Ep. 1-1 เริ่มต้นการเดินทาง 26 ธค. 57
เราเองเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยอยู่แต่ในกรอบไม่เคยคิด หรือแทบจะไม่เคยได้ไปไหนด้วยตัวเองเลย เรียนมาตลอดเป็นพวกกินหนังสือเป็นอาหารหลัก เราเรียนด้านสายวิทยาศาสตร์พูดได้ว่าตื่นเช้ามาเอาตาแปะกล้องจุลทรรศน์ ตกเย็นยกตาขึ้นกลับบ้านนอน จน จบป.ตรี ต่อ ป.โท และแทบจะไม่ได้กระพริบตาก็มาเรียน ป.เอก ปัจจุบันกำลังจะจบ ป.เอกอยู่ไม่กี่เดือนแล้ว พอมาคิดเราเองอยากทำอะไรที่ไม่เคยทำหรือได้แค่เพียงฝัน การเดินทางครั้งนี้จึงได้เริ่มต้นขึ้น ทริปของเราประกอบไปด้วยผู้ร่วมเดินทางอีกสองคน ซึ่งเป็นรุ่นน้องผู้ชาย ป.ตรี มหาลัยเดียวกัน สองคนเรียนสายป่าไม้ จึงวางใจได้ที่เราไม่ลำบากนักในการเดินทางเพราะเราต้องกางเต็นท์ โบกรถ และทำอาหารกินเอง ด้วยงบประมาณน้อยเราจึงจบลงด้วยการนั่งรถไฟฟรีจากกรุงเทพไปถึงเชียงใหม่แล้วจากนั้นค่อยหาโบกรถไปตามทางเรื่อยๆ กะไว้คราวๆเส้นทางดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน ขุ่นช่างเคี่ยน บ้านม้ง ดอยสุเทพ ปางอุ๋ง ปาย 7 วัน
ก่อนไปหน้าตายิ้มแย้มกับกระเป๋าใบโต
คนแน่นรถไฟจนสามารถถ่ายได้มุมแค่นี้
ถ้าถามเรานะความคิดเกี่ยวกับรถไฟฟรีมันแทบไม่อยู่ในหัวเราเลย เคยขึ้นครั้งสุดท้ายตอนจะไปรายงานตัวเพราะเอ็นติดที่ลาดกระบัง ผลสรุปไปรายงานตัวไม่ทันจ้า รถไฟสายไปสามชม. แต่เอาวะครั้งนี้ขอลุยๆสักทีพยามไม่คาดหวังกับรถไฟไทย แถมยังได้ตีตั๋วยืนตลอดทาง 15 ชม. แต่ผิดคาดรถไฟไม่แย่อย่างที่คิดเราได้ที่นั่งตั้งแต่ต้นสายถึงแม้คนจะเยอะ พนักงานก็ยังใจดีจัดหาที่ให้ทุกคนนั่ง อาหารการกินไม่ต้องพูดถึงแทบมาป้อนให้ถึงปากพูดได้ว่ามาถึงหน้าอย่างกับระบบ4DX และได้เห็นแววตาของคนมาตามหาความฝันในกทม. ที่จะได้กลับบ้านพร้อมของฝากมากมาย เห็นชาวต่างชาติรุ่นใหญ่ที่จูงมือกันมาเที่ยวอยุธยา ถึงคนจะเยอะแต่เราก็มีที่นั่งพอสำหรับทุกคน ในแววตาทุกคู่ที่จะได้กลับบ้านไปช่วงเทศกาลปีใหม่ ช่วงเวลา 15 ชม. ไม่ได้นานดังใจคิดเมื่อมีเพื่อนผู้ร่วมเดินทางเราพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน จากเวลาล่วงเลยมาจนถึงตีหนึ่ง คนบนรถเริ่มทยอยลงตามจุดหมายของการเดินทาง พวกเราจึงมีที่พอจะยืดกายนอนลงบนเบาะรถไฟถึงแม้เบาะจะไม่ได้บุนวมนิ่มอย่างดี แต่มันก็เพียงพอสำหรับการพักผ่อนของพวกเรา ความหนาวเย็นของภาคเหนือเริ่มย่างกลายเข้ามาลมพัดผ่านหน้าต่างยิ่งทำให้เราต้องค้นหาเครื่องมือมาสู่กับมัน เสื้อหนาวทุกตัวที่มีงัดออกมาเตรียมพร้อมแต่แรงลมที่รถไฟวิ่งยามค่ำคืนกลับสู่กลับเราซะอย่างอยู่หมัด พวกเราพ่ายแพ้นอนหนาวสั่น แต่เหนืออื่นใดความเหนื่อยล้าและความง่วงก็ชนะ ตีสี่รถไฟขบวนนี้พาเรามาสู่จุดหมายโดยสวัสดิภาพ เราพาร่างโงนเงนลงจากรถไฟ เกิดความแปลกใจในความตรงต่อเวลาของรถไฟ คงต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่กับรถไฟซะแล้ว แต่ด้วยรถไฟมาไวเกินพวกเราเลยตัดสินใจนอนต่อที่สถานีรอจนเช้าค่อยเดินทางต่อ ความหนาวเย็นของเชียงใหม่ต้อนรับพวกเราสมใจจนถึงรุ่งเช้า
