[CR] Review ++ เรากับนาย ++ แบกเป้ ลุยลังกาวี

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณรายการ 72 ชั่วโมง ที่ออกอากาศไป
ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการเขียนรีวิวครั้งนี้ค่ะ

เอาล่ะ เรามาว่ากันในเรื่องของเราเถอะ
ทริปนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า มีเวลาเตรียมตัวก่อนเดินทาง 3 วัน
พอจองที่พักที่ลังกาวีได้ เราก็เริ่มกันเลยจ้า จองตั๋วเครื่องบินขากลับ  
จนมาถึงจองรถทัวร์ขาไป กรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) - สตูล
เรียกได้ว่าเป็นทริปที่เปรี้ยว ปัสวะราดกันระหว่างนายกะเรามาก (เรากะนาย คือสรรพนามที่เราใช้เรียกผู้ร่วมเดินทางของเราค่ะ)
จากนั้นก็เตรียมตัวกันเลยจ้า ทริปนี้เราแลกเงินไป ไม่เยอะ กะว่าไปแบบประหยัดสุด



ก็เริ่มจากการเดินทาง จองตั๋ว VIP 18 ที่นั่ง กรุงเทพฯ - สตูล
พอขึ้นรถปุ๋บ ก็นอนยาวๆ กันไปเลยจ้า
เริ่มออกจากรุงเทพฯประมาณ 6 โมงเย็น ถึงสตูล ประมาณ 7 โมงเช้าค่ะ
ประมาณ 7 โมงเช้า เราถึงที่ บขส. สตูล
จากนั้นเราต้องต่อพี่วิน เพื่อไปที่ ท่าเทียบเรือ ตำมะลัง ซึ่งเป็นท่าเรื่อ ที่จะพาเราโกอินเตอร์จ้า





เนื่องจากเรามาถึงเร็วมาก เจ้าหน้าที่ยังไม่มาเปิดบริการ
แหมะ สาวๆอย่างเรา ต้องรักความสะอาดกันนิด ก็ขอล้างหน้า แปรงฟันพอ (นี่สะอาดเหรอ 555)



พอสักประมาณ 8 โมงเช้า ก็มีเจ้าหน้าทีมีทำงาน แล้วค่ะ
เราก็ไปติดต่อเรื่องเรือ ข้ามไปลังกาวี แต่ในระหว่างนั้น
ก็มีผู้หวังดี เราคิดว่างั้นนะ มาเสนอขาย แพคเกจ รถเรือ ข้ามไปข้ามกลับ ลังกาวี - หลีเป๊ะ ให้เรา
เรื่องนี้เราให้นายตัดสินใจ 5555 โยนกันเห็นๆ แต่โดยรวมก็โอเคนะ



พอได้ตั๋วเรียบร้อย กองทัพต้องเดินด้วยท้องสินะ
ไปจัดมื้อสุดท้ายที่เมืองไทยกันค่ะ ก็อาหารง่าย
แกงเหลืองไก่ ไข่ดาว ปลาทอด 1 ตัว อร่อยฟิน
มื้อหน้าเราจะไปฟินต่อที่ลังกาวี (คิดว่าแบบนั้นนะ รอดูกันต่อไป)



พออิ่มท้องกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาแล้วค่ะ ไปกันเถอะ บ๊ายบาย ประเทศไทย
เรือออกประมาณ 9 โมงเช้า โดยเรือที่เราจะไป มี 2 ชั้น สภาพโอเคเลยค่ะ







พอขึ้นเรือได้ เหมือนเดิมค่ะ หลับเอาแรง ไว้ไปเจอกันต่างประเทศนะคะ

....................................................................................................................

ถึงแล้วต่างประเทศ welcome to Malaysia
เราถึงท่าเทียบเรือลังกาวี ประมาณเที่ยง แต่เวลาที่นั่นจะเร็วกว่าเราประมาณ 1 ชั่วโมง
พอมาถึง ก็ไปตรวจสอบเอกสาร พาสปอร์ต ใบผ่านเข้าประเทศ กันที่ด่าน ตม.
เจ้าหน้าที่ก็สอบถามเรา อยู่ 2 - 3 ประโยค คุณมาจากไหน แล้วจะอยู่กี่วัน
ก็เป็นคำถามง่ายๆประมาณนี้ อ่อ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาอังกฤษค่ะ



พอผ่านเข้ามาได้ ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว อันดับแรก เราขอซื้อซิมก่อนเลย เพื่อที่จะได้ติดต่อกับทางโรงแรม และอื่นๆ
เดินผ่านไปมา เลือกได้และ ก็มาสะดุด กับร้านนี้ค่ะ ระหว่างนั้นเราก็ปล่อยนายให้วุ่นวายไปกับการซื้อซิมการ์ดใหม่
เราก็หนีนายไปเดินสำรวจเล็กๆน้อย เอาล่ะ รอดตายแล้ว มีเจ้า 2 ร้านนี้ 5555









