งานอดิเรกเล็กๆ คดีสืบสวนในชีวิตประจำวัน บางอย่างที่คุณไม่เคยสังเกต! เอ๊ะ หรือว่าเราไร้สาระ 555

เราเป็นคนขี้สงสัยค่ะ อยากจะเล่างานอดิเรกในเวลาว่างเล็กๆของเราหน่อยนึงนะคะ เราชอบเก็บรายละเอียดของสิ่งรอบๆตัวว่า เอ๊ะ นี่มันมาได้ยังไงนะ ถึงกับทำสมุดมาจดเป็นคดีประจำวันเลยก็ว่าได้ทั้งๆที่ถ้าคนทั่วไปมองว่ามันไร้สาระและไม่น่าให้ความสนใจ เช่น คดีของวันนี้... ซึ่งจะขอเล่าถึงความสงสัยที่ดูโรคจิตของเราหน่อยนะ แหะๆ

วันนี้หลังจากเลิกเรียนเราก็รู้สึกเหนื่อยๆหมดแรงก็ว่าจะไปนั่งจิบกาแฟชิลๆ รับแอร์เย็นๆที่ร้านกาแฟแห่งนึงเพื่อผ่อนคลายหน่อย
ก็นัดเพื่อนไว้ให้ไปรอก่อนเลย 10 นาทีเจอกัน แต่ขณะเรากำลังเดินอยู่หน้าทางขึ้น BTS แห่งหนึ่ง ก็รู้สึกแปลกๆที่เท้า เอ๊ะ มันมีอะไรหนึบๆแปลกๆ
รู้สึกได้ว่ามันทำให้รองเท้าเรานูนขึ้นจากพื้นนิดๆ เราเหยียบอะไรเข้า พอยกมาดู ก็อ๋ออออ
พวกสะเพร่านี่เองทิ้งหมากฝรั่งบนถนนคนเดินได้ยังไง!! ถังขยะก็อยู่ใกล้ๆ!

ซึ่งถ้าเป็นคนปกติไม่โรคจิตแบบเรา เค้าก็คงจะแค่เอาทิชชู่หยิบมันทิ้งขยะไปไม่ก็เอาเท้าขยี้ฟุตบาทให้หลุดๆไป แล้วจึงเดินไปทำธุระต่อ
แต่ไม่ใช่เราอ่ะ 555 เรารู้สึกสงสัยทันที คนที่ทิ้งขยะบนท้องถนนทั้งๆที่ถังขยะมันก็อยู่ใกล้ๆนี่เค้าต้องรีบมากๆแน่ๆ หมากฝรั่งก็ยังใหม่ๆอยู่เลย มีน้ำลายติดนิดๆด้วย พึ่งจะบ้วนทิ้งแน่ๆ กลิ่นมิ้นท์ซะด้วยรสนี้เราก็ชอบอยู่
จึงสรุปได้สองกรณีคือ คนเร่งรีบกับสะเพร่า ซึ่งถ้าเป็นคนเร่งรีบ อะไรทำให้เขาเร่งรีบ?
มนุษย์จะทำอะไรลุกลี้ลุกลนก็ต่อเมื่องานเข้าหรือทำอะไรซักอย่างผิดใช่มั้ยคะ? เราก็สงสัยต่อเขาทำอะไรผิดมารึเปล่าถึงรีบได้ขนาดนี้...

ที่ทิ้งขยะซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดที่เราเหยียบนักประมาณ 7 เมตร และคาดว่าเราเดินมาแล้วประมาณ 2 เมตรได้ก่อนจะรู้สึกตัว คือมันใกล้มากๆ
ซึ่งถ้าคนๆนี้ทำผิดต้องเป็นเรื่องที่ไม่ปกติแน่ๆรีบขนาดนั้น ขโมยของใครมารึเปล่า? ... พักไว้ก่อน หาตัวเขาให้ได้ค่อยไปดูข้อหา
แต่จะหาเขาคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งนี้ยังไงล่ะ ตอนทิ้งก็ไม่เห็น คนก็มากมายไปหมด ก็ต้องดูจากหลักฐานค่ะ

