::: จากแกรี่ เนวิลล์ ถึง ดาบิด เด เคอา : เขาเป็นผู้รักษาประตูที่เยี่ยมยอด :::

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ย้อนไปวันที่ 20 มกราคม ปี 2013 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไปเยือนไวท์ ฮาร์ท เลน ของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์และเป็นฝ่ายขึ้นนำอยู่จนถึงนาทีที่ 92
เกมน่าจะจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือน แต่แล้วในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย ดาบิด เด เคอา ออกมาตัดบอลพลาด ทำให้ คลินท์ เดมป์ซี่ ยิงประตูตีเสมอให้กับเจ้าบ้านสำเร็จ ขโมย 2 คะแนนสำคัญไปจากปีศาจแดงได้

แกรี่ เนวิลล์ อดีตกับตันทีมของยูไนเต็ด ไม่รอช้าที่จะออกมากล่าวโทษนายทวารชาวสเปน
“ในช่วงเวลาสำคัญของเกม คุณจะทำพลาดแบบนั้นไม่ได้”
มีคนถามแกรี่ว่ามันเป็นแค่วันโชคร้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือเปล่า?
“ผมไม่เคยได้ยินคำว่าโชคร้ายตลอด 20 ปีในห้องแต่งตัว"



คำวิจารณ์ของแกรี่ เนวิลล์ ไม่ใช่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่ เด เคอา ต้องเจอนับแต่ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษ
ก่อนหน้านั้นเขาเคยโดน Sir Alex Ferguson ดรอปเป็นตัวสำรองมาแล้ว หลังจากทำผิดพลาดในเกม
“ผมคิดว่าดาบิดทำพลาด และเขาก็รู้ดี” อดีตนายใหญ่กล่าว
“เขาเซฟได้ดีหลายครั้ง แต่ความผิดพลาดครั้งเดียวส่งผลเสียหายกับทีมมาก นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้”

หากจะมีอะไรตอกย้ำช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของ เด เคอา ก็คงเป็นคำวิจารณ์ที่ถาโถมเข้ามาทั้งจากสื่อและแฟนบอลยูไนเต็ดเอง
หลายคนไม่เชื่อมั่นในตัวเขาและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าอยากให้นายประตูมือ 2 อย่าง อันเดอส์ ลินเดการ์ด มาทำหน้าที่เฝ้าเสาแทนมากกว่า

เขาจะยอมแพ้และยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นก็ได้
แต่ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีที่ว่างสำหรับคนที่ยอมแพ้ และเด เคอา เลือกที่จะสู้ต่อไป

===========================================

ผ่านมาเกือบสองปี ในเกมแดงเดือดนัดล่าสุดที่ยูไนเต็ดเปิดบ้านพบกับลิเวอร์พูล และเป็นฝ่ายเอาชนะทีมเยือนไปได้ 3-0
ดาบิด เด เคอา โชว์ฟอร์มได้อย่างโดนเด่น และได้รับเลือกให้เป็น man of the match

หลังเกมจบลง แกรี่ เนวิลล์ คนเดิมได้ออกมาชื่นชมการเล่นของนายประตูรายนี้ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นทักษะการเล่นที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก
“ตอนนี้เรากำลังได้เห็นพัฒนาการครั้งใหญ่ของเขา เขาเป็น Shot stopper ที่ยอดเยี่ยมนับตั้งแต่วันแรก"
"และถึงตอนนี้เขาได้พัฒนาการเล่นขึ้นอย่างมากอีกใน 4 ด้าน” เนวิลล์กล่าวในรายการ Monday Night Football

... พัฒนาการ 4 ด้านที่แกรี่พูดถึงมีอะไรบ้าง? ...
และเด เคอา เยี่ยมยอดอย่างที่แกรี่และแฟนยูไนเต็ดหลายคนชื่นชมหรือไม่ เราจะมาดูกันในกระทู้นี้

