เมื่อปีที่แล้ว เคยตั้งกระทู้เรื่องนี้ไว้ตอนที่ละครยังไม่จบ แต่บัดนี้ละครจบแล้วพอดีกับที่ซับอังกฤษออกมาวันนี้เอง เลยขอโอกาสขยายความต่อ....
http://ppantip.com/topic/32868441
นับเป็นซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ตามดูตามลุ้นตลอดว่าจะหักมุมยังไง
ขนาดไม่รู้ภาษาญี่ป่นซักตัว ยังใจหายใจคว่ำ เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวน้ำตาซึม ทำเอาคนรอบข้างมองด้วยความสงสัย!!!
Gomen ne Seishun! หรือในอีกชื่อหนึ่ง Sorry Youth! เป็นละครที่ใครๆคาดหวังไว้สูงมาก
เพราะคนเขียนบทคือคุโดคัง (KudoKan) ที่มีฝีมือและผลงานที่ดังๆมาหลายเรื่องรวมถึง Ryusei no Kizuna
ที่ทำให้เขาได้พบกับเรียวจนในที่สุดเจาะจงให้เรียวมารับบทเฮสุเกะ ฮาระ กลับปรากฏว่าละครไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องจำนวนคนดู(สด)
สวนทางกับคำวิจารณ์ที่ได้รับคำชมอย่างมากมายแม้แต่คนที่ไม่ชอบที่เห็นหนุ่มจอห์นนีมารับบทนำในฐานะนักแสดง ก็ยังชื่นชมละครเรื่องนี้
ชมนางเอก ชมคนเขียนบท แต่ไม่ยักชมเรียวแฮะ...555
(ชมค่ะ.. ชม หลายคนบอกว่าดีใจที่เห็นเรียวรับบทที่ดูแล้วไม่รู้สึกว่านั่นคือนิชิกิโด เรียว แต่เป็นคุณครูเฮจังจอมเปิ่น ขี้อ้อน ติดแม่ฯลฯ)
อย่างไรก็ตามละครเรื่องนี้กลับกลายเป็นละครที่มีคนดูตามหลังมากที่สุด
พูดง่ายๆคือมีคนโหลดและบันทึกเพื่อดูซ้ำเป็นอันดับต้นๆเลยในละครที่ออกอากาศช่วงเดียวกัน!
จนคุโดคังต้องออกมาขอร้องว่าแบบนี้ไม่รักกันจริงนี่นา ต้องดูสดสิครับ...!!! เรตติงจึงกระเตื้องขึ้นมานิดดดดนึง นิดเดียวจริงจริ๊งงงๆ!
ตอนนี้มีซับไทยออกมาให้ชื่นใจแล้ว 3 ตอนค่ะ ไปตามดูได้เลย
http://alive.in.th/watch_video.php?v=NR5G8XO5RSY1
http://alive.in.th/watch_video.php?v=D136D24HG32D
บอกตรงๆว่าชอบเรียวค่ะ เห็นเรียวเหมือนลูกชายคนโตที่ทำให้แม่ใจเต้นแรงเสมอ ด้วยความห่วงใย เอาใจช่วยตลอด
ลุ้นทุกครั้งเมื่อเจอข่าวเรียวตามเว็บ ซึ่งมักจะมีข่าวแรงมากกว่าข่าวดี จนซึ้งในคำพูดที่ว่า “ไม่มีข่าวคือข่าวดี”
ดูผลงานของเรียวมาหลายเรื่อง ที่ชอบมากคือ “ซามูไรพุดดิ้ง-Chonmage Purin” และ “Gomem me Seishun” เรื่องนี้แหละค่ะ
ทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องที่ดูซ้ำได้ไม่เบื่อ อ้อ.. อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่อง “เจ้าหมาน้อย SKY” ที่ดูไปร้องไห้ไป แต่อย่างน้อยก็มีความสุขกว่า “น้ำตาหนึ่งลิตร”
Gomen ne Seishun เป็นเรื่องที่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันสุดขั้ว นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบเอาเลย
แต่ถ้าใครถูกใจแล้วจะหลงเสน่ห์ละครเรื่องนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น ที่สำคัญคือการตามความคิดของคนเขียนบทให้ทัน....
ว่าเขากำลังคิดอะไรและต้องการสื่อให้คนดูเข้าใจได้อย่างไร
เรื่องนี้นำเสนอความแตกต่างที่สามารถผสมผสานกันได้ลงตัว ไม่ว่าจะต่างศาสนา(คริสต์-พุทธ)
ต่างเพศหญิง-ชาย ไปจนถึงการข้ามเพศ(Gender identity disorder - GID) ความแข็งกร้าว(ครูริสะ)-ความอ่อนโยน(ครูเฮสุเกะ)
ความรัก ความเมตตาที่นำไปสู่การให้อภัย ฯลฯ ทั้งหมดนี้อาศัยความรู้สึกผิดที่ฝังลึกในจิตใจของครูเฮจังเป็นตัวเดินเรื่อง
ดูเผินๆอาจคิดว่าเรื่องนี้เศร้าเคล้าน้ำตา ความจริงตรงกันข้าม...กลายเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาที่ทำให้เราน้ำตาร่วงเพราะความซึ้งไปได้พร้อมๆกัน!!!
หลายคนชมว่าคุโดตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเรียวมาเล่นเรื่องนี้ เพราะลักษณะของเรียวมีอะไรที่คล้ายๆกับเฮจัง
คือตาโศกๆของเรียวมันเหมือนซ่อนความรู้สึกหลายๆอย่างไว้ และบุคลิกของเฮจังตรงกับเรียวภาค soft side
เหมือนตอนที่เขาเล่น Zenkai girl ที่มักแสดงความรู้สึกทางสายตามากกว่า
(ความจริงชอบเรียวภาค dark side ยังคิดว่าเมื่อไรรับบทประเภทนี้เมื่อไร เรตติ้งคงดีขึ้น555)
เสน่ห์ของละครเรื่องนี้มีเต็มเปี่ยม เหมาะกับคนที่ชอบ Romantic comedy แบบหักมุมและแถมความรู้สึกซึ้งๆมาเป็นระยะๆ
ก่อนอื่นลองนึกถึงภาพโรงเรียนคู่อริ 2 โรงเรียนที่อยู่ห่างกันแค่ 100 เมตร แต่เกลียดกันสุดๆ
ทนไม่ได้แม้แต่จะลงรถเมล์ป้ายเดียวกัน ห้ามกระทั่งการคบหากัน!!!
ก้าวแรกของครูเฮสุเกะกับลูกศิษย์
โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนคริสต์หญิงล้วนที่ผลการเรียนนำโด่ง(Sanjo School)
ส่วนอีกโรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนพุทธชายล้วนที่ผลการเรียนยอดแย่(Tonkou School)
แต่จะด้วยพระเจ้าดลบันดาลหรือบุญทำกรรมแต่ง ทำให้สองโรงเรียนนี้ถึงคราวต้องถูกยุบรวมกัน
ด้วยปัญหาเด็กนักเรียนน้อยลง และที่สำคัญคือโรงเรียนหญิงกำลังจนตรอกเนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ที่กู้มาซ่อมแซมโบสถ์ของโรงเรียน
ที่ถูกไฟไหม้โดยไร้สาเหตุเมื่อ 14 ปีที่แล้วได้ ไม่มีใครรู้เลยว่ามือต้นเพลิงที่แท้จริงนั้นมิใช่ใครอื่น เขาคือครูเฮจังที่ดูนิ่มๆและไร้พิษสงคนนี้นี่เอง!
ว่ากันว่าเหตุที่เรื่องนี้คนดูน้อยก็เพราะมันเฉลยตั้งแต่ตอนแรกเลยว่าคนที่ทำไฟไหม้นั้นคือเฮจัง
ดังนั้นมันจึงไม่น่าสนใจเมื่อรู้ล่วงหน้าแล้ว แสดงว่าอาจมีแววว่าจะจบไม่สวย! (ก็แน่หละ ...พระเอกเห็นคุกอยู่รำไรเลยนี่นา)
เฮจังเก็บความลับเรื่องนี้ไว้ในใจพร้อมกับความรู้สึกผิดที่กัดกินใจมาตลอด 14 ปีที่ผ่านมา
และเป็นคนเดียวที่ต้องการให้ทั้งสองโรงเรียนกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ในฐานะที่เขาเป็นนักเรียนเก่าของโรงเรียนชาย เป็นรุ่นพี่ที่ไม่อยากเห็นรุ่นร้องเติบโตขึ้นเป็นคนหมดปัญญาหาแฟนแบบเขา
และเป็นครูที่อยากแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดแม้จะต้องเอาอนาคตตัวเองเป็นเดิมพันก็ตาม!
คนเดียวที่เขาไว้ใจและกล้าระบายความในใจให้ฟังมาตลอดเวลาคือแม่ของเค้าเอง
แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่สำหรับเขา "แม่" พร้อมที่จะแปลงกายจากรูปแกะสลัก "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร"
ที่ประดิษฐานอยู่ในห้องนอนใต้หลังคาของเขา มาเป็นคนที่มีเลือดเนื้อ พร้อมรับฟังคำปรับทุกข์ของเขาทุกเมื่อ!
