สวัสดีครับทุกท่าน นี่ก็เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของผมเลยนะครับ และก็เป็นกระทู้แรกของ account ผมด้วยแหละครับ อาจจะงงๆบ้างหรือข้อมูลขาดๆหายๆบ้างนะครับ ลองมาดูกันเลยครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเดินทางของผมบ้าง ...
ก็เริ่มจาก แพลนการเดินทางของผมครับ
พอดีปีนี้อยากให้ของขวัญกับตัวเองหลังเรียนจบครับ เลยรวมกลุ่มรวมก้อนกับเพื่อนไปเที่ยวกันช่วงปีใหม่ อยากมีโมเม้นต์ countdown ที่เมืองนอกเมืองนากะเขาบ้างน่ะครับ เลยวางแผนกัน เดินทางตามวันที่ได้ราคาตั๋วถูกที่สุดคับ 555555 เหตุผลน่าตลก แต่ก็นะครับไปเที่ยวประสาเด็กเงินน้อยใช้สอยประหยัดน่ะครับ
จองตั๋วเครื่องบินผ่าน agency ที่ชื่อว่า expedia.com นี่แหละครับ ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่เคยซื้อตั๋วเครื่องบินออกนอกประเทศสักที เอาล่ะวะนี่ครั้งแรกก็ลองดู เอาบัตร debit อะไรมาลองก็ไม่ได้ ต้องมีบัตร credit ก็โอเคครับ เพื่อนผมเค้าก็พกบัตรที่ที่บ้านให้ติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉิน ... สุดท้ายจึงตกลงปลงใจเลือกวันเดินทางคือ วันที่ 25 ธันวาคม 2557 และกลับมาประเทศไทยในวันที่ 2 มกราคม 2558 ครับ
เดินทางจาก กรุงเทพ ไป โซล ... เราเลือกสายการบิน China Eastern Airline ครับ โดยพวกเราได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ พร้อมกับที่พัก ซึ่งเป็นโรงแรมในโซลนั่นแหละครับสำหรับคืนแรกและคืนเดียว ... ค่าใช้จ่ายรวมสำหรับ 4 คนคือ 61490.98 บาทไทยครับผม ตื่นเต้นมากกลัวไม่ได้จ่ายเงินก็กรอกเลขบัตร credit ไป กดยืนยันปึ๊บบบ ก็แจ้งว่าจองสำเร็จครับ ส่วนตัวเพื่อนของผมกลับงงว่าทำไมไม่มีการเรียกขอ verification code อะไรผ่านโทรศัพท์บ้างหรอ เงินหกหมื่นกว่าบาทตัดไปแบบงงๆ แต่สุดท้ายพวกเราก็ได้ตั๋วเครื่องบินและที่พักคืนแรกมาครอบครองครับ
โดยรายละเอียดที่จองได้ก็คือ
เที่ยวบินของผมเป็นเที่ยวบินที่ต้อง transit ครับ (ก็ตามที่คนอื่นเขาเคยรีวิวเกี่ยวกับการบินสายการบินนี้แหละครับ)
ขาไป - 25 ธันวาคม 2557 : กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) 10:45 น. ไป เซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 15:40 น. และก็รอ transit จาก เซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 18:05 น. ถึง โซล (อินชอน) 20:45 น.