อย่างแรกที่แกรี่พูดถึงคือการรับมือกับลูกกลางอากาศ

แน่นอนว่านี่คือจุดอ่อนที่ เด เคอา ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด
แต่แกรี่ คิดว่าฤดูกาลนี้ เด เคอา พัฒนาเรื่องการออกมารับบอลขึ้นมาก
และตลอดทั้งฤดูกาลเขาออกมาชกบอลเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในเกมที่พบกับอาร์เซนอล
และถ้าเราดูตามสถิติ ก็ต้องเห็นด้วยว่า เด เคอา ทำได้ดีขึ้นมากจริงๆ


อย่างไรก็ตาม ข้อผิดพลาดยังคงมีอยู่
“เขาพลาด 1 ครั้งในนัดที่เจอกับเวสแฮม เขาออกมาและไม่เจอบอล” (และเวสแฮมได้ประตูจากจังหวะนั้น)
“นี่เป็นสิ่งที่เขาจะต้องปรับปรุงต่อไป แต่ถ้าเราเทียบกับเมื่อสามปีก่อนแล้ว มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก” อดีตกัปตันชื่นชม

===========================================

เรื่องต่อมาคือการแก้ปัญหาลูกส่งคืนหลัง

มีหลายครั้งที่การส่งบอลเกิดผิดพลาด และผู้รักษาประตูต้องออกมาแก้ไขสถานการณ์
แกรี่พูดถึงเกมหนึ่งเมื่อสองปีก่อน ไมเคิล คาริก ส่งบอลกลับหลังพลาด
ปฏิกิริยาของเด เคอา คือรีบวิ่งออกมาด้วยความตกใจ และผลสุดท้าย กองหน้าของฝ่ายตรงข้ามก็กระดกบอลผ่านตัวเขาอย่างง่ายดายก่อนจะส่งลูกเข้าประตู

แต่เหตุการณ์ในนัดที่พบกับลิเวอร์พูลแตกต่างออกไป เมื่อจอนนี่ อีแวนส์ ส่งบอลผิดพลาดและราฮีม สเตอร์ลิ่ง ฉกบอลไปได้
เด เคอา วิ่งออกมาเผชิญหน้ากับเขา
“เขาควบคุมตัวเองได้ และยืนตำแหน่งได้มั่นคง ซึ่งทำให้ราฮีมเล่นได้ยากขึ้น” แกรี่วิเคราะห์
“นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขาพัฒนาขึ้นมาก”

===========================================

เรื่องที่สาม การป้องกันลูกยิง

แฟนๆปีศาจแดงหลายคนคงจำได้ว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เด เคอา มักจะป้องกันประตูโดยปัดลูกไปข้างหน้า
และบ่อยครั้งฝ่ายตรงข้ามก็ตามเข้ามาซ้ำในจังหวะที่สองจนทีมต้องเสียประตู
“เมื่อสองปีก่อนเขามือแข็งมาก ทุกครั้งที่ลูกบอลพุ่งไปหาเขามันจะกระดอนกลับมาตลอด
และถ้าคุณเป็นกองหลังล่ะก็ คุณคงไม่อยากให้บอลกระดอนกลับแน่ๆ เพราะมันอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้”

“แต่ลองดูตอนนี้สิ”

แกรี่แสดงภาพเกมที่ยูไนเต็ดพบกับอาร์เซน่อลและลิเวอร์พูล ซึ่งเด เคอา สามารถรับบอลที่ยิงมาได้โดยไม่มีหลุดจากมือเลย
โดยเฉพาะจังหวะที่บาโลเตลลี่ล้มตัวยิงในระยะกรอบ 6 หลาพอดี
"สเตอร์ลิ่งรออยู่ตรงนั้น พร้อมที่จะเข้าซ้ำ แต่เด เคอา ทำได้ยอดเยี่ยม"
“และถ้ามองจากมุมหลังประตู เขาแทบมองไม่เห็นจังหวะยิงด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยืนเตรียมพร้อมในตำแหน่งและคว้าบอลไว้ได้

