ขอยืมlog in แฟนมาโพสกระทู้พาหลงค่ะ
แนะนำตัวหน่อยค่ะ เราชื่อนิ จะโพสกระทู้ชวนเชื่อและชวนหลงยุโรป จากที่แฟนสัญญาว่าพาไปฮันนีมูนที่ไหนก็ได้ (ถ้ามีตัง T_T)
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ ส่วนคนแบกของและทุกอย่างๆในชีวิตชื่อ อ๊อด(เจ้าของlog in)เป็นตากล้องถ่ายรูป และเป็นแรงใจแกมบังคับให้ลง
พันทิป หลังจากดองเค็มมานานเป็นปี อิอิ และเพื่อให้ทุกคนมาหลงยุโรปพร้อมๆกันค่ะ
เที่ยวยุโรปตะวันออก ในงบไม่เกิน 60,000 บาท ใครๆก็ไปได้ เพียงแต่ต้องอาศัยการหาข้อมูลเมืองที่จะไปเที่ยวไว้แต่เนิ่นๆและจองตั๋วเครื่องบินและหาที่พัก ไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของทริปอยู่ที่ตั๋วเครื่องบินและที่พัก หลังจากกลับจากทริป เราเลยอยากจะแบ่งปันข้อมูลการไปbackpack ในยุโรปตะวันออกตั้งแต่การเตรียมตัว การเดินทาง รวมทั้งอาหารการกินโดยเราไปกัน 2 คน ทั้งหมด 4 ประเทศ 8 เมือง 9 วัน และใช้เงินไปประมาณไม่เกิน60,000บาท/คน โดยพักห้องคู่ มีห้องน้ำในตัว อาหารการกินก็ธรรมดาบ้างหรูบ้างขึ้นกับเวลาและโอกาสจะอำนวย ตาม concept งบก็น้อย วันลาก็น้อย แต่อยากเที่ยวหลายๆที่ หลายๆเมือง เพราะไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกหรือเปล่า ขึ้นรถไฟ ไปรถบัส ลงเรือกันมันส์ไปข้างหนึ่ง
เพื่อนๆคนไหนสนใจตามเรามาได้เลยค่ะ เรามาเริ่มกันที่ขั้นตอนการเตรียมตัวกันก่อนนะคะ
เริ่มต้นเตรียมตัว
1. การหาเมืองหรือสถานที่ที่อยากไปเที่ยว
ก่อนที่เราจะคำนวณงบประมาณ จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก เราต้องเสาะหาสถานที่ที่เราชอบ ที่เราฝันว่าซักวันหนึ่งเราต้องไปให้ได้ กรณีของเรา เราอยากไป backpack ยุโรปซักครั้งหนึ่ง อยากไปประเทศที่มีความสวยงามทั้งสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ รวมถึงค่าใช้จ่ายไม่แพงมากเกินไป อยู่ในงบที่มนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆ2 คน สามารถเก็บเงินไปเที่ยวได้ และจากการหาข้อมูลไปซักระยะ ก็สรุปได้ว่าทริปนี้จะไป 4 ประเทศ 8 เมือง แต่มีเวลาจำกัดที่ 9 วัน (เนื่องจากวันลาพักร้อนมีจำกัด) โดยประเทศและเมืองที่ไปมีดังนี้ :
- Hungary (ฮังการี) : Budapest (บูดาเปสต์)
- Austria (ออสเตรีย) : Vienna หรือ Wien (เวียนนา), Hallstatt (ฮัลสแตทท์), และ Salzburg (ซัลส์บรูก)
- Germany (เยอรมัน) : Munich (มิวนิค), Fussen (ฟูสเซ่น)
- Czech Republic(สาธารณรัฐเชค ) : Prague (ปราก), Cesky Krumlov (เชสกี้ ครุมลอฟ)
เหตุผลที่ตกลงปลงใจเป็น 4 ประเทศ และ 8 เมืองข้างต้น เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ติดๆกัน การเดินทางสะดวก ค่ากินอยู่ไม่แพง และได้สัมผัสทั้งสถาปัตยกรรมอันหลากหลายสวยงาม อย่าง Wien, Budapest ,Salzburg, Cesky Krumlov และ Pragueและมีวิวธรรมชาติที่สุดยอด อย่าง Hallstatt