** แต่พอใกล้ถึงวันเดินทางจริง ได้รับ e-mail เลื่อนไฟลต์จากกรุงเทพออกไปอีก 20 นาทีเห็นจะได้ครับ โอเคครับ ออกจากบ้านช้าได้อีก 20 นาที ดีเลยสำหรับพวกแผ่นดินเย็นอย่างผม
ขากลับ - 2 มกราคม 2558: โซล (อินชอน) 8:55 น. ไป เซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 9:50 น. และก็รอ transit จากเซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 22:20 น. ถึง กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) 01:55 น. (ของวันที่ 3 มกราคม 2558)
เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!! เวลาผิดหรือป่าวนะ ผมสงสัยมาก จนเพื่อนผมบอกว่าเอ็งกดเลือกผิดแน่ๆ มัวแต่ตื่นเต้นจะได้ออกนอกประเทศ ... เอาไงล่ะครับ แค่เริ่มต้นก็ต้องพลาดกับเวลา transit ถึง 12 ชั่วโมงซะละ ผมนี่ง่วงเลยครับแหม่
ส่วนโรงแรมที่จองก็สำหรับคืนวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ครับ ชื่อว่า โรงแรม The summit hotel Seoul อันนี้ไม่ได้อ่านรีวิวอะไรทั้งนั้นครับ เห็นราคาพอรับได้ ละก็เห็นว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าก็เอาเลย จิ้มๆไปเรื่อยๆ ทริปนี้เดาๆมั่วๆจนสุดทางครับ 5555555555555
ส่วนที่พักสำหรับคืนที่เหลือก็หาจองผ่าน Booking.com ครับ เว็บนี้ทางเลือกเยอะดีครับ ที่สำคัญจ่ายเงินปลายทางได้ด้วย ผมเองเพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ ดีครับดี
เราเลือกพักที่ Kimchee Guesthouse Gyeongbokgung ครับ อันนี้ดูรูปครับสวยดี มี wifi (มันกลายเป็นปัจจัยที่ 6 ของผมไปแล้วนี่นาาาาาา 5555) ที่สำคัญคืออยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอีกแล้วครับท่านนนน .... จองที่นี้สำหรับพักในคืนวันที่ 26 ธันวาคม 2557 จนถึงคืนวันที่ 1 มกราคม 2558 ครับ เลือกเป็นห้องรวมชายหญิง แบบ 4 เตียง สนนราคาสุทธิที่ 420000 วอนโคเรียครับ (ถือว่าถูกมากกกกกกกกกก)
เอาล่ะครับทีนี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้งตั๋วเครื่องบิน ทั้งที่พัก จนกระทั่งพบว่า ... ตั๋วเครื่องบินของน้องที่เดินทางด้วยคนนึงนั้นเกิดสะกดนามสกุลตัวผิดไปครับ ก็ผมดันดูจาก facebook ก็เลยทำให้พลาดไป โอยยยยยยยย ตื่นเต้นอีกแล้ว ก็เอาล่ะวะ โทรหาสายการบินเหมือนที่มีคนรีวิวว่าเขาพอจะช่วยอะไรบ้าง ... พี่พนักงานของ China Eastern Airline ช่วยได้ดีมากครับ ผมอยากให้คะแนนพี่เค้าเต็มเลย พี่เค้าแจ้งทางขาออกจากกรุงเทพให้ครับว่าขอ add mark น้องคนนี้ให้ ส่วนทางเกาหลีขากลับก็ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งผมก็คิดอย่างนั้น ไปได้แล้ว ยังไงขากลับก็ต้องปล่อยเรากลับออกมา จริงมั้ยครับ ฮี่ๆๆๆๆๆ
จนกระทั่งวันเดินทางของพวกเรา .... อ้อ! ผมลืมบอกเลยว่า พวกผมจองตั๋วเครื่องบินตอนกลางเดือนกันยายน 2557 ครับ รู้ตัวช้าไปนิดนึงว่าอยากไปเที่ยว ไม่งั้นคงได้ตั๋วถูกๆเหมือนชาวบ้านเขาละคร้าบบบบบบ
เช้าวันที่ 25 เนี่ย เบอร์ห้า บ้าเห่อสุดๆครับ มาตั้งแต่ไก่โห่เลย 5555555
แล้วตอนนี้ก็ได้ boarding pass มาเรียบร้อยครับ มี 2 ใบเพราะต้อง transit (พี่ที่ check-in counter ใจดีคับๆ
)
ก็เดินมารอที่เกทกันครับ หิวมาก แต่อาหารข้างในก็แพงซะเหลือเกิน มันเหลือเกินจริงๆครับ 555555 และก็จบลงที่ร้านป้าแอน กินพอให้หายหิว แล้วก็ขึ้นเครื่องเพื่อรับอาหารครับ ... เที่ยวบินจากกรุงเทพไปเซี่ยงไฮ้นี่ operate โดย Shanghai airline ครับ อารมณ์ประมาณว่า พอก้าวพ้นงวงช้างไป ผมก็เข้าสู่ประเทศจีนเลยทีเดียวครับแหม่ อาหารที่ได้ก็นี่ครับ ผัดมาม่าอะไรซักอย่างใส่หมูครับ (คือเขาถามว่าเอาหมูหรือปลา ผมอยากได้หมูก็เลยได้อันนี้มา เห็นเพื่อนบอกจะเอาปลาก็ได้ข้าวหน้าปลานึ่งอะไรประมาณนี้แหละครับ เลี่ยนแบบจีนๆเหมือนกัน) แต่อร่อยดีนะครับ หรือว่าหิวก็ไม่แน่ใจ โฮ่ะๆๆๆๆๆ
กินอิ่มก็บิดตัวไปบิดตัวมาครับ นอนไม่ค่อยหลับ เพราะว่าเครื่องค่อนข้างสั่น แด๊นซ์กันบนเครื่องเลยล่ะครับ 5555555
ผ่านไปสัก 4 ชั่วโมงก็มาถึงเซี่ยงไฮ้ครับ สนามบินนานาชาติผู่ตง ... พอเดินออกจากเครื่องเข้างวงช้างเท่านั้นแหละครับ สะท้านนนนนนนน!!! หนาวอะไรอย่างนี้ ประเทศกรุงเทพไม่ค่อยจะได้เจอ ตกใจปนตื่นเต้นครับ เพราะคิดว่าที่โซลน่าจะต้องหนาวกว่านี้อีก กลัวแข็งตายที่เมืองนอก 555555
แล้วก้เดินมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงจุดที่ transfer ครับ เป็น counter ที่คนรุมล้อมกันเยอะมากๆ (เสียดายไม่ได้เก็บรูปมาให้ดู มัวแต่งงว่าต้องทำอะไร เพราะเหมือนเข้าใจตามที่อ่านรีวิวมาคือ ถ้าเรา transit ก็เดินไปที่เกทได้เลย แต่เห็นคนมาตรงนี้หมดอ้ะ แล้วผมเลือกอะไรได้ ฮือออออออออ~ T_T
แต่บอกเลยครับ พนักงานผู้หญิงตรงนี้ดุมาก แล้วนางก็พูดภาษาจีนกับพวกผม 4 คน ... feedback ที่ได้รับจากพวกผมหรอ ก็ทำตาโตๆ แล้วส่ายหัวริกๆ (ข้าไม่เข้าจายยยยยยยย) นางถึงได้เริ่มพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า tranfer หรือ transit เนี่ย อยู่ตรงแถวนี้ ต่อแถวไป!!
ต่อแถวไปสักพักก็ได้ผ่านเข้าไปลูบๆคลำๆ สแกนข้าวของ แล้วก็ไปที่เกทกันครับ
บรรยากาศของเกทที่ไปนั่งรอนะครับ
อีกรูป ... ถ่ายรูปประสาอะไรเนี่ยเรา
ตู้น้ำอันนี้ทำให้ผมอายนะครับ ไปยืนดูตั้งนาน จนมีพนักงานแถวนั้นเดินมากดน้ำให้กิน ... คือไม่อยากกินน้ำ แค่สงสัยว่าใช้ยังไงแค่นั้นเอง
ก็รอราวๆสองชั่วโมง ก็เรียกขึ้นเครื่อง คราวนี้ operate โดย China Eastern Airline เองแล้วครับ เป็นที่นั่งแบบ 2-4-2 อ่ะ พวกผมนั่งเหมา 4 เลย อบอุ่นมากกกกกกกก 5555555 ... สิ่งที่ผมสัมผัสได้บนเครื่องลำนี้คือ มีแค่พวกผม 4 คนที่เป็นมนุษย์ไทยที่จะไปเกาหลี
หิวมากครับนี่พูดเลย รออยู่สิ่งเดียวคืออาหาร น่าสงสารตัวเองจริงๆ
สภาพอากาศระหว่างทางไปโซลอาจจะไม่ค่อยดีนักครับ พวกผมหัวสั่นหัวคลอนขณะที่กำลังจะตักข้าวเข้าปาก แหม่ ตื่นเต้นได้ตลอดทั้งทริปเลยจริงๆ
ผ่านไปแพพเดียวเท่านั้นก็ถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เขาก็ประกาศอะไรสักอย่าง ฟังไม่ค่อยออกครับ ได้ยินแค่เวลาสามทุ่มนิดๆ กับอากาศ minus something แค่นี้ก็เสียวสันหลังแล้ว อากาศติดลบรออยู่ข้างนอก สภาพอากาศที่ไม่เคยได้เจอมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา 555555555
เดินออกจากเครื่องเข้างวงช้างรอบนี้สั่นเลยคร้าบทุกท่าน หนาวจริงๆ
พอเดินเข้าตัวอาคารก็พบว่าสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า heater นี่มันมหัศจรรย์ดีจริงๆ อุ่นมากๆ เดินอ้อยอิ่ง ทอดน่องไปเรื่อยๆตามประสา ลืมไปว่าเห้ยยยยย สามทุ่มกว่าแล้ว ไหนจะต้องไปผ่านด่าน ตม. มหาโหดของเกาหลีที่ขึ้นชื่อแล้ว ... วิ่งเลยเอ็ง วิ่งเลยเอ็ง!!!
เดินมาขึ้นรถไฟกันครับ รถไฟฟ้านี้จะพาเราไปหา ตม. มหาโหดกัน
แล้วก็มาต่อคิวเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ ตม. ครับ ... รอสักพักอยู่นะ แต่เขาก็มีหลายแถวครับ แต่คนเยอะจริงๆ พอถึงคิวผม ก็เดินเข้าไป ยื่น passport ให้ พี่เขาไม่พูดกบผมสักคำ ผมได้แต่ทักไปเบาๆว่า "อันนยองฮาเซโย" ... ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ... แล้วอยู่ๆก็มีคนพูดไทยขึ้นมา "กรุณานำนิ้วชี้ทั้งสองข้างวางบริเวณแถบสีเขียว" ตกจายยยยยยยยยยย เครื่องมันพูดกับผมครับ แทนที่จะเป็นพี่พนักงาน เครื่องนี้มันยังบอกให้ผมมองที่กล้องอีก แหม่ ... เทคโนโลยีนี่มันดีจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
สรุปผ่าน ตม. อย่างง่ายดายครับ ไม่มีอะไรเลย ไม่ถึง 5 นาที อาจจะเป็นเพราะคนเยอะมาก อย่างที่กระทู่รีวิวๆหลายๆอันบอกว่า ช่วงคนเยอะ เขาก็ไม่อะไรกะเรามากหรอกครับ
แล้วก็ได้มาเอากระเป๋ากันครับ เช็คจากจอแล้วว่าอยู่ belt ไหน ก็เดินไปครับ มีเปิดอยู่ belt เดียว ... ใบนั้นก็ไม่ใช่ ใบนี้ก็ไม่ใช่ ไม่เป็นไรครับ wifi ที่สนามบิน เร็วและดีมากๆ เล่นไป คุยไลน์ video call กะท่านพ่อท่านแม่ไปเรื่อย ... แต่เอ๊ะ!!! คนกลับกันหมดแล้ว ไหนล่ะกระเป๋าพวกข้า ทนไม่ไหวครับ สี่ทุ่มกว่าแล้ว ไม่รู้ว่ารถไฟมีถึงเมื่อไร เดินไปตรง counter ที่อยู่แถวๆ belt เขาก็ชี้ 4 ใบวางอยู่ ... แหม่ ชัดเจนเลย (จิงๆผมเห็นวางอยู่นานละ แต่เห็นไกลๆ ก็ได้แต่คิดว่า ยังไงกระเป๋าก็ต้องมาตาม belt ดิ ต่อให้ไม่ทัน มันก็จะวนมาใหม่) เดินไปเอากระเป๋า พนักงานหัวเราะครับ ... น่าอายจุง
วิ่งเลยยยยยยยยยยยยย นี่บัตรขึ้นรถไฟฟ้าอะไรก็ไม่มีซักอย่าง โถ่ว เดินออกไปเจอ GS25 ก็เลยแวะซื้อบัตรครับ เพราะอ่านรีวิวมาว่าซื้อที่นี่ได้เลย คือค่าบัตรใบละ 3000 วอน แล้วเติมเงินขั้นต่ำที่ 20000 วอน ... อ่ะเสียเงินแล้ว คนละ 23000 ขอชิมนมกล้วยในดินแดน original ซะหน่อย
[CR] รีวิว backpack trip เกาหลีใต้ แบบสนุกจนลืมไม่ได้!!!!!
