ขอสารภาพว่าเดิมทีตั้งใจจะไม่ทำรีวิว เพราะขี้เกียจ 5555555
แต่กระทู้นี้ขอทำเพื่อตอบแทนเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่านที่แลกเปลี่ยนข้อมูลในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นจนเกิดเป็นทริปขึ้นมา
กระทู้นี้อาจมีรูปหรือข้อมูลที่ตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเพราะไม่ได้ตั้งใจทำรีวิวแต่แรก เลยถ่ายภาพมาไม่ละเอียดมากนัก
ทริปนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกา โดยสายการบิน jetstar ขึ้นลงที่ Fukuoka
ใช้เวลาทั้งหมด 8 วัน เที่ยวเมืองเกียวโตและเกาะคิวชู เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังพีคพอดี เลยยอมซื้อ jr pass ลงทุนไปชมใบไม้แดงที่เกียวโต
ส่วนกระทู้นี้ขอรีวิวเมือง Kurokawa เนื่องจากเป็นเมืองชนบทเล็กๆที่หาข้อมูลได้ไม่มากนัก อาจเป็นเพราะไม่มีสถานที่ที่น่าสนใจมากนัก และการเดินทางค่อนข้างลำบากเนื่องจากไม่มีรถไฟ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเดินทางหลักของประเทศญี่ปุ่นผ่านเมืองนี้ จึงทำให้การเดินทางต้องใช้รถยนต์เป็นหลัก
เมือง Kurokawa Onsen ถือเป็นเมืองแห่งออนเซนสำหรับพักผ่อนตากอากาศมาเป็นร้อยปีแล้ว เป็นสถานที่ที่อยู่ในใจของชาวญี่ปุ่นหลายๆคน เพราะเป็นเมืองที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้ค่อนข้างมาก
ไม่มีการสร้างอาคารหรือป้ายขนาดใหญ่ สิ่งก่อสร้างภายในเมืองส่วนใหญ่จะเป็นอาคารขนาดไม่เล็ก ตามแบบชนบท
ดังจะเห็นได้จากภาพด้านล่างที่ผมถ่ายมาจากศูนย์บริการท่องเที่ยว เป็นรูปของเมือง kurokawa ในสมัยก่อน
Kurokawa เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนภูเขา มีแม่น้ำไหลผ่าน เมืองนี้มีเนินสูงชันหลายแห่งแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับ เด็กหรือผู้สูงอายุมากนัก ถ้ามีรถเข็นอาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
การเดินทาง อย่างที่แจ้งไว้แต่แรกว่าเมืองนี้อยู่บนภูเขาดังนั้นจึงไม่มีรถไฟผ่าน ดังนั้นจึงต้องใช้รถบัสหรือไม่ก็เช่ารถขับเป็นหลัก
ตารางรถบัสก็ตามรายละเอียดด้านล่างเลยครับ ส่วนค่าโดยสารจำไม่ได้จริงๆว่ากี่เยน
http://www.kyusanko.co.jp/sankobus/english/table/odantt1.pdf
http://www.kyusanko.co.jp/sankobus/english/table/odantt2.pdf
เพื่อความปลอดภัยกลัวว่ารถบัสจะเต็ม ผมเลยให้ทางรร.จองรถบัสให้ เริ่มขึ้นที่สถานีเมือง yufuin
เส้นทางรถยนต์ไปเมือง kurokawa ถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยมากเส้นทางนึง
ไอน้ำในภาพน่าจะเป็นไอที่พุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน
จุดจอดรถบัสเป็นจุดที่ห่างจากเมืองค่อนข้างมาก รร.ที่ผมจองไปมีบริการรถมารับที่ป้ายรถเมล์ แต่ถ้ามาเองผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินทางเข้าเมืองอย่างไร
การท่องเที่ยวในเมือง Kurokawa
เนื่องจากเป็นเมืองขนาดเล็กการท่องเที่ยวจึงใช้การเดินเป็นหลัก ถ้ามีเวลาสัก 2-3 ชม.ก็สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วทั้งเมืองแล้ว