2. งบประมาณและการเก็บเงิน
เมื่อได้ประเทศและเมืองที่จะไปแล้วก็หาข้อมูลจากพี่ๆเพื่อนๆที่รีวิวกันเอาไว้ว่าส่วนใหญ่ไปกี่วัน ใช้งบประมาณไหน มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง อย่างยุโรปตะวันออก งบประมาณที่ตั้งไว้อยู่ที่คนละ 60,000 รวมตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง และค่ากินอยู่ ก็เริ่มแพลนเก็บเงิน โดยเราสองคนใช้วิธีเปิดบัญชีเงินฝาก คนหนึ่งฝากเดือนละ 4,000 บาท และอีกคนหนึ่งเก็บเงินแบบผสมกันระหว่างเงินเดือนและโบนัสโดยจะเก็บเดือนละ 2,000-3,000 แล้วนำโบนัสมารวมเป็นก้อนๆให้ครบตามงบประมาณ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่างน้อยควรจะมีเงินพอค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับสองคนที่ประมาณ50,000 (+-2,000) ก่อนวันเดินทางประมาณ 3เดือน เพราะใกล้วันเดินทาง ราคาตั๋วจะยิ่งแพงขึ้นค่ะดังนั้นควรจะจองตั๋วแต่เนิ่นๆค่ะ
3. ทำแผนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบินและการจองที่พัก
การไปเที่ยวแถบยุโรปนั้นต้องขอวีซ่า แต่ในการขอวีซ่านั้นจำเป็นต้องมีเอกสาร support ว่าเรา มีหน้าที่การงานเป็นหลักเป็นแหล่ง มีรายได้ที่แน่นอนหรือสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเที่ยวได้ รวมถึงจำเป็นต้องมีหลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินและหลักฐานการจองที่พัก เพื่อให้ทางสถานฑูตเชื่อได้ว่าเราไปแล้วจะกลับมาไทยแน่นอน ไม่ใช่ไปแล้วอยู่ที่โน่นเลย โดยแผนการเดินทาง และเทคนิคการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักที่เราใช้นั้น จะเขียนแบบละเอียดด้านล่างเลยค่ะ
ในการวางแผนการเดินทางว่าจะบินลงเมืองไหนกลับจากเมืองไหน ไปเมืองไหนลำดับที่ 1,2,3…. เราพิจารณาจากระยะทาง เวลา และวิธีการเดินทางที่ใช้ระหว่างเมืองแต่ละเมือง รวมทั้งราคาของรถโดยสารแต่ละชนิด เพราะบางเมืองมีบริการรถบัส ซึ่งก็ถือว่าสะดวกและราคาไม่แพง และเราพยายามจัดแผนให้การเดินทางระหว่างเมืองใช้เวลาไม่เกิน 3-4 ชั่วโมงเพราะเวลาเที่ยวแต่ละเมืองน้อยอยู่แล้ว ไม่อยากเสียเวลาอยู่บนรถนานๆค่ะ
Plan Trip:ตามแผนที่ เราได้จองตั๋วเครื่องบินของ Aeroflot ไปลงที่ Budapest แล้วก็เดินทางตามแผนดังนี้
- Day1 : Bkk - Budapest : เดินทางออกจากกรุงเทพตอนเช้า ถึง Budapest ตอน 2 ทุ่ม (ไปที่พักโดยรถตู้ของโรงแรม 20 ยูโรเพราะต้องการทำเวลา เพี่อไปเดินชมวิว Landmark สำคัญๆในตอนกลางคืนริมแม่น้ำดานูบ)
- Day2 : Budapest- Wien : เที่ยว Budapest ต่ออีกครึ่งวัน แล้วก็นั่งรถบัสของ Orangeways ตอนบ่าย 3 โมง ไปWien (เวียนนา) ชมเวียนนาตอนกลางคืน
>>> http://ppantip.com/topic/33100490