ก็เริ่มจาก แพลนการเดินทางของผมครับ
พอดีปีนี้อยากให้ของขวัญกับตัวเองหลังเรียนจบครับ เลยรวมกลุ่มรวมก้อนกับเพื่อนไปเที่ยวกันช่วงปีใหม่ อยากมีโมเม้นต์ countdown ที่เมืองนอกเมืองนากะเขาบ้างน่ะครับ เลยวางแผนกัน เดินทางตามวันที่ได้ราคาตั๋วถูกที่สุดคับ 555555 เหตุผลน่าตลก แต่ก็นะครับไปเที่ยวประสาเด็กเงินน้อยใช้สอยประหยัดน่ะครับ
จองตั๋วเครื่องบินผ่าน agency ที่ชื่อว่า expedia.com นี่แหละครับ ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่เคยซื้อตั๋วเครื่องบินออกนอกประเทศสักที เอาล่ะวะนี่ครั้งแรกก็ลองดู เอาบัตร debit อะไรมาลองก็ไม่ได้ ต้องมีบัตร credit ก็โอเคครับ เพื่อนผมเค้าก็พกบัตรที่ที่บ้านให้ติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉิน ... สุดท้ายจึงตกลงปลงใจเลือกวันเดินทางคือ วันที่ 25 ธันวาคม 2557 และกลับมาประเทศไทยในวันที่ 2 มกราคม 2558 ครับ
เดินทางจาก กรุงเทพ ไป โซล ... เราเลือกสายการบิน China Eastern Airline ครับ โดยพวกเราได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ พร้อมกับที่พัก ซึ่งเป็นโรงแรมในโซลนั่นแหละครับสำหรับคืนแรกและคืนเดียว ... ค่าใช้จ่ายรวมสำหรับ 4 คนคือ 61490.98 บาทไทยครับผม ตื่นเต้นมากกลัวไม่ได้จ่ายเงินก็กรอกเลขบัตร credit ไป กดยืนยันปึ๊บบบ ก็แจ้งว่าจองสำเร็จครับ ส่วนตัวเพื่อนของผมกลับงงว่าทำไมไม่มีการเรียกขอ verification code อะไรผ่านโทรศัพท์บ้างหรอ เงินหกหมื่นกว่าบาทตัดไปแบบงงๆ แต่สุดท้ายพวกเราก็ได้ตั๋วเครื่องบินและที่พักคืนแรกมาครอบครองครับ
โดยรายละเอียดที่จองได้ก็คือ
เที่ยวบินของผมเป็นเที่ยวบินที่ต้อง transit ครับ (ก็ตามที่คนอื่นเขาเคยรีวิวเกี่ยวกับการบินสายการบินนี้แหละครับ)
ขาไป - 25 ธันวาคม 2557 : กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) 10:45 น. ไป เซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 15:40 น. และก็รอ transit จาก เซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 18:05 น. ถึง โซล (อินชอน) 20:45 น.
