มีเรื่องอยากปรึกษาคุณหมอฟันค่ะ ทีเดิมเริ่มแรกคุณแม่มีปัญหาปวดแสบร้อนในปากเวลากลางคืน มีกลิ่นปาก และฟันโยก คุณแม่อายุ 67 ปี เหลือฟันแท้ด้านบน 8 ซี่ และฟันล่าง 2 ซี่ ปกติใส่ฟันปลอมแบบถอดได้มา 4 ชุดแล้วค่ะ แต่ก็ต้องเปลี่ยนฟันปลอมทุกครั้ง หลังจากฟันที่ใช้ขอเกี่ยวไว้เริ่มฟันโยก คุณแม่เข้าการรับรักษาฟันที่คณะทันตแพทย์ศาสตร์ เมื่อตรวจฟันและดูจากฟิล์มเอ็กซเรย์แล้ว ฟันคุณแม่มีปัญหาหลายซี่ค่ะ และมี 3 ซี่ด้านบนที่ลามไปถึงรากฟันจนเกิดอาการดังกล่าว เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาน้องหมอฟันก็รักษาด้วยการถอนออกไปแล้ว 2 ซี่ เหลืออีก 1 ซี่ น้องหมอฟันและอาจารย์หมอปรึกษากันก่อนว่าจะรักษารากฟันหรือถอนออกดี แล้วจะโทรศัพท์บอกเราค่ะ
หลังจากที่ขูดหินปูนและถอนฟันที่มีปัญหาออกไป จากฟิล์มเอ็กซเรย์ดูโครงสร้างฟันที่เหลือ คุณแม่มีกระดูกฟันเหลือน้อยมากๆ การยึดของฟันกับโครงสร้างฟันก็เริ่มมีปัญหา คุณหมอบอกว่ามีฟันหลายซี่ที่เริ่มจะโยกคลอนแล้ว การเก็บรักษาฟันอาจจะเก็บไว้ได้แค่ระยะหนึ่ง ในความคิดเห็นของหมอ หมอคิดว่าควรที่จะถอนออกค่ะ แล้วใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ไปก่อน หากคุณแม่และเราเองอาจจะไม่สะดวกในการใส่ฟันโดยการทำรากฟันเทียมแบบถาวร (ค่าใช้จ่ายแพงมากค่ะ ว่ากันเป็นแสนกว่าบาท) หากมีฟันแท้ที่เหลือแล้วทำฟันปลอม ซึ่งจะต้องมีตัวขอเกี่ยวกับฟันแท้ที่เหลือ ระยะเวลาการใช้งานอาจจะไม่นาน ฟันก็จะโยกและต้องถอนอีก ถ้าแม่มีกระดูกฟันเยอะ หมอก็จะแนะนำให้แม่รักษาฟันแท้ไว้ แต่เคสของแม่ แม่เหลือกระดูกฟันบางมากค่ะ หมอแนะนำให้ถอนออก ซึ่งก็เยอะเหมือนกันนะคะทั้งหมดเหลืออยู่ 8 ซี่ ข้างบน 6 ซี่ ข้างล่าง 2 ซี่ น้องหมอฟันเขาก็รู้สึกเกรงใจที่จะต้องบอกแนวทางการรักษาแบบนี้ ห่วงความรู้สึกคุณแม่ด้วยค่ะ
น้องหมอก็โทรมาปรึกษาเราและขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการรักษาฟันของคุณแม่วันนี้ ซึ่งพรุ่งนี้จะนัดรักษาในฟันที่มีปัญหารากฟันก่อนที่เหลือ ในความคิดเห็นของ น้องหมอและอาจารย์หมอ มีความคิดเห็นว่าการเก็บรักษาฟันแท้ที่เริ่มจะมีปัญหาไว้อาจจะต้องถอนอีกในเวลาอีกไม่นาน แต่ในด้านจิตใจของแม่ ลึกๆ แล้วเราก็คิดว่าแม่ไม่ยากจะถอนฟันแท้ไปหมดปากเลย ณ เวลานี้ ทางด้านสุขภาพกายเราว่าแม่เราแข็งแรงดี แต่สุขภาพใจ เป็นเรา เราก็คงจะใจหายและเป็นกังวล เราก็อธิบายให้แม่ฟังเพื่อให้เห็น หากถอนฟันไปแล้ว ฟันปลอมมชุดใหม่ที่แม่ใส่ก็จะเรียงตัวสวยมากขึ้น แต่แม่จะต้องเรียนรู้และปรับตัวกับการใช้ฟันปลอมทั้งชุดในปาก
