ค่าใช้จ่ายทริปนี้ของอ้อกับพี่กร คนละ 79,000 บาท ใช้เงินที่แลกไป 700 ยูโร สำหรับ 2 คน ค่ะ
ขั้นตอนขอวีซ่า
http://ppantip.com/topic/32301516
ราคาตั๋วและค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปก่อนเดินทาง
http://ppantip.com/topic/32267210
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 1 ปราก)
http://ppantip.com/topic/32993955
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 2 เวียนนา)
http://ppantip.com/topic/33013627
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 3 ซาลซ์บูร์ก)
http://ppantip.com/topic/33005135
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 4 โอเบอร์โทรน)
http://ppantip.com/topic/33017841
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 5 ฮออล์สทัทท์)
http://ppantip.com/topic/33018062
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 6 เวนิส)
http://ppantip.com/topic/33044430
วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม 2557
วันที่ 11 ของการเดินทางเที่ยว อิตาลี
วันนี้เราออกเดินทางจากเวนิส 07.25 น. ถึง ฟลอเร้นซ์ 09.30 น.
ที่พักของเราชื่อ Byron Hotel ทำเลดีมาก แต่ที่พักเก่ามากไปหน่อยค่ะ บรรยากาศน่ากลัวไปนิด แต่พนักงานก็บริการดีนะค่ะ ถ้าคิดว่าแค่นอนคืนเดียวไม่เรื่องมากก็พอจะนอนได้นะค่ะ มาตรฐานแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ที่นี่อ้อลืมถ่ายรูปค่ะ เน้นอย่าดูรูปจากรีวิวนะค่ะ เพราะรูปในรีวิวดีใหม่มาก ของจริงเก่ามากนะค่ะ แต่ก็นอนได้ค่ะ
พอเรามาถึงที่ฟลอเร้นซ์ ก็เดินมาที่พัก แต่ยังเข้าห้องไม่ได้นะค่ะยังไม่ถึงเวลาเช็คอินค่ะ เราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมค่ะแล้วก็เดินเล่นกันต่อเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวช่วงบ่ายๆ เราจะนั่งรถไฟไปปิซ่าค่ะ
ทุกครั้งที่ซื้อตั๋วอย่าลืมเอาตั๋วไปตรอกลงเวลาใช้งานนะค่ะ
หลังจากที่เดินเล่นเสร็จแล้วเราก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางไปปิซ่า เราเดินทางออกจากฟลอเร้นซ์ ประมาณ 13.45 น. ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที และแล้วเรื่องที่ไม่คลาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้ ระหว่างเดินทางบนรถไฟขบวนนี้ พอดีรถไฟขบวนนี้มี 2 ชั้น และอ้อก็เห็นว่าเรายังไม่เคยนั่งรถไฟที่เป็น 2 ชั้นเลย อ้อก็เลยชวนทุกคนไปนั่งบนชั้น 2 กัน ช่วงระหว่างเดินทางได้สักพัก อ้อก็นึกอยากเข้าห้องน้ำ และชวนพี่กรไปเป็นเพื่อน พอเดินลงมาข้างล่างก็เห็นว่าอากาศเย็นกว่า และด้านล่างก็มีแต่ฝรั่งหัวทองนั่งกันเต็มไม่หมด แต่ชั้น 2 ที่เรานั่งมีแต่พวกผิวดำ และดูน่ากลัวมาก พอเดินกลับมาก็เลยชวนเพื่อนลงมานั่งกันที่ชั้นล่างดีกว่า แต่จังหวะนั้น โน้ตลืมเอากล้องลงมาด้วย เราก็นั่งต่อไปอีกไม่นาน ก็ถึงสถานีที่เราต้องลง พอลงมาแล้วโน้ตนึกถึงกล้องได้ก็วิ่งกลับขึ้นไปบนรถไฟอีกรอบ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว กล้องหาย รูปที่เราถ่ายมาตั้งแต่แรกหายหมด พอเกิดเรื่องนี้ทุกคนเริ่มใจคอไม่ดีกันแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เวนิสแล้วที่เราเจอแต่คนน่ากลัวในอิตาลี เรามาลงที่สถานี Pisa S. Rossore ตอนมาถึงยังไม่มึดบรรยากาศก็ปกติดี เราก็เดินไปที่ หอเอนปิซ่า ถ่ายรูปกันได้สักพักก็มึดแล้ว เพราะว่าหน้าหนาวมึดเร็วมาก
พอหลังจากเราถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ Pisa S. Rossore ระหว่างทางเดินกลับค่อนข้างมึด พอมาถึงก็หาซื้อตั๋วและนั่งรอรถไฟ ระหว่างที่รอรถไฟอยู่อ้อก็ไม่ได้เห็นมีอะไรผิดสังเกตนะค่ะ และก็ไม่ทันได้มองรอบๆ ว่ามีใครรอขึ้นรถไฟป่าว แต่ช่วงที่อ้อขึ้นรถไฟอ้อขึ้นเป็นคนแรกพี่กรเดินตามมา จังหวะนั้นอ้อขึ้นรถไฟได้แล้ว อ้อรู้สึกว่ากระเป๋าที่อ้อสะพายมันตึงรั้งคออ้ออยู่ อ้อก็รีบหันไปหาพี่กรแล้วถามว่า พี่กรล่วงกระเป๋าอ้อหรอ พี่กรบอกไม่ได้ ถ้างั้นอ้อโดนล่วงกระเป๋าแล้ว ส่วนพี่กรก็สะพายเป้ไว้ด้านหลัง เพื่อนที่เดินตามหลังมา ก็บอกว่า พี่กรเมื่อกี้มันเปิดซิปพี่ พออ้อรู้ว่าโดนล่วงกระเป๋าก็รีบดูก่อนเลยว่ามือถืออยู่ป่าว เพราะเป็นสิ่งเดียวที่หยิบง่ายที่สุด ในกระเป๋าอ้อจะมีบัตรเครดิต กับ พาสปอร์ต แต่ 2 อย่างนี้คงเอาไปไม่ได้เพราะอยู่ในซิบอีกที พอเห็นว่ามือถืออยู่อย่างอื่นก็ไม่ได้สนใจเพราะมีแต่กระดาษสำหรับจดและเครื่องคิดเลข พอหันกลับมาก็เห็นคนที่ล่วงกระเป๋าเราโยนของเราทิ้งกับพื้นบนรถไฟแระ เราก็เก็บขึ้นมา หลังจากนั้นอ้อก็รีบดูในกระเป๋าพี่กร เพราะในนั้นมีกล้องอยู่ทั้งหมดเลย เพราะเราหยุดถ่ายรูปแล้วเพราะกลัวกล้องหายอีก โชคดีที่เอาอะไรของพี่กรไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะในกระเป๋ามีขวดน้ำ มีผ้าพันคอ ถุงมือที่เราไม่ได้ใช้วางทับอยู่ พอพวกมิฉาชีพไม่ได้อะไรก็ลงจากรถไฟไป แต่เหตุการณ์มันไวมากจริงๆค่ะ แค่จังหวะไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำที่รถไฟจอดเพื่อให้ผู้โดยสารขึ้น คนที่ทำก็ดูอายุน้อยอยู่เลย บางคนก็อุ้มลูกมาด้วย เค้ามากันเป็นทีม 6-8 คนได้ค่ะ ขนาดอ้อกับพี่กรเดินด้วยกันตลอดเค้าก็เข้ามาแทรกระหว่างเรา และแยกกันลงมือได้ ยิ่งเจอแบบนี้ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่กับประเทศนี้ แต่ก็ยังยืนยันว่าคนท้องถิ่นน่ารักมาก รูปที่ลงคือกลุ่มมิฉาชีพที่ทำกับเรา เราถ่ายตอนที่เราอยู่บนรถไฟแล้วนะค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่พักของเราที่ฟลอเร้นซ์ ระหว่างที่อยู่ที่อิตาลี เราไม่เคยออกมาเดินเล่นตอนกลางคืนเลยที่อิตาลี เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย
การเดินทางของวันนี้เราก็สิ้นสุดลงแล้วค่ะ
ติดตามดูรูปได้ที่นี่นะค่ะ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2/273888802712586
[CR] เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 7 ฟลอเร้นซ์ และ ปิซ่า )
ขั้นตอนขอวีซ่า
http://ppantip.com/topic/32301516
ราคาตั๋วและค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปก่อนเดินทาง
http://ppantip.com/topic/32267210
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 1 ปราก)
http://ppantip.com/topic/32993955
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 2 เวียนนา)
http://ppantip.com/topic/33013627
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 3 ซาลซ์บูร์ก)
http://ppantip.com/topic/33005135
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 4 โอเบอร์โทรน)
http://ppantip.com/topic/33017841
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 5 ฮออล์สทัทท์)
http://ppantip.com/topic/33018062
เที่ยวยุโรปเอง เชค ออสเตรีย อิตาลี (ตอนที่ 6 เวนิส)
http://ppantip.com/topic/33044430
วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม 2557
วันที่ 11 ของการเดินทางเที่ยว อิตาลี
วันนี้เราออกเดินทางจากเวนิส 07.25 น. ถึง ฟลอเร้นซ์ 09.30 น.