- Day3 : Wien- Halstatt : เที่ยว Wien (เวียนนา) ถึงประมาณบ่าย 2 แล้วนั่งรถไฟ OBB ไป Hallstatt ถึงเย็นๆ (ต่อเรือข้ามฝั่ง)
>>> http://ppantip.com/topic/33105048
- Day4 : Hallstatt- Salzburg-Munich : เดินเล่นที่ Hallstatt ถึงประมาณบ่ายโมง แล้วนั่งรถบัสของ Postbus ไปที่ Salzburg ถึงประมาณบ่ายสามกว่าๆ ฝากกระเป๋าที่ล๊อกเกอร์สถานีรถไฟ แล้วไปเดินเล่นในเมือง Salzburg ค่ำๆ ต่อรถไฟของ DB Bahn (ใช้ Bayern Ticket) ไปนอนที่ Munich (มิวนิค)
- Day5 : Munich- Fussen-Munich : นั่งรถไฟไป Fussen เพื่อต่อไปชมปราสาท Neuschwanstein (ใช้ Bayern Ticket ) ตอนเย็นเดินเล่นและกินขาหมูเยอรมันที่ Fussen ค่ำๆกลับมานอนมิวนิค
- Day6 : Munich-Salzburg : เที่ยวมิวนิคครึ่งเช้า (Marianplatz ) แล้วนั่งรถไฟของ ของ DB Bahn (ใช้ Bayern Ticket) กลับมาSalzburg ไปเดินเล่นในเมืองเก่า (นอนที่ Salzburg: B&B ชื่อ Huas Am Moos)
- Day7 : Salzburg- Cesky Krumlov : เก็บตกใน Salzburg (สวน Mirabell)บ่ายๆ นั่งรถตู้ของ Bean Shuttle (เครือเดียวกับ CK Shuttle)ไปเมือง Cesky Krumlov ถึงประมาณบ่ายสาม เดินเล่นตามปราสาทCesky Krumlov
- Day8 : Cesky Krumlov- Prague : ออกจาก Cesky Krumlov ตอนสายๆ นั่งรถบัสของ Student Agency ไปเมืองสุดท้าย Prague (เดินทาง 3 ชั่วโมงถึงประมาณเที่ยง)
- Day9 : Prague – BKK : เที่ยว Prague ครึ่งวัน จากนั้นตอนเย็นๆเดินทางกลับ BKK
การจองตั๋วเครื่องบิน
การจองตั๋วเครื่องบินนั้น ถ้าเป็น style อย่างพวกเรา จะขอเน้นถูกไว้ก่อน 555 โดยสามารถหาตั๋วถูกๆได้ตามเวบ Cheapticket หรือ Skyscanner กรณีของเรา เราจองตั๋วของสายการบิน Aeroflot (ขาไปลงที่ Budapestขากลับ เลือกกลับจากPrague) ได้ในราคาไปกลับต่อคนที่ 24,985 บาท ผ่าน Cheapticket ซึ่งถือได้ว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างถูก อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยใช้เวลาtransitเที่ยวละ 2 ชั่วโมงที่ Moscow
การจองที่พัก
การจองที่พัก สามารถจองได้ทั้ง Hostelworld, Agoda หรือ Booking.com ส่วนตัวเราเลือกจองผ่าน Booking เพราะราคาที่โชว์คือ ราคาสุทธิแล้ว ไม่ต้องไปวุ่นวายคำนวนให้ยุ่งยากและราคาไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก มีเงื่อนไขยืดหยุ่นเช่น จองก่อนแล้วจ่ายทีหลังได้ ยกเลิกการจองได้ และบางโรงแรมอาจจะไม่ต้องใช้บัตรเครดิตกันวงเงินไปจ่ายตอนวันพักจริงเลย *ทั้งนี้เงื่อนไขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงแรมนะคะ
จากนั้นก็เลือกว่าโรงแรมหรือเกสเฮาส์แต่ละที่นั้น ราคาเท่าไหร่ อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามั้ย เดินทางสะดวกหรือเปล่า คะแนนและรีวิวจากคนที่เคยพักเป็นยังงัย โดย จขกท จะเลือกที่พักที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 8.00 สำหรับ 2 คน ราคาไม่แพง มีห้องน้ำในตัว เดินทางสะดวก คะแนนรีวิวเยี่ยม เป็นต้น ทั้งนี้การจะได้ที่พักในเงื่อนไขนี้จำเป็นต้องจองที่เนิ่นๆ เพราะที่พักดีๆ นั้นมักจะหมดเร็วโรงแรมหรือเกสเฮ้าส์ที่ จขกท ได้ไปพักมีดังนี้
@ Day 1 Budapest : ‘Gateway Budapest City Center’ ราคา/ห้อง 59 ยูโร
@ Day 2 Wien : ‘Boutique Hotel Stadthalle Wien’ ราคา/ห้อง 59 ยูโร
@ Day 3 Hallstatt : ‘Gasthof Pension Gruner Anger’ ราคา/ห้อง 88 ยูโร มีอาหารเช้า(แพงสุดในทริปเพราะที่พักมี จำกัด และHallstatt ที่พักราคาค่อนข้างแพงอยู่แล้ว)
@ Day 4-5 Munich : ‘LetoMotel’ ราคา/ห้อง/คืน 59 ยูโร
@ Day 6 Salzburg : ‘Haus Am Moos’ ราคา/ห้อง 56 ยูโร มีอาหารเช้า(จองโดย e-mail ไปที่พักโดยตรง)
@ Day 7 Cesky Krumlov : ‘Penzion Panorama’ ราคา/ห้อง 36 ยูโร มีอาหารเช้า (ถูกสุดในทริป)
@ Day 8 Prague : ‘Dahlia Inn’ ราคา/ห้อง 59 ยูโร
4. การทำวีซ่า
Schengen Visa : เชงเก้นวีซ่า คือวีซ่าสำหรับประเทศในกลุ่มยุโรปซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มเชงเก้น 26 ประเทศ โดยเชงเก้นวีซ่านี้แบ่งเป็น2 ประเภท คือ Multiple Visa(ขอในกรณีที่ในการเดินทางครั้งนั้นมีการออกไปนอกประเทศเชงเก้นและกลับเข้ามาอีก เช่น จากฝรั่งเศส ข้ามไปเที่ยวอังกฤษ และกลับมาเที่ยวแถบยุโรปต่อ) และ Single Visa (ขอในกรณีที่เที่ยวแต่ใน 26 ประเทศเชงเก้น) กรณีไปเที่ยวแต่ในโซนยุโรปตะวันออก จึงขอเป็น Single Visa เพราะทั้ง 4 ประเทศอยู่ในเชงเก้นทั้งหมด
และในการขอวีซ่านั้น จะต้องไปขอกับสถานฑูตประเทศที่เราพำนักนานที่สุด (นับเป็นคืน) กรณีพักจำนวนเท่ากันให้ ขอประเทศที่เดินทางไปถึงก่อนกรณีของเรา พักที่ออสเตรียนานที่สุด จึงไปขอที่สถานฑูตออสเตรีย โดยในเดือนตุลาคม 2556 ที่ขอนั้นยังเป็นระบบเดิมอยู่คือให้ไปจองคิวกับยามและพอถึงวันนัดก็นำเอกสารไปยื่นที่สถานฑูต แต่ ณ ปัจจุบันจะยื่นผ่าน บริษัท VFS Global ซึ่งเป็นตัวแทนในการรับยื่นวีซ่าในนามของสถานทูตออสเตรีย กรุงเทพฯ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
http://www.bmeia.gv.at/th/botschaft/bangkok/ratgeber/reisen-nach-oesterreich/visa-informationen.html
http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/
สำหรับวีซ่าระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน (วีซ่าท่องเที่ยว) ค่าธรรมเนียมการทำวีซ่า 60,- ยูโร และสำหรับเด็กระหว่าง 6 ถึง 12 ปี รวมถึงผู้ที่ถือสัญชาติมอลโดวา สัญชาติรัสเซีย และสัญชาติยูเครน ค่าธรรมเนียม 35 ยูโร
PS. กล้องที่ถ่ายสำหรับทริปมี 3 ตัว คือ NEX6+SAL1650F28, Canon IXY10S, GALAXY NOTE 1
