Stand by Me หยิบช่วงเวลาของโดราเอมอน ในโมเมนต์สำคัญโดยจะเล่าเรื่องราวตั้งแต่ช่วงเวลาที่โดราเอมอนได้เดินทางมายังช่วงเวลาของโนบิตะเพื่อช่วยเหลือในการเปลี่ยนแปลงอนาคตข้างหน้า โนบิตะ จะได้รู้จักกับของวิเศษต่างๆนา ไปจนถึงโนบิตะจะต้องเดินทางไปยังโลกอนาคตเพื่อช่วยเหลือโนบิตะในตอนโตและช่วยเหลือ ชิซูกะ ระหว่างตอนี่เธอกำลังลำบาก และช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนนี่โนบิตะจะต้องลาจากจากโดราเอมอนเพื่อกลับโลกอนาคต
ตัวหนัง Stand by Me Doraemon ได้ผู้กำกับชาวญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง ยามาซากิ ทาคาชิ ที่มีความโดดเด่นในการเล่าเรื่องราวสุดกินใจใน Always: Sunset on the Third Street ทั้งสามภาค ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นแฟนหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนมาอย่างยาวนานจนเขาต้องเอ่ยปากยอมรับว่าจริงๆแล้วผลงานงานหลายๆเรื่องของเขานั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากผลงานของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ อาทิเช่นหนังเรื่อง Juvenile
ความแตกต่างระหว่างโดราเอมอนใน Stand by Me Doraemon กับโดราเอมอนในตอนยาวๆแบบอื่นๆที่มักจะออกฉายเป็นประจำทุกๆปีนั้นอยู่ตรงที่ครั้งนี้งานด้านภาพจะถูกออกแบบมาเป็น 3D และมีการเขียนพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ ซึ่งทางทีมงานโปรดิวเซอร์นั้นก็ต้องเจรจากับทางฟูจิโกะโปร ผู้ถือลิขสิทธิ์โดราเอมอน ทำให้ทีมงานต้องส่งพล็อตเรื่องไปให้พิจารณา แต่ท้ายที่สุดแล้วทีมงานก็ได้รับไฟเขียวให้กลายเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวได้ทันที
ตัวหนังจะถูกดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนทั้งสิ้น 7 เล่มประกอบไปด้วย ผู้มาจากโลกอนาคต, ชิซูกะจังในไข่, ชิซูกะจังลาก่อน, ความโรแมนติกบนภูเขาหิมะ, คืนก่อนงานแต่งงานของโนบิตะ, ลาก่อนโดราเอมอนและโดราเอมอนกลับมาแล้ว ซึ่งเป้าหมายจริงๆของการทำหนังเรื่องนี้ก็คือการเชิญชวนให้ผู้ใหญ่ที่เติบโตมากับโดราเอมอนกลับมาเพื่อเข้าโรงหนังและระลึกความหลังไปพร้อมๆกัน
เครดิต: movie.sanook.com
สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู Stand by Me Doraemon จากวันที่เรารู้จักกันจนวันลาจาก
Stand by Me หยิบช่วงเวลาของโดราเอมอน ในโมเมนต์สำคัญโดยจะเล่าเรื่องราวตั้งแต่ช่วงเวลาที่โดราเอมอนได้เดินทางมายังช่วงเวลาของโนบิตะเพื่อช่วยเหลือในการเปลี่ยนแปลงอนาคตข้างหน้า โนบิตะ จะได้รู้จักกับของวิเศษต่างๆนา ไปจนถึงโนบิตะจะต้องเดินทางไปยังโลกอนาคตเพื่อช่วยเหลือโนบิตะในตอนโตและช่วยเหลือ ชิซูกะ ระหว่างตอนี่เธอกำลังลำบาก และช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนนี่โนบิตะจะต้องลาจากจากโดราเอมอนเพื่อกลับโลกอนาคต
ตัวหนัง Stand by Me Doraemon ได้ผู้กำกับชาวญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง ยามาซากิ ทาคาชิ ที่มีความโดดเด่นในการเล่าเรื่องราวสุดกินใจใน Always: Sunset on the Third Street ทั้งสามภาค ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นแฟนหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนมาอย่างยาวนานจนเขาต้องเอ่ยปากยอมรับว่าจริงๆแล้วผลงานงานหลายๆเรื่องของเขานั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากผลงานของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ อาทิเช่นหนังเรื่อง Juvenile
ความแตกต่างระหว่างโดราเอมอนใน Stand by Me Doraemon กับโดราเอมอนในตอนยาวๆแบบอื่นๆที่มักจะออกฉายเป็นประจำทุกๆปีนั้นอยู่ตรงที่ครั้งนี้งานด้านภาพจะถูกออกแบบมาเป็น 3D และมีการเขียนพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ ซึ่งทางทีมงานโปรดิวเซอร์นั้นก็ต้องเจรจากับทางฟูจิโกะโปร ผู้ถือลิขสิทธิ์โดราเอมอน ทำให้ทีมงานต้องส่งพล็อตเรื่องไปให้พิจารณา แต่ท้ายที่สุดแล้วทีมงานก็ได้รับไฟเขียวให้กลายเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวได้ทันที
ตัวหนังจะถูกดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนทั้งสิ้น 7 เล่มประกอบไปด้วย ผู้มาจากโลกอนาคต, ชิซูกะจังในไข่, ชิซูกะจังลาก่อน, ความโรแมนติกบนภูเขาหิมะ, คืนก่อนงานแต่งงานของโนบิตะ, ลาก่อนโดราเอมอนและโดราเอมอนกลับมาแล้ว ซึ่งเป้าหมายจริงๆของการทำหนังเรื่องนี้ก็คือการเชิญชวนให้ผู้ใหญ่ที่เติบโตมากับโดราเอมอนกลับมาเพื่อเข้าโรงหนังและระลึกความหลังไปพร้อมๆกัน
เครดิต: movie.sanook.com