สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมจะมาเล่าถึงการเคาท์ดาวน์คนเดียวของผมครับ
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ในวันที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 เป็นวันๆหนึ่งแหละครับ แต่คนทั่วไปมันจะเรียกว่า "วันสิ้นปี" และแน่นอน มนุษย์บนผืนแผ่นดินไทย กว่า 80% ย่อมต้องทำในสิ่งที่ศักราชนี้จะผ่านไป ไม่ว่าจะ สวดมนต์ ปาร์ตี้ ห้างดังๆ หรือ ชักโครก (เห็นบางคนชนแก้วกันตั้งแต่หัวค่ำ.555) และสิ่งเหล่านี้คนกว่า 90% ไม่ทำคนเดียว ย่อมมีบุคคลที่ 3 4 5 6 จนถึง 10 อยู่ข้างกาย ไม่ว่าจะแฟน เพื่อน ครอบครัว เป็นต้น และก็ยาวไปจนศักราชใหม่ด้วยกันอย่างมีความสุข
แต่คุณอย่าลืม 10% ที่เหลือนั่นสิ ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่อ่านก็เป็น 1 ใน 10% เหมือนผม
ใช่แล้วครับ!! 10%นั้นมี ชายหนุ่มวัย 18ปี คนหนึ่ง แฟนก้ไม่มีเหมือนคนอื่นเขา บวกกับเพื่อนๆก็ไปของเขากันหมดทุกคนเลย เหลือผมเพียงหน่อเดียว ที่ยังฝังรากลึกไว้บนคำว่า "คนเดียว" อย่างเหนียวแน่น (จริงๆผมมีครอบครัวนะครับ แต่ปีนี้อยากกับเพื่อนไรบ้าง)
คืนปีใหม่นี้ผมมีแผนจะนั่ง BigBike ไปท่องราตรีกับพี่สักหน่อย แต่ก่อนจะไปขอไปกินข้าวกับครอบครัวสักหน่อย ที่ Canale House ร้านอาหารที่พึ่งเปิดใหม่มาไม่นานนี่เอง ร้านอาหารอร่อยมากครับ มีดนตรีสดให้นั่งชมด้วย หลังจากกินเสร็จ เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ผมรีบลุกจากโต๊ะ ปล้นเงินจากแม่ไป 300 บาท
และออกจากร้านไปขึ้นรถเมล์ไปบ้านพี่เพื่อนที่จะ ร่อนรอบกรุงกัน!!!!
พอถึงบ้านพี่ปุ้บผมก็นั่งรอ สักพี่พี่ก็บอกผมว่า
"ไม่ไปแล้วต้องเตรียมงานพรุ้งนี้อีก"
เอิ่ม....
ผมหน้าซีดเลยครับ ตอนนี้ก็3ทุ่มครึ่งแล้ว อะไรก้านนนนนนน แผนที่วางเอาไว้เละเทะหมดเลยอ่าาาาา
แล้วคืนนี้ผมจะไปไหนละ ตอนนั้นสมองผมตันเหมือนส้วมตันเลยครับ เอาโซดาไฟมาก็ช่วยไม่ได้จริงๆ
ผมเลยคว้ามือถือมานั่งเปิด Facebook เล่น เผื่อจะคิดอะไรออกได้บ้างแหละ แต่ที่ไหนได้เจอทั้งรูปทั้งสเตตัสคนมีคู่เขาโพสท์หวานกันเต็มมือถือจอขนาด 5 นิ้วของผมหมดเลยอ่าาาาา
เห็นเพื่อนคนนึงมันบอกว่ามันว่าง ผมเลยชวนมันอ้อนวอนมัน แต่มันก็เมินผม เหอะ....เพื่อนดีจริงๆ ผมฟิวส์ขาดมาก หอบข้าวของที่มา นั่งมอไซค์จากบ้านไปป้ายรถเมล์ทันที ในตัวก็มี เสื้อ,กางเกงใน,กางเกงยีนส์,ถุงเท้า,รองเท้าหนัง,เงิน800บาท,มือถือ Lumia1520,และกายหยาบของผมที่กำลังจะเดินทางไป
.