[CR] ### [ออกตังเอง..ฮา] มือใหม่พาหลง(เสน่ห์)ยุโรปตะวันออก...4 ประเทศ 8 เมือง 9 วัน ไม่เกิน 60,000 บาท ###
แนะนำตัวหน่อยค่ะ เราชื่อนิ จะโพสกระทู้ชวนเชื่อและชวนหลงยุโรป จากที่แฟนสัญญาว่าพาไปฮันนีมูนที่ไหนก็ได้ (ถ้ามีตัง T_T)
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ ส่วนคนแบกของและทุกอย่างๆในชีวิตชื่อ อ๊อด(เจ้าของlog in)เป็นตากล้องถ่ายรูป และเป็นแรงใจแกมบังคับให้ลง
พันทิป หลังจากดองเค็มมานานเป็นปี อิอิ และเพื่อให้ทุกคนมาหลงยุโรปพร้อมๆกันค่ะ
เที่ยวยุโรปตะวันออก ในงบไม่เกิน 60,000 บาท ใครๆก็ไปได้ เพียงแต่ต้องอาศัยการหาข้อมูลเมืองที่จะไปเที่ยวไว้แต่เนิ่นๆและจองตั๋วเครื่องบินและหาที่พัก ไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของทริปอยู่ที่ตั๋วเครื่องบินและที่พัก หลังจากกลับจากทริป เราเลยอยากจะแบ่งปันข้อมูลการไปbackpack ในยุโรปตะวันออกตั้งแต่การเตรียมตัว การเดินทาง รวมทั้งอาหารการกินโดยเราไปกัน 2 คน ทั้งหมด 4 ประเทศ 8 เมือง 9 วัน และใช้เงินไปประมาณไม่เกิน60,000บาท/คน โดยพักห้องคู่ มีห้องน้ำในตัว อาหารการกินก็ธรรมดาบ้างหรูบ้างขึ้นกับเวลาและโอกาสจะอำนวย ตาม concept งบก็น้อย วันลาก็น้อย แต่อยากเที่ยวหลายๆที่ หลายๆเมือง เพราะไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกหรือเปล่า ขึ้นรถไฟ ไปรถบัส ลงเรือกันมันส์ไปข้างหนึ่ง เพื่อนๆคนไหนสนใจตามเรามาได้เลยค่ะ เรามาเริ่มกันที่ขั้นตอนการเตรียมตัวกันก่อนนะคะ
เริ่มต้นเตรียมตัว
1. การหาเมืองหรือสถานที่ที่อยากไปเที่ยว
ก่อนที่เราจะคำนวณงบประมาณ จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก เราต้องเสาะหาสถานที่ที่เราชอบ ที่เราฝันว่าซักวันหนึ่งเราต้องไปให้ได้ กรณีของเรา เราอยากไป backpack ยุโรปซักครั้งหนึ่ง อยากไปประเทศที่มีความสวยงามทั้งสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ รวมถึงค่าใช้จ่ายไม่แพงมากเกินไป อยู่ในงบที่มนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆ2 คน สามารถเก็บเงินไปเที่ยวได้ และจากการหาข้อมูลไปซักระยะ ก็สรุปได้ว่าทริปนี้จะไป 4 ประเทศ 8 เมือง แต่มีเวลาจำกัดที่ 9 วัน (เนื่องจากวันลาพักร้อนมีจำกัด) โดยประเทศและเมืองที่ไปมีดังนี้ :
- Hungary (ฮังการี) : Budapest (บูดาเปสต์)
- Austria (ออสเตรีย) : Vienna หรือ Wien (เวียนนา), Hallstatt (ฮัลสแตทท์), และ Salzburg (ซัลส์บรูก)
- Germany (เยอรมัน) : Munich (มิวนิค), Fussen (ฟูสเซ่น)
- Czech Republic(สาธารณรัฐเชค ) : Prague (ปราก), Cesky Krumlov (เชสกี้ ครุมลอฟ)
เหตุผลที่ตกลงปลงใจเป็น 4 ประเทศ และ 8 เมืองข้างต้น เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ติดๆกัน การเดินทางสะดวก ค่ากินอยู่ไม่แพง และได้สัมผัสทั้งสถาปัตยกรรมอันหลากหลายสวยงาม อย่าง Wien, Budapest ,Salzburg, Cesky Krumlov และ Pragueและมีวิวธรรมชาติที่สุดยอด อย่าง Hallstatt
