สิ่งที่แฟนบอลไทยทุกคนกำลังเจออยู่ในวัน 2 วันนี้คือการถกเถียงกันอย่างรุนแรงเกี่ยวกับธีราทร กับ ซิโก้ บอกเลยว่าถ้าซิโก้พูดหรือให้สัมภาษณ์แบบนั้นจริง ถ้ามองอย่างเป็นกลางไม่ใช่ติ่งที่เข้าข้างแบบหัวชนฝา ยังไงการพูดแบบนั้นที่ออกมาเป็นข่าวทีแรก ซิโก้ก็สมควรถูกตำหนิอยู่แล้ว เพราะไม่ว่านั้นจะเป็นแนวคิดที่ ถูก หรือ ผิด แต่การออกมาพูดแบบนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่คนที่ทำหน้าที่ในฐานะเฮดโค้ชทีมชาติไทย และมีสถานะอย่างซิโก้ ที่ควรจะรักษาบรรยากาศของนักเตะในภาพรวมควรจะพูดเลย เพราะมันส่งผลเสียตามมาอีกมาก ซึ่งหลังจากอ่านมาหลายกระทู้ ผมชื่นชมแฟนซิโก้หลายๆคนด้วยซ้ำที่พอเห็นข่าวนี้ก็ยังบอกว่าไม่ควรพูดแบบนี้
แต่ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลคือ ไอที่กลายเป็นประเด็นกันอยู่เนี่ย ซิโก้ไม่ได้พูดเลยแม้แต่น้อย ยิ่ง 2 ฝ่ายแตกกันมากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่าแฟนบอลไทยกลายเป็นเครื่องมือของสื่อที่ไร้จรรยาบรรณออกข่าวเสี้ยมเพื่อขายข่าวแต่ไม่สนใจผลกระทบถึงสิ่งที่ตามมากับฟุตบอลไทยเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่า ประเด็นการเรียกตัวอาจจะร้อนแรงบ้างว่าทำไมคนโน้นติด ทำไมคนนี้ไม่ติด ทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ถึงมันจะร้อนแรงยังไง หรือต่อให้ซิโก้ตัดสินใจผิดจริงๆหรือไม่ มันก็ยังเป็นการถูกวิจารณ์ที่อยู่ในกรอบของแฟนบอลที่ต้องการแสดงความคิดเห็น ในมุมมองต่างๆที่อยากเห็นทีมชาติไทยแข็งแกร่งและมีอนาคต
แต่กับการกระทำของสื่อเสี้ยมที่ผมไม่แน่ใจว่าต้นข่าวมาจากสำนักไหน (ถ้าจำไม่ผิดไม่ใช่สื่อที่หลายๆคนยี้นะครับ) มันทำให้เกิดประเด็นที่เกินขอบเขตของการแสดงความเห็นที่แตกต่างมากเกินไปจนบานปลายไปพอสมควร กลายเป็นแบ่งฝ่ายกันไปกลายๆแล้วด้วยซ้ำ หยิบยกเรื่องโน้นเรื่องนี้มาโจมตี เพื่อจะยกให้อีกฝั่งอีกฝ่ายเหนือกว่า สร้างความเกลียดชังกลายๆให้กับนักฟุตบอลที่เจ้าตัวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรใดๆเลยกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งๆที่ผ่านมาทุกคนที่ถูกหยิบยกขึ้นมาก็ล้วนแล้วแต่เต็มที่เพื่อชาติเสมอมา ซึ่งเค้าเหล่านั้นถ้าทำผิดแล้วถูกตำหนิก็คงไม่แปลก แต่การที่เค้าอยู่เฉยๆแล้วไปยกเค้ามาด่ามันไม่ใช่เรื่องเอาซะเลย
