10 กุนซือไร้สังกัด 3 ดิวิชั่นไทย

เฮดโค้ชมากฝีมือ ที่เคยฝากลวดลายฝีมือไว้กับทั้ง 3 ลีกของไทย ที่ยังว่างงานในขณะนี้
ฟุตบอลลีกของไทย ฤดูกาล 2015 ใกล้จะเริ่มเปิดฉากกันแล้ว นับจากนี้ก็เหลืออีกเพียงเดือนกว่าๆ หลายทีม (หรืออาจจะส่วนใหญ่) ก็เตรียมทีมกันไปไกล ได้โค้ช ดึงนักเตะ กันไปเป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่บางทีมก็ยังปรึกษาหารือกันอยู่ ว่าปีนี้เราจะเอาอย่างไรกันดี กับนักเตะที่เหลือ กับงบที่มี กับเป้าหมายที่ต้องการ จะเอาใครมาเป็นโค้ช
ฟุตบอล 3 ลีก รวมแล้วนับได้เกินกว่า 120 ทีม น่าแปลกใจ ที่ตอนนี้ยังมีกุนซือดังๆ ตกงานกันอยู่อีกเพียบ ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ บางคนอาจจ่อได้สังกัดเร็วๆ นี้ บางคนอาจได้เสียบเข้าตอนเลกที่ 2 หรือกลางเลกใดเลกหนึ่ง หรืออาจจะยังว่างงานกันต่อไป เรามาดูกันว่า ตอนนี้มีใครบ้าง ที่ชื่อ(น่าจะ)พอคุ้นหู แล้วยังไม่มีงานทำกันบ้าง
1. วรวรรณ ชิตะวณิช "โค้ชป้ำ" อดีตนักเตะราชประชา ถือเป็นหนึ่งในนักเตะไทยหนึ่งในไม่กี่คนที่มีโอกาสไปค้าแข้งในลีกญี่ปุ่น และในยุโรปอย่างเดนมาร์ก  ก่อนก้าวมาเป็นกุนซือบีอีซี-เทโร ศาสน  แล้วออกเดินทางไปสร้างชื่อกับการทำทีมในเอสลีก ของสิงคโปร์ เป็นเวลาถึง 12 ปี ทั้งเซมบาวัง และเทมปิเนส โรเว่อร์  ก่อนถูก เอสซีจี สมุทรสงคราม ยุครุ่งเรือง ดึงตัวกลับมาคุมทีมในเมืองไทย (ก่อนหน้านี้เตรียมเป็นเฮดโค้ช บุรีรัมย์ เอฟซี ยุคดิวิชั่น 2 แต่สุดท้ายต้องพับแผนไป เพราะทางเทมปิเรส ท้วงมาว่ายังมีสัญญาเหลือกันอีก 3 เดือน) และโยกลงมาในระดับดิวิชั่น 2 กับอ่างทอง เอฟซี พร้อมพาทีมคว้าแชมป์โซนภาคกลางตะวันตก ขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ โดยล่าสุดแยกทางกันหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2014
2. ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก "โค้ชเบ๊" ลูกหม้อเก่าของ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี อยู่กับทีมมาตั้งแต่เป็นนักเตะ จนขยับมาเป็นสตาฟฟ์โค้ช และขึ้นสู่ม้านั่งกุนซือใหญ่อย่างเต็มตัว ในฤดูกาล 2010 รวมเป็นเวลากว่า 10 ปี แต่สุดท้ายต้องอำลาทีมในช่วงต้นฤดูกาล 2013 เมื่อผลงานทีมไม่สู้ดีนัก ก่อนเข้ามารับงานกับบางกอก เอฟซี ในฤดูกาล 2014 และต้องขอแยกทางกัน ในช่วงท้ายฤดูกาล เนื่องจากจ่อหลุดจากโควต้าเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีลีกไปทุกขณะ  โดยในปี 2556 เคยรับภารกิจคุมทีมชาติไทย อายุไม่เกิน 23 ปี ไปคว้าแชมป์รายการแม่โขงคัพ ที่เวียดนาม มาแล้ว
