วันที่ 4 (19 Sep 2014) คาวากูจิโกะ-โตเกียว
เช้าที่ Kawagochiko เราจองรอบรถ 8.45น. เพราะจะต้องไปขึ้นรถไฟเที่ยว 9.00 วันนี้ต้องไปถึงโตเกียวเร็วหน่อย เพราะหมวยกับบ๊วยจะนั่งต่อไป Aomori ซึ่งไกลมาก เกือบถึง Hokkido
ระหว่างทางนั่งรถของ Hostel มาที่สถานีรถไฟ หมวยชี้ให้ดู นั่น!! ฟู จิ โผล่หน้ามาแล้ว..
ถึงสถานีรถไฟ รีบเอากระเป๋าลง แล้วรีบถ่ายรูปกันใหญ่ ขอบคุณพระเจ้าที่เราได้เห็นฟูจิซังก่อนกลับ (เคยอ่านในหนังสือ เค้าบอกถ้าอยากเห็นฟูจิซัง ควรมาสัก 2-3 วัน เพราะไม่รู้ว่าจะโผล่มาให้เรา เห็นวันไหน)
วันที่ 1 BKK-KYOTO
http://ppantip.com/topic/33013624
วันที่ 2 KYOTO-OSAKA
http://ppantip.com/topic/33018113
วันที่ 3 KAWAGUCHIKO
http://ppantip.com/topic/33049838
วันที่ 4 KAWAGUCHIKO-TOKYO
http://ppantip.com/topic/33052365
วันที่ 5 TOKYO-KAWAGOE
http://ppantip.com/topic/33057843
วันที่ 6 TOKYO-NARITA-SHIBUYA
http://ppantip.com/topic/33094095
วันที่ 7 TOKYO-TASUKIJI FISH MARKET
http://ppantip.com/topic/33106951
วันที่ 8 FUKUOKA-DAZIAFU
http://ppantip.com/topic/33107587
วันที่ 9,10 FUKUOKA-BKK (พร้อมสรุปค่าใช้จ่ายตลอดทั้งทริป)
http://ppantip.com/topic/33108610
==========================================================================
8.57น. ถ้ายรูปกันเพลิน เรากับบ๊วยรีบไปซื้อตั๋วรถไฟเพราะรถไฟจะออกแล้ว แต่หมวยยังไม่มา พอมาถึงเลยเวลาไปจี๊ดเดียว เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เราขึ้นแล้ว (รถไฟที่นี่เค้าตรงเวลามาก) สรุปว่าพวกเราเลยได้ชื่นชมฟูจิซังกันต่ออีก 40 นาที
เพื่อรอรถไฟเที่ยวถัดไป
ระหว่าง40 นาทีที่เรารอรถไฟ เดินถ่ายรูปฟูจิซังกันจนเมฆบัง ถ้าเราออกจากที่พักสายกว่านี้ คงไม่ได้เห็น มาไว ไปไวจัง
เดินทางจากสถานี Kawaguchiko มาสถานี Shinjuku ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ที่สถานี Shinjuku เราแยกกันเที่ยวกับหมวยและบ๊วย เนื่องจากชอบเที่ยวคนละแบบ หมวยกับบ๊วยอยากไปเที่ยวธรรมชาติ แต่เรามาญี่ปุ่นครั้งแรก เราอยากอยู่โตเกียวสัก 2-3 วัน เพราะถ้าไปกับเพื่อนอีก 2 คน เราจะได้เที่ยวโตเกียวแค่ 1 วันอีกอย่างระยะทางไป Aomori ไกลด้วย เรากลัวว่าจะนั่งรถไฟนานกว่าเที่ยว เลยตัดสินใจแยกมาหลงคนเดียวที่โตเกียวดีกว่า
