สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ตอนนี้คุยกันเรียบร้อยละครับ ได้ข้อสรุปตามนี้ครับ
1.ถ้าน้องเขามาถึงผมจะไปเช็คกล้องก่อนว่าเบื้องต้นมีอะไรเสียหายบ้างไหม แล้วคืนนี้ให้พ่อกับแม่เขาเอาไปเก็บไว้บ้านเขาก่อน เขาจะได้สบายใจว่าถ้ากล้องมีปัญหา ผมไม่ได้เป็นคนใส่ความลูกเขา แล้วพรุ่งนี้ก็นัดกันไปที่ศูนย์canonเลย ไปเช็คละเอียดกันเลย ส่วนความเสียหายไม่ว่าเกิดก่อนหรือระหว่างที่น้องเขาเอาไปก็ถือว่าเป็นความผิดเขา ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเกิดขึ้นก่อนหรือระหว่างเขาเอาไป
2.ลั่นชัตเตอร์ไปเท่าไหร่ผมคิด ครั้งละ5บาท เอามาเทียบกับที่ผมจดไว้ล่าสุดเลย แล้วคิดตามนั้นว่าลั่นไปกี่ครั้งก็คูณ5ไป ถ้ามากเกินก็ต้องเปลี่ยนชัตเตอร์ ค่าใช้จ่ายเขาต้องรับผิดชอบ
3.ตัวเลนส์ตัวกล้องถ้ามีปัญหาทุกกรณี ไม่ว่าเป็นรอย เป็นฝุ่น เป็นฝ้า น้ำเข้า ส่งเข้าไปศูนย์อย่างเดียว ต้องทำให้อยู่ในสภาพเดิม ไม่มีรอย ไม่มีฝุ่น ไม่มีรอยโดนน้ำ ซ่อมไม่ได้ก็ต้องชดใช้เต็มจำนวน ค่าใช้จ่ายเขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด
4.ผมถือว่าเป็นการเช่า เทียบราคากับร้านเช่าเลย ว่าถ้าเป็นร้านเช่าจะคิดเท่าไหร่ ให้เขาจ่ายตามนั้น
5.ถ้ามีการส่งซ่อม ระหว่างส่งซ่อม ถ้าคล่อมกับงานที่ผมรับไว้ หรืองานที่จะมีเพิ่มขึ้นมาระหว่างนี้ เขาต้องรับผิดชอบค่าเช่ากล้องหรือเลนส์ที่ต้องเช่ามาใช้ทดแทนที่ส่งซ่อม
6.เรื่องลงโทษให้พ่อแม่เขาจัดการผมไม่ขอยุ่ง
7.เรื่องอื่นๆผมไม่เอาความ เพราะเป็นความสะเพร่าของคนที่บ้านผมเอง
8.ส่วนค่าใช้จ่ายถ้ามันมากเกินไป ส่วนไหนที่ลดหย่อนผ่อนปรนกันได้ผมจะพยายามช่วย แต่ต้องยึดข้อก่อนหน้าไว้เป็นหลัก
ทั้งหมดได้ทำเป็นหนังสือสัญญา เซ็นต่อหน้าพยาน คือกำนัน และ นายก อบต.เรียบร้อย
1.ถ้าน้องเขามาถึงผมจะไปเช็คกล้องก่อนว่าเบื้องต้นมีอะไรเสียหายบ้างไหม แล้วคืนนี้ให้พ่อกับแม่เขาเอาไปเก็บไว้บ้านเขาก่อน เขาจะได้สบายใจว่าถ้ากล้องมีปัญหา ผมไม่ได้เป็นคนใส่ความลูกเขา แล้วพรุ่งนี้ก็นัดกันไปที่ศูนย์canonเลย ไปเช็คละเอียดกันเลย ส่วนความเสียหายไม่ว่าเกิดก่อนหรือระหว่างที่น้องเขาเอาไปก็ถือว่าเป็นความผิดเขา ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเกิดขึ้นก่อนหรือระหว่างเขาเอาไป
2.ลั่นชัตเตอร์ไปเท่าไหร่ผมคิด ครั้งละ5บาท เอามาเทียบกับที่ผมจดไว้ล่าสุดเลย แล้วคิดตามนั้นว่าลั่นไปกี่ครั้งก็คูณ5ไป ถ้ามากเกินก็ต้องเปลี่ยนชัตเตอร์ ค่าใช้จ่ายเขาต้องรับผิดชอบ
3.ตัวเลนส์ตัวกล้องถ้ามีปัญหาทุกกรณี ไม่ว่าเป็นรอย เป็นฝุ่น เป็นฝ้า น้ำเข้า ส่งเข้าไปศูนย์อย่างเดียว ต้องทำให้อยู่ในสภาพเดิม ไม่มีรอย ไม่มีฝุ่น ไม่มีรอยโดนน้ำ ซ่อมไม่ได้ก็ต้องชดใช้เต็มจำนวน ค่าใช้จ่ายเขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด
4.ผมถือว่าเป็นการเช่า เทียบราคากับร้านเช่าเลย ว่าถ้าเป็นร้านเช่าจะคิดเท่าไหร่ ให้เขาจ่ายตามนั้น
5.ถ้ามีการส่งซ่อม ระหว่างส่งซ่อม ถ้าคล่อมกับงานที่ผมรับไว้ หรืองานที่จะมีเพิ่มขึ้นมาระหว่างนี้ เขาต้องรับผิดชอบค่าเช่ากล้องหรือเลนส์ที่ต้องเช่ามาใช้ทดแทนที่ส่งซ่อม
6.เรื่องลงโทษให้พ่อแม่เขาจัดการผมไม่ขอยุ่ง
7.เรื่องอื่นๆผมไม่เอาความ เพราะเป็นความสะเพร่าของคนที่บ้านผมเอง
8.ส่วนค่าใช้จ่ายถ้ามันมากเกินไป ส่วนไหนที่ลดหย่อนผ่อนปรนกันได้ผมจะพยายามช่วย แต่ต้องยึดข้อก่อนหน้าไว้เป็นหลัก
ทั้งหมดได้ทำเป็นหนังสือสัญญา เซ็นต่อหน้าพยาน คือกำนัน และ นายก อบต.เรียบร้อย
Panda-baker ถูกใจ, นูเบ ถูกใจ, amscmu ถูกใจ, burapha25 ถูกใจ, asita ถูกใจ, ตาบอดสี_ตามหาแสงสวย ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ยืมไม่ถาม ควรต่อยซะดีไหม?
ปกติผมจะเก็บไว้ในตู้กันชื้นตลอด แต่ว่าตู้กันชื้นผมตรงที่ล็อคมันเสีย ผมเลยยกตู้กันชื้นไปไว้ในตู้เสื้อผ้าผมอีกที แล้วก็ล็อค แล้วก็ซ่อนกุญแจไว้หลังโต๊ะอ่านหนังสือ เพราะผมจะไม่อยู่บ้านไปทำธุระต่างจังหวัด3-4วัน กลับบ้านวันนี้ แต่พอตะกี้กลับมาถึงบ้าน เปิดดูกล้องหายไปทั้ง2ตัว เลนส์70-200กับ24-70ผมหายไป ผมเลยแปลกใจ เลยรับโทรไปถามพี่ชายผม เพราะปกติจะมีแต่พีผมคนเดียวที่รู้ว่ากล้องผมเก็บไว้ที่ไหนยังไง เพราะยืมบ่อย พอถามพี่พี่ก็บอกว่า วันที่ผมออกไปเด็กข้างบ้านมันมายืมกล้องจะไปเที่ยวทัศนศึกษากับโรงเรียน พี่ก็บอกว่าให้โทรถามผมก่อนเพราะปกตินอกจากพี่ผมผมไม่เคยให้ใครยืม เด็กมันก็เลยกลับบ้านไป แต่เย็นพี่บอกว่าตอนออกไปโลตัส แม่โทรมาถามว่ากุญแจตู้เสื้อผ้าห้องผมอยู่ไหน แต่พี่ไม่เอะใจเพราะคิดว่าแม่คงเอาผ้าที่ผมส่งซักรีดไปเก็บให้ ผมเลยไปถามแม่เลยได้รู้ว่าตอนพี่ผมออกบ้านไปไอ่เด็กข้างบ้านคนเดิมมาหา แล้วบอกว่าจะยืมกล้องผม โทรถามผมแล้ว ว่าผมให้ยืม แล้วโกหกแม่ผมอีกว่าจะเอาไปถ่ายงานที่บ้านแปบเดียว เดี๋ยวเอามาคืน แม่ก็เลยพาเข้าไปเอาเพราะตอนเช้าวันที่ผมอยู่บ้านแม่เอาผ้ามาเก็บก็เห็นว่าผมเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า เลยไม่โทรถามผม และไม่เอะใจอะไร แต่ก็ยังบ่นกับพ่อว่าตัวหนึ่งไม่ใช่ถูกทำไมผมให้ยืม แล้วก็คิดว่าเด็กมันคงเอามาคืนกับพี่ผมแล้ว เลยไม่ได้เอะใจอะไร เพราะตอนดึกๆเห็นยืนคุยกับพี่ผมอยู่นึกว่าเอากล้องมาคืน จนมารู้วันนี้ว่าผมไม่ให้ยืม แล้วไอ่เด็กนั่นก็ยังไม่ได้เอามาคืน