เช้าแล้วที่สถานีรถไฟเชียงใหม่
กาดประตูเชียงใหม่ยามเช้า
เราหารถตุ๊กๆเข้าไปในตลาดเพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ค่ารถตกคนละ20บาท พี่ตุ๊กๆพาเรามาส่งที่กาดประตูเชียงใหม่หลังจากเติมอาหารลงท้องจนอิ่มหน่ำก็มาต่อด้วยร้านกาแฟน่านั่งชื่อcoffee free time มองไปรอบตัวเราเป็นลูกค้าคนไทยกลุ่มเดียวในร้านซะอย่างนั้นกาแฟร้านนี้เค้าบอกว่ามาจากดอยช้างรถชาติใช้ได้เลยทีเดียวแต่ที่ติดใจนั่นคือนิวยอคชีสเค้กที่รสชาติดีกว่าที่เคยกินใน กทม. เป็นไหนๆเมื่อชาร์ตแบตทั้งคนและอุปกรณ์สื่อสารแล้ว เราจึงเริ่มเดินทางต่อจุดหมายคืนแรกของเราคือไปนอนบนดอยอินทนนท์ เจ้าของร้านกาแฟแนะนำให้เรานั่งรถเหลืองไปจอมทองแล้วต่อรถจากจอมทองไปลงอิทนนท์ค่ารถจากประตูเมืองเชียงใหม่ถึงจอมทอง35บาท ถึงจุดหมายเราเจอรถมอไซเช่าราคาวันละ300ด้วยราคานี้ต่อวันกับเราสามคนบวกกระเป๋าที่พกกันมาเต็มพิกัด การเช่ามอไซเลยพับเก็บไป พอดีมีรถจะออกจากจอมทองเป็นรถเหลืองเสนอเราด้วยราคาคนละ70บาทบอกว่าสิบคนออกเลยเราจึงตามเข้าไปจากภาพที่เห็นคนที่อัดอยู่ในรถไม่ต่ำกว่าสิบคนไหนพี่ว่าสิบคนออกไงแต่พลาดจ่ายเงินให้เขาไปแล้ว เลยตามเลยมองเข้าไปในรถสองแถวซ้ายขวาเต็มไปด้วยลูกเล็กเด็กแดงแถมมีแถวกลางที่เป็นแค่เก้าอี้ไม้ยาววางอยู่โดยไม่ได้ยึดเกาะใดๆ เราตัดสินใจเข้าไปนั่งหลังสุดเพราะเข้าไปอุดอยู่ข้างในคงเมารถแน่ๆ ข้างนอกเหล่าชายหนุ่มห้อยโหนประหนึ่งรถขายของที่ห้อยผักเป็นถุงๆตามหมู่บ้าน แถมมีสองหนุ่มโหนตัวขึ้นไปนั่งทับกระเป๋าเราจนแหลกอยู่บนหลังคา น้องสองคนโหนตัวอยู่ด้านนอกตัวรถลมเย็นพัดผ่านตลอดเส้นทางขึ้นดอยจนมีบ้างเวลาที่เผลอหลับไป สองคนต้องพากันคุยเพื่อไม่ให้เคลิ้มหลับจนปล่อยมืออาจมีข่าวเด็กตกดอย
อาหารเช้ามื้อแรกของทริปนี้ โจ้กหมู
มาต่อที่ร้านกาแฟสวยๆ
เค้กชิ้นนี้จัดว่าเด็ด นิวยอร์กชีสเค้ก
รถเหลืองขึ้นจอมทอง
ทริปนี้เราใช้กล้อง 2 ตัว คือ Nikon D5200 and IPad mini (แอบหยิบ D4 มาใช้บางรูป)
อนึ่ง เขียนกระทู้ครั้งแรกยาวไปนิด คงถูกใจคนรักการอ่านนะคะ
อะ สอง ทั้งหมดมีสามpart กำลังทยอยลงนะ
อะ สาม เข้ามาพูดคุยกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/paraporn.yotavong
อะ สี่ สำหรับคนที่อยากเสพรูปสวยๆ แนะนำกระทู้ของน้องอีกคนเค้าถ่ายไว้ได้ดีมากเลยคะ
http://ppantip.com/topic/33066207