3. รอยเตอร์ โมไรร่า บราซิลหัวใจไทย มีการไหว้เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นหนึ่งในกุนซือที่คลุกคลีกับวงการฟุตบอลไทยมาช้านาน สร้างชื่อมากับการคุมทีมศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ก่อนโยกย้ายไปนครราชสีมา เอฟซี ในยุคดิวิชั่น 1 แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก ต่อมาได้รับหน้าที่ด้วยความคาดหวังพาบางกอก เอฟซี ขึ้นสู่ลีกสูงสุดให้ได้ แต่จบเพียงอันดับ 4 เลยต้องหางานใหม่ ก่อนที่ฤดูกาล 2014 จะยังโลดแล่นอยู่ในลีกวัน กับการพาพิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี ทีมน้องใหม่เก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำในเลกแรก  และในเลกที่ 2 เข้ามากอบกู้สถานการณ์พาภูเก็ต เอฟซี หนีโซนตกชั้นได้สำเร็จ
4. สุรชัย จิระศิริโชติ "โค้ชจั๊บ" หนึ่งในอดีตแผงหลังชุดดรีมทีมของทีมชาติไทย หลังแขวนสตั๊ดกับเกย์ลัง ยูไนเต็ด ทีมในเอสลีก สิงคโปร์ ก็กลับมาเอาดีเป็นพ่อค้าหมูปิ้ง ก่อนที่จะเริ่มจับงานโค้ชกับ เอฟซี ภูเก็ต ในฤดูกาล 2011 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเข้าเมืองกรุงมาทำราชวิถี ในฤดูกาลต่อมา  ในฤดูกาล 2014 ได้กลับมาจับงานโค้ชอย่างเต็มตัวอีกครั้งกับทีมเจ้าบุญทุ่มในดิวิชั่น 2 ทั้งไทยฮอนด้า และ เกร็กคู ทัพฟ้า ปทุมธานี เอฟซี แต่ผลงานยังไม่เข้าเป้า จนต้องแยกทางกัน ในช่วงปลายเลกที่ 2 ได้เข้ามารับเผือกร้อนกับพิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี  พาทีมกลับมามีลุ้นรอดตกชั้นจนถึงนัดรองสุดท้าย ถือว่าทำให้ตนเองเนื้อหอมขึ้นมาอีกครั้ง แต่ ณ ขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฎว่ารับงานให้กับทีมใดต่ออีก
5. อภิชาต โมสิกะ "โค้ช โม" ขรัวเฒ่าเมืองเชียงใหม่ เริ่มต้นกับการคุมทีมเชียงใหม่ เอฟซี .ในดิวิชั่น 2 และถือเป็นอดีตกุนซือคู่บุญของระยอง เอฟซี กับการเข้าๆ ออกๆ มารับงานและกอบกู้วิกฤติทีม ทั้งในยุคดิวิชั่น 2 ดิวิชั่น 1 และภายหลังจากร่วงหล่นลงมาสู่ดิวิชั่น 1 อีกครั้ง จนล่าสุดอำลาทีมในช่วงปลายเลกที่ 1 ของฤดูกาลก่อน รวมถึงเป็นอีกหนึ่งกุนซือที่เข้ามารับเผือกร้อนกับพิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี ทำผลงานได้ค่อนข้างประทับใจแฟนบอล ก่อนจะขออำลาไปเข้าอบรมเอ-ไลเซนส์ โดยปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับงานบัญชาเกมให้กับทีมใด
6. กฤษณ์ สิงห์ปรีชา "โค้ชโป้ง" ตำนานโค้ชของ “อาชาผยอง” นอร์ทกรุงเทพ ผู้เคยพาทีมไปบู๊ในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งคุมทีมมายาวนานถึง 11 ปี ตั้งแต่ยังเป็นทีมสมัครเล่นระดับมหาวิทยาลัย จนก้าวมาสู่ถ้วยพระราชทาน ง. จนถึง ข. และขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ  หลังอิ่มตัวกับการทำทีมอันแสนยาวนาน ได้พักผ่อนระยะหนึ่งในช่วงต้นเลกแรกของฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนไปโชว์ฝีมืออีกครั้งกับทีมในดิวิชั่น 1 อย่างตราด เอฟซี พาทีมหนีโซนแดง และแยกย้ายกันไปอีก
