สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกใน pantip เลยคับอยากจะมาบอกเล่าประสบณ์การ ช่วงปีใหม่ที่ได้แบกเป้ไปเที่ยวมา เริ่มจากความอัดอั้นตันใจ
เรียนๆสอบๆไม่ได้เที่ยวสักที เลยเปิดประเด็นชวนเพื่อนไปเที่ยว ม่อนจอง ก็มีคนอยากไปอย่างล้นหลาม ไปบ้างไม่ไปบ้าง สุดท้ายเหลืออยู่ 3 คน
เป็นเพื่อนและรุ่นพี่ที่เรียน อยู่ด้วยกัน แต่เมื่อ เหลืออยู่ 3 คนค่ารถค่าใช้จ่ายก็เพิ่มมากขึ้น เลยคุยกันว่า เปลี่ยนแผนไม่ไปม่อนจอง แต่จะไปที่ไหนค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน จึงมีแต่แผนคร่าวๆ ให้ใช้เป็นสารณะ ว่าปางอุ๋งและกัน
ปล. นี้เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเขียนอะไรแบบนี้ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะครับ หวังว่า จะเป็นแรงบรรดาลใจให้ใครหลายคน
ที่ยัง ไม่ได้ออกไปไหน ยังตามหาไอเดียร์แรงกระตุ้นในการใช้ชีวิต ออกเดินทาง เพื่อค้นพบสิ่งที่มีแต่ตัวคุณเองจะเข้าใจครับ
26/12/57
นัดรวมตัวที่ร้านกาแฟ Chu-Bai ร้านกาแฟเล็กๆในคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กะว่าจะนั่งรถไปถ่ายรูปที่หัวลำโพงก่อนเปิดตัวแบบเท่ห์ๆ ก็นั่งรถไปลง
ที่รถไฟฟ้าใต้ดิน แต่เนื่องจากลืมไปว่ามีทั้งมีดทั้งแก๊สกระป๋อง เค้าเลยไม่ให้เราขึ้นรถไฟฟ้า ๕๕ เลยต้องนั่งรถกลับมาที่ สถานีรถไฟบางเขน ระหว่าง
รอแนะนำให้ข้ามมานั่งตากแอร์กินกาแฟซื้อขนมได้ที่ รพ. วิภาวดี
13:00 รถไฟมาตรงเวลาเปะๆ คนแน่นบรม เราทำการโยนสัมภาระไว้ที่ตู้ใดตู้หนึ่งก่อนแล้วส่งม้าเร็วไปหาที่นั่ง แล้วค่อยกลับมาเอากระเป๋าทีหลัง ตั๋วเรา
ตี Standee เพราะฉนั้นถ้าเจ้าของที่มาไล่เราก็ต้องยืนตามระเบียบ แต่ด้วยความโชคดี ที่เราออกเดินทางวันธรรมดาคนเลยน้อยกว่าปกติ เราก็เลยได้นั่งยาวเลย
ด้วยความโชคดีไปอีก สถานีไหนไม่มีคนเราไม่จอด ไม่ต้องตัดตู้ที่ลำปาง ทำให้การเดินทางที่คาดไว้ว่า 18 ชม. แน่ๆ เลยเหลือแค่ 15 ชม.