ที่พักของเราชื่อ Byron Hotel ทำเลดีมาก แต่ที่พักเก่ามากไปหน่อยค่ะ บรรยากาศน่ากลัวไปนิด แต่พนักงานก็บริการดีนะค่ะ ถ้าคิดว่าแค่นอนคืนเดียวไม่เรื่องมากก็พอจะนอนได้นะค่ะ มาตรฐานแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ที่นี่อ้อลืมถ่ายรูปค่ะ เน้นอย่าดูรูปจากรีวิวนะค่ะ เพราะรูปในรีวิวดีใหม่มาก ของจริงเก่ามากนะค่ะ แต่ก็นอนได้ค่ะ
พอเรามาถึงที่ฟลอเร้นซ์ ก็เดินมาที่พัก แต่ยังเข้าห้องไม่ได้นะค่ะยังไม่ถึงเวลาเช็คอินค่ะ เราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมค่ะแล้วก็เดินเล่นกันต่อเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวช่วงบ่ายๆ เราจะนั่งรถไฟไปปิซ่าค่ะ
ทุกครั้งที่ซื้อตั๋วอย่าลืมเอาตั๋วไปตรอกลงเวลาใช้งานนะค่ะ
หลังจากที่เดินเล่นเสร็จแล้วเราก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางไปปิซ่า เราเดินทางออกจากฟลอเร้นซ์ ประมาณ 13.45 น. ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที และแล้วเรื่องที่ไม่คลาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้ ระหว่างเดินทางบนรถไฟขบวนนี้ พอดีรถไฟขบวนนี้มี 2 ชั้น และอ้อก็เห็นว่าเรายังไม่เคยนั่งรถไฟที่เป็น 2 ชั้นเลย อ้อก็เลยชวนทุกคนไปนั่งบนชั้น 2 กัน ช่วงระหว่างเดินทางได้สักพัก อ้อก็นึกอยากเข้าห้องน้ำ และชวนพี่กรไปเป็นเพื่อน พอเดินลงมาข้างล่างก็เห็นว่าอากาศเย็นกว่า และด้านล่างก็มีแต่ฝรั่งหัวทองนั่งกันเต็มไม่หมด แต่ชั้น 2 ที่เรานั่งมีแต่พวกผิวดำ และดูน่ากลัวมาก พอเดินกลับมาก็เลยชวนเพื่อนลงมานั่งกันที่ชั้นล่างดีกว่า แต่จังหวะนั้น โน้ตลืมเอากล้องลงมาด้วย เราก็นั่งต่อไปอีกไม่นาน ก็ถึงสถานีที่เราต้องลง พอลงมาแล้วโน้ตนึกถึงกล้องได้ก็วิ่งกลับขึ้นไปบนรถไฟอีกรอบ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว กล้องหาย รูปที่เราถ่ายมาตั้งแต่แรกหายหมด พอเกิดเรื่องนี้ทุกคนเริ่มใจคอไม่ดีกันแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เวนิสแล้วที่เราเจอแต่คนน่ากลัวในอิตาลี เรามาลงที่สถานี Pisa S. Rossore ตอนมาถึงยังไม่มึดบรรยากาศก็ปกติดี เราก็เดินไปที่ หอเอนปิซ่า ถ่ายรูปกันได้สักพักก็มึดแล้ว เพราะว่าหน้าหนาวมึดเร็วมาก
พอหลังจากเราถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ Pisa S. Rossore ระหว่างทางเดินกลับค่อนข้างมึด พอมาถึงก็หาซื้อตั๋วและนั่งรอรถไฟ ระหว่างที่รอรถไฟอยู่อ้อก็ไม่ได้เห็นมีอะไรผิดสังเกตนะค่ะ และก็ไม่ทันได้มองรอบๆ ว่ามีใครรอขึ้นรถไฟป่าว แต่ช่วงที่อ้อขึ้นรถไฟอ้อขึ้นเป็นคนแรกพี่กรเดินตามมา จังหวะนั้นอ้อขึ้นรถไฟได้แล้ว อ้อรู้สึกว่ากระเป๋าที่อ้อสะพายมันตึงรั้งคออ้ออยู่ อ้อก็รีบหันไปหาพี่กรแล้วถามว่า พี่กรล่วงกระเป๋าอ้อหรอ พี่กรบอกไม่ได้ ถ้างั้นอ้อโดนล่วงกระเป๋าแล้ว ส่วนพี่กรก็สะพายเป้ไว้ด้านหลัง เพื่อนที่เดินตามหลังมา ก็บอกว่า พี่กรเมื่อกี้มันเปิดซิปพี่ พออ้อรู้ว่าโดนล่วงกระเป๋าก็รีบดูก่อนเลยว่ามือถืออยู่ป่าว เพราะเป็นสิ่งเดียวที่หยิบง่ายที่สุด ในกระเป๋าอ้อจะมีบัตรเครดิต กับ พาสปอร์ต แต่ 2 อย่างนี้คงเอาไปไม่ได้เพราะอยู่ในซิบอีกที พอเห็นว่ามือถืออยู่อย่างอื่นก็ไม่ได้สนใจเพราะมีแต่กระดาษสำหรับจดและเครื่องคิดเลข พอหันกลับมาก็เห็นคนที่ล่วงกระเป๋าเราโยนของเราทิ้งกับพื้นบนรถไฟแระ เราก็เก็บขึ้นมา หลังจากนั้นอ้อก็รีบดูในกระเป๋าพี่กร เพราะในนั้นมีกล้องอยู่ทั้งหมดเลย เพราะเราหยุดถ่ายรูปแล้วเพราะกลัวกล้องหายอีก โชคดีที่เอาอะไรของพี่กรไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะในกระเป๋ามีขวดน้ำ มีผ้าพันคอ ถุงมือที่เราไม่ได้ใช้วางทับอยู่ พอพวกมิฉาชีพไม่ได้อะไรก็ลงจากรถไฟไป แต่เหตุการณ์มันไวมากจริงๆค่ะ แค่จังหวะไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำที่รถไฟจอดเพื่อให้ผู้โดยสารขึ้น คนที่ทำก็ดูอายุน้อยอยู่เลย บางคนก็อุ้มลูกมาด้วย เค้ามากันเป็นทีม 6-8 คนได้ค่ะ ขนาดอ้อกับพี่กรเดินด้วยกันตลอดเค้าก็เข้ามาแทรกระหว่างเรา และแยกกันลงมือได้ ยิ่งเจอแบบนี้ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่กับประเทศนี้ แต่ก็ยังยืนยันว่าคนท้องถิ่นน่ารักมาก รูปที่ลงคือกลุ่มมิฉาชีพที่ทำกับเรา เราถ่ายตอนที่เราอยู่บนรถไฟแล้วนะค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่พักของเราที่ฟลอเร้นซ์ ระหว่างที่อยู่ที่อิตาลี เราไม่เคยออกมาเดินเล่นตอนกลางคืนเลยที่อิตาลี เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย
การเดินทางของวันนี้เราก็สิ้นสุดลงแล้วค่ะ
ติดตามดูรูปได้ที่นี่นะค่ะ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2/273888802712586