เรื่องของเรามีอยู่ว่า........."อาจจะยาวไปหน่อยอย่าเพิ่งรำคาญน่ะค่ะ
ตอนเรียนอยู่ปี1เรากับเพื่อนคนนี้ไม่เคยจะญาตดีกันเลยเจอหน้ากันไม่ด่ากันก็กัดกันอย่างกะหมาบ้า เราพูดอะไรเขาก็แขวะตลอดหรือเขาพูดอะไรมาเราก็แขวะตลอดทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเพราะย้ายมาจากต่างร.ร.เราไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะชอบคนนี้เพราะตอนนั้นเรามีแฟนอยู่คบกันมาก็4-5ปีและเพื่อนคนนี้มันขี้เก๊ก ปากจัด ชอบด่าเรา นิสัยออกแนวกวนๆ(กวนตีน) และเราเคยพูดกะเพื่อนว่า"ชาตินี้ถ้าได้มันมาเป็นแฟนคงไม่ขอมีแฟนตลอดชีวิต" พอขึ้นปี2มาเราโดนแฟนบอกเลิกเพราะเขามีคนใหม่เรากะเพื่อนเราคนนี้ก็ยังคุยกันปกติพอดีเราซื้อโทรศัพท์มาใหม่มันก็ขอเล่นเกมตามประสามันเด็กติดเกม เหตุก็เริ่มจากตรงนี้เพราะทั้งเพื่อนทั้งอาจารย์ก็เริ่มแซวว่าเป็นแฟนกันหรอ? เพราะเรากะมันก็นั่งเรียนด้วยกันตลอดไม่เคยห่างกันเข้าห้องเรียนเจอหน้ามันก็เรียก ขอโทรศัพท์เวลาเล่นเกมก็ชอบผลัดกันเล่น แล้วเล่นแข่งกันบางทีจนอาจารย์เรียกทำโทษ ไล่ออกนอกห้องมาก็ชวนออกไปนั่งเล่นเกมข้างนอก ในตอนนั้นเรากับมันดูสนิทกันมาก จนมีวันหนึ่งโดนอาจารย์ถามว่า นี่พวกเธอเป็นแฝดกันหรอทำไมหน้าคล้ายกันจัง??? เราก็ตอบพร้อมกันค่ะว่า ...ป่าวค่ะ/คับ ...อาจารย์ อาจารย์เลยถามต่ออีกว่างั้นเป็นแฟนกันหรอทำไมชอบแกล้งกันจัง หน้าตาเหมือนกันอย่างกะแฝด หลังจากนั้นก็โดยอาจารย์ทั้งสอนวิชาเลือกเสรี. อาจารย์สอนวิชาทั่วไป. และอาจารย์ในสาขาวิชาหลายท่ายถามว่าเราเป็นแฝดกันหรอหรือเป็นแฟนเพราะเห็นสนิทกันแต่คนล่ะนามสกุล หลังจากนั้นเพื่อนในห้องก็ชิบแซวเวลามันขอเล่นเกมและเพื่อนกลุ่มมันที่เรียนสาขาเดียวกันแต่คนล่ะห้องก็กลุ่มเดียวกันแหละค่ะก็แซวเรากะมันมาตลอดที่คุยกัน แต่ตอนนั้นเราก็ไม่คิดอะไรกะมันมันก็คงไม่คิดอะไรเหมือนกัน จนเวลาผ่านไปสักพักเรากับมันเริ่มห่างกันเพราะโดนเพื่อนๆล้อโดนเพื่อนๆแซว แต่เวลาโดนแซวก็เหมือนจะอายจะเขินกันทั้งคู่ จนไม่กล้าคุยกันเหมือนเดิมไม่กล้านั่งเรียนด้วยกันเหมือนเดิม โดนล้อจนปิดเทอมขนาดปิดเทอมเพื่อนยังรวมหัวกันแต่งรูปอัพลงเฟสแซวกัน