===========================================

เรื่องสุดท้าย การดวลตัวต่อตัว

“ทฤษฎีง่ายๆของผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ ในการดวลตัวต่อตัว 10 ครั้ง คุณต้องเซฟได้อย่างน้อย 7 หรือ 8 ครั้ง” แกรี่กล่าว
“ผู้รักษาประตูอย่างฟาน เดอ ซาร์, ชไมเคิล, ซีแมน หรือนอยเออร์ ทำตรงนี้ได้ดีมาก
พวกเขาสามารถเซฟประตูจากการดวล 1 ต่อ 1 ส่วนมากไว้ได้ และเรื่องนี้ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ เด เคอา เลย”

แกรี่พูดถึงข้อผิดพลาดของเด เคอา ในเกมกับแมนฯซิตี้ฯ เมื่อสองสามปีก่อน
ในจังหวะที่เชโก้หลุดขึ้นมา ริโอวิ่งกลับไปที่ตำแหน่งแล้ว แต่แทนที่เด เคอา จะยืนคุมพื้นที่หน้าปากประตู
เขากลับร้อนรนออกมานอกเขต พยายามขยับตัวไปมา ซึ่งแกรี่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ท้ายที่สุดบอลก็ผ่านมือเขาไปได้


แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเอเดน อาร์ซา ในฤดูกาลนี้ เด เคอา เป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
“เขายืนอยู่ถูกตำแหน่ง ก้าวขึ้นมาข้างหน้า รอ และรอ อย่างมั่นคง เหมือนจะบอกว่า ‘เอาชนะฉันให้ได้สิ แต่ฉันจะไม่ช่วยให้มันง่ายหรอกนะ’
และล้มตัวปัดบอลไว้ได้”
“และเขาก็ช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะได้เกมแล้วเกมเล่า นั่นเป็นสิ่งที่ผมคาดหวังว่าจะได้เห็นจากผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”



นี่คืออีกภาพหนึ่งที่แกรี่ยกขึ้นมาให้เห็นความเปลี่ยนแปลง
ภาพบนจะเห็นว่า เด เคอา วางเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นและกางแขนออก
“นั่นเป็นความผิดพลาด” แกรี่ชี้ และท้ายที่สุดตอเรสก็สามารถยิงผ่านเขาไปได้อย่างง่ายดาย
แต่ในภาพล่างจะเห็นว่าการยืนของเขามั่นคงขึ้น แขนอยู่ข้างลำตัวในตำแหน่งที่เหมาะสม
เตรียมพร้อมรับมือกับกองหน้าฝ่ายตรงข้าม และสามารถเอาชนะได้
“เขาทำในสิ่งที่ผู้รักษาประตูชั้นยอดทำ”


สถิติสุดท้ายที่แกรี่ยกขึ้นมา ชี้ให้เห็นยูไนเต็ดเป็นทีมที่เสียประตูจากจังหวะผิดพลาดน้อยที่สุดในลีค (นับถึง พ.ย.57)
เขายกเครดิตทั้งหมดให้ เด เคอา


“เมื่อวันก่อนโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ บอกว่า ฟอร์มของดาบิดเป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดมา 15 ปีแล้ว
และผมเห็นด้วยกับเขานะ”
“ถ้าเราลองเปรียบเทียบเมื่อสองปีก่อนกับตอนนี้ ทั้งการพัฒนาด้านร่างกายและเทคนิคที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
และรวมถึงในฤดูกาลนี้  ...ผมคิดว่า เด เคอา กลายเป็นสุดยอดผู้รักษาประตูไปเรียบร้อยแล้ว” แกรี่สรุปปิดท้าย

**************************************
************************

ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับแกรี่ เนวิลล์หรือไม่
หรือคำถามว่า เด เคอา ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูระดับโลกหรือยัง จะยังต้องเถียงกันต่อไป
แต่เชื่อว่าทั้งหมดไม่สำคัญเท่าการได้เห็นเขายืนเป็นปราการด่านสุดท้ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เพราะนี่คือนักเตะที่หลายคนเฝ้าดูมาตั้งแต่วันแรก และกล้าพูดในวันนี้ว่าเขาคือความภูมิใจของทีมจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่