ผมอยากให้ห้องบอลไทยของเรา และแฟนบอลไทย กลับมาอยู่ในจุดที่ถกเถียงกันในจุดที่ควรจะเป็นมากกว่า ว่าทำไมคนนี้สมควรติด หรืออยากให้ติดเพราะอะไร หรือเห็นต่างจากคนที่มาแย้งอย่างไร ไม่ใช่ไปยกเรื่องอื่นใดมาโจมตีกันแบบนี้
สำหรับผม กับการเรียกตัวของซิโก้ในคิงส์คัพครั้งนี้ แน่นอนว่ามีเรื่องที่ขัดใจบ้างอยู่แล้ว และก็มีคนที่คิดว่าสมควรจะติดเพราะอะไรอย่างไรเช่นกัน แต่นั่นคือกรอบของการแสดงความคิดเห็น ซึ่งในเมื่อซิโก้มองในมุมมองที่ต่างออกไป เราก็ได้แค่วิพากษ์วิจารณ์์ในฐานะแฟนบอล แต่ก็ยังเคารพในการตัดสินใจของโค้ช มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่อยากตำหนิคือการเรียกนักเตะของ ชลบุรี และ BG เข้ามา แล้วโยนความกดดันกลับไปให้สโมสรเท่านั้นที่ผมมองว่านี่คือสิ่งเดียวที่ ซิโก้สมควรถูกตำหนิจริงๆในการเรียกตัวครั้งนี้ เพราะนี่มันเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ นอกนั้นทุกอย่างเป็นเรื่องของการแสดงความเห็นที่แตกต่างกันได้ในฐานะแฟนบอลที่ทุกควรพึงมี ส่วนเรื่องโค้ชชิ่งการฝึกสอนอะไรพวกนี้คงไม่ก้าวล่วง เพราะคิดว่าซิโก้ทำได้ดีอยู่แล้ว
ส่วนกับประเด็นบุรีรัมย์ไม่ปล่อยตัว ผมอยากให้คอยอย่างใจเย็น และอย่าไปเต้นตามสื่อเสี้ยมทั้งหลาย แน่นอน ประวัติบุรีรัมย์ไม่ปล่อยตัวมันมีจริงๆ แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้น ไม่งั้น บุรีรัมย์ คงไม่ปล่อยนักเตะมาร่วมทีม U22 อุ่นกับญี่ปุ่น ถึง 5 คน ทั้งๆที่เป็นแมตช์ฉุกละหุก แถมมีนักเตะที่ยังเจ็บอยู่ ก็ยังปล่อยมาให้ทีมชาติเป็นคนพิจารณาสภาพความฟิตเองด้วยซ้ำ ในเมื่อแนวโน้มอะไรๆก็กำลังดีขึ้นแบบนี้ ถ้าเรายังเสพข่าวเสี้ยมที่มาหากินกับกระแสบอลไทยอย่างไร้จรรยาบรรณ แล้วไปเต้นตามจนกลายเป็นกระแสรุนแรงลากไส้กันไปมาแบบนี้ สถานการ์ณที่กำลังจะคลี่คลายไปได้ (ถ้าสมาคมบริหารจัดการให้ดีขึ้นด้วย) มันก็อาจจะกลายเป็นสร้างความบาดหมางกันเสียเปล่าๆของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายๆ ทั้งๆที่ตัวทั้ง 2 ฝ่ายนั้น อาจไม่ได้มีปัญหากันอย่างที่สื่อนำเสนอหรืออาจะเคลียร์กันลงตัวไปนานแล้วก็ได้
สุดท้ายขอทิ้งท้ายว่า ซิโก้ ก็คือคนธรรมดาเหมือนเรานี่แหล่ะ เค้าอาจจะเก่ง เค้าอาจจะรับมือกับสิ่งที่ผ่านมาได้ดี แต่เค้าก็มีสิทธิ์ก้าวพลาดได้ ตัดสินใจพลาดได้ เราทุกคนก็มีสิทธิ์ตำหนิได้ เค้าไม่ใช่เทวดาที่ไหนที่จะวิพากษณ์วิจารณ์อะไรไม่ได้เลย แต่มันก็ควรจะอยู่ในขอบเขตของเหตุผล และความเป็นจริง ไม่ใช่ลากซิโก้ออกมาให้ด่าด้วยเจตนาของสื่อเสี้ยม เพื่อให้อีกฝ่ายที่พร้อมจะปกป้องออกมาด่าคนที่มาวิพากษ์วิจารณ์ซิโก้เช่นกัน ผมขอประนามสื่อพวกนี้ไว้เลยว่าไม่ว่าคุณจะเจตนามากน้อยแค่ไหน แต่การกุข่าวที่ไม่เป็นจริงให้คนแตกคอจะได้เป็นประเด็นเพื่อขายข่าวแบบนี้ คุณมันไร้จรรยาบรรณและกาฝากของชาติจริงๆ
