เล่าสู่กันฟังครับ
เมื่อวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวประเทศลาวมาครับ ไปกับเพื่อนอีก 1 คน ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม
ก็เที่ยวไปเรื่อยๆ 12 วัน เปลี่ยนที่พักเกือบจะทุกวันครับ ใช้วิธี walk-in อย่างเดียวครับ เพราะเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าการ walk-in ที่ลาวไม่ใช่เรื่องยาก
แม้จะเป็นตี 3 ก็เคยมาแล้ว และอยากได้อารมณ์แบ็คแพ็คเกอร์เต็มๆ เลยไม่มีการจองใดๆทั้งสิ้น ก็สนุกดีครับ
จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม ได้เดินทางจากหลวงพระบางถึงวังเวียง ห้องพักหายากมากครับ เนื่องจากใกล้วันปีใหม่ เราเดินมาหลายที่แล้วก็ยังไม่ได้ จนมาเจอ
"Otherside Bungalow"
(ภาพทางเข้าด้านหน้าครับ ติดแม่น้ำซอง ด้านหลังวิวภูเขาสวยเชียว)
จากการสอบถามมีห้องว่างอยู่ห้องเดียว สภาพห้องพักไม่ดีนัก แถมเป็นห้องน้ำรวม แต่ทำเลดี และด้วยทางเลือกเราไม่มีมากนัก ลำบากบ้างจะเป็นไร เราจึงตกลงพักที่นี่กัน
เรื่องเกิดขึ้นที่วันสุดท้ายครับ คืนวันที่ 1 มกราคม ผมและเพื่อนออกจากที่พักเพื่อไปทานข้าวเย็นประมาณเกือบ 2 ทุ่ม เดินออกมาได้ไม่ถึง 10 นาที เพื่อนผมก็รู้สึกตัวว่าโทรศัพท์หายไป จึงขอตัวเดินกลับไปที่ห้องเพราะคิดว่าไม่ได้หยิบมามากกว่า ผมจึงรอที่ร้านอาหารและสั่งอาหารรอ
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เพื่อนกลับมาพร้อมกับบอกว่าหาไม่เจอ สงสัยหล่นหายไปแล้ว
เราสันนิษฐานว่าน่าจะหล่นที่หน้าห้องพัก เพราะก่อนที่เราจะเดินออกมาเรากระโดดเล่นลั้นลากันตรงนั้น พื้นหญ้าอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงตอนหล่นและตรงนั้นก็มืดมาก แต่เพื่อนเดินหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ
พอคิดได้ดังนั้นก็ทำใจครับ แต่ก็แอบหวังว่าอาจมีคนเจอแล้วเอาไปฝากที่รีเซ็ฟชั่นหรือเปล่า ทานข้าวเย็นมื้อสุดท้ายด้วยใจห่อเหี่ยว
กลับไปถึงผมก็ตรงไปถามคนดูแลที่นั่นทันที ..
ผม : มีใครเอาโทรศัพท์มาฝากไว้ม....(ยังพูดไม่ทันจบ)
คนดูแล : ไม่มี (แล้วก็เดินหนีไป)
ผมก็แปลกใจ ถามยังไม่ทันจบก็ตอบมาละ พฤติกรรมน่าสงสัยมากครับ แต่ทำอะไรไม่ได้ จึงกลับไปหาอีกหลายรอบก็ไม่เจอ จึงได้แต่ปลง
ตอนนั้นก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมมานั่งหน้ารีเซ็ฟชั่นเพื่อใช้ wifi เปลี่ยน password ต่างๆของเพื่อน แต่ก็ไม่สำเร็จครับ wifi กากมาก ขนาดตัวส่งสัญญาณอยู่ห่างแค่ 3 เมตร มาเปลี่ยนได้ก็วันที่ 2 มกราคม ช่วงเย็นที่กลับมาฝั่งไทยแล้ว โทรแจ้งศูนย์ Dtac เพื่อระงับสัญญาณและตรวจสอบค่าโทรฯ ทำทุกอย่างเรียบร้อยสบายใจ แต่ที่ยังเปลี่ยนไม่ได้คือไลน์ แต่ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว
จนกระทั่งวันนี้ 7 มกราคม น้องที่สนิทกันส่งภาพหน้าจอการสนทนาไลน์มาให้ ตามนี้เลยครับ
มันส่งข้อความมาจีบน้องเค้าครับ!!!
