์สาย 100 , 206 ไปลงป้าย Gojo-Zaka หรือ Kiyomizu-Michi ก็ได้
ลงรถเมล์มาก็ข้ามถนนไปอีกฝั่งได้เลย เดินตามๆคนเอาก็ได้ เขาน่าจะไปที่เดียวกับเรานั้นแหละเนาะ
ทางเดินขึ้นจะเมื่อยนิดหน่อยเพราะเป็นเนินขึ้นเขาไป
เดินขึ้นมาข้างบนยังไม่ทันถึงตรงที่ซื้อตั๋วเราก็พบเจอกับสิ่งนี้ บ่อน้ำ จากที่เคยๆอ่านก่อนมาเขาบอกว่าจะมีน้ำสามสายไหลมาให้ตักกิน แต่ละสายก็มีความหมายต่างกัน ไอ้เราก็ทึกทักโม้เพื่อนใหญ่บอกเนี่ยยยย เขาให้กินน้ำกันนน ด้วยความที่เพื่อนเป็นสาวใสซื่อแบ๊วๆค่ะ ทุกคนก็ตักกินกันคนละจิบ
ตอนนั้นก็สงสัยอยู่เบาๆว่าทำไมคนเขาเดินผ่านไปผ่านมาไม่มีใครสนใจจะมากินกันมั้งวะ มีแต่มองแบบแปลกๆ
ปั๊ดโถ่วววใครจะรู้ว่าต้องเดินขึ้นไปก่อนนนน แล้วต้องเดินลงมาด้านล่างงงถึงงจะมีน้ำให้ตักกินนนนน
โอ๊ยยตายล้าววววววววว นี่กินน้ำล้างเท้ากันไปรึเปล่าวะเนี่ยยยยยยย
ตรงนี้ข้างบนต้องจุดธูปไหว้แล้วกวักควันธูปเข้าหาตัวเพื่อเป็นสิริมงคลเน้ออออ
วิวจากข้างบนมองเห็นเกียวโตทาวเวอร์ด้วยยย
และก็นี่เว้ยพวกแกรรร นี่แหละเว้ยยของจริงงงที่ควรไปกินนนนน
เห็นแล้วอยากจะกระโดดพุ่งหล้าวใส่ เมื่อกี้หนูกินน้ำอะไรกันไปคะะะะะะะะ
ขาเดินกลับจากวัดน้ำใส
ตอนแรกกะไว้ว่าจะไปกินซูชิ Endo Sushi ที่ตลาดปลาละต่ออควาเรี่ยมที่โอซาก้า แต่ทนพิษความหิวไม่ไหวเลยเปลี่ยนแผนเป็นหาไรง่ายๆกินแถวนี้ แต่แบบว่าพอเปลี่ยนแผน ปัญหาก็บังเกิด หลงสิจร้ะหลง ชุลมุนกันใหญ่กว่าจะหารถเมล์ไปตั้งหลักได้ กว่าจะเดินถูกสถานี
กว่าจะได้ไปอควาเรี่ยมนี่คือพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ด้วยความมุ่งมั่นเราไม่ย่อท้อ เราจะสู้ !!!!
โกโกอควาเรี่ยมมมม เพื่อนอยากไปมากกก ต้องพาเพื่อนไปให้ด้ายยยยยยยยยยยยยยยย
ลงรูปเดียวพอสำหรับอคาวเรี่ยม ไปถึงก็มืดแล้วรูปข้างนอกนี่ไม่ได้ถ่าย เข้าไปข้างในนี่ต้องรีบดูไหนๆก็มาแล้ว ถึงแม้ว่าอีกครึ่งชั่วโมงเขาจะเริ่มปิดกันแล้ว แต่เราก็ต้องเอาให้คุ้ม แต่มานึกๆดูแล้วก็คล้ายๆกับที่พารากอนบ้านเรานะ ไม่ได้มีอะไรตื่นตาตื่นใจมากมาย 5555555
ลาก่อนนปลาเล็กปลาน้อย พรุ่งนี้จะแว่บมาแถวนี้ใหม่
คืนนี้อากาศเย็น ขอไปหาไรกินชิลๆที่ Dotombori ละกันน หรือจริงๆก็คือย่าน namba หรือว่าย่าน กูลิโกะนั้นแหละ
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทริปนี้อาจจะไม่ใช่การหลงทาง แต่น่าจะเป็นการที่ไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี ซึ่งจริงๆอยู่ที่ไหนก็เป็น
เดินวนกันไปเหอะ รอบนัมบะแล้วยังไม่ได้กิน จนมาจบที่ร้านอาหารจีน น่าจะจีนนะ ร้านอยู่ระแวกสถานีนัมบะ แถวๆทางออก14 เลย
คืออาหารได้เยอะมาก มันคืออะไรไม่รู้รสชาตเเหมือนโจ๊ก อร่อยดีนะ เยิ้มมมๆๆๆๆๆ
[CR] some.mile x ปุ่งต้องจารึกชื่อกรู // หอบเงินสามหมื่นไปส่งสายตาหื่นๆใส่ผู้ชายญี่ปุ่น [ตอน2 : ไม่มีชื่อ]
http://ppantip.com/topic/33073286
ก่อนไปเที่ยว ใครยังไม่มี Checklist กันมั้ง อ่ะแจก ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฝากติดตามเพจของพวกเราไว้ด้วยนะฮ๊าาา
https://www.facebook.com/some.mile
...........................................................
day6.
[น้ำขุ่นไว้ในน้ำใสไว้นอก]
สวัสดีเกียวโต ...
หลังจากที่นั่งรถครึ่งหลับครึ่งตื่น จนในที่สุดตีห้าครึ่งเราก็ได้ลงรถมาเหยียบพื้นแผ่นดินเกียวโต
รถจะมาส่งที่หน้าสถานีเกียวโตเลย ตอนนั้นลงรถเสร็จก็รีบวิ่งๆๆหาที่หลบหนาว
ท้องฟ้ายังไม่เปิดเลย แต่เราจะยังไม่ไปที่พักกันนะ เพราะว่าจะรอซื้อตั๋ว Kansai Thru Pass กันก่อน เพื่อที่จะได้เปิดใช้บัตรเลยวันแรก
เค้าท์เตอร์ขายบัตรเปิดเจ็ดโมงครึ่ง!!! นี่เพิ่งจะหกโมงเช้า ด้วยความขี้งกไม่อยากนั่งรถย้อนไปย้อนมาเลยต้องลงไปนั่งหลบหนาวอยู่ที่ชั้นใต้ดิน
เจ็ดโมงครึ่งตรงเด๊ะๆ รีบวิ่งแจ้นกันไปยืนรอพนักงานขายกันหน้าสร่อน เมื่อได้ PASS มาแล้วก็ลากกระเป๋ากันต่อไปยังที่พักย่าน Kawaramachi
ชอบอ่ะแถวนี้ ระหว่างทางเดินไปที่พักก็จะเป็นตรอกร้านค้าเยอะแยะไปหมด ถึงจะเป็นช่วงเช้าร้านยังไม่เปิดแต่ก็รับรู้ได้ว่ามันน่าเดินเล่นมากกก
วันนี้ที่แรกที่เราจะไปก็คือออ อุโมงค์โทริอิ นั่งรถไฟมาลงสถานี Fushimi Inari ออกจากสถานีมาแล้วให้เดินไปทางซ้ายก็จะเจอกับร้านค้ามากมาย
เดินไปเรื่อยๆก็จะเป็นทางเข้าไปยังวัดแล้วววว
นอกจากวัดนี่จะมีอุโมงค์สีแดงที่โดดเด่นแล้วก็ยังมีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกนี่แหละ ที่เป็นของคู่กันกับวัดเลย
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะมีจุดพักขายน้ำ ขายเครื่องรางของขลังทั้งหลาย แล้วก็มีเดินต่อขึ้นไปอีกนะ
แต่ว่าขอพอแค่นี้ละกันเนาะ แบ่งเวลาไปที่อื่นกันบ้าง ขากลับเดินลงมาก็หาไรกินรองท้องกันไปก่อน
ต่อไปเราก็เดินทางต่อไปยังวัดน้ำใสใจจริงจร้าาาา
ออกจากวัดอุโมงค์มาก็นั่งรถสถานีเดิมที่เราลงมานั้นแหละ แล้วต่อไปสถานี Shichijo แล้วก็เดินไปทางเกียวโตมิวเซียม รอรถเมล์สาย 100 , 206 ไปลงป้าย Gojo-Zaka หรือ Kiyomizu-Michi ก็ได้
ลงรถเมล์มาก็ข้ามถนนไปอีกฝั่งได้เลย เดินตามๆคนเอาก็ได้ เขาน่าจะไปที่เดียวกับเรานั้นแหละเนาะ
ทางเดินขึ้นจะเมื่อยนิดหน่อยเพราะเป็นเนินขึ้นเขาไป
เดินขึ้นมาข้างบนยังไม่ทันถึงตรงที่ซื้อตั๋วเราก็พบเจอกับสิ่งนี้ บ่อน้ำ จากที่เคยๆอ่านก่อนมาเขาบอกว่าจะมีน้ำสามสายไหลมาให้ตักกิน แต่ละสายก็มีความหมายต่างกัน ไอ้เราก็ทึกทักโม้เพื่อนใหญ่บอกเนี่ยยยย เขาให้กินน้ำกันนน ด้วยความที่เพื่อนเป็นสาวใสซื่อแบ๊วๆค่ะ ทุกคนก็ตักกินกันคนละจิบ
