[CR] เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองจากใต้สู่เหนือ 10 วัน 9 คืน 9 เมือง กับงบ 35,000 บาท..วันที่ 2 KYOTO-OSAKA

- เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองจากใต้สู่เหนือ 10 วัน 9 คืน 9 เมือง กับงบ 35,000 บาท http://ppantip.com/topic/33069252/comment1
- วันที่ 1 KYOTO http://ppantip.com/topic/33073236
- วันที่ 2 KYOTO-OSAKA http://ppantip.com/topic/33078161
- วันที่ 3 KAWAGUCHIKO http://ppantip.com/topic/33143988
- วันที่ 4 KAWAGUCHIKO-AOMORI http://ppantip.com/topic/33144483
- วันที่ 5 HAKODATE http://ppantip.com/topic/33156504
- วันที่ 6 HAKODATE-TOKYO http://ppantip.com/topic/33157401
- วันที่ 7 TOKYO-TSUKIJI FISH MARKET http://ppantip.com/topic/33161553
- วันที่ 8 KUMAMOTO-FUKUOKA http://ppantip.com/topic/33166364
- วันที่ 9 YUFUIN http://ppantip.com/topic/33171016  วันที่ 10 สรุปค่าใช้จ่าย  
     ไปเที่ยวกันต่อเช้าวันที่ 2 ใน KYOTO วันนี้พวกเราก็มาแชร์สถานที่ที่อยากไปกัน เพื่อนปั๋มอยากไปวัด Kinkakuji Temple หรือ วัดทอง ส่วนเราอยากไปป่าไผ่ที่ Arashiyama โดยจะใช้รถบัสเป็นหลัก ซึ่งในที่พักมีขายด้วย เลยซื้อ City bus kyoto 1 day pass ราคา 500 เยน ถ้านั่งรถ City bus เที่ยวนึงเริ่มต้นที่ 220 เยน ถ้าวันนึงไปหลายที่ซื้อ City bus kyoto 1 day pass คุ้มกว่ามากจริงๆ นั่งหลงทางก็คุ้มสุดๆเม่าออกรถ

อ๊ะๆ เดี๋ยวก่อนจะไปซิ่งกัน เรามีนัดชิมอูด้งร้านเมื่อคืนที่ไปเล็งไว้ ร้านยืนกินสไตล์ญ่ปุ่นมากๆ แต่ละคนมาเร็ว กินเร็ว รีบไปทำงาน
แต่พวกเรากว่าจะกินหมดชามก็ใหญ่ น้ำซุปก็ร้อน แต่พี่ญี่ปุ่นซดโฮกๆ เสียงดังน่าอร่อยเชียวเพี้ยนกินมาม่า



มาละ ส่วนประกอบหลักเป็นเส้นอูด้ง เหนียวนุ่ม กับแป้งกรอบๆ โรยหน้า และไข่พร้อมน้ำซุปกลิ่นหอมฉุย




เมนูหน้าตาแบบนี้ติดไว้หน้าร้านให้ดูเลย อยากกินแบบไหนก็ไปชี้ให้แม่ค้าดูเลยจ้า ค่าเสียหายมื้อนี้ของเรา 370 เยน (114.7บาท)


อิ่มกันละก็พร้อมเดินทางไปเที่ยวที่แรกวัดทอง นั่ง City bus  สาย 12 จากหน้าที่พัก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็มาถึง Kinkakuji Temple
ถึงป้ายนี้ละเดินต่อไปอีกหน่อย มีป้ายลูกศรชี้บอก


ระหว่าางทางจะผ่านบ้านคน ปลูกดอกไม้กันสวยงาม เราเป็นพวกแพ้ดอกไม้เห็นที่ไหนวิ่งเข้าใส่ตลอดเม่าบัลเล่ต์










กว่าเดินถึงบริเวณวัด แวะชมดอกไม้ซะหลายที่ อันนี้เป็นแถวๆ ทางๆปวัดก็มีร้านขายของที่ระลึกระหว่างทาง


ใกล้เข้าถึงตัววัดละ เจอต้นไม้ใหญ่แชะรูปซะหน่อย แต่ถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็คงสวยไม่เบา






ก่อนเข้าไปข้างในเราก็ต้องซื้อบัตรเข้าไปด้วยน้า 400 เยน (124 บาท)