พอเรียนเปิดเรียนเทอมสองของช่วงชั้นปีที่2เรากับมันก็ยิ่งห่างกันห่างจนไม่กล้าทักไม่กล้าคุยเจอกันก็เดินหลบกันจนเหมือนคนไม่รุ้จักกัน แต่ก็ยังโดนแซวตลอดเวลาที่มารวมกลุ่มกัน และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราซื้อป๊อกกี้ขึ้นไปกินบนห้องเรียนตอนเช้ามันก็เข้าห้องมาทีหลังเราก็แบ่งๆกันกินแล้วมันเหลือสามแท่งสุดท้ายเราเลยหยิบให้เพื่อนคนล่ะแท่งแล้วอีกแท่งเราเลยอมไว้ในปาก มันเลยถามว่า"อ้าวแล้วของมันง่ะ??"เราก็บอกหมดแล้วพึ่งให้เพื่อนไป เหลืออันเดียวในปากนิ มันเลยมองหน้าเราก็มองหน้ามันตามปกติ แต่มันกลับแย่งป๊อกกี้ในปากเราไปกินจนเพื่อนๆที่นั่งจับกลุ่มกันนั่งมองแบบอึ้งๆ และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เพื่อนๆต้องร้องไห้ไม่รุ้เพราะดีใจที่แข่งชนะหรือเพราอะไร มีครั้งหนึ่งที่เป็นกีฬาสีคณะแล้วเราก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมทุกคนและมีการแข่งกินวิบากเรากะมันโดนเพื่อนลากลงแข่งเพราะคนอื่นเขาลงแข่งเกือบหมดล่ะเราเลยเออๆออๆไปตามเพื่อนเพราะโดนบังคับอีกอย่างเราก็เพิ่งไปจัดฟันมาใหม่มันเคี้ยวอะไรก็ไม่ถนัดเพราะยังเคืองๆอยู่มันก็รู้อ้ะ มันมีสี่ด่าน ด่านแรกล้างหน้าให้คู่ตัวเองให้เปียกด่านนี้สำเร็จ ด่านสองเป่าแป้งหาเหรียญมันเป่าครั้งเดียวเจอเราเลยรอดที่หน้าจะขาว ด่านสามกินขนมปังกับน้ำโค้กเราก็บอกมันว่าแกเค้าพึ่งกินข้าวมากินไม่ไหวหรอกมันเลยให้กินแค่ครึ่งชิ้นแล้วที่เหลืออีกห้าชิ้นครึ่งมันบอกจะกินให้แล้วน้ำโค้กมันก็บอกกินนิดเดียวเดี่ยวจุกมันเลยกินให้ด่านนี้ก็สำเร็จไปอีก ด่านสี่กินแตงโมคนล่ะชิ้นด่านนี้เราพลาดเองกินไม่หมดเพราะให้แทะเปลือกกินเพราะมันติดเหล็กที่พึ่งติดมาแต่กติกาต้องกินให้เห็นสีขาวแต่ของเราเนื้อแดงๆยังเหลือเพียบนึกว่าตัวเองทำสำเร็จก็วิ่งไปด่านสุดท้ายพร้อมกัน พี่ๆกรรมการเลยวิ่งมาบอกว่าเรากินไม่หมดเราเลยจะวิ่งไม่กินใหม่แต่มันก็บอกว่าเป่าลูกโป่งให้แต่เลยเดี่ยวเค้ากลับไปกินให้เองไม่เป็นไร พอมันวิ่งกลับมามันก็มาเป่าลูกโป่งต่อแต่เราเป็นคนกลัวลูกโป่งแตกใส่หน้ามันเป่าทีหลังแตกก่อนมันก็เลยช่วยเป่าต่อทำให้ลูกโป่งแตกภาระกิจสำเร็จ สีเราเลยเป็นคู่ที่ชนะ เพื่อนเราพากันร้องไห้ไม่รุ้เพราะอะไรเห็นบอกแค่ว่าดีใจที่มันไม่รังเกียจเราเพราะไม่ใช่แฟนกันแต่กล้ากินต่อปากเรากล้าเป่าลูกโป่งต่อเรา และหลังจากนั้นมาเราก็เริ่มคิดไปเองคนเดียวเริ่มรู้สึกว่าเริ่มเขินเริ่มอายจากที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น ที่รุ้สึกแบบนี้ไม่รุ้ว่าเพราะพึ่งเลิกกับแฟนหรือเพราะเพื่อนแซวแต่ก็ได้เก็บความลับนี้มาตลอดจนปิดเทอมเพื่อนก็บอกว่ารักมันก็ให้รีบบอกเดี่ยวโดนคาบไป-ก่อน เราก็มัวแต่รอๆๆๆว่าเปิดเทอมปี3แล้วเดี่ยวบอก แต่ช่วงที่ปิดเทอมจะขึ้นปี3ปีนั้นเป็นช่วงปิดเทอม5เดือนเกือบ6เดือนเราก็ไม่รุ้ว่ามันคิดยังไงเพราะกลัวบอกไปแล้วมันไม่คิดอะไรกะเราเดี่ยวแห้ว และพอถึงช่วงเปิดเทอมเรากับมันก็คุยกับปกติแต่เพื่อนๆก็ยังแซวอยู่บ้างแต่ดูเหมือนมันไม่เขินเหมือนเมื่อก่อนพอเพื่อนเราบอกให้บอกความรุ้สึกที่เรามีให้มันรุ้เราก็อ้างนู่นอ้างนี่ตามเคย พอวันที่21ตุลาคม57ปีที่แล้วนี่เองเรายอมหน้าด้านทักแชทเฟสไป
บอกว่า"เราชอบมัน"
มันก็บอกว่า"มันรุ้นานแล้ว"
เราก็ถามมันไปอีกว่า"แล้วคิดยังไงกับเรา"
มันก็ตอบมาว่า"คงไม่อ้ะ ไม่โกรธน่ะเพราะเค้าเป็นคนตรงๆ"
เราเลยตอบไปว่า"ไม่หรอกโกรธทำไมดีซะอีกที่ได้บอกดีกว่าช้าไปกว่านี้"
มันเลยบอกว่า"คราวหลังถ้าชอบใครให้รีบบอกอย่าปล่อยให้เป็นกระแสนานไม่งั้นคงได้อึดอัดตายแน่ๆ"
เราะก็ตอบไปว่า"ขอบใจน่ะ"
มันก็บอกมาอีกว่า"สู้ๆน่ะดีแล้วที่กล้าเอาชนะใจตัวเองดีแล้วที่กล้าบอก"
พอได้คำตอบเราเหมือนกับว่าเราพลัดตกจากหน้าผาสูงๆชันๆลงมากระแทกพื้นรุ้สึกหน้าร้อนผ่าวๆน้ำตาเริ่มคลอแต่ต้องฝืนยิ้มฝืนหัวเราะกับเพื่อนเพราะในตอนที่ถามไปเราคุยไลน์กะเพื่อนสนิทเราในแชทกลุ่มเราต้องฝืนหัวเราะออกมาว่าไม่เป็นไรแต่ในใจกับความรุ้สึกที่มีในตอนนั้นเราอยากร้องไห้ออกมาดังๆอยากตะโกนออกมาให้สบายใจแต่ก็ทำได้แค่ฝืนยิ้มออกมาเพราะพอตื่นเช้ามาเราก็ต้องไปเรียนเจอหน้าเค้าคนนั้น หลังจากวันนั้นได้5วันเราก็เห็นเค้าขึ้นความสัมพันธ์กับพี่คนหนึ่งที่เรียนสาขาเดียวกันจนสืบมาจนรุ้ว่าเค้ากำลังคบกันเราเองที่เป็นคนถอยห่างออกมาเพราะพี่คนนี้คือพี่บัดดี้ของเราที่เราเคยขอตอนที่เราเข้ามาตอนปี1และเป็นพี่รหัสของเพื่อนเราคนนี้ด้วยคือมันใกล้ตัวจนเราจุกพูดไม่ออกเหมือนคนน้ำท่วมปาก และหลังจากวันที่เราบอกความรุ้สึกเราไปจนถึงทุกวันนี้เราทักแชทเค้าไปทั้งหมด8ครั้งและทุกครั้งที่ทักไปถ้าไม่เมาก็ให้เพื่อนทักไปแล้วให้เพื่อนคุยให้คำตอบเค้าที่คุยกับเราเหมือนจะรำคาญเราเคยหนีค่ายเพราะไม่อยากเจอหน้าเค้ามาแล้วครั้งนึ่งต้องโกหกอาจารย์ว่าไปทำธุระต่างจังหวัดไปไม่ได้ จนล่าสุดปีใหม่เราฝากนมตราหมีเป็นกระเช้ากับไปเพื่อนเราไปให้เค้าเค้าก็ฝรกเพื่อนเค้าเอาตุ๊กตาโคนี่ของไลน์มาให้เราเราดีใจมาก เราทักไลน์ไปขอบคุญเขาก็ตอบมาแบบเรียบ คือ "ก็ดีน่ะ" วันที่6ที่ผ่านมาเรากินฉลองปีใหม่ที่บ้านเพื่อนเราก็เลยทักไปคุยกับเขาอีกบอกคิดถึงเขาบอกอยากคุยด้วยเค้าก็ตอบมาแบบเหมือนไม่อยากตอบทักไปนานกว่าจะตอบบอกจะดูยูทูปบ้างเล่นเกมบ้าง และเมื่อเช้าของวันที่9เค้าก็โพสในเฟสเขาถึงแฟนเค้าที่ทิ้งเค้าไปนานเกือบสองเดือนครึ่งและแฟนเค้าก็ลบทั้งเฟสเค้าบล็อกไลน์แต่เค้าก็พยายามที่จะรอทำทุกอย่างที่จะให้แฟนเค้ากลับมา
เราพยายามเข้าไปเติมเต็มในชีวิตเค้าพยายามเติมเต็มในสิ่งที่เค้าขาดหายไปแต่เค้าไม่คิดจะให้เราเข้าไปในส่วนนั้นเลยแต่ตอนนี้เรารักเค้าไปแล้วและสิ้นเดือนนี้เรามีออกค่ายของสิงห์อีสานที่ศรีษะเกษเราก็ปฎิเสธเพื่อนที่จะไม่ไปเพราะเราไม่กล้าสู้หน้าเพราะตอนนี้เป็นเราเองที่ใจไม่กล้าพอใจไม่แข็งที่จะเจอหน้าเพราะทุกวันนี้ที่ไปเรียนเราต้องคอยหลบหน้าเค้าหนีเค้าเหมือนเราเป็นตัวประหลาดในสายตาเค้าไปแล้ว
เรื่องของเรามันอาจจะไร้สาระแต่เราอยากได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆหลายๆคนค่ะว่าเราควรจะถอยหรือพยายามต่อไปให้ชนะใจเค้า เราอาจจะช้าไปที่จะกล้าบอกความรุ้สึกที่มีเพราะเราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนไม่เคยบอกชอบใครก่อนเพราะก่อนนี้เรามีแฟนมาแค่คนเดียวและแฟนคนก่อนก็เป็นคนที่มาขอคบก่อนไม่เคยเข้าหาใครก่อนนี่เป็นคนแรกและอาจจะเป็นคนสุดท้าย // เราขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆหน่อยน่ะค่ะเราไม่รุ้จะปรึกษาใครเพราะเพื่อนๆเราเราก็ปรึกษาจนไม่เหลืออะไรให้ปรึกษาแล้วอยากได้ความเห็นจากหลายๆคนหรือคนที่เคยมีประสบการณ์
ขอบคุญล่วงหน้าน่ะค่ะที่อ่านเรื่องของเราจนจบ