ซิโก้ไม่ใช่เทพบุตร หรือเทวดาที่ไหน ที่ใครจะมาแตะต้องหรือวิจารณ์ไม่ได้เลย
แต่ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลคือ ไอที่กลายเป็นประเด็นกันอยู่เนี่ย ซิโก้ไม่ได้พูดเลยแม้แต่น้อย ยิ่ง 2 ฝ่ายแตกกันมากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่าแฟนบอลไทยกลายเป็นเครื่องมือของสื่อที่ไร้จรรยาบรรณออกข่าวเสี้ยมเพื่อขายข่าวแต่ไม่สนใจผลกระทบถึงสิ่งที่ตามมากับฟุตบอลไทยเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่า ประเด็นการเรียกตัวอาจจะร้อนแรงบ้างว่าทำไมคนโน้นติด ทำไมคนนี้ไม่ติด ทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ถึงมันจะร้อนแรงยังไง หรือต่อให้ซิโก้ตัดสินใจผิดจริงๆหรือไม่ มันก็ยังเป็นการถูกวิจารณ์ที่อยู่ในกรอบของแฟนบอลที่ต้องการแสดงความคิดเห็น ในมุมมองต่างๆที่อยากเห็นทีมชาติไทยแข็งแกร่งและมีอนาคต
แต่กับการกระทำของสื่อเสี้ยมที่ผมไม่แน่ใจว่าต้นข่าวมาจากสำนักไหน (ถ้าจำไม่ผิดไม่ใช่สื่อที่หลายๆคนยี้นะครับ) มันทำให้เกิดประเด็นที่เกินขอบเขตของการแสดงความเห็นที่แตกต่างมากเกินไปจนบานปลายไปพอสมควร กลายเป็นแบ่งฝ่ายกันไปกลายๆแล้วด้วยซ้ำ หยิบยกเรื่องโน้นเรื่องนี้มาโจมตี เพื่อจะยกให้อีกฝั่งอีกฝ่ายเหนือกว่า สร้างความเกลียดชังกลายๆให้กับนักฟุตบอลที่เจ้าตัวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรใดๆเลยกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งๆที่ผ่านมาทุกคนที่ถูกหยิบยกขึ้นมาก็ล้วนแล้วแต่เต็มที่เพื่อชาติเสมอมา ซึ่งเค้าเหล่านั้นถ้าทำผิดแล้วถูกตำหนิก็คงไม่แปลก แต่การที่เค้าอยู่เฉยๆแล้วไปยกเค้ามาด่ามันไม่ใช่เรื่องเอาซะเลย
ผมอยากให้ห้องบอลไทยของเรา และแฟนบอลไทย กลับมาอยู่ในจุดที่ถกเถียงกันในจุดที่ควรจะเป็นมากกว่า ว่าทำไมคนนี้สมควรติด หรืออยากให้ติดเพราะอะไร หรือเห็นต่างจากคนที่มาแย้งอย่างไร ไม่ใช่ไปยกเรื่องอื่นใดมาโจมตีกันแบบนี้
