เนื่องจากผมขายบ้าน แล้วคนซื้อจ่ายมัดจำมาก้อนหนึ่ง แต่ไม่สามารถหาเงินมาซื้อบ้านได้ตามสัญญา
แต่ขอเข้าไปอยู่บ้านผมเลย ผมต้องระเห็ดตัวเองไปอยู่บ้านเช่า
คนจะซื้อใช้ "น้ำตา" อ้อนวอนให้ผม "รอ" จนผม "เห็นใจ"
ในระหว่างที่รอเงินขายบ้านอยู่เกือบปี ผมก็ไม่สามารถไปกู้เงินที่ไหนได้เลย
ธุรกิจผมมีปัญหามาก บังเอิญว่า คนจะซื้อได้เงินมาก้อนใหญ่ (มรดกสามีฝรั่ง) แต่เขาไม่ยอมเอามาซื้อบ้านผม
เพราะเขาจะเอาไปจ่ายหนี้ต่างๆก่อน ผมเองก็ลำบากมาก จึงไปขอยืมมาชำระหนี้จำเป็น
และจ่ายดอกเบี้ยของจำนำต่างๆก่อน และได้ทำสัญญากู้ยืมเงิน ลงลายมือชื่อกันไว้
สุดท้ายผ่านไป 1 ปี คนจะซื้อก็ยังไม่สามารถหาเงินก้อนใหม่มาซื้อบ้านได้
จึงบอกผมว่า จะเอาบ้านผมเข้ายื่นกู้กับธนาคาร ไปผ่อนเอา
ผมจึงยื่นข้อเสนอไป 2 ทาง
1. ผมขอบ้านคืน เงินที่ยืมนั้น ผมจะชดใช้ให้ตามสัญญา
2. ไม่ขอข้านคืน แต่ขอให้เงินกู้ยืมนี้เป็น "ค่าเสียหาย"
ที่ทำให้ 1 ปีที่ผ่านมาธุรกิจผมพังพินาศ เพราะไม่สามารถไปกู้เงินที่ไหนมาหมุนเวียนได้เลย
พูดง่ายๆว่า ขายบ้านต้นปีก็ราคานึง ผ่านไป 1 ปีก็ต้องอีกราคานึง (ส่วนต่างตามจำนวนที่ยืมมาพอดี)
เราพบความยากลำบากต้องไปเช่าบ้านอยู่ หมดเงินค่าเช่าไปเกือบแสน และหมดเงินไปกับการวิ่งหาที่ดิน
และออกแบบบ้านหลังใหม่ ยื่นประเมินต่างๆ แต่ต้องถูกยกเลิกทั้งหมดเพราะบ้านเดิมยังไม่ได้ปิดบัญชีซะที
ปรากฏว่า คนจะซื้อไม่ยอม จะฟ้องร้องผม ทนายคนจะซื้อส่งเอกสารมาบอกว่า
"คนจะซื้อให้เงินมัดจำบ้านมาแล้ว แต่ญาติคนจะซื้อประสบอุบัติเหตุ จึงไม่สามารถ
ซื้อบ้านได้ในวันที่ตามสัญญา และผู้ขายก็ยินยอมให้เข้าไปอยู่ จึงให้ผู้ขายโอนกรรมสิทธิ์บ้านให้ผู้ซื้อภายใน 15 วัน"
ผมเองอยากให้เรื่องจบง่ายๆ จะได้ไม่ต้องจ้างทนายขึ้นโรงขึ้นศาล ก็ว่าจะไปโอนบ้านให้เขาให้จบๆ
แต่เรื่องเงินยืม เขาไม่ยอมให้ผมคิดเป็นค่าเสียหาย พูดง่ายๆว่า จ่ายมัดจำมาส่วนหนึ่งตอนต้นปี
แล้วบอกให้เรารอมาทั้งปี พอสิ้นปีก็จะซื้อในราคาเดิม ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ผมจึงคิดว่า จะใช้วิธีบางอย่างเอาเอกสารเงินกู้จากเขามา "ฉีกทิ้ง และเผากันต่อหน้า" ซะเลย
ไม่ทราบว่า การกระทำแบบนี้ ผมจะมีความผิดอะไรบ้างครับ? (ผมยังไม่ได้ชำระเงินเลยสักงวด เพิ่งได้เงินกู้มาเดือนกว่าๆ)
ถ้าผม "เผาสัญญากู้เงิน" เพราะพบว่าโดนฉ้อโกง ผมจะมีความผิดอย่างไรบ้างครับ?