[CR] จากห้องวิจัยสู่โลกกว้าง: 7 วัน กับครั้งแรกของผู้หญิงแบกเป้โบกรถสู่เส้นทางเชียงใหม่-ปางอุ๋ง กับค่ารถ 355 บาท (Ep.1)
Ep. 1-1 เริ่มต้นการเดินทาง 26 ธค. 57
เราเองเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยอยู่แต่ในกรอบไม่เคยคิด หรือแทบจะไม่เคยได้ไปไหนด้วยตัวเองเลย เรียนมาตลอดเป็นพวกกินหนังสือเป็นอาหารหลัก เราเรียนด้านสายวิทยาศาสตร์พูดได้ว่าตื่นเช้ามาเอาตาแปะกล้องจุลทรรศน์ ตกเย็นยกตาขึ้นกลับบ้านนอน จน จบป.ตรี ต่อ ป.โท และแทบจะไม่ได้กระพริบตาก็มาเรียน ป.เอก ปัจจุบันกำลังจะจบ ป.เอกอยู่ไม่กี่เดือนแล้ว พอมาคิดเราเองอยากทำอะไรที่ไม่เคยทำหรือได้แค่เพียงฝัน การเดินทางครั้งนี้จึงได้เริ่มต้นขึ้น ทริปของเราประกอบไปด้วยผู้ร่วมเดินทางอีกสองคน ซึ่งเป็นรุ่นน้องผู้ชาย ป.ตรี มหาลัยเดียวกัน สองคนเรียนสายป่าไม้ จึงวางใจได้ที่เราไม่ลำบากนักในการเดินทางเพราะเราต้องกางเต็นท์ โบกรถ และทำอาหารกินเอง ด้วยงบประมาณน้อยเราจึงจบลงด้วยการนั่งรถไฟฟรีจากกรุงเทพไปถึงเชียงใหม่แล้วจากนั้นค่อยหาโบกรถไปตามทางเรื่อยๆ กะไว้คราวๆเส้นทางดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน ขุ่นช่างเคี่ยน บ้านม้ง ดอยสุเทพ ปางอุ๋ง ปาย 7 วัน
ก่อนไปหน้าตายิ้มแย้มกับกระเป๋าใบโต
คนแน่นรถไฟจนสามารถถ่ายได้มุมแค่นี้
ถ้าถามเรานะความคิดเกี่ยวกับรถไฟฟรีมันแทบไม่อยู่ในหัวเราเลย เคยขึ้นครั้งสุดท้ายตอนจะไปรายงานตัวเพราะเอ็นติดที่ลาดกระบัง ผลสรุปไปรายงานตัวไม่ทันจ้า รถไฟสายไปสามชม. แต่เอาวะครั้งนี้ขอลุยๆสักทีพยามไม่คาดหวังกับรถไฟไทย แถมยังได้ตีตั๋วยืนตลอดทาง 15 ชม. แต่ผิดคาดรถไฟไม่แย่อย่างที่คิดเราได้ที่นั่งตั้งแต่ต้นสายถึงแม้คนจะเยอะ พนักงานก็ยังใจดีจัดหาที่ให้ทุกคนนั่ง อาหารการกินไม่ต้องพูดถึงแทบมาป้อนให้ถึงปากพูดได้ว่ามาถึงหน้าอย่างกับระบบ4DX และได้เห็นแววตาของคนมาตามหาความฝันในกทม. ที่จะได้กลับบ้านพร้อมของฝากมากมาย เห็นชาวต่างชาติรุ่นใหญ่ที่จูงมือกันมาเที่ยวอยุธยา ถึงคนจะเยอะแต่เราก็มีที่นั่งพอสำหรับทุกคน ในแววตาทุกคู่ที่จะได้กลับบ้านไปช่วงเทศกาลปีใหม่ ช่วงเวลา 15 ชม. ไม่ได้นานดังใจคิดเมื่อมีเพื่อนผู้ร่วมเดินทางเราพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน จากเวลาล่วงเลยมาจนถึงตีหนึ่ง คนบนรถเริ่มทยอยลงตามจุดหมายของการเดินทาง พวกเราจึงมีที่พอจะยืดกายนอนลงบนเบาะรถไฟถึงแม้เบาะจะไม่ได้บุนวมนิ่มอย่างดี แต่มันก็เพียงพอสำหรับการพักผ่อนของพวกเรา ความหนาวเย็นของภาคเหนือเริ่มย่างกลายเข้ามาลมพัดผ่านหน้าต่างยิ่งทำให้เราต้องค้นหาเครื่องมือมาสู่กับมัน เสื้อหนาวทุกตัวที่มีงัดออกมาเตรียมพร้อมแต่แรงลมที่รถไฟวิ่งยามค่ำคืนกลับสู่กลับเราซะอย่างอยู่หมัด พวกเราพ่ายแพ้นอนหนาวสั่น แต่เหนืออื่นใดความเหนื่อยล้าและความง่วงก็ชนะ ตีสี่รถไฟขบวนนี้พาเรามาสู่จุดหมายโดยสวัสดิภาพ เราพาร่างโงนเงนลงจากรถไฟ เกิดความแปลกใจในความตรงต่อเวลาของรถไฟ คงต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่กับรถไฟซะแล้ว แต่ด้วยรถไฟมาไวเกินพวกเราเลยตัดสินใจนอนต่อที่สถานีรอจนเช้าค่อยเดินทางต่อ ความหนาวเย็นของเชียงใหม่ต้อนรับพวกเราสมใจจนถึงรุ่งเช้า