เมืองนี้เดินไปที่ไหนก็จะเจอที่ข้าวโพดตากไว้
ผมมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดีก็เลยเก็บบรรยากาศมาให้สักเล็กน้อย
ไปเจอปล่องไอน้ำร้อนดูจากรูปน่าจะสำหรับสปาหน้า มีกลิ่นกำมะถันจางๆ
ไปเอาหน้าไปอังไกลๆยังไม่พอ เลยลองเอาหน้าไปจุ่มเลย 555555
ที่จุดบริการท่องเที่ยวจะมีป้ายสำหรับแช่ออนเซนจำหน่าย ในราคาประมาณพันกว่าเยน โดยเราสามารถใช้ป้ายนี้เข้าไปแช่ออนเซนได้ 3 แห่ง จากออนเซนเป็นสิบๆแห่งที่อยู่ในเมืองได้ทั้งหมด
นักท่องเที่ยวหลายคนพอใช้งานป้ายเรียบร้อยก็จะนำมาแขวนไว้ที่ตรงนี้
ที่พักส่วนใหญ่ในเมืองนี้เป็นแบบเรียวกังที่รวมอาหารเช้าและเย็นเข้าไปด้วย จึงทำให้ราคาค่อนข้างสูงกว่าโรงแรมปกติ
เดินไปเดินมาเริ่มหิว ไหนๆมาถึงแถบเมืองคุมาโมโต้แล้ว (kurokawa อยู่ในจังหวัด คุมาโมโต้) ซาซิมิเนื้อม้า “Basashi” ก็น่าจะต้องลองชิมดู
เป็นเนื้อที่นุ่มมาก แต่ชิมได้ 1-2 ชิ้นก็เต็มที่ละ
ต่อด้วยของหวาน เป็นเซ็ตชาเขียว ถั่วแดง และขนมทำจากแป้ง (มีชื่อว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่อร่อย 55555)
ถ้าท่านใดต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมโดยเฉพาะที่พัก สามารถดูได้จากเว็บนี้
http://www.kurokawaonsen.or.jp/english/
ไหนๆก็ไหนๆละ ขอทิ้งท้ายภาพใบไม้แดงที่เกียวโตสัก 2 ภาพก็แล้วกันนะครับ
เริ่มที่วัด Tofukuji
ต่อด้วย light up ที่วัด Eikando
[CR] Kurokawa Onsen เมืองออนเซนแห่งเกาะคิวชู
ขอสารภาพว่าเดิมทีตั้งใจจะไม่ทำรีวิว เพราะขี้เกียจ 5555555
แต่กระทู้นี้ขอทำเพื่อตอบแทนเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่านที่แลกเปลี่ยนข้อมูลในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นจนเกิดเป็นทริปขึ้นมา
กระทู้นี้อาจมีรูปหรือข้อมูลที่ตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเพราะไม่ได้ตั้งใจทำรีวิวแต่แรก เลยถ่ายภาพมาไม่ละเอียดมากนัก
ทริปนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกา โดยสายการบิน jetstar ขึ้นลงที่ Fukuoka
ใช้เวลาทั้งหมด 8 วัน เที่ยวเมืองเกียวโตและเกาะคิวชู เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังพีคพอดี เลยยอมซื้อ jr pass ลงทุนไปชมใบไม้แดงที่เกียวโต
ส่วนกระทู้นี้ขอรีวิวเมือง Kurokawa เนื่องจากเป็นเมืองชนบทเล็กๆที่หาข้อมูลได้ไม่มากนัก อาจเป็นเพราะไม่มีสถานที่ที่น่าสนใจมากนัก และการเดินทางค่อนข้างลำบากเนื่องจากไม่มีรถไฟ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเดินทางหลักของประเทศญี่ปุ่นผ่านเมืองนี้ จึงทำให้การเดินทางต้องใช้รถยนต์เป็นหลัก
เมือง Kurokawa Onsen ถือเป็นเมืองแห่งออนเซนสำหรับพักผ่อนตากอากาศมาเป็นร้อยปีแล้ว เป็นสถานที่ที่อยู่ในใจของชาวญี่ปุ่นหลายๆคน เพราะเป็นเมืองที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้ค่อนข้างมาก
ไม่มีการสร้างอาคารหรือป้ายขนาดใหญ่ สิ่งก่อสร้างภายในเมืองส่วนใหญ่จะเป็นอาคารขนาดไม่เล็ก ตามแบบชนบท