ก่อนมา ตอนวางโปรแกรมเสนอกัน รู้ว่าอยากไปไม่เหมือนกัน เราตัดสินใจแยกเที่ยวกับเพื่อน เพราะคิดว่าเที่ยวด้วยกันแรกๆ 3 วันแล้ว เราคงนั่งรถไฟ ดูสถานีเป็นแล้วแหละ แต่พอก่อนไป 1 วัน เริ่มหวั่นๆ จากเสียงลือที่ฟังมาว่ารถไฟที่โตเกียวเยอะ ซับซ้อน แต่เอาว่ะ เราจะได้เที่ยวที่เราอยากเที่ยว มีปากก็ถามเค้าเอา เอารูปให้เค้าดู (อ่านในหนังสือมาว่า ให้เราเตรียมรูปที่เที่ยวมาด้วย ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็เอารูปให้เค้าดู)
อ้อ ใครคิดเดินทางไปเมืองอื่น แล้วยังไงก็กลับมาต่อรถที่นี่อีก แนะนำให้แยกกระเป๋า เอาของที่ไม่ใช้ ฝากล็อกเกอร์หยอดเหรียญที่สถานี ดีกว่าลากกระเป๋าหลายใบไป อย่างเพื่อนเราไป 2 วัน แล้วกลับมาโตเกียว เค้าก็เแยกกระเป๋าเอาใส่ล็อกเกอร์ไว้ แนะนำว่าอย่างกนะค่ะ เพราะการลากกระเป๋าหลายใบไปมา มันตัดกำลังในการเที่ยวมาก บางสถานีไม่มีบันไดเลื่อน ไม่มีลิฟท์ เล่นเอากล้ามขึ้นเหมือนกันนะ
หลังจากแยกกับหมวยกับบ๊วย เราก็จัดแจงไปที่ Hostel ตามแผนที่ ตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ จะไปหลงคนเดียวแล้ววว ดีนะที่ Hostel ส่วนมากเค้าจะบอกรายละเอียดว่าให้เราออกทางออกไหน จากสถานี JR Asakusabachi เดินไป Anne Hostel ไม่ไกลมาก พอเดินได้
Anne Hostel (
www.j-hostel.com) ที่พักที่นี่ต้องขึ้นลิฟท์ไป Check in ที่ชั้น 4 ค่ะ จะอยู่ชั้นเดียวกับครัวเลย มีอาหารเช้าให้ฟรี (ไข่ต้ม ขนมปัง ชา กาแฟ) ห้องพักมีทั้งแยก ญ-ช และห้องรวม ห้องน้ำที่นี่ค่อยยังชั่วหน่อย มีห้องอาบน้ำ 2 ห้อง ห้องส้วม 2 ห้อง สะอาดโอเคเลย
เก็บกระเป๋าเสร็จ ถึงเวลาออกไปเที่ยวคนเดียวแล้ววววว
วันนี้มาถึงบ่ายๆ แล้ว เลยวางแผนไป Sensoji Temple เราหาข้อมูลในเว็บของ Hostel บอกว่าจากที่พักสามารถเดินไปได้ แต่พอเปิด google map ดู ประมาณ 2.2km เลยเลือกไปรถไฟดีกว่า จาก JR Asakusabashi เราต้องไปขึ้น Subway สาย Asakusa คราวนี้บัตร JR ใช้ไม่ได้แล้ว จาก Asakusabashi to Asakusa ค่าตั๋ว ¥180 จากสถานี Asakusa เดินมาอีกนิดก็ถึงวัด Sensoji แล้ว วัดนี้เป็นวัดดังของโตเกียว
ก่อนที่เราจะเดินถึงวัด ก็มีซอยละลายทรัพย์ด้วย
ชอบร้านขายตะเกียบจัง สวยๆ ทั้งนั้นเลย
ขนม 3 กล่อง 1000 เยน คล้ายๆ บ้านเราเนอะ 3 กล่อง 100
ขนมเซมเบ้เต็มไปหมด
ร้านซาลาเปาทอดเจ้าดัง
มันที่ญี่ปุ่นหวานมาก
เดินมาสุดซอยก่อนถึงตัววัด ให้เลี้ยวขวา มีร้านเมล่อนปัง ที่เหล่ากูรู เค้าแนะนำกัน ต้องลองซะหน่อย
ราว่ารสชาติโอเค แต่ไม่ถึงกลับว่าถ้ามาอีกจะต้องมากินอีก
ด้านใน บริเวณ Sensoji Temple
คนเยอะจริงๆ นี่ขนาดวันธรรมดานะนี่