Countdown คนเดียวนั่นเองครับ!!!!!
มหากาพย์การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของชายหนุ่มโสดวัย 18ปี ได้เริ่มขึ้นแล้วครับท่านผู้ชม!!!
ที่ป้ายรถเมล์ตรงกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ในเวลา 4ทุ่ม6นาที
ตอนแรกว่าจะไปนั่งจิบไวน์ที่ JSM ซอยเทียนดัดซะหน่อย แต่ว่าไม่เอาไป Victoria Garden ดีกว่า ผมนั่งรอรถเมล์สาย 84 ครับ
จะขับรถไปไหนกัน? มาเซลกับผมหน่อยเรวววววว
ในเวลา 4ทุ่ม13นาที รถจนรถสาย84 ยูโรมา ข้างในคนประมาณ 5-6 คนได้ ผมเลือกนั่งริมหน้าต่าง จ่ายค่าตั๋วลงป้าย Victoria Garden ราคา 13 บาท และนั่งฟังเพลงด้วยลำโพงโทรศัพท์(เปิดเบาๆเอาแนบหู เพราะลืมเอาหูฟังไป) ระหว่างนั้นก็นั่งมองข้างทางไปพลางๆ ก็พบเห็นซุ้มปาร์ตี้ ที่บางซุ้มก็ตกแต่งไฟแสงสีเสียงเหมือนศาลเจ้า มีร่างทรงสัก 4-5 องค์ ยืนแดนซ์กันกลางซุ้ม เรียกได้ว่ามีให้เห็นกันประปรายกันเลยทีเดียวครับท่านผู้ชม.555
ภาพนี้สื่อความหมายว่า โชเฟอร์นั้นรีบเหยียบมิดไมล์เพื่อที่จะพาผมไปยัง Victoria Garden จนรถรอบข้างมองไม่ทัน
ปล.ภาพนี้ผมตั้ง Speed Shutter ต่ำๆครับ แสงเลยยืดๆย้วยๆดังภาพที่เห็น รถสั่นมากภาพเลยออกเบลอๆ มิได้เหยียบมิดไมล์ดั่งที่กล่าวมาแต่อย่างใด.555
เวลา 4ทุ่ม19นาที ทันทีที่ลงรถตรงป้ายที่ใกล้ Victoria Garden ผมเดินข้ามสะพานลอยและถ่ายรูปนี้ครับ ตอนถ่ายนี่อายคนมากๆครับ
ถ่ายเสร็จก็รีบลงมา
ระหว่างเดินก็มองที่ Victoria Garden ผมก็เริ่มสังหรณ์ใจไม่ค่อยจะสู้ดีแล้วละ เพราะเห็น Starbucks ที่มีคนนั่งแค่4คน และไฟต้นคริสต์มาสก็ไม่ได้เปิด ต้นมึดมากครับ
ดังภาพนี้
เวลา 4ทุ่ม25นาที ผมรีบเดินเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าเหมือน พระเอกที่กำลังวิ่งไปห้อง ICU ที่นางเอกถูกนางร้ายเอามีดแทงกำลังผ่าตัดฉุกเฉินอยู่ ข้างในไม่มีไฟประกับเลยครับ มีแค่ไฟตามเสาไฟฟ้าเท่านั้นเองครับ เดินไปต่อก็เจอคู่รักถ่ายรูปหวานแหววตามที่ต่างๆ และร้านค้าที่ปิดจนหมด
เอิ่ม....