2. งบประมาณและการเก็บเงิน
เมื่อได้ประเทศและเมืองที่จะไปแล้วก็หาข้อมูลจากพี่ๆเพื่อนๆที่รีวิวกันเอาไว้ว่าส่วนใหญ่ไปกี่วัน ใช้งบประมาณไหน มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง อย่างยุโรปตะวันออก งบประมาณที่ตั้งไว้อยู่ที่คนละ 60,000 รวมตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง และค่ากินอยู่ ก็เริ่มแพลนเก็บเงิน โดยเราสองคนใช้วิธีเปิดบัญชีเงินฝาก คนหนึ่งฝากเดือนละ 4,000 บาท และอีกคนหนึ่งเก็บเงินแบบผสมกันระหว่างเงินเดือนและโบนัสโดยจะเก็บเดือนละ 2,000-3,000 แล้วนำโบนัสมารวมเป็นก้อนๆให้ครบตามงบประมาณ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่างน้อยควรจะมีเงินพอค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับสองคนที่ประมาณ50,000 (+-2,000) ก่อนวันเดินทางประมาณ 3เดือน เพราะใกล้วันเดินทาง ราคาตั๋วจะยิ่งแพงขึ้นค่ะดังนั้นควรจะจองตั๋วแต่เนิ่นๆค่ะ
3. ทำแผนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบินและการจองที่พัก
การไปเที่ยวแถบยุโรปนั้นต้องขอวีซ่า แต่ในการขอวีซ่านั้นจำเป็นต้องมีเอกสาร support ว่าเรา มีหน้าที่การงานเป็นหลักเป็นแหล่ง มีรายได้ที่แน่นอนหรือสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเที่ยวได้ รวมถึงจำเป็นต้องมีหลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินและหลักฐานการจองที่พัก เพื่อให้ทางสถานฑูตเชื่อได้ว่าเราไปแล้วจะกลับมาไทยแน่นอน ไม่ใช่ไปแล้วอยู่ที่โน่นเลย โดยแผนการเดินทาง และเทคนิคการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักที่เราใช้นั้น จะเขียนแบบละเอียดด้านล่างเลยค่ะ
ในการวางแผนการเดินทางว่าจะบินลงเมืองไหนกลับจากเมืองไหน ไปเมืองไหนลำดับที่ 1,2,3…. เราพิจารณาจากระยะทาง เวลา และวิธีการเดินทางที่ใช้ระหว่างเมืองแต่ละเมือง รวมทั้งราคาของรถโดยสารแต่ละชนิด เพราะบางเมืองมีบริการรถบัส ซึ่งก็ถือว่าสะดวกและราคาไม่แพง และเราพยายามจัดแผนให้การเดินทางระหว่างเมืองใช้เวลาไม่เกิน 3-4 ชั่วโมงเพราะเวลาเที่ยวแต่ละเมืองน้อยอยู่แล้ว ไม่อยากเสียเวลาอยู่บนรถนานๆค่ะ
Plan Trip:ตามแผนที่ เราได้จองตั๋วเครื่องบินของ Aeroflot ไปลงที่ Budapest แล้วก็เดินทางตามแผนดังนี้
- Day1 : Bkk - Budapest : เดินทางออกจากกรุงเทพตอนเช้า ถึง Budapest ตอน 2 ทุ่ม (ไปที่พักโดยรถตู้ของโรงแรม 20 ยูโรเพราะต้องการทำเวลา เพี่อไปเดินชมวิว Landmark สำคัญๆในตอนกลางคืนริมแม่น้ำดานูบ)
- Day2 : Budapest- Wien : เที่ยว Budapest ต่ออีกครึ่งวัน แล้วก็นั่งรถบัสของ Orangeways ตอนบ่าย 3 โมง ไปWien (เวียนนา) ชมเวียนนาตอนกลางคืน