เจอใบไม้แดงนิดหน่อย





เข้ามาถึงตัววัดละ สวยงามสมคำกล่าวขาน มาทำความรู้จักกับ วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple)  กันนิดนึง
หรือที่เรียกว่า วัดทอง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต มีตำนานเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องอิกคิวซัง ถ้าใครดูการ์ตูนเรื่องนี้คงร้องอ๋อ
วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ (Shogun Ashikaga Yoshimitsu) ผู้ที่ชอบทายปุจฉา-วิสัชนา กับอิกคิวซังไง




บรรยากาศภายในวัดจะเป็นการจัดสวนแบบเซน มีการจัดให้ ปราสาททองคำอยู่ตรงกลางสระน้ำ
ภาพสะท้อนปราสาททองคำที่อยู่ในสระน้ำ ทำให้ปราสาทดูสวยงามและมีความขลังมากขึ้น







ถ่ายเป็นที่ระลึกซะหน่อย


ภายในมีจัดที่ไว้ให้จิบน้ำชาชมวิวกันด้วย



แล้วก็มีโซนให้จุดเทียนอธิษฐานขอพร อยากได้เรื่องอะไรก็เลือกเทียนตามแต่ละความหมายเลย






ที่นี่จะจัดทางเดินแบบวันเว คือทางเข้าทางออกคนละทาง ก็ดีนะ เดินมาเหนื่อยละแวะซื้อขนมกินเพิ่มแรงนิดนึงเม่าดี๊ด๊า
เหมือนน้ำแข็งใส่ป่นๆ เย็นสดชื่นท้าอากาศเย็น ถ้วยนี้ 350 เยน (108.5 บาท)


จุดหมายต่อไปของพวกเราคือป่าไผ่ Arashiyama จาก Kinkakuji Temple เรานั่ง City bus มาที่สถานี Kyoto  
เพื่อมานั่งรถไฟ JR ไปที่สถานี Saga-Arajima จากสถานีเดินไปประมาณ 15 นาที Kyoto Tower หน้าสถานีวันนี้ฟ้าแจ่มมาก



หน้าสถานี Saga-Arajima


ระหว่างทางไปป่าไผ่ Arashiyama





ถึงแล้วป่าไผ่ บางคนก็เดินกันมา บางคนก็ขี่จักรยานกันมา หรือบางคนก็นั่งรถลากกันมา
และที่เห็นเยอะแถวนี้คือจะแต่งชุดแบบญี่ปุ่นมาเดินกันเป็นคู่ๆ น่ารักเชียว













ชื่นชมกับธรรมชาติของป่าไผ่ ถ่ายรูปกันจนช่ำใจแล้วก็ว่าจะไปกันที่ ดูเสาโทริอิที่ Fushimi inari shrine จากป่าไผ่ Saga เราเดินกลับมาที่สถานี JR Saga-Arajima แล้วนั่งไปสถานี JR Inari พวกเราลงป้ายผิด ลงก่อน 1 สถานี เลยต้องนั่งรอรถไฟขบวนต่อไป  ระหว่างรอ บ๊วยเอากระเป๋าวางไว้บนเก้อี้ พอรถไฟมาพวกเราขึ้นรถไฟผ่านไป 1 สถานี กำลังจะลง บ๊วยนึถึงกระเป๋าได้ หน้าซีดเลยเพราะทุกอย่าง เงิน, passport, JR RAIL PASS อยู่ในนั้นหมด แล้วถ้าหายไม่อยากจะคิด นี่เพิ่งวันที่สองเท่านั้น แล้วรีบวิ่งกลับไปอีกฝั่งเพื่อนั่งกลับไปที่สถานีนั้น ระหว่างรอก็ช่วยกันปลอบใจบ๊วย ที่ญี่ปุ่นเขาเล่ากันว่าลืมของ ไม่หายหรอกได้คืนกันทุกคนยิ้ม ถึงสถานีรีบวิ่งไปที่เก้าอี้ตัวนั้นทุกอย่างยังอยู่ที่เดิม โชคดีจริงนี่แหละเมืองญี่ปุ่นเม่าดี๊ด๊า

เรามาถึงที่ Fushimi inari shrine ก็เย็นละ พระอาทิตย์เกือบตก พอมีแสงรำไร รีบเดินไปที่เสาโทริอิด้านหลัง แต่มืดซะก่อน ถ่ายรูปกันได้นิดหน่อยก็เลิกเพราะแสงไม่พอ







ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่