แอบชอบเพื่อนในห้องเดียวกันแต่เขามีคนที่เขารักอยู่แล้วและเขาพึ่งเลิกกันตอนนี้เขากำลังรอคนรักของเขากลับมาเราควรทำยังไงดีคะ
ตอนเรียนอยู่ปี1เรากับเพื่อนคนนี้ไม่เคยจะญาตดีกันเลยเจอหน้ากันไม่ด่ากันก็กัดกันอย่างกะหมาบ้า เราพูดอะไรเขาก็แขวะตลอดหรือเขาพูดอะไรมาเราก็แขวะตลอดทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเพราะย้ายมาจากต่างร.ร.เราไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะชอบคนนี้เพราะตอนนั้นเรามีแฟนอยู่คบกันมาก็4-5ปีและเพื่อนคนนี้มันขี้เก๊ก ปากจัด ชอบด่าเรา นิสัยออกแนวกวนๆ(กวนตีน) และเราเคยพูดกะเพื่อนว่า"ชาตินี้ถ้าได้มันมาเป็นแฟนคงไม่ขอมีแฟนตลอดชีวิต" พอขึ้นปี2มาเราโดนแฟนบอกเลิกเพราะเขามีคนใหม่เรากะเพื่อนเราคนนี้ก็ยังคุยกันปกติพอดีเราซื้อโทรศัพท์มาใหม่มันก็ขอเล่นเกมตามประสามันเด็กติดเกม เหตุก็เริ่มจากตรงนี้เพราะทั้งเพื่อนทั้งอาจารย์ก็เริ่มแซวว่าเป็นแฟนกันหรอ? เพราะเรากะมันก็นั่งเรียนด้วยกันตลอดไม่เคยห่างกันเข้าห้องเรียนเจอหน้ามันก็เรียก ขอโทรศัพท์เวลาเล่นเกมก็ชอบผลัดกันเล่น แล้วเล่นแข่งกันบางทีจนอาจารย์เรียกทำโทษ ไล่ออกนอกห้องมาก็ชวนออกไปนั่งเล่นเกมข้างนอก ในตอนนั้นเรากับมันดูสนิทกันมาก จนมีวันหนึ่งโดนอาจารย์ถามว่า นี่พวกเธอเป็นแฝดกันหรอทำไมหน้าคล้ายกันจัง??? เราก็ตอบพร้อมกันค่ะว่า ...ป่าวค่ะ/คับ ...อาจารย์ อาจารย์เลยถามต่ออีกว่างั้นเป็นแฟนกันหรอทำไมชอบแกล้งกันจัง หน้าตาเหมือนกันอย่างกะแฝด หลังจากนั้นก็โดยอาจารย์ทั้งสอนวิชาเลือกเสรี. อาจารย์สอนวิชาทั่วไป. และอาจารย์ในสาขาวิชาหลายท่ายถามว่าเราเป็นแฝดกันหรอหรือเป็นแฟนเพราะเห็นสนิทกันแต่คนล่ะนามสกุล หลังจากนั้นเพื่อนในห้องก็ชิบแซวเวลามันขอเล่นเกมและเพื่อนกลุ่มมันที่เรียนสาขาเดียวกันแต่คนล่ะห้องก็กลุ่มเดียวกันแหละค่ะก็แซวเรากะมันมาตลอดที่คุยกัน แต่ตอนนั้นเราก็ไม่คิดอะไรกะมันมันก็คงไม่คิดอะไรเหมือนกัน จนเวลาผ่านไปสักพักเรากับมันเริ่มห่างกันเพราะโดนเพื่อนๆล้อโดนเพื่อนๆแซว แต่เวลาโดนแซวก็เหมือนจะอายจะเขินกันทั้งคู่ จนไม่กล้าคุยกันเหมือนเดิมไม่กล้านั่งเรียนด้วยกันเหมือนเดิม โดนล้อจนปิดเทอมขนาดปิดเทอมเพื่อนยังรวมหัวกันแต่งรูปอัพลงเฟสแซวกัน