ลูกสาววัย 3 ขวบคะ เข้าโรงเรียนแล้ว จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ น้องเข้าเรียนตั้งแต่อายุ 1.7 ปี โรงเรียนเป็นคล้าย ๆ เนอสเซอร์รี่ ค่าจ้างเป็นรายเดือน อยู่ในวิทยาลัยพยาบาล การดูแลถือว่าดีมาก จากที่น้องต้องใส่แพมเพิสไปโรงเรียน จนมาถึงประมาณ 2.4 ปี ลูกสาวก็เลิกแพมเพิสได้ แถมเลิกกินนมจากขวดได้ด้วยคะ
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลูกสาวทะเลาะกับเพื่อน มีรอยหยิกที่ตามา 1 รอย เย็นวันนั้นที่ไปรับ คุณครูกรูกันเข้ามาขอโทษคุณแม่ ที่ดูแลน้องได้ไม่ดี ทำให้น้องเจ็บ และสัญญาว่าต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ซึ่งคุณแม่ก็เข้าใจว่า เด็กเล็กเลี้ยงรวมกันหลายคนก็ย่อมมีการแย่งของเล่นกันบ้าง ซึ่งในจุดนี้ก็เข้าใจดีว่า ลูกสาวตัวเองเป็นคนหวงของมาก ไม่ยอมแบ่งใครแม้กระทั้งพ่อและแม่ ซึ่งเราก็ไม่ได้โกรธคุณครู และเข้าใจในความผิดพลาดคร้งนี้ด้วย ^^
พอน้องอายุได้ 2.9 เดือน คุณแม่ต้องย้ายไปอยู่กับคุณพ่ออีกจังหวัดหนึ่ง การเลือกโรงเรียนให้ลูกถือว่ายากมาก เนื่องจาก ไม่ได้อยู่ในตัวจังหวัด ทำให้เราไม่มีสิทธิ์เลือก ไปดูโรงเรียนมา 2 โรงเรียน ทำให้คุณแม่ต้องตัดสินใจเรียนโรงเรียนเอกชน (ตัวอำเภอ) เพราะใกล้บ้าน การรับส่งไม่ลำบาก เพราะโรงเรียนใหม่นี้เลิกเรียนเวลา 15.00 น. (คุณแม่คุณพ่อเลิกงาน 16.30 น.) และคนที่ต้องไปรับลูกสาวก็คือคุณย่า
ก่อนหน้านี้ ลูกจะมีรอยหยิกที่จมูกบ่อย ๆ เป็นรอยเล็ก ๆ ซึ่งตอนแรกคุณแม่คิดว่า เป็นรอยจากเล็บน้องเอง เพราะน้องเล็บยาว แต่หลังจากนั้นคุณแม่ก็จะหมั่นตัดเล็บน้องให้สั้นอยู่เสมอ.....แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา คุณแม่กลับมาเจอน้องที่บ้าน พร้อมกับรอยเล็บที่จมูก ยาวเกือบ 1 ซม. และลึกมาก และสาวน้อยบ่นเจ็บ เลยคิดว่าวันจันทร์จะต้องไปคุยกับคุณครูให้ได้
แต่พอถึงวันจันทร์ สาวน้อยร้องงอแงว่าไม่อยากไปเรียน กลัวเพื่อน ประกอบกับคุณย่าก็เป็นกรรมการโรงเรียน (ครูเกษียณ) ก็เลยอาสาไปคุยกับคุณครูเอง ได้เรื่องมาว่า
คุณย่าไปส่งสาวน้อยที่ห้องเรียน แล้วถามสาวน้อยว่า
คุณย่า : น้องพิมพ์ ไหนคนไหนที่หยิกน้องพิมพ์?
น้องพิมพ์ : ชี้ไปที่เพื่อน บอกว่า คนนี้ที่หยิกหนู
คุณย่า : หนูทำเพื่อนทำมัย? ต่อไปอย่าแกล้งน้องพิมพ์อีกนะ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย หนูรู้มัยลูกว่าเพื่อนเจ็บ เลือดไหลด้วย
และแล้วคุณครูก็เดินเข้ามาพูดว่า
คุณครู : คุณย่าคะ คือ น้องพิมพ์ชอบหวงของ ไม่แบ่งให้เพื่อนเล่น เพื่อนเลยหยิกคะ
คุณย่า : แล้วทำมัยคุณครูถึงไม่สอนให้เด็กรู้จักแบ่งปันละ? ไม่อย่างนั้น น้องพิมพ์ก็ต้องทนเจ็บทุกวันหรอ?
คุณครู : (เงียบ) ไม่มีการขอโทษ ไม่มีคำพูดใด ๆ
เย็นวันจันทร์.....................น้องพิมพ์กลับมาบ้าน พร้อมรอยเล็ก ๆ ที่จมูก เหนือร้อยเก่าอีก 1 รอย
ถ้าเป็นแม่ท่านอื่น จะทำอย่างไรคะ?