ถึง ภาชี ก็เจอของเด็ด "ไอติมภาชี ถ้วย5บาท" เพื่อนจ่ายแบงค์ร้อย โดนตะโกนด่ามาว่า "ไม่มีทอน ไม่ขาย"
5555 เลยต้องซื้อเลี้ยงหลายถ้วย
หลังจากอาทิตย์ลับขอบฟ้าเทเลทอบบี้บอกลา วิวสวยๆ ก็ไม่มีให้เห็น
อยู่ๆน้องที่นั่งตรงข้ามก็มี เศษบางอย่างเข้าตา
เราจึงต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นกัน ทั้งขำทั้งเป็นห่วง น้องมันนั่งร้องไห้ อยู่นานมากๆอยู่ๆก็บอกอ่าวพี่ออกละ
เราจึงสรุปกันว่าเป็น ฝุ่นมโนเหล็กรถไฟ เข้าตาน้อง
พอ ถึงเด่นชัยเราก็พอจะยืดเหยียดขาได้ คนน้อยหละ
ถึง ลำปาง นี้ ตีตั๋วนอนจ้า
27/12/57
เดินทางถึง ตอน 04:00น รถไฟฟรีงวดนี้เลยเป็นอะไรที่ โอเครมากๆ ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดเลย ล้างหน้าล้างตาเสร็จ กินมาม่าเสดก็ขอหลับต่ออีกสีกงีบที่สถานนี
บริเวณเก้าอี้แสนคลาสสิค
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หกโมงกว่าเดินไปถ่ายรูปไป มาได้ตุ๊กๆใจดีที่ไนท์บาซ่า แนะนำร้านอาหาร ช่วยยกกระเป๋าแล้ว แนะนำนู้นนั้นนี่อีก
ลงรถเหลือบไปเห็นร้านไข่กะทะ จัดร้านดูฮิโซ เข้าเลยจ้า อาหารอร่อยกินอย่างเยอะ มีโจ๊กข้าวต้มไข่กะทะขนมปังลูกชิ้นทอด และแอบเดินไปซื้อลาบคั่วจากตลาด
ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ทั้งหมด 180+20 ราคานี้อิ่ม3คน เดินข้ามถนนมา กินกาแฟชิลๆที่ร้าน คอฟฟีฟรีทาม ร้านนี้กาแฟดีเค็กอร่อย(นิวยอกชีท)แล้วใกล้ๆก้มีเสื้อหนาวขายเพียบ
ตั้งแต่ 125-500 เสดแล้วก็ข้ามถนน จาก ประตูเชียงใหม่ มาขึ้นรถเหลือง 35บาทไปตีนดอยอินทนนท์ เสร็จแล้ว ขึ้นรถต่อไป จุดกางเต้นเค้าถามว่าเหมาไหม
เราเลยปฎิเสธแล้วไปขึ้นอีกต่อ โดนไป70 เด็ดตรงที่ 2แถวเหลืองคันนี้บอกเราว่า 10คนแล้วออกเลย แต่จุคนทั้งสิ้น 28 ครับ28คน เลยต้องมาห้อยโหนอยุ่ด้านนอก
ถึงจุดกางเต้น 30บาท กางเต้นเสร็จก็ทำธุระส่วนตัวแล้วออกไปเดินเล่นเข้าไปในหมู่บ้านม้งใกล้ๆ ก็ได้บรรยากาสอีกแบบก่อนจะลงมากินมาม่าที่เต้น
คุณลุงตุ๊กๆ
ถึงประตูเชียงใหม่ มีตลาดเช้า
เสื้อหนาวราคาถูก
คอฟฟี่ฟรีทาม ร้านน่านั่ง อยู่ตรงข้ามตลาด
เนื่องจากกระเป๋าอันใหญ่โต ก็เลยต้องเอาขึ้นหลังคา
ได้ถอดรองเท้าครั้งแรก
อุปกรณ์กันหนาว
นักท่องเที่ยวก็เริ่มกางเต้นท์หาที่นอน
สำหรับที่นี่ เครื่อข่ายอาจไม่สำคัญเท่าไร
เด็กๆที่นี้
คนที่โตหน่อยก็ต้องมีภาระหน้าที่
28/12/57
ตื่น 04:30 โบกรถขึ้นกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิ ณ จุดกางเต้นราว 7 ไม่หนักหน่าเท่าไหร แต่ท้ายกระบะนี่ปะทะลมสุดๆ ขึ้นไปถึงกิ่ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ของกินเพียบ รอถ่ายรูปอาทิตย์ขึ้นคนเยอะตามระเบียบ
ถ่ายรูปเสร็จก็ติดแต่คนเต็มไปหมดขาตั้งกล้องที่เอาไปก็สะง๊อกสะแง๊ก เลยจะเดินไปทางศึกษาธรรมชาติกิ่งแม่ปาน คนล้นออกมาเลยแล้วต้องจ้างไกด์ด้วย เราเลยตัดสินใจไม่เสียเงิน
โบกรถต่อขึ้นไปยอดดอย เดินวนเป็นพิธี แล้วก็โบกรถลงมา เก็บเต้นท์แล้ว โบกรถลงมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ หลายต่อหลายคันแต่ก็ฟรีเน้นฟรี แวะพักชาจไฟกล้องโทรศัพท์ชาจคนกะเวลาพลาดไปหน่อยเนื่องจาก เมมกล้องเต็มเลยต้องไปหาอัดลงแผ่นเสียเวลาไปอีก รีบขึ้นสองแถวไปถึงหน้า มช. ก็เย็นแล้วเลยหารถที่จะขึ้นไปดอยปุยไม่ได้เลยตัดสินใจขึ้นสองแถว
ไปที่ดอยสุเทพก่อนค่อยไปหารถขึ้นไปลานกางเต้นท์ดอยปุย แต่เนื่องจากเย็นมากรถไม่มี เหล่าสองแถวแดงก็พยามขายแพคเกจให้ ไปไหม 800 บ้าง 900 บ้าง โชคดีเจอน้องคนนึงบอก
"นี่ไงพี่นอนที่นี้หละ ของดอยสุเทพนะ เป็นอุทยานแห่งชาตินะ กางเต้นท์ได้ อยู่ไม่ไกลเลยไปหน่อยเดียว" เหล่าสองแถวก็ยังพยามขายแพคเกจต่อไป 100 เดียวเดี๊ยวไปส่ง
แต่ด้วยความงกและจำได้ว่าอยู่ไม่ไกลมากนะเลย เดินแบกกระเป๋าไปอีกนิดเดียว ก็ถึงทางเข้าลาดกางเต้นท์ มีร้านค้าสวัสดิการ ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมวิวเมืองเชียงใหม่
ยามค่ำคืนด้วย
โบกรถไป
ของกินเพียบ
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว คนเยอะตามเทศกาล
เราเลยต้องหามุมใหม่เพื่อไม่ให้ติดคน
พอสักพักคนก็เริ่มน้อยลง
โบกรถขึ้นไปดู ป้ายสูงสุดเดินวน1รอบเป็นพิธี
โบกรถกลับไปลานกางเต้นท์
บ้านน้อยของเราเมื่อคืน คืนนี้ และอีกหลายคืน
โบกกะบะลงจากดอย
นั่งรถบ้าง เดินบ้างปะปนกันไป ได้เจออะไรหลายอย่างระหว่างทาง
ถึงตัวเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง แวะหาที่พักชาจพลังสักแปป
ร้านกาแฟเล็กๆน่ารัก เดินเลยจากคอฟฟี่ฟรีทามเข้ามาอีก 2-3 ร้อยเมตร
เจ้าของบอกกับเราว่า เป็นบ้านเดิมของเค้าเอง แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นร้านทีหลัง
ส่วนตัวผมชอบมุมนี้ของร้านที่สุด
เนื่องจาก รีบมากการเดินทางช่วงขึ้นดอยเลยไม่ได้ถ่ายไว้ถ่ายได้แค่ จุดชมวิวหลังจากกางเต้นท์เสร็จแล้ว
[CR] 7 D A Y S 1 2 O O M I L E โบกรถเที่ยวเชียงใหม่-ปางอุ๋ง (PAST 1)
เรียนๆสอบๆไม่ได้เที่ยวสักที เลยเปิดประเด็นชวนเพื่อนไปเที่ยว ม่อนจอง ก็มีคนอยากไปอย่างล้นหลาม ไปบ้างไม่ไปบ้าง สุดท้ายเหลืออยู่ 3 คน
เป็นเพื่อนและรุ่นพี่ที่เรียน อยู่ด้วยกัน แต่เมื่อ เหลืออยู่ 3 คนค่ารถค่าใช้จ่ายก็เพิ่มมากขึ้น เลยคุยกันว่า เปลี่ยนแผนไม่ไปม่อนจอง แต่จะไปที่ไหนค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน จึงมีแต่แผนคร่าวๆ ให้ใช้เป็นสารณะ ว่าปางอุ๋งและกัน
ปล. นี้เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเขียนอะไรแบบนี้ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะครับ หวังว่า จะเป็นแรงบรรดาลใจให้ใครหลายคน
ที่ยัง ไม่ได้ออกไปไหน ยังตามหาไอเดียร์แรงกระตุ้นในการใช้ชีวิต ออกเดินทาง เพื่อค้นพบสิ่งที่มีแต่ตัวคุณเองจะเข้าใจครับ
26/12/57
นัดรวมตัวที่ร้านกาแฟ Chu-Bai ร้านกาแฟเล็กๆในคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรฯ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึง ภาชี ก็เจอของเด็ด "ไอติมภาชี ถ้วย5บาท" เพื่อนจ่ายแบงค์ร้อย โดนตะโกนด่ามาว่า "ไม่มีทอน ไม่ขาย"
5555 เลยต้องซื้อเลี้ยงหลายถ้วย
หลังจากอาทิตย์ลับขอบฟ้าเทเลทอบบี้บอกลา วิวสวยๆ ก็ไม่มีให้เห็น
อยู่ๆน้องที่นั่งตรงข้ามก็มี เศษบางอย่างเข้าตา
เราจึงต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นกัน ทั้งขำทั้งเป็นห่วง น้องมันนั่งร้องไห้ อยู่นานมากๆอยู่ๆก็บอกอ่าวพี่ออกละ
เราจึงสรุปกันว่าเป็น ฝุ่นมโนเหล็กรถไฟ เข้าตาน้อง
พอ ถึงเด่นชัยเราก็พอจะยืดเหยียดขาได้ คนน้อยหละ
ถึง ลำปาง นี้ ตีตั๋วนอนจ้า
27/12/57
เดินทางถึง ตอน 04:00น รถไฟฟรีงวดนี้เลยเป็นอะไรที่ โอเครมากๆ ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดเลย ล้างหน้าล้างตาเสร็จ กินมาม่าเสดก็ขอหลับต่ออีกสีกงีบที่สถานนี
บริเวณเก้าอี้แสนคลาสสิค [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คุณลุงตุ๊กๆ
ถึงประตูเชียงใหม่ มีตลาดเช้า
เสื้อหนาวราคาถูก
คอฟฟี่ฟรีทาม ร้านน่านั่ง อยู่ตรงข้ามตลาด
เนื่องจากกระเป๋าอันใหญ่โต ก็เลยต้องเอาขึ้นหลังคา
ได้ถอดรองเท้าครั้งแรก
อุปกรณ์กันหนาว
นักท่องเที่ยวก็เริ่มกางเต้นท์หาที่นอน
สำหรับที่นี่ เครื่อข่ายอาจไม่สำคัญเท่าไร
เด็กๆที่นี้
คนที่โตหน่อยก็ต้องมีภาระหน้าที่
28/12/57
ตื่น 04:30 โบกรถขึ้นกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิ ณ จุดกางเต้นราว 7 ไม่หนักหน่าเท่าไหร แต่ท้ายกระบะนี่ปะทะลมสุดๆ ขึ้นไปถึงกิ่ว[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โบกรถไป
ของกินเพียบ
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว คนเยอะตามเทศกาล
เราเลยต้องหามุมใหม่เพื่อไม่ให้ติดคน
พอสักพักคนก็เริ่มน้อยลง
โบกรถขึ้นไปดู ป้ายสูงสุดเดินวน1รอบเป็นพิธี
โบกรถกลับไปลานกางเต้นท์
บ้านน้อยของเราเมื่อคืน คืนนี้ และอีกหลายคืน
โบกกะบะลงจากดอย
นั่งรถบ้าง เดินบ้างปะปนกันไป ได้เจออะไรหลายอย่างระหว่างทาง
ถึงตัวเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง แวะหาที่พักชาจพลังสักแปป
ร้านกาแฟเล็กๆน่ารัก เดินเลยจากคอฟฟี่ฟรีทามเข้ามาอีก 2-3 ร้อยเมตร
เจ้าของบอกกับเราว่า เป็นบ้านเดิมของเค้าเอง แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นร้านทีหลัง
ส่วนตัวผมชอบมุมนี้ของร้านที่สุด
เนื่องจาก รีบมากการเดินทางช่วงขึ้นดอยเลยไม่ได้ถ่ายไว้ถ่ายได้แค่ จุดชมวิวหลังจากกางเต้นท์เสร็จแล้ว