** แต่พอใกล้ถึงวันเดินทางจริง ได้รับ e-mail เลื่อนไฟลต์จากกรุงเทพออกไปอีก 20 นาทีเห็นจะได้ครับ โอเคครับ ออกจากบ้านช้าได้อีก 20 นาที ดีเลยสำหรับพวกแผ่นดินเย็นอย่างผม
ขากลับ - 2 มกราคม 2558: โซล (อินชอน) 8:55 น. ไป เซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 9:50 น. และก็รอ transit จากเซี่ยงไฮ้ (ผู่ตง) 22:20 น. ถึง กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) 01:55 น. (ของวันที่ 3 มกราคม 2558)
เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!! เวลาผิดหรือป่าวนะ ผมสงสัยมาก จนเพื่อนผมบอกว่าเอ็งกดเลือกผิดแน่ๆ มัวแต่ตื่นเต้นจะได้ออกนอกประเทศ ... เอาไงล่ะครับ แค่เริ่มต้นก็ต้องพลาดกับเวลา transit ถึง 12 ชั่วโมงซะละ ผมนี่ง่วงเลยครับแหม่
ส่วนโรงแรมที่จองก็สำหรับคืนวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ครับ ชื่อว่า โรงแรม The summit hotel Seoul อันนี้ไม่ได้อ่านรีวิวอะไรทั้งนั้นครับ เห็นราคาพอรับได้ ละก็เห็นว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าก็เอาเลย จิ้มๆไปเรื่อยๆ ทริปนี้เดาๆมั่วๆจนสุดทางครับ 5555555555555
ส่วนที่พักสำหรับคืนที่เหลือก็หาจองผ่าน Booking.com ครับ เว็บนี้ทางเลือกเยอะดีครับ ที่สำคัญจ่ายเงินปลายทางได้ด้วย ผมเองเพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ ดีครับดี
เราเลือกพักที่ Kimchee Guesthouse Gyeongbokgung ครับ อันนี้ดูรูปครับสวยดี มี wifi (มันกลายเป็นปัจจัยที่ 6 ของผมไปแล้วนี่นาาาาาา 5555) ที่สำคัญคืออยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอีกแล้วครับท่านนนน .... จองที่นี้สำหรับพักในคืนวันที่ 26 ธันวาคม 2557 จนถึงคืนวันที่ 1 มกราคม 2558 ครับ เลือกเป็นห้องรวมชายหญิง แบบ 4 เตียง สนนราคาสุทธิที่ 420000 วอนโคเรียครับ (ถือว่าถูกมากกกกกกกกกก)
เอาล่ะครับทีนี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้งตั๋วเครื่องบิน ทั้งที่พัก จนกระทั่งพบว่า ... ตั๋วเครื่องบินของน้องที่เดินทางด้วยคนนึงนั้นเกิดสะกดนามสกุลตัวผิดไปครับ ก็ผมดันดูจาก facebook ก็เลยทำให้พลาดไป โอยยยยยยยย ตื่นเต้นอีกแล้ว ก็เอาล่ะวะ โทรหาสายการบินเหมือนที่มีคนรีวิวว่าเขาพอจะช่วยอะไรบ้าง ... พี่พนักงานของ China Eastern Airline ช่วยได้ดีมากครับ ผมอยากให้คะแนนพี่เค้าเต็มเลย พี่เค้าแจ้งทางขาออกจากกรุงเทพให้ครับว่าขอ add mark น้องคนนี้ให้ ส่วนทางเกาหลีขากลับก็ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งผมก็คิดอย่างนั้น ไปได้แล้ว ยังไงขากลับก็ต้องปล่อยเรากลับออกมา จริงมั้ยครับ ฮี่ๆๆๆๆๆ
จนกระทั่งวันเดินทางของพวกเรา .... อ้อ! ผมลืมบอกเลยว่า พวกผมจองตั๋วเครื่องบินตอนกลางเดือนกันยายน 2557 ครับ รู้ตัวช้าไปนิดนึงว่าอยากไปเที่ยว ไม่งั้นคงได้ตั๋วถูกๆเหมือนชาวบ้านเขาละคร้าบบบบบบ
เช้าวันที่ 25 เนี่ย เบอร์ห้า บ้าเห่อสุดๆครับ มาตั้งแต่ไก่โห่เลย 5555555
แล้วตอนนี้ก็ได้ boarding pass มาเรียบร้อยครับ มี 2 ใบเพราะต้อง transit (พี่ที่ check-in counter ใจดีคับๆ )