(์AnnO คือไลน์แอคเคาท์ของเพื่อนผม ที่ทำโทรศัพท์หายครับ)
พร้อมส่งภาพเซลฟี่ที่มันถ่ายจากมือเพื่อนผมมาให้น้องเค้าด้วย
มันกล้ามากกก!!!!
คิดย้อนไปแล้วโกรธมากครับ ณ วันนั้นที่ผมพยายามต่อ wifi อยู่หน้ารีเซ็ฟชั่นตอนห้าทุ่ม มันก็นั่งอยู่ข้างหน้าผม คนเอาไปทำลอยหน้านั่งอยู่ข้างหน้าผมแท้ๆ
ผมเคยประทับใจคนลาวที่วังเวียงในเรื่องความซื่อสัตย์ เมื่อครั้งที่แล้วที่ผมมา ผมพักที่พักซึ่งอยู่ตรงกันข้าม ผมลืมสร้อยพระพิฆเนศวรเลี่ยมทองไว้ เช็คเอาท์นั่งรถไปไกลแล้วนึกขึ้นได้ ยืมโทรศัพท์คนขับรถทัวร์โทรกลับไปที่โรงแรม โรงแรมก็ไปหาให้ บอกว่าอีก 10 นาทีให้ผมโทรกลับมาใหม่ พอผมโทรกลับไปเค้าก็บอกว่าเจอแล้ว จะกลับมาเอาหรือให้ส่งให้ ผมจึงขอลงจากรถเพื่อกลับไป คนขับ เด็กรถ ทุกคนช่วยเหลือดีมากครับ จอดรถทัวร์ เรียกรถให้ สภาพเส้นทางใครที่เคยไปลาวจะทราบดีว่า นานๆจะมีบ้านสักหลัง หรือจะมีรถประจำทาง รถรับจ้างผ่านมา แต่สุดท้ายเค้าก็ช่วยให้ผมกลับไปรับสร้อยมาจนได้ ประทับใจมากครับ และทุกวันนี้กิจการของเจ้าของคนนี้ก็รุ่งเรืองมากครับ ผมกลับไปยังได้ทักทายกันอยู่เลย ดีใจไปกับเค้าด้วย ยังคิดอยู่ว่า ถ้าคราวนั้นผมลืมไว้ที่ Otherside Bungalow คงสูญไปแล้วล่ะครับ
เรื่องครั้งนี้ ผมกับเพื่อนคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากอยากจะเล่าสู่กันฟังสำหรับนักท่องเที่ยวนักเดินทางทั้งหลาย คนลาวเปลี่ยนไปเยอะครับ ผมไปลาวรอบนี้รู้สึกได้เลยว่าคนลาวเล่ห์เหลี่ยมเยอะมาก คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง แต่คนดีๆผมก็ยังได้เจออีกเยอะนะครับ แค่รู้สึกว่าสัดส่วนคนไม่ซื่อเริ่มจะเยอะขึ้นเท่านั้นเอง
ฝากไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ครับ
ปล.ส่วนท่านไหนที่อยากทราบสภาพเกี่ยวกับที่พัก ผมกำลังเขียนรีวิวทริปนี้อยู่ เสร็จแล้วจะเอาลิงค์มาแปะให้นะครับ แต่คงอีกสักพัก เพราะไป 12 วัน รูปเยอะ เรื่องเยอะไปหมด 55555
สุดแสนจะแค้นใจกับ " OtherSide Bungalow " เกสต์เฮาส์โด่งดังแห่งวังเวียง
เมื่อวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวประเทศลาวมาครับ ไปกับเพื่อนอีก 1 คน ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม
ก็เที่ยวไปเรื่อยๆ 12 วัน เปลี่ยนที่พักเกือบจะทุกวันครับ ใช้วิธี walk-in อย่างเดียวครับ เพราะเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าการ walk-in ที่ลาวไม่ใช่เรื่องยาก