พอเรียนเปิดเรียนเทอมสองของช่วงชั้นปีที่2เรากับมันก็ยิ่งห่างกันห่างจนไม่กล้าทักไม่กล้าคุยเจอกันก็เดินหลบกันจนเหมือนคนไม่รุ้จักกัน แต่ก็ยังโดนแซวตลอดเวลาที่มารวมกลุ่มกัน และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราซื้อป๊อกกี้ขึ้นไปกินบนห้องเรียนตอนเช้ามันก็เข้าห้องมาทีหลังเราก็แบ่งๆกันกินแล้วมันเหลือสามแท่งสุดท้ายเราเลยหยิบให้เพื่อนคนล่ะแท่งแล้วอีกแท่งเราเลยอมไว้ในปาก มันเลยถามว่า"อ้าวแล้วของมันง่ะ??"เราก็บอกหมดแล้วพึ่งให้เพื่อนไป เหลืออันเดียวในปากนิ มันเลยมองหน้าเราก็มองหน้ามันตามปกติ แต่มันกลับแย่งป๊อกกี้ในปากเราไปกินจนเพื่อนๆที่นั่งจับกลุ่มกันนั่งมองแบบอึ้งๆ และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เพื่อนๆต้องร้องไห้ไม่รุ้เพราะดีใจที่แข่งชนะหรือเพราอะไร มีครั้งหนึ่งที่เป็นกีฬาสีคณะแล้วเราก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมทุกคนและมีการแข่งกินวิบากเรากะมันโดนเพื่อนลากลงแข่งเพราะคนอื่นเขาลงแข่งเกือบหมดล่ะเราเลยเออๆออๆไปตามเพื่อนเพราะโดนบังคับอีกอย่างเราก็เพิ่งไปจัดฟันมาใหม่มันเคี้ยวอะไรก็ไม่ถนัดเพราะยังเคืองๆอยู่มันก็รู้อ้ะ มันมีสี่ด่าน ด่านแรกล้างหน้าให้คู่ตัวเองให้เปียกด่านนี้สำเร็จ ด่านสองเป่าแป้งหาเหรียญมันเป่าครั้งเดียวเจอเราเลยรอดที่หน้าจะขาว ด่านสามกินขนมปังกับน้ำโค้กเราก็บอกมันว่าแกเค้าพึ่งกินข้าวมากินไม่ไหวหรอกมันเลยให้กินแค่ครึ่งชิ้นแล้วที่เหลืออีกห้าชิ้นครึ่งมันบอกจะกินให้แล้วน้ำโค้กมันก็บอกกินนิดเดียวเดี่ยวจุกมันเลยกินให้ด่านนี้ก็สำเร็จไปอีก ด่านสี่กินแตงโมคนล่ะชิ้นด่านนี้เราพลาดเองกินไม่หมดเพราะให้แทะเปลือกกินเพราะมันติดเหล็กที่พึ่งติดมาแต่กติกาต้องกินให้เห็นสีขาวแต่ของเราเนื้อแดงๆยังเหลือเพียบนึกว่าตัวเองทำสำเร็จก็วิ่งไปด่านสุดท้ายพร้อมกัน พี่ๆกรรมการเลยวิ่งมาบอกว่าเรากินไม่หมดเราเลยจะวิ่งไม่กินใหม่แต่มันก็บอกว่าเป่าลูกโป่งให้แต่เลยเดี่ยวเค้ากลับไปกินให้เองไม่เป็นไร พอมันวิ่งกลับมามันก็มาเป่าลูกโป่งต่อแต่เราเป็นคนกลัวลูกโป่งแตกใส่หน้ามันเป่าทีหลังแตกก่อนมันก็เลยช่วยเป่าต่อทำให้ลูกโป่งแตกภาระกิจสำเร็จ สีเราเลยเป็นคู่ที่ชนะ เพื่อนเราพากันร้องไห้ไม่รุ้เพราะอะไรเห็นบอกแค่ว่าดีใจที่มันไม่รังเกียจเราเพราะไม่ใช่แฟนกันแต่กล้ากินต่อปากเรากล้าเป่าลูกโป่งต่อเรา และหลังจากนั้นมาเราก็เริ่มคิดไปเองคนเดียวเริ่มรู้สึกว่าเริ่มเขินเริ่มอายจากที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น ที่รุ้สึกแบบนี้ไม่รุ้ว่าเพราะพึ่งเลิกกับแฟนหรือเพราะเพื่อนแซวแต่ก็ได้เก็บความลับนี้มาตลอดจนปิดเทอมเพื่อนก็บอกว่ารักมันก็ให้รีบบอกเดี่ยวโดนคาบไป-ก่อน เราก็มัวแต่รอๆๆๆว่าเปิดเทอมปี3แล้วเดี่ยวบอก แต่ช่วงที่ปิดเทอมจะขึ้นปี3ปีนั้นเป็นช่วงปิดเทอม5เดือนเกือบ6เดือนเราก็ไม่รุ้ว่ามันคิดยังไงเพราะกลัวบอกไปแล้วมันไม่คิดอะไรกะเราเดี่ยวแห้ว และพอถึงช่วงเปิดเทอมเรากับมันก็คุยกับปกติแต่เพื่อนๆก็ยังแซวอยู่บ้างแต่ดูเหมือนมันไม่เขินเหมือนเมื่อก่อนพอเพื่อนเราบอกให้บอกความรุ้สึกที่เรามีให้มันรุ้เราก็อ้างนู่นอ้างนี่ตามเคย พอวันที่21ตุลาคม57ปีที่แล้วนี่เองเรายอมหน้าด้านทักแชทเฟสไป
บอกว่า"เราชอบมัน"
มันก็บอกว่า"มันรุ้นานแล้ว"
เราก็ถามมันไปอีกว่า"แล้วคิดยังไงกับเรา"
มันก็ตอบมาว่า"คงไม่อ้ะ ไม่โกรธน่ะเพราะเค้าเป็นคนตรงๆ"
เราเลยตอบไปว่า"ไม่หรอกโกรธทำไมดีซะอีกที่ได้บอกดีกว่าช้าไปกว่านี้"
มันเลยบอกว่า"คราวหลังถ้าชอบใครให้รีบบอกอย่าปล่อยให้เป็นกระแสนานไม่งั้นคงได้อึดอัดตายแน่ๆ"
เราะก็ตอบไปว่า"ขอบใจน่ะ"
มันก็บอกมาอีกว่า"สู้ๆน่ะดีแล้วที่กล้าเอาชนะใจตัวเองดีแล้วที่กล้าบอก"
พอได้คำตอบเราเหมือนกับว่าเราพลัดตกจากหน้าผาสูงๆชันๆลงมากระแทกพื้นรุ้สึกหน้าร้อนผ่าวๆน้ำตาเริ่มคลอแต่ต้องฝืนยิ้มฝืนหัวเราะกับเพื่อนเพราะในตอนที่ถามไปเราคุยไลน์กะเพื่อนสนิทเราในแชทกลุ่มเราต้องฝืนหัวเราะออกมาว่าไม่เป็นไรแต่ในใจกับความรุ้สึกที่มีในตอนนั้นเราอยากร้องไห้ออกมาดังๆอยากตะโกนออกมาให้สบายใจแต่ก็ทำได้แค่ฝืนยิ้มออกมาเพราะพอตื่นเช้ามาเราก็ต้องไปเรียนเจอหน้าเค้าคนนั้น หลังจากวันนั้นได้5วันเราก็เห็นเค้าขึ้นความสัมพันธ์กับพี่คนหนึ่งที่เรียนสาขาเดียวกันจนสืบมาจนรุ้ว่าเค้ากำลังคบกันเราเองที่เป็นคนถอยห่างออกมาเพราะพี่คนนี้คือพี่บัดดี้ของเราที่เราเคยขอตอนที่เราเข้ามาตอนปี1และเป็นพี่รหัสของเพื่อนเราคนนี้ด้วยคือมันใกล้ตัวจนเราจุกพูดไม่ออกเหมือนคนน้ำท่วมปาก