เราดูที่หมากฝรั่งมีรอยหยักๆเต็มไปหมด แต่หากสังเกตดีๆจะมีรอยอยู่ 2 ชนิด มีรอยที่แตกต่างกัน 4 รอย จะแยกให้พอเห็นภาพนะคะ
คือ 1.รอยที่มีระเบียบถูกสร้างจากสิ่งของที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น รอยรองเท้าของเราเป็นต้น
     2.รอยที่เกิดจากการเหยียบ เช่น เมื่อเราเหยียบหมากฝรั่งลงไป อีกด้านนึงของมันจะกระทบกับพื้นฟุตบาท หินก็จะทำให้เกิดรอยเป็นเม็ดๆแถมมีเศษติดมาด้วย
     3.รอยเคี้ยวของคนร้าย(อาจจะร้าย) อันนี้เป็นรอยฟันนั่นแหล่ะ ดูรอยใหญ่ๆน่าจะไม่ใช่นักเรียนแล้ว แต่หากเพ่งมันดีๆจะสังเกตเห็นเศษอาหารติดอยู่นิดๆ ซึ่งเราพอจะเดาออกว่า คนร้ายกินอาหารอะไรมาก่อน
ลักษณะเศษอาหารเป็นเม็ดข้าวบวมๆเหมือนเพิ่งต้มมา มีเศษหมูเศษผักชีเล็กๆ ข้าวต้มหมูแน่นอน!!
มีความเป็นไปได้สองกรณีว่าที่คนร้ายรีบรนขนาดนั้นอาจจะเพราะนัดใครไว้หรือเปล่า? ถ้าไม่ได้ขโมยของ
แล้วถ้าเขานัดใครซักคนอาจจะซื้อของไปฝากก็ได้ซึ่งก็คืออาหารร้านที่เขาไปกินนั่นแหล่ะ แถมร้านข้าวต้มแถบๆนั้นก็มีอยู่ไม่กี่ร้าน
เพราะงั้นนี่คือเบาะแสแรก! "เขามีโอกาสถือถุงอาหาร!"
และรอยสุดท้ายที่เราสังเกต มันเป็นเบาะแสที่ 2 แน่ๆ รอยนี้เป็นสิ่งของที่มนุษย์สร้างขึ้น เพราะมันบุ่มเข้าไปหลายรอยด้วยกัน ทุกรอยเป็นระเบียบระยะห่างเท่าๆกันหมด รอยนี้เราคุ้นๆ ลองเอาลิ้นแตะๆในปากก็อ๋อเลย รอยสุดท้าย!
    4.เหล็กดัดฟันนั่นเอง เพราะเราก็ใส่อยู่ แถมรอยนี้มันก็อยู่เหนือรอยฟันของคนร้ายซะด้วยสิ เป็นไปได้ว่าคนๆนี้ก่อนเขาจะยิ้มหมากฝรั่ง ต้องเอามันไปกดด้วยฟันแน่ๆจึงทำให้มีรอยเหล็กดัดติดมาด้วย พอเดานิสัยได้ว่า อาจจะเป็นคนขี้เล่นก็เป็นได้ และนี่คือเบาะแสที่ 2... "เขาใส่เหล็กดัดฟัน"

ทีนี้เราก็ตรวจรอยพวกนี้ครบแล้วได้เบาะแสทางกายภาพมาถึง 3 เบาะแส
1.ใส่เหล็กดัด เหตุผล สังเกตจากรอย
2.อาจจะถือถุงอาหาร เหตุผล ข้อสันนิษฐานข้างต้น
3.ไม่ใช่นักเรียน เพศหญิงและอาจเป็นผู้ใหญ่ เนื่องจากรอยฟันที่ใหญ่ และลักษณะนิสัยของผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่กล้าทิ้งหมากฝรั่งลงพื้นในที่ๆมีคนเดินเยอะๆหรอก