เราเลี้ยงลูกมา เจ็บซักนิดก็ไม่อยากให้เจ็บ แผลก็ไม่อยากให้เป็น ทุกวันนี้ไปโรงเรียนเหมื่อนไปสนามรบ คุณพ่อต้องสอนลูกว่า ถ้าใครมารังแก อย่าไปยอม เพื่อรังแกให้หนูกัดเลย ซึ่งเราก็รู้ว่ามันผิด ^^ แต่ก็ยากให้เค้ารู้จักป้องกันตัวเองบ้าง ทุกวันนี้ กลัวอย่างเดียว กลัวเพื่อนเอาดินสอทิ้มตา
++++เมื่อลูกกลับจากโรงเรียน แล้วมีรอยแผลบ่อย ๆ++++
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลูกสาวทะเลาะกับเพื่อน มีรอยหยิกที่ตามา 1 รอย เย็นวันนั้นที่ไปรับ คุณครูกรูกันเข้ามาขอโทษคุณแม่ ที่ดูแลน้องได้ไม่ดี ทำให้น้องเจ็บ และสัญญาว่าต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ซึ่งคุณแม่ก็เข้าใจว่า เด็กเล็กเลี้ยงรวมกันหลายคนก็ย่อมมีการแย่งของเล่นกันบ้าง ซึ่งในจุดนี้ก็เข้าใจดีว่า ลูกสาวตัวเองเป็นคนหวงของมาก ไม่ยอมแบ่งใครแม้กระทั้งพ่อและแม่ ซึ่งเราก็ไม่ได้โกรธคุณครู และเข้าใจในความผิดพลาดคร้งนี้ด้วย ^^
พอน้องอายุได้ 2.9 เดือน คุณแม่ต้องย้ายไปอยู่กับคุณพ่ออีกจังหวัดหนึ่ง การเลือกโรงเรียนให้ลูกถือว่ายากมาก เนื่องจาก ไม่ได้อยู่ในตัวจังหวัด ทำให้เราไม่มีสิทธิ์เลือก ไปดูโรงเรียนมา 2 โรงเรียน ทำให้คุณแม่ต้องตัดสินใจเรียนโรงเรียนเอกชน (ตัวอำเภอ) เพราะใกล้บ้าน การรับส่งไม่ลำบาก เพราะโรงเรียนใหม่นี้เลิกเรียนเวลา 15.00 น. (คุณแม่คุณพ่อเลิกงาน 16.30 น.) และคนที่ต้องไปรับลูกสาวก็คือคุณย่า
ก่อนหน้านี้ ลูกจะมีรอยหยิกที่จมูกบ่อย ๆ เป็นรอยเล็ก ๆ ซึ่งตอนแรกคุณแม่คิดว่า เป็นรอยจากเล็บน้องเอง เพราะน้องเล็บยาว แต่หลังจากนั้นคุณแม่ก็จะหมั่นตัดเล็บน้องให้สั้นอยู่เสมอ.....แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา คุณแม่กลับมาเจอน้องที่บ้าน พร้อมกับรอยเล็บที่จมูก ยาวเกือบ 1 ซม. และลึกมาก และสาวน้อยบ่นเจ็บ เลยคิดว่าวันจันทร์จะต้องไปคุยกับคุณครูให้ได้
แต่พอถึงวันจันทร์ สาวน้อยร้องงอแงว่าไม่อยากไปเรียน กลัวเพื่อน ประกอบกับคุณย่าก็เป็นกรรมการโรงเรียน (ครูเกษียณ) ก็เลยอาสาไปคุยกับคุณครูเอง ได้เรื่องมาว่า
คุณย่าไปส่งสาวน้อยที่ห้องเรียน แล้วถามสาวน้อยว่า
คุณย่า : น้องพิมพ์ ไหนคนไหนที่หยิกน้องพิมพ์?
น้องพิมพ์ : ชี้ไปที่เพื่อน บอกว่า คนนี้ที่หยิกหนู
คุณย่า : หนูทำเพื่อนทำมัย? ต่อไปอย่าแกล้งน้องพิมพ์อีกนะ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย หนูรู้มัยลูกว่าเพื่อนเจ็บ เลือดไหลด้วย
และแล้วคุณครูก็เดินเข้ามาพูดว่า
คุณครู : คุณย่าคะ คือ น้องพิมพ์ชอบหวงของ ไม่แบ่งให้เพื่อนเล่น เพื่อนเลยหยิกคะ
คุณย่า : แล้วทำมัยคุณครูถึงไม่สอนให้เด็กรู้จักแบ่งปันละ? ไม่อย่างนั้น น้องพิมพ์ก็ต้องทนเจ็บทุกวันหรอ?
คุณครู : (เงียบ) ไม่มีการขอโทษ ไม่มีคำพูดใด ๆ
เย็นวันจันทร์.....................น้องพิมพ์กลับมาบ้าน พร้อมรอยเล็ก ๆ ที่จมูก เหนือร้อยเก่าอีก 1 รอย
ถ้าเป็นแม่ท่านอื่น จะทำอย่างไรคะ?
เราเลี้ยงลูกมา เจ็บซักนิดก็ไม่อยากให้เจ็บ แผลก็ไม่อยากให้เป็น ทุกวันนี้ไปโรงเรียนเหมื่อนไปสนามรบ คุณพ่อต้องสอนลูกว่า ถ้าใครมารังแก อย่าไปยอม เพื่อรังแกให้หนูกัดเลย ซึ่งเราก็รู้ว่ามันผิด ^^ แต่ก็ยากให้เค้ารู้จักป้องกันตัวเองบ้าง ทุกวันนี้ กลัวอย่างเดียว กลัวเพื่อนเอาดินสอทิ้มตา