แม้จะเป็นตี 3 ก็เคยมาแล้ว และอยากได้อารมณ์แบ็คแพ็คเกอร์เต็มๆ เลยไม่มีการจองใดๆทั้งสิ้น ก็สนุกดีครับ
จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม ได้เดินทางจากหลวงพระบางถึงวังเวียง ห้องพักหายากมากครับ เนื่องจากใกล้วันปีใหม่ เราเดินมาหลายที่แล้วก็ยังไม่ได้ จนมาเจอ
"Otherside Bungalow"
(ภาพทางเข้าด้านหน้าครับ ติดแม่น้ำซอง ด้านหลังวิวภูเขาสวยเชียว)
จากการสอบถามมีห้องว่างอยู่ห้องเดียว สภาพห้องพักไม่ดีนัก แถมเป็นห้องน้ำรวม แต่ทำเลดี และด้วยทางเลือกเราไม่มีมากนัก ลำบากบ้างจะเป็นไร เราจึงตกลงพักที่นี่กัน
เรื่องเกิดขึ้นที่วันสุดท้ายครับ คืนวันที่ 1 มกราคม ผมและเพื่อนออกจากที่พักเพื่อไปทานข้าวเย็นประมาณเกือบ 2 ทุ่ม เดินออกมาได้ไม่ถึง 10 นาที เพื่อนผมก็รู้สึกตัวว่าโทรศัพท์หายไป จึงขอตัวเดินกลับไปที่ห้องเพราะคิดว่าไม่ได้หยิบมามากกว่า ผมจึงรอที่ร้านอาหารและสั่งอาหารรอ
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เพื่อนกลับมาพร้อมกับบอกว่าหาไม่เจอ สงสัยหล่นหายไปแล้ว
เราสันนิษฐานว่าน่าจะหล่นที่หน้าห้องพัก เพราะก่อนที่เราจะเดินออกมาเรากระโดดเล่นลั้นลากันตรงนั้น พื้นหญ้าอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงตอนหล่นและตรงนั้นก็มืดมาก แต่เพื่อนเดินหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ
พอคิดได้ดังนั้นก็ทำใจครับ แต่ก็แอบหวังว่าอาจมีคนเจอแล้วเอาไปฝากที่รีเซ็ฟชั่นหรือเปล่า ทานข้าวเย็นมื้อสุดท้ายด้วยใจห่อเหี่ยว
กลับไปถึงผมก็ตรงไปถามคนดูแลที่นั่นทันที ..
ผม : มีใครเอาโทรศัพท์มาฝากไว้ม....(ยังพูดไม่ทันจบ)
คนดูแล : ไม่มี (แล้วก็เดินหนีไป)
ผมก็แปลกใจ ถามยังไม่ทันจบก็ตอบมาละ พฤติกรรมน่าสงสัยมากครับ แต่ทำอะไรไม่ได้ จึงกลับไปหาอีกหลายรอบก็ไม่เจอ จึงได้แต่ปลง
ตอนนั้นก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมมานั่งหน้ารีเซ็ฟชั่นเพื่อใช้ wifi เปลี่ยน password ต่างๆของเพื่อน แต่ก็ไม่สำเร็จครับ wifi กากมาก ขนาดตัวส่งสัญญาณอยู่ห่างแค่ 3 เมตร มาเปลี่ยนได้ก็วันที่ 2 มกราคม ช่วงเย็นที่กลับมาฝั่งไทยแล้ว โทรแจ้งศูนย์ Dtac เพื่อระงับสัญญาณและตรวจสอบค่าโทรฯ ทำทุกอย่างเรียบร้อยสบายใจ แต่ที่ยังเปลี่ยนไม่ได้คือไลน์ แต่ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว
จนกระทั่งวันนี้ 7 มกราคม น้องที่สนิทกันส่งภาพหน้าจอการสนทนาไลน์มาให้ ตามนี้เลยครับ
มันส่งข้อความมาจีบน้องเค้าครับ!!!