บางคนอธิบายว่า "แม่พระโพธิสัตว์" ในเรื่องนี้ เปรียบเสมือนจิตใต้สำนึกของคนเรานั่นเอง....
เรื่องนี้น่ารักตรงที่แม่ของเฮจังรับหน้าที่เป็นคนบรรยายเพื่อเดินเรื่อง
และเรื่องเริ่มที่แม่ได้เล่าให้คนดูได้รับรู้ว่าครูเฮจังที่กำลังยืนมือเปียกเหงื่ออยู่หน้าโรงเรียนหญิงพร้อมลูกศิษย์อีกโขยงนั้น กลัวเสียงรถหวอเป็นที่สุด
และนั่นเป็นเพราะเหตุไฟไหม้อาคารที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา
คู่ปรับสำคัญของครูฮาระ เฮสุเกะคือแม่เสือดำตัวแสบครูฮาชิยะ ริสะ ที่เป็นทั้งครูปกครองและ...เป็นน้องสาวของคนที่ครูฮาระหลงรัก(ยูโกะ)
แต่ถูกเพื่อน(ซาโตชิ)พ่อสื่อชิงหัวใจไปได้ และฉากหวานระหว่างทั้งคู่คือต้นเหตุของหายนะในอดีต
ฉากที่ทั้งสองคนพบกันครั้งแรกนี่ดูกี่ครั้งก็ไม่จืด....
http://tsukinokasa.tumblr.com/post/100488224135/gomen-ne-seishun-ep-01
แม่เสืออาละวาดซะครูเฮสุเกะที่ตั้งใจจะมาแก้ข้อกล่าวหาแทนลูกศิษย์จ๋องไปถนัด
ฉากนี้นอกจากแสดงให้เห็นความเฮี้ยวของครูริสะและยังแสดงให้เห็นความเปิ่นเงอะงะของครูเฮสุเกะ
คู่นาง-พระที่ต่างกันสุดขั้วจะมีโอกาสทำให้ละครเรื่องนี้เป็นโรแมนติกคอเมดีได้ยังไง?
ยังดีที่ยังมีคู่รองให้ลุ้นนั่นคือลูกศิษย์ของครูริสะ – อมารินที่แอบคบอยู่กับเอบิซาวะ-ศิษย์โปรดของครูฮาระนั่นเอง
(ซีรีส์ญี่ปุ่น)นินทาตามหลัง Gomen ne Seishun (ระวัง SPOILED!)
http://ppantip.com/topic/32868441
นับเป็นซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ตามดูตามลุ้นตลอดว่าจะหักมุมยังไง
ขนาดไม่รู้ภาษาญี่ป่นซักตัว ยังใจหายใจคว่ำ เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวน้ำตาซึม ทำเอาคนรอบข้างมองด้วยความสงสัย!!!
Gomen ne Seishun! หรือในอีกชื่อหนึ่ง Sorry Youth! เป็นละครที่ใครๆคาดหวังไว้สูงมาก
เพราะคนเขียนบทคือคุโดคัง (KudoKan) ที่มีฝีมือและผลงานที่ดังๆมาหลายเรื่องรวมถึง Ryusei no Kizuna
ที่ทำให้เขาได้พบกับเรียวจนในที่สุดเจาะจงให้เรียวมารับบทเฮสุเกะ ฮาระ กลับปรากฏว่าละครไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องจำนวนคนดู(สด)
สวนทางกับคำวิจารณ์ที่ได้รับคำชมอย่างมากมายแม้แต่คนที่ไม่ชอบที่เห็นหนุ่มจอห์นนีมารับบทนำในฐานะนักแสดง ก็ยังชื่นชมละครเรื่องนี้
ชมนางเอก ชมคนเขียนบท แต่ไม่ยักชมเรียวแฮะ...555
(ชมค่ะ.. ชม หลายคนบอกว่าดีใจที่เห็นเรียวรับบทที่ดูแล้วไม่รู้สึกว่านั่นคือนิชิกิโด เรียว แต่เป็นคุณครูเฮจังจอมเปิ่น ขี้อ้อน ติดแม่ฯลฯ)
อย่างไรก็ตามละครเรื่องนี้กลับกลายเป็นละครที่มีคนดูตามหลังมากที่สุด
พูดง่ายๆคือมีคนโหลดและบันทึกเพื่อดูซ้ำเป็นอันดับต้นๆเลยในละครที่ออกอากาศช่วงเดียวกัน!