ไปกันต่อค่ะ จุดหมายต่อไปของเรา คือ
1.หาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แผนที่
2.หายานพาหนะที่จะใช้เดินทาง
มาเริ่มข้อ 1 กันก่อนค่ะ เราก็มาวางแผนกันก่อนว่า จะยังไม่เข้าที่พักนะ
เที่ยวกันเลย ตอนเย็นค่อยเข้าที่เดียว เพราะสัมภาระก็ไม่ได้เยอะมาก
ตกลงกันได้ก็ลุยจ้า เดินหาประชาสัมพันธ์ ด้านการท่องเที่ยวเลยค่ะ และแล้วเราก็เจอค่ะ
ไม่รอช้าค่ะ รีบเข้าไปสูบข้อมูล เท่าที่สมองอัน้อยนิดของเราจะจำได้





หมดปัญหาข้อแรกไปแล้วค่ะ เราก็ได้แผนที่เดินทางมา 1 ฉบับ ปัญหาข้อที่ 2 ของเราเริ่มแล้วค่ะ
แล้วเราจะออกจากท่าเรือนี้ได้อย่างไร มี 2 ทาง คือแท๊กซี่ ลังกาวี หรือ เราจะเช่ารถ ขับเองเที่ยวเอง
สำหรับนักเดินทางอิสระ (อิสระเกิน มาแบบไม่มีข้อมูล แน่นอน เลือกเดินทางเองแน่นอน )
พอตกลงกันได้ ก็เริ่มเดินหา ที่เช่ารถค่ะ และแล้วเราก็ได้ น้องเขียวน้อยของเราค่ะ
เป็นชื่อที่เรากับนาย ตั้งกันเอง 55555







เอาล่ะพอได้น้องเขียวน้อยแล้วก็ไปกันเลยค่ะ จุดหมายแรก ปั๊มน้ำมันค่ะ
คือแบบว่า น้ำมันนี่ ถ้าหลงหาปั๊มไม่เจอนี่ อาจต้องเข็นกัน ก็เป็นได้
แต่ในระหว่างทาง ชอบบรรยากาศถนนมากค่ะ แบบร่มรื่นมาก
ทำให้นึกถึงถนน วิทยุ ในบ้านเราเลยค่ะ



เอาล่ะ ถึงแล้ว น้องเขียวน้อย ไม่ทรยศเรากลางทางค่ะ
พาเรามาถึงปั๊มน้ำมันแล้ว ปั๊มน้ำมันที่นี่ ต้องบริการตัวเองค่ะ
คือเราต้องเดินไปจ่ายเงิน แล้วเติมเอง
  เอิ่มมมม เป็นครั้งแรกของการเติมน้ำมันเอง ขอตื่นเต้นแปบ
200 บาท ของไทย คือเต็มถังแล้วค่ะ ที่สำคัญน้ำมันถูกมาก



เอาล่ะ การเดินทางของเราจริงๆ เริ่มแล้ว โดยที่แรก ที่เราจะไปคือ
สุสานพระนางมัสุหรี  (Mahsuri Tomb) ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลัก ให้เราออกเดินทางกันค่ะ
โดยตั้งความหวังไว้ว่า จะตามรอยพระนางกัน หลังจากที่ได้อ่าน ประวัติเบื้องต้นเกี่ยวกับพระนางไป







ก่อนอื่น ก่อนที่เราจะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์กันนั้น ขอนำตำนานย่อๆของพระมาเลือดขาวมาให้อ่านกันก่อนค่ะ
พระนางมัสสุหรีทรงเป็นคู่ครอง ของพระอนุชาองค์สุลต่านแห่งลังกาวี และได้ถูกกล่าวหาว่าคบชู้สู่ชาย
จึงต้องโทษประหารด้วยความอยุติธรรม พระนางได้กล่าวคำสาปไว้ก่อนสิ้นพระชนว่า
หากพระนางไม่ผิดขอให้โลหิตเป็นสีขาวและให้เกาะลังกาวีไม่มีความเจริญรุ่งเรืองไปเจ็ดชั่วโคตร
หลังจากถูกประหารแล้วคำสาปนั้นก็ได้กลายเป็นจริง เพราะโลหิตของพระนางได้หลั่งออกมาเป็นสีขาว
อีกทั้งเกาะลังกาวีก็ประสบกับความแห้งแล้งและร้างผู้คน จนกระทั่งทายาทรุ่นที่เจ็ดได้ปรากฏตัวขึ้น
และได้ทำการเเก้คำสาปของพระนางมัสสุหรีไปแล้วในปัจจุบัน เรื่องราวดังกล่าวจึงได้มีการเล่าสืบมา
และได้กลายมาเป็นเครื่องหมายการค้าสำคัญ ที่ทำให้ลังกาวีกลายเป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยว
ว่าครั้งหนึ่งได้เคยมาเที่ยวที่ดินแดนต้องคำสาปแห่งนี้  
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000015413&Html=1&TabID=2&