ก็เดินมารอที่เกทกันครับ หิวมาก แต่อาหารข้างในก็แพงซะเหลือเกิน มันเหลือเกินจริงๆครับ 555555 และก็จบลงที่ร้านป้าแอน กินพอให้หายหิว แล้วก็ขึ้นเครื่องเพื่อรับอาหารครับ ... เที่ยวบินจากกรุงเทพไปเซี่ยงไฮ้นี่ operate โดย Shanghai airline ครับ อารมณ์ประมาณว่า พอก้าวพ้นงวงช้างไป ผมก็เข้าสู่ประเทศจีนเลยทีเดียวครับแหม่ อาหารที่ได้ก็นี่ครับ ผัดมาม่าอะไรซักอย่างใส่หมูครับ (คือเขาถามว่าเอาหมูหรือปลา ผมอยากได้หมูก็เลยได้อันนี้มา เห็นเพื่อนบอกจะเอาปลาก็ได้ข้าวหน้าปลานึ่งอะไรประมาณนี้แหละครับ เลี่ยนแบบจีนๆเหมือนกัน) แต่อร่อยดีนะครับ หรือว่าหิวก็ไม่แน่ใจ โฮ่ะๆๆๆๆๆ
กินอิ่มก็บิดตัวไปบิดตัวมาครับ นอนไม่ค่อยหลับ เพราะว่าเครื่องค่อนข้างสั่น แด๊นซ์กันบนเครื่องเลยล่ะครับ 5555555
ผ่านไปสัก 4 ชั่วโมงก็มาถึงเซี่ยงไฮ้ครับ สนามบินนานาชาติผู่ตง ... พอเดินออกจากเครื่องเข้างวงช้างเท่านั้นแหละครับ สะท้านนนนนนนน!!! หนาวอะไรอย่างนี้ ประเทศกรุงเทพไม่ค่อยจะได้เจอ ตกใจปนตื่นเต้นครับ เพราะคิดว่าที่โซลน่าจะต้องหนาวกว่านี้อีก กลัวแข็งตายที่เมืองนอก 555555
แล้วก้เดินมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงจุดที่ transfer ครับ เป็น counter ที่คนรุมล้อมกันเยอะมากๆ (เสียดายไม่ได้เก็บรูปมาให้ดู มัวแต่งงว่าต้องทำอะไร เพราะเหมือนเข้าใจตามที่อ่านรีวิวมาคือ ถ้าเรา transit ก็เดินไปที่เกทได้เลย แต่เห็นคนมาตรงนี้หมดอ้ะ แล้วผมเลือกอะไรได้ ฮือออออออออ~ T_T
แต่บอกเลยครับ พนักงานผู้หญิงตรงนี้ดุมาก แล้วนางก็พูดภาษาจีนกับพวกผม 4 คน ... feedback ที่ได้รับจากพวกผมหรอ ก็ทำตาโตๆ แล้วส่ายหัวริกๆ (ข้าไม่เข้าจายยยยยยยย) นางถึงได้เริ่มพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า tranfer หรือ transit เนี่ย อยู่ตรงแถวนี้ ต่อแถวไป!!
ต่อแถวไปสักพักก็ได้ผ่านเข้าไปลูบๆคลำๆ สแกนข้าวของ แล้วก็ไปที่เกทกันครับ
บรรยากาศของเกทที่ไปนั่งรอนะครับ
อีกรูป ... ถ่ายรูปประสาอะไรเนี่ยเรา
ตู้น้ำอันนี้ทำให้ผมอายนะครับ ไปยืนดูตั้งนาน จนมีพนักงานแถวนั้นเดินมากดน้ำให้กิน ... คือไม่อยากกินน้ำ แค่สงสัยว่าใช้ยังไงแค่นั้นเอง
ก็รอราวๆสองชั่วโมง ก็เรียกขึ้นเครื่อง คราวนี้ operate โดย China Eastern Airline เองแล้วครับ เป็นที่นั่งแบบ 2-4-2 อ่ะ พวกผมนั่งเหมา 4 เลย อบอุ่นมากกกกกกกก 5555555 ... สิ่งที่ผมสัมผัสได้บนเครื่องลำนี้คือ มีแค่พวกผม 4 คนที่เป็นมนุษย์ไทยที่จะไปเกาหลี
หิวมากครับนี่พูดเลย รออยู่สิ่งเดียวคืออาหาร น่าสงสารตัวเองจริงๆ
สภาพอากาศระหว่างทางไปโซลอาจจะไม่ค่อยดีนักครับ พวกผมหัวสั่นหัวคลอนขณะที่กำลังจะตักข้าวเข้าปาก แหม่ ตื่นเต้นได้ตลอดทั้งทริปเลยจริงๆ
ผ่านไปแพพเดียวเท่านั้นก็ถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เขาก็ประกาศอะไรสักอย่าง ฟังไม่ค่อยออกครับ ได้ยินแค่เวลาสามทุ่มนิดๆ กับอากาศ minus something แค่นี้ก็เสียวสันหลังแล้ว อากาศติดลบรออยู่ข้างนอก สภาพอากาศที่ไม่เคยได้เจอมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา 555555555
เดินออกจากเครื่องเข้างวงช้างรอบนี้สั่นเลยคร้าบทุกท่าน หนาวจริงๆ
พอเดินเข้าตัวอาคารก็พบว่าสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า heater นี่มันมหัศจรรย์ดีจริงๆ อุ่นมากๆ เดินอ้อยอิ่ง ทอดน่องไปเรื่อยๆตามประสา ลืมไปว่าเห้ยยยยย สามทุ่มกว่าแล้ว ไหนจะต้องไปผ่านด่าน ตม. มหาโหดของเกาหลีที่ขึ้นชื่อแล้ว ... วิ่งเลยเอ็ง วิ่งเลยเอ็ง!!!