จนคุโดคังต้องออกมาขอร้องว่าแบบนี้ไม่รักกันจริงนี่นา ต้องดูสดสิครับ...!!! เรตติงจึงกระเตื้องขึ้นมานิดดดดนึง นิดเดียวจริงจริ๊งงงๆ!
ตอนนี้มีซับไทยออกมาให้ชื่นใจแล้ว 3 ตอนค่ะ ไปตามดูได้เลย
http://alive.in.th/watch_video.php?v=NR5G8XO5RSY1
http://alive.in.th/watch_video.php?v=D136D24HG32D
บอกตรงๆว่าชอบเรียวค่ะ เห็นเรียวเหมือนลูกชายคนโตที่ทำให้แม่ใจเต้นแรงเสมอ ด้วยความห่วงใย เอาใจช่วยตลอด
ลุ้นทุกครั้งเมื่อเจอข่าวเรียวตามเว็บ ซึ่งมักจะมีข่าวแรงมากกว่าข่าวดี จนซึ้งในคำพูดที่ว่า “ไม่มีข่าวคือข่าวดี”
ดูผลงานของเรียวมาหลายเรื่อง ที่ชอบมากคือ “ซามูไรพุดดิ้ง-Chonmage Purin” และ “Gomem me Seishun” เรื่องนี้แหละค่ะ
ทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องที่ดูซ้ำได้ไม่เบื่อ อ้อ.. อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่อง “เจ้าหมาน้อย SKY” ที่ดูไปร้องไห้ไป แต่อย่างน้อยก็มีความสุขกว่า “น้ำตาหนึ่งลิตร”
Gomen ne Seishun เป็นเรื่องที่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันสุดขั้ว นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบเอาเลย
แต่ถ้าใครถูกใจแล้วจะหลงเสน่ห์ละครเรื่องนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น ที่สำคัญคือการตามความคิดของคนเขียนบทให้ทัน....
ว่าเขากำลังคิดอะไรและต้องการสื่อให้คนดูเข้าใจได้อย่างไร
เรื่องนี้นำเสนอความแตกต่างที่สามารถผสมผสานกันได้ลงตัว ไม่ว่าจะต่างศาสนา(คริสต์-พุทธ)
ต่างเพศหญิง-ชาย ไปจนถึงการข้ามเพศ(Gender identity disorder - GID) ความแข็งกร้าว(ครูริสะ)-ความอ่อนโยน(ครูเฮสุเกะ)
ความรัก ความเมตตาที่นำไปสู่การให้อภัย ฯลฯ ทั้งหมดนี้อาศัยความรู้สึกผิดที่ฝังลึกในจิตใจของครูเฮจังเป็นตัวเดินเรื่อง
ดูเผินๆอาจคิดว่าเรื่องนี้เศร้าเคล้าน้ำตา ความจริงตรงกันข้าม...กลายเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาที่ทำให้เราน้ำตาร่วงเพราะความซึ้งไปได้พร้อมๆกัน!!!
หลายคนชมว่าคุโดตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเรียวมาเล่นเรื่องนี้ เพราะลักษณะของเรียวมีอะไรที่คล้ายๆกับเฮจัง
คือตาโศกๆของเรียวมันเหมือนซ่อนความรู้สึกหลายๆอย่างไว้ และบุคลิกของเฮจังตรงกับเรียวภาค soft side
เหมือนตอนที่เขาเล่น Zenkai girl ที่มักแสดงความรู้สึกทางสายตามากกว่า
(ความจริงชอบเรียวภาค dark side ยังคิดว่าเมื่อไรรับบทประเภทนี้เมื่อไร เรตติ้งคงดีขึ้น555)
เสน่ห์ของละครเรื่องนี้มีเต็มเปี่ยม เหมาะกับคนที่ชอบ Romantic comedy แบบหักมุมและแถมความรู้สึกซึ้งๆมาเป็นระยะๆ
ก่อนอื่นลองนึกถึงภาพโรงเรียนคู่อริ 2 โรงเรียนที่อยู่ห่างกันแค่ 100 เมตร แต่เกลียดกันสุดๆ
ทนไม่ได้แม้แต่จะลงรถเมล์ป้ายเดียวกัน ห้ามกระทั่งการคบหากัน!!!
ก้าวแรกของครูเฮสุเกะกับลูกศิษย์
โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนคริสต์หญิงล้วนที่ผลการเรียนนำโด่ง(Sanjo School)
ส่วนอีกโรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนพุทธชายล้วนที่ผลการเรียนยอดแย่(Tonkou School)
แต่จะด้วยพระเจ้าดลบันดาลหรือบุญทำกรรมแต่ง ทำให้สองโรงเรียนนี้ถึงคราวต้องถูกยุบรวมกัน
ด้วยปัญหาเด็กนักเรียนน้อยลง และที่สำคัญคือโรงเรียนหญิงกำลังจนตรอกเนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ที่กู้มาซ่อมแซมโบสถ์ของโรงเรียน
ที่ถูกไฟไหม้โดยไร้สาเหตุเมื่อ 14 ปีที่แล้วได้ ไม่มีใครรู้เลยว่ามือต้นเพลิงที่แท้จริงนั้นมิใช่ใครอื่น เขาคือครูเฮจังที่ดูนิ่มๆและไร้พิษสงคนนี้นี่เอง!
ว่ากันว่าเหตุที่เรื่องนี้คนดูน้อยก็เพราะมันเฉลยตั้งแต่ตอนแรกเลยว่าคนที่ทำไฟไหม้นั้นคือเฮจัง
ดังนั้นมันจึงไม่น่าสนใจเมื่อรู้ล่วงหน้าแล้ว แสดงว่าอาจมีแววว่าจะจบไม่สวย! (ก็แน่หละ ...พระเอกเห็นคุกอยู่รำไรเลยนี่นา)
เฮจังเก็บความลับเรื่องนี้ไว้ในใจพร้อมกับความรู้สึกผิดที่กัดกินใจมาตลอด 14 ปีที่ผ่านมา
และเป็นคนเดียวที่ต้องการให้ทั้งสองโรงเรียนกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ในฐานะที่เขาเป็นนักเรียนเก่าของโรงเรียนชาย เป็นรุ่นพี่ที่ไม่อยากเห็นรุ่นร้องเติบโตขึ้นเป็นคนหมดปัญญาหาแฟนแบบเขา
และเป็นครูที่อยากแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดแม้จะต้องเอาอนาคตตัวเองเป็นเดิมพันก็ตาม!
คนเดียวที่เขาไว้ใจและกล้าระบายความในใจให้ฟังมาตลอดเวลาคือแม่ของเค้าเอง
แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่สำหรับเขา "แม่" พร้อมที่จะแปลงกายจากรูปแกะสลัก "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร"
ที่ประดิษฐานอยู่ในห้องนอนใต้หลังคาของเขา มาเป็นคนที่มีเลือดเนื้อ พร้อมรับฟังคำปรับทุกข์ของเขาทุกเมื่อ!
บางคนอธิบายว่า "แม่พระโพธิสัตว์" ในเรื่องนี้ เปรียบเสมือนจิตใต้สำนึกของคนเรานั่นเอง....
เรื่องนี้น่ารักตรงที่แม่ของเฮจังรับหน้าที่เป็นคนบรรยายเพื่อเดินเรื่อง
และเรื่องเริ่มที่แม่ได้เล่าให้คนดูได้รับรู้ว่าครูเฮจังที่กำลังยืนมือเปียกเหงื่ออยู่หน้าโรงเรียนหญิงพร้อมลูกศิษย์อีกโขยงนั้น กลัวเสียงรถหวอเป็นที่สุด
และนั่นเป็นเพราะเหตุไฟไหม้อาคารที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา
คู่ปรับสำคัญของครูฮาระ เฮสุเกะคือแม่เสือดำตัวแสบครูฮาชิยะ ริสะ ที่เป็นทั้งครูปกครองและ...เป็นน้องสาวของคนที่ครูฮาระหลงรัก(ยูโกะ)
แต่ถูกเพื่อน(ซาโตชิ)พ่อสื่อชิงหัวใจไปได้ และฉากหวานระหว่างทั้งคู่คือต้นเหตุของหายนะในอดีต
ฉากที่ทั้งสองคนพบกันครั้งแรกนี่ดูกี่ครั้งก็ไม่จืด....
http://tsukinokasa.tumblr.com/post/100488224135/gomen-ne-seishun-ep-01
แม่เสืออาละวาดซะครูเฮสุเกะที่ตั้งใจจะมาแก้ข้อกล่าวหาแทนลูกศิษย์จ๋องไปถนัด
ฉากนี้นอกจากแสดงให้เห็นความเฮี้ยวของครูริสะและยังแสดงให้เห็นความเปิ่นเงอะงะของครูเฮสุเกะ
คู่นาง-พระที่ต่างกันสุดขั้วจะมีโอกาสทำให้ละครเรื่องนี้เป็นโรแมนติกคอเมดีได้ยังไง?
ยังดีที่ยังมีคู่รองให้ลุ้นนั่นคือลูกศิษย์ของครูริสะ – อมารินที่แอบคบอยู่กับเอบิซาวะ-ศิษย์โปรดของครูฮาระนั่นเอง