ก่อนหน้านั้น เราเข้าไปสอบถามเรื่องการทำรากฟันเทียมใน "โครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ" แต่ติดเงื่อนไขที่ว่าผู้ที่เข้ารับการรักษา จะต้องไม่มีฟันแท้เหลืออยู่แม้แต่ซี่เดียว ซึ่งในการรับการรักษาหากเข้าโครงการแล้ว ก็จะได้รับการรักษาอย่างเป็นขั้นตอน โดยการเอาคุณแม่รับการรักษาและเข้าระบบก่อน จะต้องดูว่ามีโรคประจำตัวที่เป็นโรคต้องห้ามไหม กระดูกฟันแม่มีพอที่จะทำรากฟันเทียมหรือต้องปลูกกระดูกขึ้นมาใหม่ ก็เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่ได้รับการตรวจรักษาแล้ว
ในเรื่องนี้เราก็คุยกับน้องหมอฟันที่รักษาเคสของคุณแม่ หากแม่ไม่เหลือฟันแท้แล้ว ช่วงที่ทำเรื่องเข้าโครงการทำรากฟันเทียมฟรี คุณแม่ก็ใส่ฟันปลอมทั้งชุดไปก่อน แต่เมื่อเข้าโครงการแล้วและรักษาไปตามขั้นตอนการฝังรากเทียม ส่วนนี้ค่าใช้จ่ายของทางคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนนี้ไม่แพงมากเหมือนแต่ก่อน ในราคาคนไทย (แต่ถ้าเข้าโครงการพระราชทานจะรับการฝังรากเทียมประมาณ 2 จุด ด้านล่าง)
ตอนนี้สองจิตสองใจเรื่องการถอนฟันแท้ที่เหลือของแม่ หรือจะให้แม่ใส่ฟันปลอมพร้อมกับฟันที่เหลือไปก่อนดี กังวลใจค่ะ ห่วงความรู้สึกของแม่ด้วย แต่ก็อยากให้เขาได้รับสิ่งที่ดี เพราะทุกวันนี้เวลาแม่ทานข้าว แม่ใส่ฟันปลอมไม่ได้เลย เจ็บเหงือกจนต้องมารักษาฟันตอนนี้ ทานอาหารที่แข็งมากไม่ได้มาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ
ในรูปจากแผ่นพับที่ไปติดต่อเข้าโครงการรากฟันเทียมพระราชทานมาค่ะ ทำให้จำนวนทั้งหมด 2 จุด เฉพาะด้านล่างค่ะ ซึ่งถ้าคุณแม่ถอนออกหมด เราก็จะพาคุณแม่ไปลงชื่อเข้าร่วมโครงการนี้ค่ะ
จะเก็บฟันแท้ที่ใกล้จะโยกคลอนของคุณแม่ไว้(มีกระดูกฟันเหลือน้อยมาก) หรือจะถอนออกหมดทั้งปาก เพื่อใส่ฟันปลอมและทำรากฟันเทียม
หลังจากที่ขูดหินปูนและถอนฟันที่มีปัญหาออกไป จากฟิล์มเอ็กซเรย์ดูโครงสร้างฟันที่เหลือ คุณแม่มีกระดูกฟันเหลือน้อยมากๆ การยึดของฟันกับโครงสร้างฟันก็เริ่มมีปัญหา คุณหมอบอกว่ามีฟันหลายซี่ที่เริ่มจะโยกคลอนแล้ว การเก็บรักษาฟันอาจจะเก็บไว้ได้แค่ระยะหนึ่ง ในความคิดเห็นของหมอ หมอคิดว่าควรที่จะถอนออกค่ะ แล้วใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ไปก่อน หากคุณแม่และเราเองอาจจะไม่สะดวกในการใส่ฟันโดยการทำรากฟันเทียมแบบถาวร (ค่าใช้จ่ายแพงมากค่ะ ว่ากันเป็นแสนกว่าบาท) หากมีฟันแท้ที่เหลือแล้วทำฟันปลอม ซึ่งจะต้องมีตัวขอเกี่ยวกับฟันแท้ที่เหลือ ระยะเวลาการใช้งานอาจจะไม่นาน ฟันก็จะโยกและต้องถอนอีก ถ้าแม่มีกระดูกฟันเยอะ หมอก็จะแนะนำให้แม่รักษาฟันแท้ไว้ แต่เคสของแม่ แม่เหลือกระดูกฟันบางมากค่ะ หมอแนะนำให้ถอนออก ซึ่งก็เยอะเหมือนกันนะคะทั้งหมดเหลืออยู่ 8 ซี่ ข้างบน 6 ซี่ ข้างล่าง 2 ซี่ น้องหมอฟันเขาก็รู้สึกเกรงใจที่จะต้องบอกแนวทางการรักษาแบบนี้ ห่วงความรู้สึกคุณแม่ด้วยค่ะ