เดินมาขึ้นรถไฟกันครับ รถไฟฟ้านี้จะพาเราไปหา ตม. มหาโหดกัน
แล้วก็มาต่อคิวเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ ตม. ครับ ... รอสักพักอยู่นะ แต่เขาก็มีหลายแถวครับ แต่คนเยอะจริงๆ พอถึงคิวผม ก็เดินเข้าไป ยื่น passport ให้ พี่เขาไม่พูดกบผมสักคำ ผมได้แต่ทักไปเบาๆว่า "อันนยองฮาเซโย" ... ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ... แล้วอยู่ๆก็มีคนพูดไทยขึ้นมา "กรุณานำนิ้วชี้ทั้งสองข้างวางบริเวณแถบสีเขียว" ตกจายยยยยยยยยยย เครื่องมันพูดกับผมครับ แทนที่จะเป็นพี่พนักงาน เครื่องนี้มันยังบอกให้ผมมองที่กล้องอีก แหม่ ... เทคโนโลยีนี่มันดีจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
สรุปผ่าน ตม. อย่างง่ายดายครับ ไม่มีอะไรเลย ไม่ถึง 5 นาที อาจจะเป็นเพราะคนเยอะมาก อย่างที่กระทู่รีวิวๆหลายๆอันบอกว่า ช่วงคนเยอะ เขาก็ไม่อะไรกะเรามากหรอกครับ
แล้วก็ได้มาเอากระเป๋ากันครับ เช็คจากจอแล้วว่าอยู่ belt ไหน ก็เดินไปครับ มีเปิดอยู่ belt เดียว ... ใบนั้นก็ไม่ใช่ ใบนี้ก็ไม่ใช่ ไม่เป็นไรครับ wifi ที่สนามบิน เร็วและดีมากๆ เล่นไป คุยไลน์ video call กะท่านพ่อท่านแม่ไปเรื่อย ... แต่เอ๊ะ!!! คนกลับกันหมดแล้ว ไหนล่ะกระเป๋าพวกข้า ทนไม่ไหวครับ สี่ทุ่มกว่าแล้ว ไม่รู้ว่ารถไฟมีถึงเมื่อไร เดินไปตรง counter ที่อยู่แถวๆ belt เขาก็ชี้ 4 ใบวางอยู่ ... แหม่ ชัดเจนเลย (จิงๆผมเห็นวางอยู่นานละ แต่เห็นไกลๆ ก็ได้แต่คิดว่า ยังไงกระเป๋าก็ต้องมาตาม belt ดิ ต่อให้ไม่ทัน มันก็จะวนมาใหม่) เดินไปเอากระเป๋า พนักงานหัวเราะครับ ... น่าอายจุง
วิ่งเลยยยยยยยยยยยยย นี่บัตรขึ้นรถไฟฟ้าอะไรก็ไม่มีซักอย่าง โถ่ว เดินออกไปเจอ GS25 ก็เลยแวะซื้อบัตรครับ เพราะอ่านรีวิวมาว่าซื้อที่นี่ได้เลย คือค่าบัตรใบละ 3000 วอน แล้วเติมเงินขั้นต่ำที่ 20000 วอน ... อ่ะเสียเงินแล้ว คนละ 23000 ขอชิมนมกล้วยในดินแดน original ซะหน่อย