ออกจากวัด Sensoji เดินเลี้ยวมาทางซ้ายมือ จะเห็น Tokyo Sky Tree สามารถถ่ายวิวสวยๆ ได้ที่ริมแม่น้ำเลย
เราเดินต่อไปที่ Tokyo Sky Tree เดินเหนื่อยเหมือนกัน แต่อากาศดี เลยเดินไปเรื่อยๆ ตอนถึง Tokyo Sky Tree ฟ้ายังไม่มืด เลยเดินเที่ยวห้าง Solamachi รอฟ้ามืด แล้วเค้าจะเปิดไฟที่ Tokyo Sky Tree
ระหว่างทาง เจอคุณลุง 2 คน เดินคลีบขยะอยู่.. ถึงว่าบ้านเมืองเค้าถึงได้สะอาดมาก
[CR] เที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน 9 คืน 6 เมือง กับงบ 30000 บาท..วันที่ 4 KAWAGUCHIKO-TOKYO
เช้าที่ Kawagochiko เราจองรอบรถ 8.45น. เพราะจะต้องไปขึ้นรถไฟเที่ยว 9.00 วันนี้ต้องไปถึงโตเกียวเร็วหน่อย เพราะหมวยกับบ๊วยจะนั่งต่อไป Aomori ซึ่งไกลมาก เกือบถึง Hokkido
ระหว่างทางนั่งรถของ Hostel มาที่สถานีรถไฟ หมวยชี้ให้ดู นั่น!! ฟู จิ โผล่หน้ามาแล้ว.. ถึงสถานีรถไฟ รีบเอากระเป๋าลง แล้วรีบถ่ายรูปกันใหญ่ ขอบคุณพระเจ้าที่เราได้เห็นฟูจิซังก่อนกลับ (เคยอ่านในหนังสือ เค้าบอกถ้าอยากเห็นฟูจิซัง ควรมาสัก 2-3 วัน เพราะไม่รู้ว่าจะโผล่มาให้เรา เห็นวันไหน)
วันที่ 1 BKK-KYOTO http://ppantip.com/topic/33013624
วันที่ 2 KYOTO-OSAKA http://ppantip.com/topic/33018113
วันที่ 3 KAWAGUCHIKO http://ppantip.com/topic/33049838
วันที่ 4 KAWAGUCHIKO-TOKYO http://ppantip.com/topic/33052365
วันที่ 5 TOKYO-KAWAGOE http://ppantip.com/topic/33057843
วันที่ 6 TOKYO-NARITA-SHIBUYA http://ppantip.com/topic/33094095
วันที่ 7 TOKYO-TASUKIJI FISH MARKET http://ppantip.com/topic/33106951
วันที่ 8 FUKUOKA-DAZIAFU http://ppantip.com/topic/33107587
วันที่ 9,10 FUKUOKA-BKK (พร้อมสรุปค่าใช้จ่ายตลอดทั้งทริป) http://ppantip.com/topic/33108610
==========================================================================
8.57น. ถ้ายรูปกันเพลิน เรากับบ๊วยรีบไปซื้อตั๋วรถไฟเพราะรถไฟจะออกแล้ว แต่หมวยยังไม่มา พอมาถึงเลยเวลาไปจี๊ดเดียว เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เราขึ้นแล้ว (รถไฟที่นี่เค้าตรงเวลามาก) สรุปว่าพวกเราเลยได้ชื่นชมฟูจิซังกันต่ออีก 40 นาที เพื่อรอรถไฟเที่ยวถัดไป
ระหว่าง40 นาทีที่เรารอรถไฟ เดินถ่ายรูปฟูจิซังกันจนเมฆบัง ถ้าเราออกจากที่พักสายกว่านี้ คงไม่ได้เห็น มาไว ไปไวจัง