เนื่องจากผมขายบ้าน แล้วคนซื้อจ่ายมัดจำมาก้อนหนึ่ง แต่ไม่สามารถหาเงินมาซื้อบ้านได้ตามสัญญา
แต่ขอเข้าไปอยู่บ้านผมเลย ผมต้องระเห็ดตัวเองไปอยู่บ้านเช่า
คนจะซื้อใช้ "น้ำตา" อ้อนวอนให้ผม "รอ" จนผม "เห็นใจ"
ในระหว่างที่รอเงินขายบ้านอยู่เกือบปี ผมก็ไม่สามารถไปกู้เงินที่ไหนได้เลย
ธุรกิจผมมีปัญหามาก บังเอิญว่า คนจะซื้อได้เงินมาก้อนใหญ่ (มรดกสามีฝรั่ง) แต่เขาไม่ยอมเอามาซื้อบ้านผม
เพราะเขาจะเอาไปจ่ายหนี้ต่างๆก่อน ผมเองก็ลำบากมาก จึงไปขอยืมมาชำระหนี้จำเป็น
และจ่ายดอกเบี้ยของจำนำต่างๆก่อน และได้ทำสัญญากู้ยืมเงิน ลงลายมือชื่อกันไว้
สุดท้ายผ่านไป 1 ปี คนจะซื้อก็ยังไม่สามารถหาเงินก้อนใหม่มาซื้อบ้านได้
จึงบอกผมว่า จะเอาบ้านผมเข้ายื่นกู้กับธนาคาร ไปผ่อนเอา
ผมจึงยื่นข้อเสนอไป 2 ทาง
1. ผมขอบ้านคืน เงินที่ยืมนั้น ผมจะชดใช้ให้ตามสัญญา
2. ไม่ขอข้านคืน แต่ขอให้เงินกู้ยืมนี้เป็น "ค่าเสียหาย"
ที่ทำให้ 1 ปีที่ผ่านมาธุรกิจผมพังพินาศ เพราะไม่สามารถไปกู้เงินที่ไหนมาหมุนเวียนได้เลย
พูดง่ายๆว่า ขายบ้านต้นปีก็ราคานึง ผ่านไป 1 ปีก็ต้องอีกราคานึง (ส่วนต่างตามจำนวนที่ยืมมาพอดี)
เราพบความยากลำบากต้องไปเช่าบ้านอยู่ หมดเงินค่าเช่าไปเกือบแสน และหมดเงินไปกับการวิ่งหาที่ดิน
และออกแบบบ้านหลังใหม่ ยื่นประเมินต่างๆ แต่ต้องถูกยกเลิกทั้งหมดเพราะบ้านเดิมยังไม่ได้ปิดบัญชีซะที
ปรากฏว่า คนจะซื้อไม่ยอม จะฟ้องร้องผม ทนายคนจะซื้อส่งเอกสารมาบอกว่า
"คนจะซื้อให้เงินมัดจำบ้านมาแล้ว แต่ญาติคนจะซื้อประสบอุบัติเหตุ จึงไม่สามารถ
ซื้อบ้านได้ในวันที่ตามสัญญา และผู้ขายก็ยินยอมให้เข้าไปอยู่ จึงให้ผู้ขายโอนกรรมสิทธิ์บ้านให้ผู้ซื้อภายใน 15 วัน"
ผมเองอยากให้เรื่องจบง่ายๆ จะได้ไม่ต้องจ้างทนายขึ้นโรงขึ้นศาล ก็ว่าจะไปโอนบ้านให้เขาให้จบๆ
แต่เรื่องเงินยืม เขาไม่ยอมให้ผมคิดเป็นค่าเสียหาย พูดง่ายๆว่า จ่ายมัดจำมาส่วนหนึ่งตอนต้นปี
แล้วบอกให้เรารอมาทั้งปี พอสิ้นปีก็จะซื้อในราคาเดิม ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ผมจึงคิดว่า จะใช้วิธีบางอย่างเอาเอกสารเงินกู้จากเขามา "ฉีกทิ้ง และเผากันต่อหน้า" ซะเลย
ไม่ทราบว่า การกระทำแบบนี้ ผมจะมีความผิดอะไรบ้างครับ? (ผมยังไม่ได้ชำระเงินเลยสักงวด เพิ่งได้เงินกู้มาเดือนกว่าๆ)