เมื่อได้ลักษณะ คร่าวๆแล้วจะหาเค้ายังไงล่ะ? ก็ต้องรู้ทิศทางที่คนร้ายเดินไปแล้วเดาจากความน่าจะเป็นของสถานที่ที่เขาจะเดิน ซึ่งให้คิดตอนนั้นมีได้ 3 กรณีก็คือ เขาเดินถือถุงอาหารอย่างรีบร้อนเพื่อไปขึ้นรถ BTS กับไปขึ้นรถสาธารณะต่างๆ เพราะตรงจุดๆนั้นไม่มีที่ให้จอด อันนี้ทำเราเสียเวลาไป เกือบ 1 นาทีแน่ะค่ะ แต่นึกถึงเรื่องแรงที่กระทำต่อวัตถุในบทเรียนเข้า ก็ถึงบางอ้อเลย โชคยังดีด้วยที่เราเป็นคนเดินเบาไม่ลากเท้าเดินเหมือนเหมือนย่องๆ 555 ทำให้เบาะแสที่ติดกับหมากฝรั่งไม่หายไปด้วย...

เรื่องแรงเมื่อเราเคลื่อนที่ไปบนวัตถุก็จะเกิดแรงเสียดทานใช่มั้ยคะ? และอาจจะทำให้เกิดรอยเพิ่มขึ้นลากเป็นทิศทางในทางที่เราเดินไป ยิ่งเป็นหมากฝรั่งด้วยแล้วยิ่งเห็นได้ชัดจากเศษหินเลยค่ะ เรากับคนร้าย เดินสวนทางกัน... สังเกตจากเศษหินบางส่วนมันไม่ได้เยื้องไปในทิศทางที่เราเหยียบ มันตรงกันข้ามเลย แถมคนร้ายน่าจะยิ้มมันออกไปข้างหน้าแรงพอควรจึงติดเศษหินเป็นรอยได้ขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงได้ข้อสันนิษฐานถึงทิศทางที่คนร้ายจะเดินไปแล้ว! สถานที่ ที่พอจะเดาได้ก็มีแต่ BTS เพราะป้ายรถเมล์กับวินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่หน้าเรา แท็กซี่ก็จอดแถวนั้นไม่ได้ต้องเลยไปหน้าเราเท่านั้น ดูแล้วนอกจากจะเป็นคนกวนๆขี้เล่น สะเพร่าแล้ว ยังเป็นคนซกมกสกปรกไร้มารยาทด้วย เป็นผู้ชายที่แย่มากๆ ยิ่งถ้าขโมยอะไรมาหมอนี่เข้าขั้นแย่สุดๆ

ที่เขียนมาทั้งหมดในเหตุการณ์จริง ยืนคิดอยู่ประมาณนาที 15 วิหลังจากหยิบหมากฝรั่งมาดูนะคะ(ใช้ทิชชู่รองอีกทีนะ ไม่หยิบสด แหว่ะ) 55555
หลังจากได้ขอสันนิษฐานทั้งหมดเราวิ่งขึ้นไปดูที่สถานี BTS ทันที เพราะกลัวว่าถ้าคนร้ายจะหายไปก่อนและเราคงไม่ตามไปแน่ๆ ต้องรู้ให้ได้ทำไมรีบขนาดนั้น! ถ้าเป็นขโมยจริงๆเราจะโทษตัวเองแน่ๆว่าทำไมถึงปล่อยเขาไป

พอขึ้นไปถึงสถานี BTS ก็มีคนเต็มไปหมดเลยค่ะ แต่ทุกคนดูชิลๆ เพราะอาการวันนั้นเย็นสบายด้วยแหละ ไม่ร้อนตับแตกแบบทุกวัน ที่เราต้องสังเกตคือ ผู้ชายที่ดูเร่งรีบอาจจะถือถุงอาหารหรือกระเป๋าเพื่อใส่มันไว้แล้วก็ต้องดัดฟันด้วย มองไปมองมาก็ ป๊ะ! เลย มีนักศึกษาคนนึงสะพายเป้ ปิดกระเป๋าไม่มิดเผยถุงพลาสติกมีอะไรเหลวๆอยู่ในถุงซึ่งน่าจะเป็นข้าวต้ม! เหงื่อโชค! เหมือนกำลังวิ่งมาอย่างรีบร้อนยืนคุยโทรศัพท์เสียงค่อนข้างดังไม่ค่อยมีมารยาท! ระหว่างต่อคิวรับบัตรขึ้นรถทำให้เหล็กดัดฟันเผยออกมาอย่างชัดเจน! อีกมือนึงถือกล่องหมากฝรั่งสีเขียวรสมิ้นท์!

