ประกันภัยชั้น 1 ของวิริยะประกันภัย ทำกันแบบนี้หรอ ?

วันที่ 14 ตุลาคม 2557 รถเราไปชนกับรถกระบะขนแคนตาลูปที่สมุทรสาคร แรงจากการชนทำให้รถกระเด็นตกคูน้ำข้างทาง สภาพรถเป็นดังรูป









เราใช้ประกันภัยชั้น 1 ของวิริยะประกันภัย ตอนเกิดเหตุประมาณเกือบบ่ายโมง โทรเรียกประกันตั้งแต่ตอนนั้นและแจ้งว่าให้นำรถลากมาด้วยเลยเพราะรถตกน้ำ ไม่สามารถนำขึ้นมาได้  แต่กว่าประกันจะมาถึงคือ 14.30 น. ไม่ได้นำรถลากมาด้วย ปล่อยให้รถแช่น้ำอยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมงกว่ารถลากจะมา และประกันก็มาหลังประกันชั้น 2 ของคู่กรณีประมาณครึ่งชั่วโมง (เห็นความแตกต่างของการให้บริการตั้งแต่เริ่มต้น)

หลังจากนั้น พอประกันมาถึง ไม่มีการแนะนำตัวใดๆ จากพนักงาน เดินไปสอบถามเหตุการณ์จากคู่กรณีก่อนที่จะถามจากทางเราด้วยซ้ำ แล้วมาสรุปกับเราว่าฝ่ายเราผิด โดยที่ยังไม่ได้ฟังรายละเอียดจากทางเราก่อน (เราบอกว่ารถเราโดนชนด้านหลังขวา แต่ที่ข้างหน้ากันชนหลุดเป็นเพราะโดนขูดไปกับพื้นถนนบวกกับแรงกระแทกพื้นดินก่อนตกลงน้ำ แต่ทางประกันบอกว่าเราโดนชนด้านหน้า) สำหรับเรื่องรายละเอียดของเหตุการณ์เราขอไม่เล่าละกัน เพราะว่าไม่ได้ทำให้เราเสียความรู้สึกเหมือนเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้

หลังตกลงกันเรียบร้อยทางประกันก็แจ้งกับเราว่าจะให้ส่งไปซ่อมที่อู่ไหน ด้วยความที่เรามาทำงานที่สมุทรสาครแต่ไม่ใช่คนแถวนี้ จึงให้ประกันช่วยเลือกให้ว่าที่ไหนดีกว่ากัน เค้าจึงเสนอว่าให้มาซ่อมที่อู่ เจ.อาร์.การาจ เพราะเป็นศูนย์มาตรฐานของวิริยะ และทางประกันสามารถคุยโดยตรงกับอู่ได้ แจ้งเราว่าระยะเวลาในการซ่อมประมาณ 1 เดือน  เราจึงตกลงให้ลากรถไปที่อู่นี้



ดูจากในเว็บไซต์ของวิริยะประกันภัยมีชื่อของอู่นี้อยู่ในศูนย์ซ่อมมาตรฐานของวิริยะ



ตอนที่เค้าลากรถไปที่อู่ เราไม่ได้ตามไปด้วย เพราะยังต้องทำงานค้างคาที่ออฟฟิศ จึงไปแสดงตัวเป็นเจ้าของรถวันรุ่งขึ้น สภาพอู่ที่เห็นคือมีขนาดใหญ่ มีป้ายติดว่าเป็นศูนย์ซ่อมของวิริยะประกันภัย มีช่างหลายคน และดูน่าเชื่อถือ (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาทีหลัง) ด้านล่างคือรูปที่มาจากเว็บของ เจ.อาร์.การาจ ตอนนั้นยอมรับว่าเริ่มรู้สึกมั่นใจว่าอู่นี้น่าจะเป็นอู่ที่เชื่อถือได้พอสมควร