ตอนนั้นหน้าผมเหมือนพระเอกที่ถูกหมอบอกว่า "เสียใจด้วยครับ เราทำเต็มที่แล้ว" คือมันไม่เหมือนที่ผมคาดหวังเอาไว้เลยครับ สงสัยเข็มขัดผมสั้นไปหน่อยเลยคาดไม่ถึง อุ้ยเสี่ยวจุง.555
ใช่มันเงียบมากครับ
นี่ก็4ทุ่มแล้วยังไม่ถึงไหนเลย ผมไม่มีเพื่อนไม่มีแฟน มาคนเดียวมาเจอแบบนี้ก็น้อยใจเอามากๆ เลยเดินออกจาก Victoria Garden ด้วยสีหน้าที่ช็อคพอสมควร แถมสบตากับ รปภ. ด้วยสายตาประมาณว่า "หนีออกจากบ้านมาเหรอหนู?" ออกจาก Victoria Garden ได้ปุ้บ ผมใส่ 4x1000 จากหน้าไปยังสะพานและข้ามสะพานไปที่ป้ายรถเมล์ทันที จนคนที่อยู่ข้างหน้าผมหันมามองผมด้วยหน้าที่เหวอพอสมควร.555 อย่ากลัวเลยผมคนนี้ไม่มีพิษภัยกับใครหรอกครับ
เวลา 4ทุ่ม27นาที ผมได้ตัดสินใจจะไป The Mall บางแค แทนครับ ยืนรอรถเมล์สาย 84 เหมือนเดิมครับ ระหว่างรอก็สูบบุหรี่ผ่านเงาของผมหน่อย
******เนื่องจากสถานการณ์นี้ไม่สามารถถ่ายณุปได้ ขออภัย******
จนรถเมล์ 84 พัดลมสีแดงมา ผมเลยขึ้นพร้อมจ่ายค่าตั๋ว 6 บาท 50 สตางค์ ไปและก็นั่งจนถึง The Mall ถึง The Mall ปุ้บรถก็จอดตรงป้ายตรงสะพานข้ามไปยังตัวห้าง รถจอดผมก็รีบลง พอขาเตะพื้นปุ้บ ลางสังหรณ์เหมือนที่ Victoria Garden ได้เข้ามาในจิตใจของผม เพราะมันมืดสลัวๆมาก ไม่มีไฟประดับระยิบระยับเหมือนที่อื่นๆเลย ผมรีบขึ้นบันไดสะพานไปสัก3-4ขั้นและมองไป ปรากฦว่า
เอิ่ม..เงียบสงบ
What The Hell.!! ไม่มีใครเลย ผมนั้นรีบหันกลับไปมองรถที่ผมพึ่งลงไป เห็นมันยังจอดรับคนขึ้นอยู่ ด้วยความหวังที่ว่า "นี่มันเมืองร้างอย่างทิ้งผมไป!" ผมคว้าสติอันน้อยนิด 4x1000วิ่งไปที่รถเมล์ ใช้วิชามารขึ้นไปนั่งเหมือนเดิม โดยที่กระเป๋ารถไม่รู้เลยว่าผมนั้นมาได้ไง.555 ว่ากันว่า Sevenไม่ถูกกับFamilyMart และ Samsungไม่ถูกกับApple เพราะมันเหมือนกันนั่นเองครับ ใช่แล้ว! The Mall ก็ไม่ถูกกับ Second เพราะมันเหมือนกันแถมอยู่ใกล้กันอีก ผมเลยลงประชามติเสียงข้างมาก (เสียงผมเสียงเดียวถือเป็นมติเอกฉันท์) เอ๊ะ...มีผมคนเดียวนิ.555 ว่าเราจะไป Second กัน!!
เวลา 4ทุ่ม46นาที ผมลงจากป้ายและถ่ายรูปนี้ทันที ผมเริ่มมีความหวังเล็กน้อย รีบข้ามถนนไป Second ทันที ข้ามไปปุ้บ ก้าวขาขึ้นฟุตบาทปั้บ มาอีกแล้ว...ลางสังหรณ์แบบที่ Victoria Garden กับ The Mall เพราะว่า มันมีแต่บาร์เบียร์และชายฉกรรจ์ พร้อม รปภ ที่หน้าดุเหมือนที่ Victoria Garden เลยอ่าาาาาา
ผมไม่รอใช้ ใส่เกียร์ R ถอยกลับไปที่ป้ายรถเมลืที่เดิมทันที ด้วยสมองที่ตันยิ่งกว่าตอนอยู่บ้านพี่ มานั่งคิดที่ป้ายว่า "สงสัยต้องกลับบ้านแล้วละ หมดปัญญาละ เอาอีกแล้วปีนี้ก็พลาดอีกจนได้ ปีที่แล้วไป AsiaTique ก็พลาดต้องมานั่งที่McDonald" ระหว่างนี้ก็จะ 5ทุ่มแล้วละ อีกชั่วโมงเดียว "นอนแม่มตรงนี้เลยดีไหม?
"
ตอนนั้นผมฉุดคิดได้ "ไหนๆเราก็ออกมาแล้วนิ เอาให้สุดไปเลยดีกว่า!! ในเมื่อ Second มันไม่ต้อนรับเรา สงสัยคนอย่างระดับเราต้องจัด Central World สักหน่อยแล้วววว"
ผมรอรถสาย84และมุ่งหน้าไปยังสถานีบางหว้าด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่ทันก็นอนบน BTS นี่แหละ
"
เวลา5ทุ่ม6นาที ผมอยู่บนรถ BTS บนรถคนน้อยมาก โบรกี้ผมมีผมกับช่างกล้องที่ไหนไม่รู้หนึ่งคน ระหว่างนั่งมีรถติดด้วย ติดประมาณ2-3นาที แถมมีไฟกับด้วย.555 น่ากลัวจริงๆ คนก็เริ่มเยอะตั้งแต่สถานีวงเวียนใหญ่แล้วละ พอถึงศาลาแดงคนก็เริ่มเยอะเริ่มยืนกันบ้าง
พอถึงสถานีสยามปุ้บ ประตูเปิดปุ้บ ผมได้ยินเสียงของมวลมหามนุษย์ชาติ นับแสนจากด้านล่าง ลางสังหรณ์อะไรมันไม่มีอีกแล้วละ ผมรีบลงไปข้างล่างทันที เพราเวลาเหลือไม่มากแล้วครับ ลงไปข้างล่างเห็นคนยืนออกันตรงที่ซื้อตั๋ว เป็นภาพที่เจริญตาผมมาก
จากนั้นก็รีบลงไปเดินบนถนนทันทีและพบกับภาพนี้!!
เวลา 5ทุ่ม32นาที ผมคนนี้ได้มาเจอโอเอซิสแห่งนี้ได้อย่างทันเวลา หลังจากติดอยู่กลางทะเลทรายมานาน อารมณ์เหมือน ผมเป็น Brad Pitt ใน World War Z ที่หนีขึ้นเครื่องบินทันเวลาก่อนที่จะ Take Off ข้างในช่างอบอุ่นเหลือเกินนนน
เวลา 5ทุ่ม37นาที มาถึงที่นี่ทั้งทีต้องกินน้ำมะพร้าวสิ!!!
