ครอบครัวชาวกรุงฯ นั่งเก๋งคัมรี่ ขึ้นดอยอินทนนท์จะไปแก้บนที่พระมหาธาตุเจดีย์ ปรากฏว่ารถเกิดระเบิดไฟลุกท่วมกลางถนน กว่าจนท.จะดับได้ก็ไหม้วอดทั้งคัน หน.อุทยานฯ เผย เคยแจ้งเตือนแล้ว ว่า รถติดแก๊สไม่ควรขับขึ้นดอย
เมื่อช่วงสายวันที่ 1 มกราคม 2558 วันขึ้นปีใหม่ ซึ่งมีรถนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ จำนวนมาก ได้เกิดเหตุรถนักท่องเที่ยวมีไฟลุกท่วม ต้องขอความช่วยเหลือเป็นการด่วนมาทาง พ.ต.ต.สมศักดิ์ สมใจอ้าย พนักงานสอบสวน สภ.จอมทอง ซึ่งได้วิทยุประสานไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยของอินทนนท์ เข้าระงับเหตุ
ทั้งนี้ พบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้ห้องเครื่องด้านหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำถังดับเพลิง 6 ถัง เข้าสกัดเพลิงจนสามารถดับได้ในที่สุด แต่รถก็เสียหายทั้งคัน ตรวจสอบพบเป็นรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ศก 3828 กทม. ทราบชื่อคนขับและเจ้าของรถคือ นายศุภกิจ วิเศษวงศ์ษา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้พาพ่อและครอบครัวขึ้นมาเที่ยวบนดอยอินทนนท์ โดยตั้งใจจะไปแก้บนที่พระมหาธาตุเจดีย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้รับฟังการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ว่า ห้ามรถใช้แก๊สขึ้นดอย เพราะจะทำให้รถเกิดความร้อนและเกิดอันตรายได้
"เมื่อขับขึ้นมาถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 39 ก็เกิดมีควันพุ่งออกมาจากห้องเครื่อง ด้วยความตกใจ จึงจอดรถข้างทาง แล้วพาพ่อและลูกๆ วิ่งออกจากรถเพราะกลัวจะระเบิด จากนั้น จึงรีบประสานกับทางเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยดับเพลิง แต่กว่าจะดับได้รถก็ถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งคัน" นายศุภกิจกล่าว
ด้าน นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางเราได้ตักเตือนไปแล้วสำหรับรถที่ติดแก๊สขับขึ้นดอย ทางเจ้าตัวเจ้าของรถก็ทราบดี และได้ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน ซึ่งทางอุทยานฯ ได้รายงานให้นายอำเภอจอมทอง ทราบแล้ว เบื้องต้นทางอำเภอ ได้ประสานกับโรงพักจอมทองเพื่อขอรถยกมานำซากรถไปเก็บไว้ที่โรงพัก พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพฯให้กับครอบครัวนี้ด้วย
"ต้องชมเชยในความตั้งใจของเจ้าของรถด้วยที่ตั้งใจจะมาแก้บนและเที่ยวบนดอยอินทนนท์ แม้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถ ก็ไม่ลดความพยายาม ได้ขึ้นไปแก้บนจนสำเร็จ ก่อนจะเดินทางกลับ ส่วนในเรื่องของสาเหตุนั้น ต้องรอให้ทางตำรวจตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการขับรถขึ้นดอยเอง รถที่ติดแก๊ส หรือมีสองระบบ ทั้งแก๊สและน้ำมันให้ระมัดระวัง ถ้าจำเป็นก็ให้ใช้รถบริการที่อยู่ด้านล่างในราคาย่อมเยา ตกคนละ 100 กว่าบาทเท่านั้น จะปลอดภัยกว่า อีกทั้งลดปริมาณความแออัดเรื่องการจราจรด้วย" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าว
http://www.thairath.co.th/content/472291
ระทึก! รถติดแก๊สขึ้น ‘อินทนนท์’ ไปแก้บน ไฟไหม้วอด
เมื่อช่วงสายวันที่ 1 มกราคม 2558 วันขึ้นปีใหม่ ซึ่งมีรถนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ จำนวนมาก ได้เกิดเหตุรถนักท่องเที่ยวมีไฟลุกท่วม ต้องขอความช่วยเหลือเป็นการด่วนมาทาง พ.ต.ต.สมศักดิ์ สมใจอ้าย พนักงานสอบสวน สภ.จอมทอง ซึ่งได้วิทยุประสานไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยของอินทนนท์ เข้าระงับเหตุ
ทั้งนี้ พบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้ห้องเครื่องด้านหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำถังดับเพลิง 6 ถัง เข้าสกัดเพลิงจนสามารถดับได้ในที่สุด แต่รถก็เสียหายทั้งคัน ตรวจสอบพบเป็นรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ศก 3828 กทม. ทราบชื่อคนขับและเจ้าของรถคือ นายศุภกิจ วิเศษวงศ์ษา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้พาพ่อและครอบครัวขึ้นมาเที่ยวบนดอยอินทนนท์ โดยตั้งใจจะไปแก้บนที่พระมหาธาตุเจดีย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้รับฟังการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ว่า ห้ามรถใช้แก๊สขึ้นดอย เพราะจะทำให้รถเกิดความร้อนและเกิดอันตรายได้
"เมื่อขับขึ้นมาถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 39 ก็เกิดมีควันพุ่งออกมาจากห้องเครื่อง ด้วยความตกใจ จึงจอดรถข้างทาง แล้วพาพ่อและลูกๆ วิ่งออกจากรถเพราะกลัวจะระเบิด จากนั้น จึงรีบประสานกับทางเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยดับเพลิง แต่กว่าจะดับได้รถก็ถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งคัน" นายศุภกิจกล่าว
ด้าน นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางเราได้ตักเตือนไปแล้วสำหรับรถที่ติดแก๊สขับขึ้นดอย ทางเจ้าตัวเจ้าของรถก็ทราบดี และได้ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน ซึ่งทางอุทยานฯ ได้รายงานให้นายอำเภอจอมทอง ทราบแล้ว เบื้องต้นทางอำเภอ ได้ประสานกับโรงพักจอมทองเพื่อขอรถยกมานำซากรถไปเก็บไว้ที่โรงพัก พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพฯให้กับครอบครัวนี้ด้วย
"ต้องชมเชยในความตั้งใจของเจ้าของรถด้วยที่ตั้งใจจะมาแก้บนและเที่ยวบนดอยอินทนนท์ แม้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถ ก็ไม่ลดความพยายาม ได้ขึ้นไปแก้บนจนสำเร็จ ก่อนจะเดินทางกลับ ส่วนในเรื่องของสาเหตุนั้น ต้องรอให้ทางตำรวจตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการขับรถขึ้นดอยเอง รถที่ติดแก๊ส หรือมีสองระบบ ทั้งแก๊สและน้ำมันให้ระมัดระวัง ถ้าจำเป็นก็ให้ใช้รถบริการที่อยู่ด้านล่างในราคาย่อมเยา ตกคนละ 100 กว่าบาทเท่านั้น จะปลอดภัยกว่า อีกทั้งลดปริมาณความแออัดเรื่องการจราจรด้วย" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าว
http://www.thairath.co.th/content/472291