ดังจะเห็นได้จากภาพด้านล่างที่ผมถ่ายมาจากศูนย์บริการท่องเที่ยว เป็นรูปของเมือง kurokawa ในสมัยก่อน
Kurokawa เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนภูเขา มีแม่น้ำไหลผ่าน เมืองนี้มีเนินสูงชันหลายแห่งแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับ เด็กหรือผู้สูงอายุมากนัก ถ้ามีรถเข็นอาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
การเดินทาง อย่างที่แจ้งไว้แต่แรกว่าเมืองนี้อยู่บนภูเขาดังนั้นจึงไม่มีรถไฟผ่าน ดังนั้นจึงต้องใช้รถบัสหรือไม่ก็เช่ารถขับเป็นหลัก
ตารางรถบัสก็ตามรายละเอียดด้านล่างเลยครับ ส่วนค่าโดยสารจำไม่ได้จริงๆว่ากี่เยน
http://www.kyusanko.co.jp/sankobus/english/table/odantt1.pdf
http://www.kyusanko.co.jp/sankobus/english/table/odantt2.pdf
เพื่อความปลอดภัยกลัวว่ารถบัสจะเต็ม ผมเลยให้ทางรร.จองรถบัสให้ เริ่มขึ้นที่สถานีเมือง yufuin
เส้นทางรถยนต์ไปเมือง kurokawa ถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยมากเส้นทางนึง
ไอน้ำในภาพน่าจะเป็นไอที่พุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน
จุดจอดรถบัสเป็นจุดที่ห่างจากเมืองค่อนข้างมาก รร.ที่ผมจองไปมีบริการรถมารับที่ป้ายรถเมล์ แต่ถ้ามาเองผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินทางเข้าเมืองอย่างไร
การท่องเที่ยวในเมือง Kurokawa
เนื่องจากเป็นเมืองขนาดเล็กการท่องเที่ยวจึงใช้การเดินเป็นหลัก ถ้ามีเวลาสัก 2-3 ชม.ก็สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วทั้งเมืองแล้ว
เมืองนี้เดินไปที่ไหนก็จะเจอที่ข้าวโพดตากไว้
ผมมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดีก็เลยเก็บบรรยากาศมาให้สักเล็กน้อย
ไปเจอปล่องไอน้ำร้อนดูจากรูปน่าจะสำหรับสปาหน้า มีกลิ่นกำมะถันจางๆ
ไปเอาหน้าไปอังไกลๆยังไม่พอ เลยลองเอาหน้าไปจุ่มเลย 555555
ที่จุดบริการท่องเที่ยวจะมีป้ายสำหรับแช่ออนเซนจำหน่าย ในราคาประมาณพันกว่าเยน โดยเราสามารถใช้ป้ายนี้เข้าไปแช่ออนเซนได้ 3 แห่ง จากออนเซนเป็นสิบๆแห่งที่อยู่ในเมืองได้ทั้งหมด
นักท่องเที่ยวหลายคนพอใช้งานป้ายเรียบร้อยก็จะนำมาแขวนไว้ที่ตรงนี้
ที่พักส่วนใหญ่ในเมืองนี้เป็นแบบเรียวกังที่รวมอาหารเช้าและเย็นเข้าไปด้วย จึงทำให้ราคาค่อนข้างสูงกว่าโรงแรมปกติ
เดินไปเดินมาเริ่มหิว ไหนๆมาถึงแถบเมืองคุมาโมโต้แล้ว (kurokawa อยู่ในจังหวัด คุมาโมโต้) ซาซิมิเนื้อม้า “Basashi” ก็น่าจะต้องลองชิมดู
เป็นเนื้อที่นุ่มมาก แต่ชิมได้ 1-2 ชิ้นก็เต็มที่ละ
ต่อด้วยของหวาน เป็นเซ็ตชาเขียว ถั่วแดง และขนมทำจากแป้ง (มีชื่อว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่อร่อย 55555)
ถ้าท่านใดต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมโดยเฉพาะที่พัก สามารถดูได้จากเว็บนี้
http://www.kurokawaonsen.or.jp/english/
ไหนๆก็ไหนๆละ ขอทิ้งท้ายภาพใบไม้แดงที่เกียวโตสัก 2 ภาพก็แล้วกันนะครับ
เริ่มที่วัด Tofukuji
ต่อด้วย light up ที่วัด Eikando
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น