7. จตุพร ประมลบาน "โค้ชจุ่น" กุนซือรายนี้ผลงานเจิดจรัสสมัยค้าแข้งกับธนาคารกรุงเทพ  ก่อนที่หลังโรยลาจะหันมาเอาดีด้านกุนซือ โดยรับหน้าที่คุมทีมชาติหญิงไทย หลายรายการ ก่อนมารับงานคุม พัทยา ยูไนเต็ด ในศึกไทยพรีเมียรลีก ตามด้วยเกษตรศาสตร์ เอฟซี ในดิวิชั่น 2 ก่อนจะมา ทีทีเอ็ม เอฟซี ในดิวิชั่น 1 และลาออกไปกลางคันเพื่อมุ่งสมาธิกับการทำฟุตบอลหญิงทีมชาติ หลังจากนั้นกลับมารับงานคุมทีม ยาสูบ-ศุลกากร อีกครั้งในฤดูกาล 2014 ควบคู่กับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จนกระทั่งแยกทางกันหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา
8. ดุสิต เฉลิมแสน "โค้ชโอ่ง" อดีตแบ็กซ้ายดาราเอเชียของทีมชาติไทยยุคดรีมทีม ที่ไปแขวนสตั๊ดกับฮองอันห์ ยาลาย ในลีกเวียดนาม เริ่มต้นจับงานกุนซือกับ ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ในยุคไทยพรีเมียร์ลีก แต่ถือว่ายังล้มเหลวกับบทบาทนี้ครั้งแรก จนต้องอำลาทีมกลางคัน  ก่อนจะโดดไปรับงานในดิวิชั่น 1 กับ ปตท.ระยอง ในฤดูกาลต่อมา และในฤดูกาล 2013 สามารถพาทีม สิงห์ท่าเรือ กลับคืนมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง แต่จากการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารของทีม ทำให้เฮดโค้ชหนุ่มรายนี้ต้องเก็บสัมภาระออกจากถิ่นคลองเตยหลังสิ้นฤดูกาล 2014
9. วรพรรณ ตุ่นต้น “โค้ชเปิ้ล” เฮดโค้ชหนุ่มไฟแรง เริ่มเส้นทางกับการเป็นสตาฟฟ์ในทีมอินทรี เพื่อนตำรวจ ก่อนถูกลงไปแสดงวิชากับลูกอีสาน การบินไทย ทีมน้องของ เดอะโปลิศ ในลีกดิวิชั่น 2  ในฤดูกาล 2012 พร้อมพาทีมผงาดคว้าแชมป์โซนภาคกลางตะวันออกมาได้สำเร็จในฤดูกาล 2013 ต่อมาเมื่อลูกอีสาน เอฟซี ขอแยกเป็นอิสระ โค้ชเปิ้ลจึงต้องหันมาทำทีม นนทบุรี เอฟซี ที่เข้ามาจับมือกับเพื่อนตำรวจ แทน พร้อมใช้นักเตะเยาวชนของทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก เช่นเดิม แต่สุดท้ายผลงานฤดูกาลล่าสุดไม่สู้ดีนัก ทำให้เพื่อนตำรวจต้องยกเลิกการทำทีมเยาวชนในดิวิชั่น 2 พร้อมกับกุนซือรายนี้ต้องตกงานไป
10. ธนบูรณ์ คณะโต “โค้ชเบื๊อก” กุนซือมากประสบการณ์อีกคน ในวัย 55 ปี เคยทำหน้าที่บัญชาการทัพ “ราชันมังกร” ราชบุรี เอฟซี เมื่อครั้งยังโลดแล่นอยู่ในลีกดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2010 ก่อนย้ายไปสมุทรปราการ ยูไนเต็ด, เพชรบุรี เอฟซี และกลับมาทำหน้าที่ในรังปีศาจปู อีกครั้งช่วงกลางฤดูกาล 2013 ก่อนที่จะร่ำลากันไปอีกครั้งเมื่อจบฤดูกาล 2014  หลังทีมพลาดตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแบบได้ลุ้น
จาก: http://www.supersubthailand.com/article/95-1/index.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่