น้องหมอก็โทรมาปรึกษาเราและขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการรักษาฟันของคุณแม่วันนี้ ซึ่งพรุ่งนี้จะนัดรักษาในฟันที่มีปัญหารากฟันก่อนที่เหลือ ในความคิดเห็นของ น้องหมอและอาจารย์หมอ มีความคิดเห็นว่าการเก็บรักษาฟันแท้ที่เริ่มจะมีปัญหาไว้อาจจะต้องถอนอีกในเวลาอีกไม่นาน แต่ในด้านจิตใจของแม่ ลึกๆ แล้วเราก็คิดว่าแม่ไม่ยากจะถอนฟันแท้ไปหมดปากเลย ณ เวลานี้ ทางด้านสุขภาพกายเราว่าแม่เราแข็งแรงดี แต่สุขภาพใจ เป็นเรา เราก็คงจะใจหายและเป็นกังวล เราก็อธิบายให้แม่ฟังเพื่อให้เห็น หากถอนฟันไปแล้ว ฟันปลอมมชุดใหม่ที่แม่ใส่ก็จะเรียงตัวสวยมากขึ้น แต่แม่จะต้องเรียนรู้และปรับตัวกับการใช้ฟันปลอมทั้งชุดในปาก
ก่อนหน้านั้น เราเข้าไปสอบถามเรื่องการทำรากฟันเทียมใน "โครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ" แต่ติดเงื่อนไขที่ว่าผู้ที่เข้ารับการรักษา จะต้องไม่มีฟันแท้เหลืออยู่แม้แต่ซี่เดียว ซึ่งในการรับการรักษาหากเข้าโครงการแล้ว ก็จะได้รับการรักษาอย่างเป็นขั้นตอน โดยการเอาคุณแม่รับการรักษาและเข้าระบบก่อน จะต้องดูว่ามีโรคประจำตัวที่เป็นโรคต้องห้ามไหม กระดูกฟันแม่มีพอที่จะทำรากฟันเทียมหรือต้องปลูกกระดูกขึ้นมาใหม่ ก็เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่ได้รับการตรวจรักษาแล้ว
ในเรื่องนี้เราก็คุยกับน้องหมอฟันที่รักษาเคสของคุณแม่ หากแม่ไม่เหลือฟันแท้แล้ว ช่วงที่ทำเรื่องเข้าโครงการทำรากฟันเทียมฟรี คุณแม่ก็ใส่ฟันปลอมทั้งชุดไปก่อน แต่เมื่อเข้าโครงการแล้วและรักษาไปตามขั้นตอนการฝังรากเทียม ส่วนนี้ค่าใช้จ่ายของทางคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนนี้ไม่แพงมากเหมือนแต่ก่อน ในราคาคนไทย (แต่ถ้าเข้าโครงการพระราชทานจะรับการฝังรากเทียมประมาณ 2 จุด ด้านล่าง)
ตอนนี้สองจิตสองใจเรื่องการถอนฟันแท้ที่เหลือของแม่ หรือจะให้แม่ใส่ฟันปลอมพร้อมกับฟันที่เหลือไปก่อนดี กังวลใจค่ะ ห่วงความรู้สึกของแม่ด้วย แต่ก็อยากให้เขาได้รับสิ่งที่ดี เพราะทุกวันนี้เวลาแม่ทานข้าว แม่ใส่ฟันปลอมไม่ได้เลย เจ็บเหงือกจนต้องมารักษาฟันตอนนี้ ทานอาหารที่แข็งมากไม่ได้มาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ
ในรูปจากแผ่นพับที่ไปติดต่อเข้าโครงการรากฟันเทียมพระราชทานมาค่ะ ทำให้จำนวนทั้งหมด 2 จุด เฉพาะด้านล่างค่ะ ซึ่งถ้าคุณแม่ถอนออกหมด เราก็จะพาคุณแม่ไปลงชื่อเข้าร่วมโครงการนี้ค่ะ