เดินทางจากสถานี Kawaguchiko มาสถานี Shinjuku ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ที่สถานี Shinjuku เราแยกกันเที่ยวกับหมวยและบ๊วย เนื่องจากชอบเที่ยวคนละแบบ หมวยกับบ๊วยอยากไปเที่ยวธรรมชาติ แต่เรามาญี่ปุ่นครั้งแรก เราอยากอยู่โตเกียวสัก 2-3 วัน เพราะถ้าไปกับเพื่อนอีก 2 คน เราจะได้เที่ยวโตเกียวแค่ 1 วันอีกอย่างระยะทางไป Aomori ไกลด้วย เรากลัวว่าจะนั่งรถไฟนานกว่าเที่ยว เลยตัดสินใจแยกมาหลงคนเดียวที่โตเกียวดีกว่า
ก่อนมา ตอนวางโปรแกรมเสนอกัน รู้ว่าอยากไปไม่เหมือนกัน เราตัดสินใจแยกเที่ยวกับเพื่อน เพราะคิดว่าเที่ยวด้วยกันแรกๆ 3 วันแล้ว เราคงนั่งรถไฟ ดูสถานีเป็นแล้วแหละ แต่พอก่อนไป 1 วัน เริ่มหวั่นๆ จากเสียงลือที่ฟังมาว่ารถไฟที่โตเกียวเยอะ ซับซ้อน แต่เอาว่ะ เราจะได้เที่ยวที่เราอยากเที่ยว มีปากก็ถามเค้าเอา เอารูปให้เค้าดู (อ่านในหนังสือมาว่า ให้เราเตรียมรูปที่เที่ยวมาด้วย ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็เอารูปให้เค้าดู)
อ้อ ใครคิดเดินทางไปเมืองอื่น แล้วยังไงก็กลับมาต่อรถที่นี่อีก แนะนำให้แยกกระเป๋า เอาของที่ไม่ใช้ ฝากล็อกเกอร์หยอดเหรียญที่สถานี ดีกว่าลากกระเป๋าหลายใบไป อย่างเพื่อนเราไป 2 วัน แล้วกลับมาโตเกียว เค้าก็เแยกกระเป๋าเอาใส่ล็อกเกอร์ไว้ แนะนำว่าอย่างกนะค่ะ เพราะการลากกระเป๋าหลายใบไปมา มันตัดกำลังในการเที่ยวมาก บางสถานีไม่มีบันไดเลื่อน ไม่มีลิฟท์ เล่นเอากล้ามขึ้นเหมือนกันนะ
หลังจากแยกกับหมวยกับบ๊วย เราก็จัดแจงไปที่ Hostel ตามแผนที่ ตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ จะไปหลงคนเดียวแล้ววว ดีนะที่ Hostel ส่วนมากเค้าจะบอกรายละเอียดว่าให้เราออกทางออกไหน จากสถานี JR Asakusabachi เดินไป Anne Hostel ไม่ไกลมาก พอเดินได้
Anne Hostel (www.j-hostel.com) ที่พักที่นี่ต้องขึ้นลิฟท์ไป Check in ที่ชั้น 4 ค่ะ จะอยู่ชั้นเดียวกับครัวเลย มีอาหารเช้าให้ฟรี (ไข่ต้ม ขนมปัง ชา กาแฟ) ห้องพักมีทั้งแยก ญ-ช และห้องรวม ห้องน้ำที่นี่ค่อยยังชั่วหน่อย มีห้องอาบน้ำ 2 ห้อง ห้องส้วม 2 ห้อง สะอาดโอเคเลย
เก็บกระเป๋าเสร็จ ถึงเวลาออกไปเที่ยวคนเดียวแล้ววววว
วันนี้มาถึงบ่ายๆ แล้ว เลยวางแผนไป Sensoji Temple เราหาข้อมูลในเว็บของ Hostel บอกว่าจากที่พักสามารถเดินไปได้ แต่พอเปิด google map ดู ประมาณ 2.2km เลยเลือกไปรถไฟดีกว่า จาก JR Asakusabashi เราต้องไปขึ้น Subway สาย Asakusa คราวนี้บัตร JR ใช้ไม่ได้แล้ว จาก Asakusabashi to Asakusa ค่าตั๋ว ¥180 จากสถานี Asakusa เดินมาอีกนิดก็ถึงวัด Sensoji แล้ว วัดนี้เป็นวัดดังของโตเกียว