สำหรับผม กับการเรียกตัวของซิโก้ในคิงส์คัพครั้งนี้ แน่นอนว่ามีเรื่องที่ขัดใจบ้างอยู่แล้ว และก็มีคนที่คิดว่าสมควรจะติดเพราะอะไรอย่างไรเช่นกัน แต่นั่นคือกรอบของการแสดงความคิดเห็น ซึ่งในเมื่อซิโก้มองในมุมมองที่ต่างออกไป เราก็ได้แค่วิพากษ์วิจารณ์์ในฐานะแฟนบอล แต่ก็ยังเคารพในการตัดสินใจของโค้ช มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่อยากตำหนิคือการเรียกนักเตะของ ชลบุรี และ BG เข้ามา แล้วโยนความกดดันกลับไปให้สโมสรเท่านั้นที่ผมมองว่านี่คือสิ่งเดียวที่ ซิโก้สมควรถูกตำหนิจริงๆในการเรียกตัวครั้งนี้ เพราะนี่มันเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ นอกนั้นทุกอย่างเป็นเรื่องของการแสดงความเห็นที่แตกต่างกันได้ในฐานะแฟนบอลที่ทุกควรพึงมี ส่วนเรื่องโค้ชชิ่งการฝึกสอนอะไรพวกนี้คงไม่ก้าวล่วง เพราะคิดว่าซิโก้ทำได้ดีอยู่แล้ว
ส่วนกับประเด็นบุรีรัมย์ไม่ปล่อยตัว ผมอยากให้คอยอย่างใจเย็น และอย่าไปเต้นตามสื่อเสี้ยมทั้งหลาย แน่นอน ประวัติบุรีรัมย์ไม่ปล่อยตัวมันมีจริงๆ แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้น ไม่งั้น บุรีรัมย์ คงไม่ปล่อยนักเตะมาร่วมทีม U22 อุ่นกับญี่ปุ่น ถึง 5 คน ทั้งๆที่เป็นแมตช์ฉุกละหุก แถมมีนักเตะที่ยังเจ็บอยู่ ก็ยังปล่อยมาให้ทีมชาติเป็นคนพิจารณาสภาพความฟิตเองด้วยซ้ำ ในเมื่อแนวโน้มอะไรๆก็กำลังดีขึ้นแบบนี้ ถ้าเรายังเสพข่าวเสี้ยมที่มาหากินกับกระแสบอลไทยอย่างไร้จรรยาบรรณ แล้วไปเต้นตามจนกลายเป็นกระแสรุนแรงลากไส้กันไปมาแบบนี้ สถานการ์ณที่กำลังจะคลี่คลายไปได้ (ถ้าสมาคมบริหารจัดการให้ดีขึ้นด้วย) มันก็อาจจะกลายเป็นสร้างความบาดหมางกันเสียเปล่าๆของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายๆ ทั้งๆที่ตัวทั้ง 2 ฝ่ายนั้น อาจไม่ได้มีปัญหากันอย่างที่สื่อนำเสนอหรืออาจะเคลียร์กันลงตัวไปนานแล้วก็ได้
สุดท้ายขอทิ้งท้ายว่า ซิโก้ ก็คือคนธรรมดาเหมือนเรานี่แหล่ะ เค้าอาจจะเก่ง เค้าอาจจะรับมือกับสิ่งที่ผ่านมาได้ดี แต่เค้าก็มีสิทธิ์ก้าวพลาดได้ ตัดสินใจพลาดได้ เราทุกคนก็มีสิทธิ์ตำหนิได้ เค้าไม่ใช่เทวดาที่ไหนที่จะวิพากษณ์วิจารณ์อะไรไม่ได้เลย แต่มันก็ควรจะอยู่ในขอบเขตของเหตุผล และความเป็นจริง ไม่ใช่ลากซิโก้ออกมาให้ด่าด้วยเจตนาของสื่อเสี้ยม เพื่อให้อีกฝ่ายที่พร้อมจะปกป้องออกมาด่าคนที่มาวิพากษ์วิจารณ์ซิโก้เช่นกัน ผมขอประนามสื่อพวกนี้ไว้เลยว่าไม่ว่าคุณจะเจตนามากน้อยแค่ไหน แต่การกุข่าวที่ไม่เป็นจริงให้คนแตกคอจะได้เป็นประเด็นเพื่อขายข่าวแบบนี้ คุณมันไร้จรรยาบรรณและกาฝากของชาติจริงๆ