เห้ย ใช่เลย เขาคือคนร้าย! แต่ดูภายนอกแต่งตัวค่อนข้างเรียบร้อยใส่แว่นดูเป็นเด็กเรียนถึงจะไร้มารยาทซกมกไปหน่อยก็เถอะ ไม่น่าจะเป็นขโมยได้ งั้นอะไรทำให้เขารีบร้อนล่ะ? เวลาก็ยังไม่เย็นมากด้วยรีบกลับบ้านก็ไม่น่าจะใช่ เราเลยเดินเข้าไปใกล้ๆทำเนียนเหมือนจะซื้อตั๋วบ้างเพื่อแอบฟังโทรศัพท์ ก็จับใจความกลางฝูงชนเยอะๆได้ว่า...

นักศึกษาท่านหนึ่ง : ตัวเองเค้ากำลังจะถึงแล้วนะ รอที่ห้างส. อีกแปปเดียว 5 นาทีๆๆๆ อย่าโกรธเค้าน๊าา
คู่สนทนา : โกรธสิ! นัดไว้แล้วลืมได้ไง แกไปแอบอยู่กับกิ๊กใช่มั้ย! เอออออ ไม่อยากมาจะได้กลับแล้ว! (เสียงผู้หญิงดูดุดันมาก)
นักศึกษาท่านหนึ่ง : โห่ย เตงงง กิ๊กไรเค้าไม่มีแล้ว กับพี่อิงเป็นแค่รุ่นพี่เฉยๆๆๆ เค้ายอมแล้วจะเลี้ยงฟูจิเตงนะ
คู่สนทนา : ว๊ากๆ อ่ะ จะ ปั๊ด จึ๊ย อึ่ย เจี๊ยะ @#|. (น่าจะโดนบ่นรัวๆ) โอเคๆว่างั้นก็รีบๆมาหล่ะ ไอบ้า (เสียงซอฟลงทันทีเลี้ยงฟูจิ O.o อิจฉาา)

จนในที่สุดเราก็ได้บทสรุปของคดีนี้ซักที... เขาคนนี้เป็นคนไม่รักษาเวลา นัดคุณแฟนไว้แล้วดันลืมเพราะมัวแต่อร่อยกับข้าวต้ม ซึ่งข้าวต้มที่ซื้อไปก็คงไม่น่าจะให้แฟนคงจะไปฝากน้องหรือครอบครัวมากกว่า ก็ได้เห็นทั้งข้อเสียและข้อดีของคนๆนี้ในคราวเดียวกัน... ถึงจะเป็นคนสะเพร่า ไร้มารยาท กะล่อน ไม่มีวินัย แต่ก็เป็นคนดีที่คนรักครอบครัวคนนึง ดูจากลุคแล้วคงเป็นเด็กเรียนด้วย แถมใจป้ำแบบนี้คุณแฟนค่อนข้างโชคดีทีเดียวววว
ก็เป็นอันเคลียว่าเขาไม่ใช่ขโมยอย่างที่เรากลัวๆและตีไปในแง่ลบมากเกินไปเนื่องจากสังคมไทยปัจจุบันเป็นส่วนนึงด้วย ทำให้เอนไปด้านขโมยมากกว่า

แต่ว่า... เสียเวลาไป อีก 10 นาทีในการเดินขึ้นสถานีเพื่อตามหาและแอบฟังเขาคุย เราลืมนัดไปซะสนิทเลย! พอเดินไปร้านกว่าจะถึงก็ปาไป 5 นาทีแล้ว เลทเพื่อนไปจนได้ 5 นาทีซึ่งเขานั่งกันอย่างพร้อมเพรียงว่าไปไหนมาา เขารอสั่งอาหารสั่งกาแฟพร้อมแกอยู่นะโว้ย!! โน้วววว

ความสงสัยของเราในวันนี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้ค่ะ ได้จดบันทึกไว้เล็กๆด้วย ไว้ว่างๆจะมาเล่าสู่กันฟังอีกนะคะ หัวเราะ
ปล.ความสงสัยนี้เกิดขึ้นจริง ไร้สาระจริง! 5555
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่