เรื่องเล่าเก็บตกทริปท่องเที่ยวคิวชูตอนเหนือ
อาจไม่ได้เล่าแบบแผนการเดินทางเป็นวันๆ แต่อยากจะมาแนะนำสถานที่ที่ได้ไปเที่ยวมาแบ่งปันกัน
ทริปเราเน้นออนเซนเป็นหลัก ได้เขียนรีวิวเล็กๆออนเซนต่างๆที่เราได้ไปมาในทริปคิวชูไว้ที่
https://www.facebook.com/onsendestination
เมื่อชอบออนเซนขนาดนี้ จุดมุ่งหมายของกลุ่มเราในจังหวัด Saga
จึงหนีไม่พ้นออนเซนอันดับหนึ่งของที่นี่ Ureshino Onsen
หากใครมาจาก Fukuoka สามารถนั่งขบวน Limited Express ที่จะมา Huis Ten Bosch
และลงที่สถานี Takeo Onsen ส่วนกลุ่มเรามาจากนากาซากิ จึงขอนั่ง Seaside Liner เลียบทะเลมาแบบชิลๆ
เปลี่ยนรถไฟเป็นสาย Sasebo Line ที่สถานี Haiki ก่อนลงที่ Takeo Onsen
จาก Takeo Onsen เดินออกมาด้านหน้าสถานี เลี้ยวขวาจะมีป้ายรถเมล์อยู่
ถามเจ้าหน้าที่บอกว่า มีสายเดียวปลายทาง Ureshino Onsen เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวหลง
แต่รถบัสมาไม่ได้ถี่มาก แวะถามรอบรถบัสจากเจ้าหน้าที่ในสถานีก่อนดีกว่าค่ะ
ที่นี่ในตัวเมืองค่อนข้างเงียบนะคะ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาแล้วเข้าที่พักกันเลย
เรามาถึงเร็วประมาณ 11 โมงครึ่ง จึงต้องเตร็ดเตร่หาอาหารกลางวันกินในตัวเมืองกันก่อน
ที่เมือง Saga โด่งดังเรื่องเนื้อวัวค่ะ มื้อกลางวันก็เลยจัดซะเป็นชุดข้าวเนื้อกะทะร้อน
กินเสร็จเดินไปตุนของกินที่ Lawsons แวะแช่ออนเซนเท้า
ก่อนกลับมาที่สถานีรถบัส เพื่อให้เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวประจำเมืองช่วยโทรไปเรียกรถจากโรงแรมมารับ
ที่พักของเราชื่อ Shibasanso อยู่ไกลออกมาจากตัวเมือง Ureshino Onsen หลายกิโลฯ
ตั้งอยู่บนเนินเขา ท่ามกลางไร่ชาเขียว ซึ่งเมือง Ureshino นี้ก็เป็นแหล่งปลูกชาเขียวชื่อดังในคิวชู
ตัวอาคารบริเวณล็อบบี้ และเป็นห้องทานอาหารด้วย
ห้องพักนี้สำหรับ 4 คน แบ่งเป็นเตียงนอน 2 และฟูกแบบญี่ปุ่น 2
ที่เลือกที่นี่ เพราะบ่อ Outdoor สวยขาดใจ ตั้งอยู่ริมน้ำตกเล็กๆ เสียงน้ำสร้างความผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เราจองมาในราคา 15000 เยนต่อคน รวมอาหารเย็นแบบ Yakiniku All You Can Eat และอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
ทางเข้า Outdoor Onsen ค่ะ ที่นี่เปิดให้บริการสำหรับคนที่ไม่ได้พักค้างคืนที่โรงแรมด้วยนะคะ
รูปบ่อ Outdoor ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ
ส่วนมื้อเย็นจัดไปเต็มๆแบบอิ่มไม่อั้นกับ Yakiniku Buffet แต่น้ำจิ้มที่นี่อาจไม่ถูกปากคนไทยเท่าไร
แต่คุณภาพเนื้อถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
ที่นี่ แนะนำสำหรับคนที่ชอบออนเซนจริงๆนะคะ เพราะในตัวเมืองค่อนข้างเงียบ
แต่เราไปวันธรรมดา ไปตรงกับวันหยุดอาจคึกคักกว่านี้
แต่อยากแนะนำ Ureshino Onsen ไว้เป็นทางเลือกสำหรับใครที่ชอบเมืองชนบทแบบบรรยากาศสงบเงียบ
ส่วนที่พักเราให้คะแนนท 9/10 ค่ะ หักเรื่องอาหารเช้านิดเดียวที่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร
[CR] Onsen Destination: Ureshino Onsen ออนเซนอันดับหนึ่งใน Saga
อาจไม่ได้เล่าแบบแผนการเดินทางเป็นวันๆ แต่อยากจะมาแนะนำสถานที่ที่ได้ไปเที่ยวมาแบ่งปันกัน
ทริปเราเน้นออนเซนเป็นหลัก ได้เขียนรีวิวเล็กๆออนเซนต่างๆที่เราได้ไปมาในทริปคิวชูไว้ที่
https://www.facebook.com/onsendestination
เมื่อชอบออนเซนขนาดนี้ จุดมุ่งหมายของกลุ่มเราในจังหวัด Saga
จึงหนีไม่พ้นออนเซนอันดับหนึ่งของที่นี่ Ureshino Onsen
หากใครมาจาก Fukuoka สามารถนั่งขบวน Limited Express ที่จะมา Huis Ten Bosch
และลงที่สถานี Takeo Onsen ส่วนกลุ่มเรามาจากนากาซากิ จึงขอนั่ง Seaside Liner เลียบทะเลมาแบบชิลๆ
เปลี่ยนรถไฟเป็นสาย Sasebo Line ที่สถานี Haiki ก่อนลงที่ Takeo Onsen
จาก Takeo Onsen เดินออกมาด้านหน้าสถานี เลี้ยวขวาจะมีป้ายรถเมล์อยู่
ถามเจ้าหน้าที่บอกว่า มีสายเดียวปลายทาง Ureshino Onsen เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวหลง
แต่รถบัสมาไม่ได้ถี่มาก แวะถามรอบรถบัสจากเจ้าหน้าที่ในสถานีก่อนดีกว่าค่ะ
ที่นี่ในตัวเมืองค่อนข้างเงียบนะคะ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาแล้วเข้าที่พักกันเลย
เรามาถึงเร็วประมาณ 11 โมงครึ่ง จึงต้องเตร็ดเตร่หาอาหารกลางวันกินในตัวเมืองกันก่อน
ที่เมือง Saga โด่งดังเรื่องเนื้อวัวค่ะ มื้อกลางวันก็เลยจัดซะเป็นชุดข้าวเนื้อกะทะร้อน
กินเสร็จเดินไปตุนของกินที่ Lawsons แวะแช่ออนเซนเท้า
ก่อนกลับมาที่สถานีรถบัส เพื่อให้เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวประจำเมืองช่วยโทรไปเรียกรถจากโรงแรมมารับ
ที่พักของเราชื่อ Shibasanso อยู่ไกลออกมาจากตัวเมือง Ureshino Onsen หลายกิโลฯ
ตั้งอยู่บนเนินเขา ท่ามกลางไร่ชาเขียว ซึ่งเมือง Ureshino นี้ก็เป็นแหล่งปลูกชาเขียวชื่อดังในคิวชู
ตัวอาคารบริเวณล็อบบี้ และเป็นห้องทานอาหารด้วย
ห้องพักนี้สำหรับ 4 คน แบ่งเป็นเตียงนอน 2 และฟูกแบบญี่ปุ่น 2
ที่เลือกที่นี่ เพราะบ่อ Outdoor สวยขาดใจ ตั้งอยู่ริมน้ำตกเล็กๆ เสียงน้ำสร้างความผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เราจองมาในราคา 15000 เยนต่อคน รวมอาหารเย็นแบบ Yakiniku All You Can Eat และอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
ทางเข้า Outdoor Onsen ค่ะ ที่นี่เปิดให้บริการสำหรับคนที่ไม่ได้พักค้างคืนที่โรงแรมด้วยนะคะ
รูปบ่อ Outdoor ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ
ส่วนมื้อเย็นจัดไปเต็มๆแบบอิ่มไม่อั้นกับ Yakiniku Buffet แต่น้ำจิ้มที่นี่อาจไม่ถูกปากคนไทยเท่าไร
แต่คุณภาพเนื้อถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
ที่นี่ แนะนำสำหรับคนที่ชอบออนเซนจริงๆนะคะ เพราะในตัวเมืองค่อนข้างเงียบ
แต่เราไปวันธรรมดา ไปตรงกับวันหยุดอาจคึกคักกว่านี้
แต่อยากแนะนำ Ureshino Onsen ไว้เป็นทางเลือกสำหรับใครที่ชอบเมืองชนบทแบบบรรยากาศสงบเงียบ
ส่วนที่พักเราให้คะแนนท 9/10 ค่ะ หักเรื่องอาหารเช้านิดเดียวที่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร