ผมจะฟ้องโรงพยาบาลได้ไหมครับ

สืบเนื่องจากวันที่ 9/11/57 ที่ผ่านมาผมได้พาภรรยาไปผ่าคลอดที่โรงบาลเอกชนแถวบางใหญ่แต่หลังจากผ่าคลอดออกมาแล้วหมอที่ผ่าคลอดแจ้งว่าเด็กมีภาวะผิดปกติโดยเมื่อผ่าออกมาแล้วเด็กไม่ร้อง(เด็กน้ำหนัก 2,560 กรัม เพศหญิง) จึงให้ผมพิจารณาเรื่องที่จะให้ภรรยาทำหมันไว้ก่อนผมจึงตัดสินใจไม่ให้ภรรยาทำหมันแต่ให้ผ่าตัดเอาใส้ติ่งออกได้ (ความตั้งใจแรกคือ ผ่าคลอด ทำหมัน ตัดไส้ติ่ง) หลังจากนั้นหมอที่ดูณแลเด็กได้มาแจ้งว่าเด็กไม่สามารถหายใจได้เองเนื่องจากปอดยังไม่แข็งแรง
เด็กมีภาวะหายใจเหนื่อย ซึ่งดูจากการทำงานของปอดและผิวหนังและรอยส้นเท้าน่าจะเกิดจากเด็กคลอดก่อนกำหนด ประมาณสัปดาห์ที่ 35-36 ยังไม่ถึงกำหนดคลอด แต่หมอที่รับฝากครรภ์ยังยืนยันว่าครบกำหนดคลอดโดยดูจากน้ำหนักของเด็กสอดคล้องกับผลอัลตร้าซาวด์ (ผมให้ภรรยาทำการอัลตร้าซาวด์ 3ครั้ง) โดยก่อนผ่าคลอดหมอที่ทำการรับฝากครรภ์แจ้งว่าอายยุครรภ์ครบ 38 สัปดาห์ สามารถผ่าคลอดได้เลย โดยไม่มีการทักท้วงหรือให้คำแนะนำใดๆว่าอาจจะมีการนับประจำเดือนผิดนับวันไข่ตกผิด ซึ่งถ้ามีการทักท้วงหรือให้คำแนะนำที่ดีกว่านี้ผมคงไม่ให้ภรรยาผ่าคลอดโดยเด็ดขาด (ผมใช้แพ็คเกจฝากครรภ์ 13,500 บาท และใช้แพ็คเกจผ่าคลอด 45,000 และตัดไส้ติ่ง 30,00 บาท) หลังจากผ่าออกมาแล้วทางโรงบาลแจ้งว่าไม่สามารถใช้แพ็คเกจผ่าคลอดได้เนื่องจากเด็กมีภาวะแทรกซ้อน ต้องแยกค่าใช้จ่ายออกจากกัน เพราะเด็กต้องอยู่ในตู้ NICU ซึ่งหลังจากอยู่ในตู้ได้สองวันทางโรงบาลได้มาสอบถามว่าสามารถสู้ค่าใช้จ่ายไหวหรือเปล่าเด็กต้องอยู่ในตู้อีหลายวัน ผมจึงถามกลับไปว่าตอนนี้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่แล้วเขาแจ้งว่าของแม่ 41,000 ของลูก 75,000 ผมตกใจมากว่าทำไมมันแพงจังแค่สองวันเองทางโรงบาลไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดขของเรา เราเชื่อหมอทุกอย่าง ทางโรงบาลเขาบอกว่าผู้บริหารลดค่ายาให้แล้ว 5% ประมาณ 1,200 บาท โอ้แม่เจ้าผมฟังแล้วอึ้ง ผมจึงทำเรื่องขอเปลี่ยนโรงพยาบาลโดยย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ โดยใช้สิทธิ์บัตรทอง(สิทธิ์ว่าง) ซึ่งลูกผมต้องใช้อ๊อกชิเจนที่มีท่อต่อลงไปที่ปอดอยู่ประมาณสองสัปดาห์กว่าๆติดเชื้อแบททีเรียและเชื้อราในกระแสเลือดให้ยาฆ่าเชื้อ 28 ว้นให้เกร็ดเลือด เจาะแขน เจาะขา เจาะหัว จนไม่มีที่จะให้เจาะเพื่อให้น้ำเกลือให้ยา ให้เลือด และต้องอยู่ในตู้ NICU อีกเดือนกว่ารวมเวลาที่อยู่โรงพยาบาลทั้งสิ้น 49 วันตอนนี้กลับมาอยู่บ้านแล้วแต่ยังไม่วางใจ 100% เพราะยังมีอาการตัวเย็น ท้องอืด ไทรอยด์ต่ำ ซีด ต้องให้ยาทุกวัน ตลอดเวลาที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ภรรยาผมต้องนั่งแท็กซี่จากบ้านที่บางใหญ่ไปเยี่ยมทุกวันและผมต้องขับรถจากนิคมไฮเทคอยุธยามาเยี่ยมลูกทุกวันหลังเลิกงาน สุขภาพจิตเสีย นอนไม่หลับไม่อยากจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ เพราะหมอบอกว่าให้ทำใจและถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบทางโทรศัพท์ หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่เห็นลูกโดนเจาะทั่วตัวมีสายระโยงระยางทั่วตัว น้ำตาไหลทุกครั้งที่เห็น ผมไม่อยากให้พ่อแม่คนอื่นเจอแบบผมอีกเพียงเพราะว่าเชื่อหมอทุกอย่าง หมอบอกว่าครบกำหนดสามารถผ่าคลอดได้แล้วโดยไม่ให้คำแนะนำไดๆที่เป็นจุดเสี่ยงเลย ซึ่งถ้าให้คำแนะนำมาว่าอาจจะมีโอกาสนับวันประจำเดือนผิด นับวันไข่ตกผิด ถ้าไม่ปวดท้องควรจะรอให้ครบกำหนดจริงๆก่อนดีกว่าเพราะมันอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาได้ ผมจึงอยากจะฟ้องร้องเรียกหาความยุติธรรมที่ผม ภรรยาและลูกสาวควรได้รับกลับคืนมาและไม่อยากให้ใครเจอแบผมอีก เพื่อนๆคิดว่าถ้าผมฟ้องผมจะชนะคดีไหมครับ และผมต้องไปฟ้องที่ไหนขอคำแนะนำด้วยครับ  ผมกับภรรยาเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงดีครับ ภรรยาอายุสามสิบปี ลูกชายคนแรกก็ฝากท้องที่โรงพยาบาลนี้ แต่ว่าไปคลอดที่ศิริราช คลอดเองครับ (เคยส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ สคบ.ทางช่องออนไลน์แล้ว แต่ สคบ.แจ้งบอกว่าไม่มีอำนาจและไม่มีกฎหมายรองรับให้หาช่องทางอื่นหรือให้ไปหาทนายยื่นฟ้องเอาเอง ผมไม่อยากเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกมีทางไหนที่จะดำเนินการง่ายๆได้บ้างครับ)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
หมอเขาทำ Ultrasoundให้ภรรยาคุณ ตั้งหลายครั้งนะครับที่จะประเมินว่าอายุครรภ์กี่สัปดาห์
ไม่ได้เชื่อถือแค่การนับวันที่ประจำเดือนไม่มาหรือนับวันตกไข่อย่างเดียว(ซึ่งเชื่อถือได้น้อยมาก)
คุณโทษหมอก็ไม่ถูก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่