ตอนนี้ผมควรทำไงดีครับ ไอ่เด็กนั่นมันไปตั้ง2วันแล้ว ไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ได้ไปทัศนศึกษาโทรติดต่อก็ปิดเครื่อง จะกลับอีกทีก็วัน พฤหัส แต่ละที่ๆมันไป ไปเที่ยวทะเลด้วย ไปดรีมเวิร์ดด้วย ที่ๆเปียกๆชื้นๆทั้งนั้น ไอ่เด็กนี่ก็ไม่มีความรู้เรื่องกล้องพวกนี้เท่าไหร่ด้วย เลนส์แต่ละตัวที่มันเอาไป ทำตกทำกระแทกทำลายขึ้นมานี่ น้ำตาร่วงแน่
ตอนนี้ผมไม่สบายใจเลย ถามพ่อแม่ไอ่เด็กนั่นก็บอกว่าไม่รู้ว่าไปกับเพื่อนคนไหนบ้าง ตอนนี้ไม่รู้จะตามยังไงแล้ว
ตอนนี้ผมเข้าไปดูfacebookก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย
ผมควรทำไงดี?
อัพเดทล่าสุดครับ
ตอนนี้คุยกันเรียบร้อยละครับ ได้ข้อสรุปตามนี้ครับ
1.ถ้าน้องเขามาถึงผมจะไปเช็คกล้องก่อนว่าเบื้องต้นมีอะไรเสียหายบ้างไหม แล้วคืนนี้ให้พ่อกับแม่เขาเอาไปเก็บไว้บ้านเขาก่อน เขาจะได้สบายใจว่าถ้ากล้องมีปัญหา ผมไม่ได้เป็นคนใส่ความลูกเขา แล้วพรุ่งนี้ก็นัดกันไปที่ศูนย์canonเลย ไปเช็คละเอียดกันเลย ส่วนความเสียหายไม่ว่าเกิดก่อนหรือระหว่างที่น้องเขาเอาไปก็ถือว่าเป็นความผิดเขา ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเกิดขึ้นก่อนหรือระหว่างเขาเอาไป
2.ลั่นชัตเตอร์ไปเท่าไหร่ผมคิด ครั้งละ5บาท เอามาเทียบกับที่ผมจดไว้ล่าสุดเลย แล้วคิดตามนั้นว่าลั่นไปกี่ครั้งก็คูณ5ไป ถ้ามากเกินก็ต้องเปลี่ยนชัตเตอร์ ค่าใช้จ่ายเขาต้องรับผิดชอบ
3.ตัวเลนส์ตัวกล้องถ้ามีปัญหาทุกกรณี ไม่ว่าเป็นรอย เป็นฝุ่น เป็นฝ้า น้ำเข้า ส่งเข้าไปศูนย์อย่างเดียว ต้องทำให้อยู่ในสภาพเดิม ไม่มีรอย ไม่มีฝุ่น ไม่มีรอยโดนน้ำ ซ่อมไม่ได้ก็ต้องชดใช้เต็มจำนวน ค่าใช้จ่ายเขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด
4.ผมถือว่าเป็นการเช่า เทียบราคากับร้านเช่าเลย ว่าถ้าเป็นร้านเช่าจะคิดเท่าไหร่ ให้เขาจ่ายตามนั้น
5.ถ้ามีการส่งซ่อม ระหว่างส่งซ่อม ถ้าคล่อมกับงานที่ผมรับไว้ หรืองานที่จะมีเพิ่มขึ้นมาระหว่างนี้ เขาต้องรับผิดชอบค่าเช่ากล้องหรือเลนส์ที่ต้องเช่ามาใช้ทดแทนที่ส่งซ่อม
6.เรื่องลงโทษให้พ่อแม่เขาจัดการผมไม่ขอยุ่ง
7.เรื่องอื่นๆผมไม่เอาความ เพราะเป็นความสะเพร่าของคนที่บ้านผมเอง
8.ส่วนค่าใช้จ่ายถ้ามันมากเกินไป ส่วนไหนที่ลดหย่อนผ่อนปรนกันได้ผมจะพยายามช่วย แต่ต้องยึดข้อก่อนหน้าไว้เป็นหลัก
ทั้งหมดได้ทำเป็นหนังสือสัญญา เซ็นต่อหน้าพยาน คือกำนัน และ นายก อบต.เรียบร้อย