กลับมาเรื่องของเราและนายกันต่อค่ะ ก็พอได้ตั๋วแล้ว จะรออะไรล่ะค่ะ เข้าไปชมกันเลยค่ะ
ภายในแรกๆ ก็จะเป็นเรื่องราววิถีชีวิตของคนมาเลเชีย รวมถึงวัฒนธรรม การกินอยู่ เสื้อผ้า เครื่องดนตรีต่างๆค่ะ
รวถึงเรื่องราวของพระนางตอนที่โดนประหารชีวิต โดยมีการจำลองเป็นภาพปั้นค่ะ
และมีการฟังชมวีดีทัศน์ประวัติพระนางมัสซุหรี ซึ่งก็มีเป็นภาษาไทยให้ฟังด้วยค่ะ จากนั้นก็จะเดินไปชมสุสานของพระนางมัซสุหรี
ที่สร้างขึ้นมาจำลอง ณ สถานที่เดิม







หลังจากดูวิดีทัศน์กันคร่าวๆแล้วเราก็เดินออกมาตามทางเดินด้านนอก ซึ่งดูๆแล้วเหมือนจำลองหมูบ้านย่อมๆมาเลยค่ะ







ตามบ้านแต่ละหลังบางทีก็มีของทีระลึก อาหาร ร้านกาแฟ ขายด้วย พอเดินเข้าไปเรื่อย
ในบ้านแต่ละหลัง สามารถขึ้นไปดูด้านบนได้ด้วยนะคะ ไปค่ะ ตามไปดูกัน



พอขึ้นมาแล้วสิ่งที่ทำให้เรา 2 คนประหลาดใจ คือเจ้าสิ่งนี้ค่ะ
แต่ถ้ามองผ่าน มันก็เหมือนกันช่องระบายอากาศธรรมดา
แต่เราอัจฉริยะกว่านั้นค่ะ เรามโนไปว่า มันคือช่องที่ ทำให้เรามองคนข้างล่างเห็น
นึกตามนะคะ สมมุติว่า มีลูก แล้วลูกเล่นอยู่ด้านล่าง ส่วนแม่อยู่ข้างบน แม่ก็สามารถมองเห็นลูกได้
หรืออีกสมมุติฐานคือ ข้างล่างอาจเลี้ยงสัตว์ แล้วเราอยู่ข้างบน ก็สามารถให้อาหารได้
อันนี้เป็นสิ่งที่เราทั้งสองคนช่วยกันจินตนาการ กันค่ะ 5555





หลังจากจินตนการกันพอแล้ว ก็ต้องมาสะดุดตากันอีก กับเจ้าสิ่งนี้
เราก็คิดกันว่า คงเป็นเปลนอนของเด็กนั่นล่ะค่ะ


เราก็เดินวนเล่นอยู่บนนั่น ซึมซับถ่ายรูป สถาปัตยกรรม ต่างๆบนบ้านหลังนั้นกันพอประมาณ ก็ลงกลับมาด้านล่าง









เอาล่ะ สิ่งที่เราตามหา เราได้เห็นแล้ว นั่นก็คือสุสาน ของพระนาง
แวบแลกที่เราเห็น มันเป็นความรู้สึกแบบ เฮ้ยยย มาถึงแล้ว สักครั้งหนึ่งได้มีโอกาสมาเห็นกับตาตัวเองแล้ว
หลังจากนั้นเรา 2 คน ก็ยืนสงบนิ่ง เพื่อไว้อาลัยแก่พระนาง แวบหนึ่งในขณะที่เรายืนไว้อาลัยนั้น
เราก็คิดว่า เพราะตำนานของพระนางทำให้เรามายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ได้
ไม่ว่าพระนางจะอยู่ที่ใด ข้าพเจ้าและเพื่อน ขอไว้อาลัย ให้กับพระนาง





หลังจากนั้นเราก็เดินหันหลังออกมา โดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย
ในความรู้สึกตอนนั้น มันดูเศร้าๆแปลก แต่ก็เป็นได้แปบเดียวเท่านั้นล่ะ 5555
ก็เดินมาเรื่อยๆ จนมาพบกับเจ้าสิ่งนี้ ว่ากันว่า บ่อน้ำนี้ไม่เคยแห้ง และสมัยที่พระนางยังมีชีวิตอยู่พระนางใช้น้ำที่บ่อแห่งนี้ล้างหน้า
จึงทำให้พระนางสวย สง่า อย่ารอช้าสิคะ นายนี่รีบเลยค่ะ เป็นผู้หญิง ต้องอย่าหยุดสวยค่ะ 5555





ภาพของทายาทรุ่นที่ 7 ที่มาแก้คำสาปค่ะ รายละเอียด ไม่ขอลงลึกนะ



แล้วมาติดตามกันต่อพรุ่งนี้ค่ะ
ชื่อสินค้า:   ท่อเที่ยวลังกาวี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่