หลังจากที่ได้ดูการโปรโมท"บางระจัน"อย่างบ้าคลั่งมาหลายวัน ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม"พันท้ายนรสิงห์" จึงถูกดอง

เป็นความคิดที่มโนล้วนๆนะครับ ตอนแรกกะว่าจะตั้งหลังจากที่บางระจันฉายก่อนตอนแรก ซึ่งก็คือวันนี้ แต่คิดๆดูแล้วของตั้งเลยดีกว่า
จะขอยก ทีเซอร์ สั้นๆของทั้งสองเรื่องมาเพื่อเป็นการเปรียบเทียบนะครับ

เริ่มจาก พันท้ายนรสิงห์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
บางระจัน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
    ในความคิดของผมก็คือว่าบางระจันดูเป็นละครในแบบทั่วๆไปสามารถเข้าถึงคนได้มากกว่าพันท้ายนรสิงห์ ในขณะที่พันท้ายนรสิงห์จะออกไปทางภาพยนตร์จอเงินมากกว่า
    ความแตกต่างระหว่างภาพยนตร์และละครในบ้านเราเป็นอะไรที่ชัดเจนมากตั้งแต่การถ่ายทำและการแสดง เป้าหมายก็จะคนละกลุ่ม
กล่าวคือในความเป็นละครจอแก้วซึ่งมีการพัฒนามาจากละครวิทยุ ก็จะมีการเน้นในการพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเว่อร์เกินจริง ต่อมาพอมีทีวีสามารถเห็นภาพได้ก็มีเรื่องของการแอคติ้งท่าทางที่เว่อร์ๆอีกเข้ามาเพื่อให้เข้ากับเสียง คิดง่ายๆก็คือว่าในชีวิตจริงคงหาได้น้อยมากๆที่จะมีการพูดหรือท่าทางที่เหมือนในละคร แววตาท่าทางชัดเจนจนเกินจริงขนาดนั้น จะคิดจะทำอะไรจัดเต็มหมดไม่มีกั๊ก ต่อให้คนดูอย่างเราๆไม่ได้อยู่หน้าจอเพียงแค่เปิดไว้แค่ฟังเสียง หรือดูแค่ตอนจบจากทั้งหมดก็สามารถเข้าใจในเรื่องราวได้ หรือจะเป็นในเรื่องของตัวละครที่ต้องหล่อสวยหน้าเด่นมาแต่ไกล การจัดแสงที่โฟกัสแค่ความชัดของใบหน้า คนรวยใส่แต่ชุดหรูๆอยู่บ้านทั้งๆที่ไม่ได้ออกไปไหน
    แต่ถ้าเป็นในแนวของภาพยนตร์โดยแท้ แล้วผมคิดว่าพันท้ายนรสิงห์น่าจะเป็นแนวนี้ คือองค์ประกอบการเล่าเรื่องต่างๆ ขึ้นอยู่กับการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกทั้งแววตาท่าทางดูเป็นไปตามความจริง ตัวละครดูแล้วเชื่อสมบทบาท คิดง่ายๆคือว่าเวลาเราดูหนังซักเรื่องถ้าพลาดแล้วคืออาจจะพลาดเลย เปิดเสียงอย่างเดียวไม่ดูภาพไม่สามารถเข้าใจเรื่องได้ การจัดแสงจัดไปตามอารมณ์ของบท ไม่จำเป็นต้องหน้าชัดแบบละคร
  ซึ่งผมคิดว่าบ้านเราอาจจะยังไม่พร้อมกับอะไรแบบนี้ครับ พันท้ายนรสิงห์จึงยังไม่พร้อมที่ลงจอแก้วด้วยประการทั้งปวง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่