เช้าแล้วที่สถานีรถไฟเชียงใหม่
กาดประตูเชียงใหม่ยามเช้า
เราหารถตุ๊กๆเข้าไปในตลาดเพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ค่ารถตกคนละ20บาท พี่ตุ๊กๆพาเรามาส่งที่กาดประตูเชียงใหม่หลังจากเติมอาหารลงท้องจนอิ่มหน่ำก็มาต่อด้วยร้านกาแฟน่านั่งชื่อcoffee free time มองไปรอบตัวเราเป็นลูกค้าคนไทยกลุ่มเดียวในร้านซะอย่างนั้นกาแฟร้านนี้เค้าบอกว่ามาจากดอยช้างรถชาติใช้ได้เลยทีเดียวแต่ที่ติดใจนั่นคือนิวยอคชีสเค้กที่รสชาติดีกว่าที่เคยกินใน กทม. เป็นไหนๆเมื่อชาร์ตแบตทั้งคนและอุปกรณ์สื่อสารแล้ว เราจึงเริ่มเดินทางต่อจุดหมายคืนแรกของเราคือไปนอนบนดอยอินทนนท์ เจ้าของร้านกาแฟแนะนำให้เรานั่งรถเหลืองไปจอมทองแล้วต่อรถจากจอมทองไปลงอิทนนท์ค่ารถจากประตูเมืองเชียงใหม่ถึงจอมทอง35บาท ถึงจุดหมายเราเจอรถมอไซเช่าราคาวันละ300ด้วยราคานี้ต่อวันกับเราสามคนบวกกระเป๋าที่พกกันมาเต็มพิกัด การเช่ามอไซเลยพับเก็บไป พอดีมีรถจะออกจากจอมทองเป็นรถเหลืองเสนอเราด้วยราคาคนละ70บาทบอกว่าสิบคนออกเลยเราจึงตามเข้าไปจากภาพที่เห็นคนที่อัดอยู่ในรถไม่ต่ำกว่าสิบคนไหนพี่ว่าสิบคนออกไงแต่พลาดจ่ายเงินให้เขาไปแล้ว เลยตามเลยมองเข้าไปในรถสองแถวซ้ายขวาเต็มไปด้วยลูกเล็กเด็กแดงแถมมีแถวกลางที่เป็นแค่เก้าอี้ไม้ยาววางอยู่โดยไม่ได้ยึดเกาะใดๆ เราตัดสินใจเข้าไปนั่งหลังสุดเพราะเข้าไปอุดอยู่ข้างในคงเมารถแน่ๆ ข้างนอกเหล่าชายหนุ่มห้อยโหนประหนึ่งรถขายของที่ห้อยผักเป็นถุงๆตามหมู่บ้าน แถมมีสองหนุ่มโหนตัวขึ้นไปนั่งทับกระเป๋าเราจนแหลกอยู่บนหลังคา น้องสองคนโหนตัวอยู่ด้านนอกตัวรถลมเย็นพัดผ่านตลอดเส้นทางขึ้นดอยจนมีบ้างเวลาที่เผลอหลับไป สองคนต้องพากันคุยเพื่อไม่ให้เคลิ้มหลับจนปล่อยมืออาจมีข่าวเด็กตกดอย
อาหารเช้ามื้อแรกของทริปนี้ โจ้กหมู
มาต่อที่ร้านกาแฟสวยๆ
เค้กชิ้นนี้จัดว่าเด็ด นิวยอร์กชีสเค้ก
รถเหลืองขึ้นจอมทอง
ทริปนี้เราใช้กล้อง 2 ตัว คือ Nikon D5200 and IPad mini (แอบหยิบ D4 มาใช้บางรูป)
อนึ่ง เขียนกระทู้ครั้งแรกยาวไปนิด คงถูกใจคนรักการอ่านนะคะ
อะ สอง ทั้งหมดมีสามpart กำลังทยอยลงนะ
อะ สาม เข้ามาพูดคุยกันต่อได้ที่ https://www.facebook.com/paraporn.yotavong
อะ สี่ สำหรับคนที่อยากเสพรูปสวยๆ แนะนำกระทู้ของน้องอีกคนเค้าถ่ายไว้ได้ดีมากเลยคะ http://ppantip.com/topic/33066207