ตอนนั้นก็สงสัยอยู่เบาๆว่าทำไมคนเขาเดินผ่านไปผ่านมาไม่มีใครสนใจจะมากินกันมั้งวะ มีแต่มองแบบแปลกๆ
ปั๊ดโถ่วววใครจะรู้ว่าต้องเดินขึ้นไปก่อนนนน แล้วต้องเดินลงมาด้านล่างงงถึงงจะมีน้ำให้ตักกินนนนน
โอ๊ยยตายล้าววววววววว นี่กินน้ำล้างเท้ากันไปรึเปล่าวะเนี่ยยยยยยย
ตรงนี้ข้างบนต้องจุดธูปไหว้แล้วกวักควันธูปเข้าหาตัวเพื่อเป็นสิริมงคลเน้ออออ
วิวจากข้างบนมองเห็นเกียวโตทาวเวอร์ด้วยยย
และก็นี่เว้ยพวกแกรรร นี่แหละเว้ยยของจริงงงที่ควรไปกินนนนน
เห็นแล้วอยากจะกระโดดพุ่งหล้าวใส่ เมื่อกี้หนูกินน้ำอะไรกันไปคะะะะะะะะ
ขาเดินกลับจากวัดน้ำใส
ตอนแรกกะไว้ว่าจะไปกินซูชิ Endo Sushi ที่ตลาดปลาละต่ออควาเรี่ยมที่โอซาก้า แต่ทนพิษความหิวไม่ไหวเลยเปลี่ยนแผนเป็นหาไรง่ายๆกินแถวนี้ แต่แบบว่าพอเปลี่ยนแผน ปัญหาก็บังเกิด หลงสิจร้ะหลง ชุลมุนกันใหญ่กว่าจะหารถเมล์ไปตั้งหลักได้ กว่าจะเดินถูกสถานี
กว่าจะได้ไปอควาเรี่ยมนี่คือพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ด้วยความมุ่งมั่นเราไม่ย่อท้อ เราจะสู้ !!!!
โกโกอควาเรี่ยมมมม เพื่อนอยากไปมากกก ต้องพาเพื่อนไปให้ด้ายยยยยยยยยยยยยยยย
ลงรูปเดียวพอสำหรับอคาวเรี่ยม ไปถึงก็มืดแล้วรูปข้างนอกนี่ไม่ได้ถ่าย เข้าไปข้างในนี่ต้องรีบดูไหนๆก็มาแล้ว ถึงแม้ว่าอีกครึ่งชั่วโมงเขาจะเริ่มปิดกันแล้ว แต่เราก็ต้องเอาให้คุ้ม แต่มานึกๆดูแล้วก็คล้ายๆกับที่พารากอนบ้านเรานะ ไม่ได้มีอะไรตื่นตาตื่นใจมากมาย 5555555
ลาก่อนนปลาเล็กปลาน้อย พรุ่งนี้จะแว่บมาแถวนี้ใหม่
คืนนี้อากาศเย็น ขอไปหาไรกินชิลๆที่ Dotombori ละกันน หรือจริงๆก็คือย่าน namba หรือว่าย่าน กูลิโกะนั้นแหละ
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทริปนี้อาจจะไม่ใช่การหลงทาง แต่น่าจะเป็นการที่ไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี ซึ่งจริงๆอยู่ที่ไหนก็เป็น
เดินวนกันไปเหอะ รอบนัมบะแล้วยังไม่ได้กิน จนมาจบที่ร้านอาหารจีน น่าจะจีนนะ ร้านอยู่ระแวกสถานีนัมบะ แถวๆทางออก14 เลย
คืออาหารได้เยอะมาก มันคืออะไรไม่รู้รสชาตเเหมือนโจ๊ก อร่อยดีนะ เยิ้มมมๆๆๆๆๆ