เวลา 5ทุ่ม40นาที ร้อยละ80%ของคนในนี้มากับแฟนและเพื่อน 20% คือพนักงาน คนขายของ และคนพเนจรเช่นผม
เหลือเวลาอีก20นาที ผมยังหาจุดเคา์ดาวน์ไม่เจอเลยครับ เลยไปถามตำรวจ เขาก็ชี้ทางไปผมเลยรีบเบิ่งไปเลยครับ
เวลา 5ทุ่ม56นาที ผมถึงแว้วววว
ผมทำได้แล้วครับ หลังจากร่อนเร่พเนจรถึง3ที่ติด แต่ก็มุ่งมั่นจนทำภารกิจนี้สำเร็จ ตอนนี้ก็รอนับถยหลังพร้อมกับคนนับแสนที่รายล้อมผมไปหมด
และหลังจากนั้น
ใครอ่านถึงตรงนี้ก็ขอขอบคุณมากนะครับ กระทู้นี้เขียนนานถึง3ชั่วโมงเลยครับ ถ้าตอบรับดีผมจะเขียนกระทู้แบบนี้ขึ้นอีกครับ
***คนโสดอย่างเราจะทำอะไรก็อย่าไปหวั่นคนภายนอกครับ เราไม่มีพันธะกับใครอะไรนี่ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ อย่าไปแคร์ใครทั้งนั้นครับ***
แชร์ประสบการณ์ ในเมื่อ แฟนไม่มี เพื่อนไม่มี ก็ไปเคาท์ดาวน์คนเดียวซะเลย!!
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
แต่คุณอย่าลืม 10% ที่เหลือนั่นสิ ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่อ่านก็เป็น 1 ใน 10% เหมือนผม
ใช่แล้วครับ!! 10%นั้นมี ชายหนุ่มวัย 18ปี คนหนึ่ง แฟนก้ไม่มีเหมือนคนอื่นเขา บวกกับเพื่อนๆก็ไปของเขากันหมดทุกคนเลย เหลือผมเพียงหน่อเดียว ที่ยังฝังรากลึกไว้บนคำว่า "คนเดียว" อย่างเหนียวแน่น (จริงๆผมมีครอบครัวนะครับ แต่ปีนี้อยากกับเพื่อนไรบ้าง)
"ไม่ไปแล้วต้องเตรียมงานพรุ้งนี้อีก"
ผมหน้าซีดเลยครับ ตอนนี้ก็3ทุ่มครึ่งแล้ว อะไรก้านนนนนนน แผนที่วางเอาไว้เละเทะหมดเลยอ่าาาาา แล้วคืนนี้ผมจะไปไหนละ ตอนนั้นสมองผมตันเหมือนส้วมตันเลยครับ เอาโซดาไฟมาก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ผมเลยคว้ามือถือมานั่งเปิด Facebook เล่น เผื่อจะคิดอะไรออกได้บ้างแหละ แต่ที่ไหนได้เจอทั้งรูปทั้งสเตตัสคนมีคู่เขาโพสท์หวานกันเต็มมือถือจอขนาด 5 นิ้วของผมหมดเลยอ่าาาาา เห็นเพื่อนคนนึงมันบอกว่ามันว่าง ผมเลยชวนมันอ้อนวอนมัน แต่มันก็เมินผม เหอะ....เพื่อนดีจริงๆ ผมฟิวส์ขาดมาก หอบข้าวของที่มา นั่งมอไซค์จากบ้านไปป้ายรถเมล์ทันที ในตัวก็มี เสื้อ,กางเกงใน,กางเกงยีนส์,ถุงเท้า,รองเท้าหนัง,เงิน800บาท,มือถือ Lumia1520,และกายหยาบของผมที่กำลังจะเดินทางไป
มหากาพย์การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของชายหนุ่มโสดวัย 18ปี ได้เริ่มขึ้นแล้วครับท่านผู้ชม!!!
ที่ป้ายรถเมล์ตรงกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ในเวลา 4ทุ่ม6นาที
ระหว่างเดินก็มองที่ Victoria Garden ผมก็เริ่มสังหรณ์ใจไม่ค่อยจะสู้ดีแล้วละ เพราะเห็น Starbucks ที่มีคนนั่งแค่4คน และไฟต้นคริสต์มาสก็ไม่ได้เปิด ต้นมึดมากครับ
ดังภาพนี้
ตอนนั้นหน้าผมเหมือนพระเอกที่ถูกหมอบอกว่า "เสียใจด้วยครับ เราทำเต็มที่แล้ว" คือมันไม่เหมือนที่ผมคาดหวังเอาไว้เลยครับ สงสัยเข็มขัดผมสั้นไปหน่อยเลยคาดไม่ถึง อุ้ยเสี่ยวจุง.555 ใช่มันเงียบมากครับ นี่ก็4ทุ่มแล้วยังไม่ถึงไหนเลย ผมไม่มีเพื่อนไม่มีแฟน มาคนเดียวมาเจอแบบนี้ก็น้อยใจเอามากๆ เลยเดินออกจาก Victoria Garden ด้วยสีหน้าที่ช็อคพอสมควร แถมสบตากับ รปภ. ด้วยสายตาประมาณว่า "หนีออกจากบ้านมาเหรอหนู?" ออกจาก Victoria Garden ได้ปุ้บ ผมใส่ 4x1000 จากหน้าไปยังสะพานและข้ามสะพานไปที่ป้ายรถเมล์ทันที จนคนที่อยู่ข้างหน้าผมหันมามองผมด้วยหน้าที่เหวอพอสมควร.555 อย่ากลัวเลยผมคนนี้ไม่มีพิษภัยกับใครหรอกครับ
เอิ่ม..เงียบสงบ
What The Hell.!! ไม่มีใครเลย ผมนั้นรีบหันกลับไปมองรถที่ผมพึ่งลงไป เห็นมันยังจอดรับคนขึ้นอยู่ ด้วยความหวังที่ว่า "นี่มันเมืองร้างอย่างทิ้งผมไป!" ผมคว้าสติอันน้อยนิด 4x1000วิ่งไปที่รถเมล์ ใช้วิชามารขึ้นไปนั่งเหมือนเดิม โดยที่กระเป๋ารถไม่รู้เลยว่าผมนั้นมาได้ไง.555 ว่ากันว่า Sevenไม่ถูกกับFamilyMart และ Samsungไม่ถูกกับApple เพราะมันเหมือนกันนั่นเองครับ ใช่แล้ว! The Mall ก็ไม่ถูกกับ Second เพราะมันเหมือนกันแถมอยู่ใกล้กันอีก ผมเลยลงประชามติเสียงข้างมาก (เสียงผมเสียงเดียวถือเป็นมติเอกฉันท์) เอ๊ะ...มีผมคนเดียวนิ.555 ว่าเราจะไป Second กัน!!
ผมไม่รอใช้ ใส่เกียร์ R ถอยกลับไปที่ป้ายรถเมลืที่เดิมทันที ด้วยสมองที่ตันยิ่งกว่าตอนอยู่บ้านพี่ มานั่งคิดที่ป้ายว่า "สงสัยต้องกลับบ้านแล้วละ หมดปัญญาละ เอาอีกแล้วปีนี้ก็พลาดอีกจนได้ ปีที่แล้วไป AsiaTique ก็พลาดต้องมานั่งที่McDonald" ระหว่างนี้ก็จะ 5ทุ่มแล้วละ อีกชั่วโมงเดียว "นอนแม่มตรงนี้เลยดีไหม?"
ตอนนั้นผมฉุดคิดได้ "ไหนๆเราก็ออกมาแล้วนิ เอาให้สุดไปเลยดีกว่า!! ในเมื่อ Second มันไม่ต้อนรับเรา สงสัยคนอย่างระดับเราต้องจัด Central World สักหน่อยแล้วววว"
ผมรอรถสาย84และมุ่งหน้าไปยังสถานีบางหว้าด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่ทันก็นอนบน BTS นี่แหละ"
เหลือเวลาอีก20นาที ผมยังหาจุดเคา์ดาวน์ไม่เจอเลยครับ เลยไปถามตำรวจ เขาก็ชี้ทางไปผมเลยรีบเบิ่งไปเลยครับ
***คนโสดอย่างเราจะทำอะไรก็อย่าไปหวั่นคนภายนอกครับ เราไม่มีพันธะกับใครอะไรนี่ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ อย่าไปแคร์ใครทั้งนั้นครับ***