และหลังจากวันที่เราบอกความรุ้สึกเราไปจนถึงทุกวันนี้เราทักแชทเค้าไปทั้งหมด8ครั้งและทุกครั้งที่ทักไปถ้าไม่เมาก็ให้เพื่อนทักไปแล้วให้เพื่อนคุยให้คำตอบเค้าที่คุยกับเราเหมือนจะรำคาญเราเคยหนีค่ายเพราะไม่อยากเจอหน้าเค้ามาแล้วครั้งนึ่งต้องโกหกอาจารย์ว่าไปทำธุระต่างจังหวัดไปไม่ได้ จนล่าสุดปีใหม่เราฝากนมตราหมีเป็นกระเช้ากับไปเพื่อนเราไปให้เค้าเค้าก็ฝรกเพื่อนเค้าเอาตุ๊กตาโคนี่ของไลน์มาให้เราเราดีใจมาก เราทักไลน์ไปขอบคุญเขาก็ตอบมาแบบเรียบ คือ "ก็ดีน่ะ" วันที่6ที่ผ่านมาเรากินฉลองปีใหม่ที่บ้านเพื่อนเราก็เลยทักไปคุยกับเขาอีกบอกคิดถึงเขาบอกอยากคุยด้วยเค้าก็ตอบมาแบบเหมือนไม่อยากตอบทักไปนานกว่าจะตอบบอกจะดูยูทูปบ้างเล่นเกมบ้าง และเมื่อเช้าของวันที่9เค้าก็โพสในเฟสเขาถึงแฟนเค้าที่ทิ้งเค้าไปนานเกือบสองเดือนครึ่งและแฟนเค้าก็ลบทั้งเฟสเค้าบล็อกไลน์แต่เค้าก็พยายามที่จะรอทำทุกอย่างที่จะให้แฟนเค้ากลับมา
เราพยายามเข้าไปเติมเต็มในชีวิตเค้าพยายามเติมเต็มในสิ่งที่เค้าขาดหายไปแต่เค้าไม่คิดจะให้เราเข้าไปในส่วนนั้นเลยแต่ตอนนี้เรารักเค้าไปแล้วและสิ้นเดือนนี้เรามีออกค่ายของสิงห์อีสานที่ศรีษะเกษเราก็ปฎิเสธเพื่อนที่จะไม่ไปเพราะเราไม่กล้าสู้หน้าเพราะตอนนี้เป็นเราเองที่ใจไม่กล้าพอใจไม่แข็งที่จะเจอหน้าเพราะทุกวันนี้ที่ไปเรียนเราต้องคอยหลบหน้าเค้าหนีเค้าเหมือนเราเป็นตัวประหลาดในสายตาเค้าไปแล้ว
เรื่องของเรามันอาจจะไร้สาระแต่เราอยากได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆหลายๆคนค่ะว่าเราควรจะถอยหรือพยายามต่อไปให้ชนะใจเค้า เราอาจจะช้าไปที่จะกล้าบอกความรุ้สึกที่มีเพราะเราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนไม่เคยบอกชอบใครก่อนเพราะก่อนนี้เรามีแฟนมาแค่คนเดียวและแฟนคนก่อนก็เป็นคนที่มาขอคบก่อนไม่เคยเข้าหาใครก่อนนี่เป็นคนแรกและอาจจะเป็นคนสุดท้าย // เราขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆหน่อยน่ะค่ะเราไม่รุ้จะปรึกษาใครเพราะเพื่อนๆเราเราก็ปรึกษาจนไม่เหลืออะไรให้ปรึกษาแล้วอยากได้ความเห็นจากหลายๆคนหรือคนที่เคยมีประสบการณ์
ขอบคุญล่วงหน้าน่ะค่ะที่อ่านเรื่องของเราจนจบ