หลังจากคุยกับพนักงานที่อู่ เค้าบอกว่าทางเค้าจะแจ้งเปลี่ยนอะไหล่ให้หมดถ้าตัวไหนมีปัญหา และหลังอะไหล่มาจะใช้เวลาซ่อมไม่เกิน 2 สัปดาห์ เราจึงโทรไปสอบถามเป็นระยะๆ แต่คำตอบที่ได้คือยังไม่เสร็จ ติดนู่น ติดนี่ จนเวลาผ่านมาเดือนกว่า ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิง ไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเท่าไหร่ เราจึงให้คุณพ่อและพี่ชายเข้าไปดูรถที่อู่ วันที่ 4 ธันวาคม 2557 ทางอู่แจ้งว่ารออะไหล่อีก 1 อย่างที่ทางศูนย์ส่งมาให้ผิดรุ่น จนกระทั่งวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ทางอู่โทรมาแจ้งว่าให้ไปรับรถก่อนจะถึงวันหยุดยาว และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมส่วนยางรถที่ทางเราต้องจ่ายคนละครึ่งกับประกัน วันที่ 27 ธันวาคม 2557 ทางเราเข้าไปรับรถและชำระค่าใช้จ่ายที่อู่แจ้ง นี่เป็นรูปใบรายการซ่อมตอนรับรถ



หลังจากนั้นก็ขับออกจากอู่ที่สมุทรสาครมาบ้านที่สมุทรปราการ และจอดทิ้งไว้ที่บ้านโดยที่ไม่ได้ขับออกไปไหนเลย แต่บังเอิญสังเกตุเห็นน้ำมันเครื่องเลอะที่พื้น จึงนำรถไปเช็คที่อู่แถวบ้าน วันที่ 4 มกราคม 2558 ทางอู่แจ้งว่าโช้คหน้าหัก 1 ข้าง และน้ำมันเกียร์รั่ว นี่คือรถเพิ่งออกมาจากอู่ และยังไม่ได้ขับออกไปไหน จอดไว้เฉยๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้

คำถามที่เกิดขึ้นคือ

1.     อู่ เจ.อาร์.การาจ ใช้ช่างซ่อมรถแบบไหน เป็นช่างซ่อมรถจริงๆ รึเปล่า และทางอู่ทำไมถึงปล่อยรถที่ยังซ่อมไม่เสร็จออกมา โดยบอกลูกค้าว่าซ่อมเสร็จแล้ว ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นโดยสาเหตุมาจากความไม่สมบูรณ์ของรถ ใครจะรับผิดชอบ

2.     วิริยะประกันภัย ใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกอู่มาตรฐาน

สรุปคือ ทางเราต้องนำรถไปเข้าอู่แถวบ้าน โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 15,700 บาท ที่ไม่นำกลับไปซ่อมที่อู่ เจ.อาร์.การาจ อีกครั้งก็เพราะเสียความรู้สึกกับการทำงานของอู่นี้ และกลัวว่าหากเสียเวลานำรถกลับมาซ่อมที่นี่อีกจะเจอการซ่อมแบบชุ่ยๆ เหมือนครั้งก่อน

ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่อต้องการให้คนอื่นได้รับรู้ ทั้งการให้บริการของวิริยะประกันภัย และอู่มาตรฐานของประกันว่าทำงานกันแบบนี้หรอ


ปล.กระทู้นี้เจ้าของกระทู้โพสแทนเจ้าของเรื่องค่ะ

**เพิ่มเติม
- อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บค่ะ
- สำนักงานประกันอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ แต่พนง.ประกันอ้างว่าที่มาช้าเพราะรถติดเนื่องจากมีอุบัติเหตุตรงถนนที่ต้องขับผ่านมา
ซึ่งทางเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทั้งๆ ที่เราขอให้แจ้งรถลากมาพร้อมกัน เค้ากลับมาแจ้งตอนที่ตัวเองมาถึงที่เกิดเหตุ ทำให้ต้องเสียเวลารอรถลากอีกเป็นชั่วโมง
- ทาง พนง.ประกันไม่ได้แนะนำตัว และทางบริษัทไม่ได้ส่ง SMS ใดๆ มาแจ้งว่า พนง.คนไหนเป็นคนมารับเรื่องค่ะ
- ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้น เพราะต้องการจะให้ทางวิริยะให้ความสำคัญกับการเลือกอู่มาตรฐาน และอบรมพนักงานให้ทำงานเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ ไม่ได้เป็นเพราะมีปัญหาเรื่องยางที่ต้องจ่ายกับประกันคนละครึ่ง แค่สงสัยนิดหน่อยในตอนแรก แต่พอทราบข้อมูลจากที่หลายท่านบอกมา จึงขอลบข้อความตรงเรื่องยางที่เข้าใจผิดว่าทางประกันไม่ได้แจ้งก่อนว่าต้องออกกับประกันคนละครึ่งค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่