>>> http://ppantip.com/topic/33100490
- Day3 : Wien- Halstatt : เที่ยว Wien (เวียนนา) ถึงประมาณบ่าย 2 แล้วนั่งรถไฟ OBB ไป Hallstatt ถึงเย็นๆ (ต่อเรือข้ามฝั่ง)
>>> http://ppantip.com/topic/33105048
- Day4 : Hallstatt- Salzburg-Munich : เดินเล่นที่ Hallstatt ถึงประมาณบ่ายโมง แล้วนั่งรถบัสของ Postbus ไปที่ Salzburg ถึงประมาณบ่ายสามกว่าๆ ฝากกระเป๋าที่ล๊อกเกอร์สถานีรถไฟ แล้วไปเดินเล่นในเมือง Salzburg ค่ำๆ ต่อรถไฟของ DB Bahn (ใช้ Bayern Ticket) ไปนอนที่ Munich (มิวนิค)
- Day5 : Munich- Fussen-Munich : นั่งรถไฟไป Fussen เพื่อต่อไปชมปราสาท Neuschwanstein (ใช้ Bayern Ticket ) ตอนเย็นเดินเล่นและกินขาหมูเยอรมันที่ Fussen ค่ำๆกลับมานอนมิวนิค
- Day6 : Munich-Salzburg : เที่ยวมิวนิคครึ่งเช้า (Marianplatz ) แล้วนั่งรถไฟของ ของ DB Bahn (ใช้ Bayern Ticket) กลับมาSalzburg ไปเดินเล่นในเมืองเก่า (นอนที่ Salzburg: B&B ชื่อ Huas Am Moos)
- Day7 : Salzburg- Cesky Krumlov : เก็บตกใน Salzburg (สวน Mirabell)บ่ายๆ นั่งรถตู้ของ Bean Shuttle (เครือเดียวกับ CK Shuttle)ไปเมือง Cesky Krumlov ถึงประมาณบ่ายสาม เดินเล่นตามปราสาทCesky Krumlov
- Day8 : Cesky Krumlov- Prague : ออกจาก Cesky Krumlov ตอนสายๆ นั่งรถบัสของ Student Agency ไปเมืองสุดท้าย Prague (เดินทาง 3 ชั่วโมงถึงประมาณเที่ยง)
- Day9 : Prague – BKK : เที่ยว Prague ครึ่งวัน จากนั้นตอนเย็นๆเดินทางกลับ BKK
การจองตั๋วเครื่องบิน
การจองตั๋วเครื่องบินนั้น ถ้าเป็น style อย่างพวกเรา จะขอเน้นถูกไว้ก่อน 555 โดยสามารถหาตั๋วถูกๆได้ตามเวบ Cheapticket หรือ Skyscanner กรณีของเรา เราจองตั๋วของสายการบิน Aeroflot (ขาไปลงที่ Budapestขากลับ เลือกกลับจากPrague) ได้ในราคาไปกลับต่อคนที่ 24,985 บาท ผ่าน Cheapticket ซึ่งถือได้ว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างถูก อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยใช้เวลาtransitเที่ยวละ 2 ชั่วโมงที่ Moscow
การจองที่พัก
การจองที่พัก สามารถจองได้ทั้ง Hostelworld, Agoda หรือ Booking.com ส่วนตัวเราเลือกจองผ่าน Booking เพราะราคาที่โชว์คือ ราคาสุทธิแล้ว ไม่ต้องไปวุ่นวายคำนวนให้ยุ่งยากและราคาไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก มีเงื่อนไขยืดหยุ่นเช่น จองก่อนแล้วจ่ายทีหลังได้ ยกเลิกการจองได้ และบางโรงแรมอาจจะไม่ต้องใช้บัตรเครดิตกันวงเงินไปจ่ายตอนวันพักจริงเลย *ทั้งนี้เงื่อนไขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงแรมนะคะ
จากนั้นก็เลือกว่าโรงแรมหรือเกสเฮาส์แต่ละที่นั้น ราคาเท่าไหร่ อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามั้ย เดินทางสะดวกหรือเปล่า คะแนนและรีวิวจากคนที่เคยพักเป็นยังงัย โดย จขกท จะเลือกที่พักที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 8.00 สำหรับ 2 คน ราคาไม่แพง มีห้องน้ำในตัว เดินทางสะดวก คะแนนรีวิวเยี่ยม เป็นต้น ทั้งนี้การจะได้ที่พักในเงื่อนไขนี้จำเป็นต้องจองที่เนิ่นๆ เพราะที่พักดีๆ นั้นมักจะหมดเร็วโรงแรมหรือเกสเฮ้าส์ที่ จขกท ได้ไปพักมีดังนี้
@ Day 1 Budapest : ‘Gateway Budapest City Center’ ราคา/ห้อง 59 ยูโร
@ Day 2 Wien : ‘Boutique Hotel Stadthalle Wien’ ราคา/ห้อง 59 ยูโร
@ Day 3 Hallstatt : ‘Gasthof Pension Gruner Anger’ ราคา/ห้อง 88 ยูโร มีอาหารเช้า(แพงสุดในทริปเพราะที่พักมี จำกัด และHallstatt ที่พักราคาค่อนข้างแพงอยู่แล้ว)
@ Day 4-5 Munich : ‘LetoMotel’ ราคา/ห้อง/คืน 59 ยูโร
@ Day 6 Salzburg : ‘Haus Am Moos’ ราคา/ห้อง 56 ยูโร มีอาหารเช้า(จองโดย e-mail ไปที่พักโดยตรง)
@ Day 7 Cesky Krumlov : ‘Penzion Panorama’ ราคา/ห้อง 36 ยูโร มีอาหารเช้า (ถูกสุดในทริป)
@ Day 8 Prague : ‘Dahlia Inn’ ราคา/ห้อง 59 ยูโร
4. การทำวีซ่า
Schengen Visa : เชงเก้นวีซ่า คือวีซ่าสำหรับประเทศในกลุ่มยุโรปซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มเชงเก้น 26 ประเทศ โดยเชงเก้นวีซ่านี้แบ่งเป็น2 ประเภท คือ Multiple Visa(ขอในกรณีที่ในการเดินทางครั้งนั้นมีการออกไปนอกประเทศเชงเก้นและกลับเข้ามาอีก เช่น จากฝรั่งเศส ข้ามไปเที่ยวอังกฤษ และกลับมาเที่ยวแถบยุโรปต่อ) และ Single Visa (ขอในกรณีที่เที่ยวแต่ใน 26 ประเทศเชงเก้น) กรณีไปเที่ยวแต่ในโซนยุโรปตะวันออก จึงขอเป็น Single Visa เพราะทั้ง 4 ประเทศอยู่ในเชงเก้นทั้งหมด
และในการขอวีซ่านั้น จะต้องไปขอกับสถานฑูตประเทศที่เราพำนักนานที่สุด (นับเป็นคืน) กรณีพักจำนวนเท่ากันให้ ขอประเทศที่เดินทางไปถึงก่อนกรณีของเรา พักที่ออสเตรียนานที่สุด จึงไปขอที่สถานฑูตออสเตรีย โดยในเดือนตุลาคม 2556 ที่ขอนั้นยังเป็นระบบเดิมอยู่คือให้ไปจองคิวกับยามและพอถึงวันนัดก็นำเอกสารไปยื่นที่สถานฑูต แต่ ณ ปัจจุบันจะยื่นผ่าน บริษัท VFS Global ซึ่งเป็นตัวแทนในการรับยื่นวีซ่าในนามของสถานทูตออสเตรีย กรุงเทพฯ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
http://www.bmeia.gv.at/th/botschaft/bangkok/ratgeber/reisen-nach-oesterreich/visa-informationen.html
http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/
สำหรับวีซ่าระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน (วีซ่าท่องเที่ยว) ค่าธรรมเนียมการทำวีซ่า 60,- ยูโร และสำหรับเด็กระหว่าง 6 ถึง 12 ปี รวมถึงผู้ที่ถือสัญชาติมอลโดวา สัญชาติรัสเซีย และสัญชาติยูเครน ค่าธรรมเนียม 35 ยูโร
PS. กล้องที่ถ่ายสำหรับทริปมี 3 ตัว คือ NEX6+SAL1650F28, Canon IXY10S, GALAXY NOTE 1