(์AnnO คือไลน์แอคเคาท์ของเพื่อนผม ที่ทำโทรศัพท์หายครับ)
พร้อมส่งภาพเซลฟี่ที่มันถ่ายจากมือเพื่อนผมมาให้น้องเค้าด้วย
มันกล้ามากกก!!!!
คิดย้อนไปแล้วโกรธมากครับ ณ วันนั้นที่ผมพยายามต่อ wifi อยู่หน้ารีเซ็ฟชั่นตอนห้าทุ่ม มันก็นั่งอยู่ข้างหน้าผม คนเอาไปทำลอยหน้านั่งอยู่ข้างหน้าผมแท้ๆ
ผมเคยประทับใจคนลาวที่วังเวียงในเรื่องความซื่อสัตย์ เมื่อครั้งที่แล้วที่ผมมา ผมพักที่พักซึ่งอยู่ตรงกันข้าม ผมลืมสร้อยพระพิฆเนศวรเลี่ยมทองไว้ เช็คเอาท์นั่งรถไปไกลแล้วนึกขึ้นได้ ยืมโทรศัพท์คนขับรถทัวร์โทรกลับไปที่โรงแรม โรงแรมก็ไปหาให้ บอกว่าอีก 10 นาทีให้ผมโทรกลับมาใหม่ พอผมโทรกลับไปเค้าก็บอกว่าเจอแล้ว จะกลับมาเอาหรือให้ส่งให้ ผมจึงขอลงจากรถเพื่อกลับไป คนขับ เด็กรถ ทุกคนช่วยเหลือดีมากครับ จอดรถทัวร์ เรียกรถให้ สภาพเส้นทางใครที่เคยไปลาวจะทราบดีว่า นานๆจะมีบ้านสักหลัง หรือจะมีรถประจำทาง รถรับจ้างผ่านมา แต่สุดท้ายเค้าก็ช่วยให้ผมกลับไปรับสร้อยมาจนได้ ประทับใจมากครับ และทุกวันนี้กิจการของเจ้าของคนนี้ก็รุ่งเรืองมากครับ ผมกลับไปยังได้ทักทายกันอยู่เลย ดีใจไปกับเค้าด้วย ยังคิดอยู่ว่า ถ้าคราวนั้นผมลืมไว้ที่ Otherside Bungalow คงสูญไปแล้วล่ะครับ
เรื่องครั้งนี้ ผมกับเพื่อนคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากอยากจะเล่าสู่กันฟังสำหรับนักท่องเที่ยวนักเดินทางทั้งหลาย คนลาวเปลี่ยนไปเยอะครับ ผมไปลาวรอบนี้รู้สึกได้เลยว่าคนลาวเล่ห์เหลี่ยมเยอะมาก คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง แต่คนดีๆผมก็ยังได้เจออีกเยอะนะครับ แค่รู้สึกว่าสัดส่วนคนไม่ซื่อเริ่มจะเยอะขึ้นเท่านั้นเอง
ฝากไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ครับ
ปล.ส่วนท่านไหนที่อยากทราบสภาพเกี่ยวกับที่พัก ผมกำลังเขียนรีวิวทริปนี้อยู่ เสร็จแล้วจะเอาลิงค์มาแปะให้นะครับ แต่คงอีกสักพัก เพราะไป 12 วัน รูปเยอะ เรื่องเยอะไปหมด 55555