ประสบการณ์ที่ได้บวชมา 15 วันแต่ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง จากที่ไม่เคยมีโอกาสได้รู้มาตลอดชีวิต 24 ปีของผม

ประสบการณ์ที่ได้บวชมา 15 วันแต่ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง จากที่ไม่เคยมีโอกาสได้รู้มาตลอดชีวิต 24 ปีของผม

                เริ่มแรกเลยนะครับผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่ ซึ่งร่างกายไม่แข็งแรงและบวชให้น้องที่เสียชีวิตไปเมื่อนานแล้วครับ ผมคนกรุงเทพโดยกำเนิด มีชีวิตการเป็นอยู่สบายมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะบวชผมเลยขอพ่อกับแม่เลยว่าผมขอบวชวัดที่ต่างจังหวัดนะ สาเหตุที่ผมไม่อยากบวชวัดในกรุงเทพ เพราะไม่อยากวันๆเอาแต่นั่งท่องบทสวดมนต์ กินๆนอนๆ  ผมมีเวลาไม่มาก แต่อยากทำประโยชน์ให้พระพุทธศาสนาหรือวัดให้ได้มากที่สุด เลยไปเจออยู่วัดนึง เห็นว่าเป็นวัดที่กำลังสร้างโบสถ์ สร้างด้วยแรงศรัทธาด้วย ภาพแรกที่เห็น เห็นพระนั่งแบกปูนสร้างโบสถ์ หล่อพระ แล้วแบบคิดว่าเราน่าจะช่วยไรได้บ้างไม่มากก็น้อย ผมเกิดแรงศรัทธามากเลยครับ ผมตัดสินใจผมจะบวชวัดนี้ เลยบอกแม่กับพ่อไป

                วัดนี้มีพระน้อยมาก ขนาดทำพิธีบวชของผมยังต้องเชิญพระวัดอื่นมาร่วมเพราะไม่ครบองค์ พอทำพิธีบวชเสร็จ ก็ถึงเวลาไปดูห้องที่ผมอยู่ เห็นพ่อๆลุงๆ ทำความสะอาดกันอยู่รู้สึกแบบ เค้าทำหน้าเจื่อนๆกัน พอผมเดินถึงห้องผมมองเข้าไปสิ่งแรกที่เห็น คือกรอบรูปพระซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคนที่อยู่ก่อนหน้าหรือยังไงไม่กล้าถาม แต่ผมว่าน่าจะเป็นเจ้าของห้องเก่า ซึ่งตอนนี้ไม่น่าจะอยู่แล้ว ซักพักมีพระรูปหนึ่งเดินมาบอกว่า จะย้ายไหม ไปอยู่ชั้นล่างไหม แต่ด้วยความตั้งใจของผมแล้ว เลยบอกไปไม่เป็นไรครับหลวงพี่ ผมอยู่ห้องนี้และ พอได้อยู่คนเดียวซักพักก็กราบรูปท่าน บอกท่านว่าขอผมอาศัยอยู่ด้วย อย่าให้ผมเห็นไรไม่ดีนะครับผมกลัว ขอบคุณครับ ใจรู้สึกกลัว ไม่มั่นใจ ตามประสาคนที่ไม่เคยมาอยู่ที่อะไรแบบนี้ เป็นเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตแบบ สุดๆ ครับ

              ขออธิบายวัดนี้หน่อยนะครับ วัดนี้ไม่มีลูกวัดครับ เชื่อมะ อิอิ ส่วนมากจะมีคนมาล้างชามให้และเอาอาหารจากที่ญาติโยมที่บิณฑบาต แล้วก็กลับบ้านกันจะไม่มีลูกวัด เด็กวัด ประจำ กลางคืนนี่จะเงียบมาก ห้องผมอยู่ห่างเมรุเผาศพไม่มากด้วย น่ากลัวสุดๆ กุฐิจะเป็นแบบห้องแถว 2 ชั้น ชั้นละ 5 ห้อง ผมอยู่ ซ้ายสุด ถัดมา 2 ห้องไม่มีพระอยู่ ไม่รู้ทำไมพ่อผมเลือกห้องนี้ให้ แต่พอเลือกแล้วเลยไม่อยากเปลี่ยน ตั้งใจจะตัดทุกสิ่งอย่าง 15 วัน ความกลัว กิเลสต่างๆ
          ห้องน้ำที่นี่ ก็จะเป็นแถวๆอยู่หลังกุฐิ กลางคืนจะไม่เปิดไฟ คือถ้าเดินไปก็ต้องไปเปิดเอง ประตูสังกระสีบรรยากาศแบบโอ้ย  ลมพัดยังได้ยินเสียง ตอนจะไปเข้าห้องน้ำ ต้องเดินอ้อมกุฐิ กว่าจะไปถึงสวิทไฟได้นี่ ผ่านห้องน้ำหลายห้อง ซึ่งประตูแต่ละห้องจะเปิดอยู่ ถ้ามีใครยืนอยู่ในนั้นซะห้อง คงจีวรบินแน่ๆ

              คืนแรกหลังจากทำพิธีอะไรเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลานอน นอนไปซักเที่ยงคืนได้ดันฝันว่ามีพระขอมาอยู่ด้วย ผมก็ตอบปากรับคำไป แล้วก็สะดุ้งตื่นแบบเหนื่อยๆ ตาสว่างเลยทีนี้ นอนไม่หลับกว่าจะเช้า นอนๆ ไปบางครั้งก็ได้ยินเสียง ห้องข้างๆ เสียงกระทบของไม้ ดังปั้งๆ แอ๊ดๆ ผมก็คิดเสมอว่าไม้หดตัว ไม้หดตัว  และแล้วก็ตี 4.00 ผมตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วห่มชุดเต็มยศ วันแรกทำไม่ได้ ต้องให้พระเก่าช่วย รู้สึกยากมาก หิ้วบาตรอีกดีของผมเป็นแบบสายสะพาย ที่วัดจะแบ่งสายเดินกันหลายสาย สายละ 3-5 กิโล ไปกลับเกือบ 10 กิโลผมเป็นพระใหม่ต้องไปเข็นรถเป็นรถเหมือนตามตลาดนะครับ มี 4 ล้อ มีที่ใส่ของตรงกลาง แล้วเดินตามพระรุ่นพี่อีกองค์ไป ทางเดินนี่ทำผมช้ำมากครับ เท้าเปล่า เป็นทางดินแดงมีหินปูนอยู่ตามพื้นมากมาย มันเจ็บจริงๆ ทรมารสุดๆ ของหลวงพี่คงเท้าหนาละ แต่ความรู้สึกตอนมี ญาติโยมบิณฑบาต ครั้งแรกนี้แบบปลื้มมากครับ จนบาตรเกือบตก พอรับมาแล้วก็เอาไปใส่รถเข็น กลับมาถึงประมาณ 7 โมงได้ ออกตี 5 นิดๆ เท้าระบม วันไหนฝนตกเบาๆก็ต้องไปเพราะกลัวญาติโยมที่อายุเยอะทำกับข้าวรอ  พอเสร็จก็ถึงเวลากินข้าวฉันอาหาร พระที่นั้นบอกฉันเยอะๆละ เพราะ จะหิวแน่นอน 55

            งานของที่นี่ จะมีพระเจ้าอาวาสจะรับหน้าที่ทาสี อีกรูปหล่อพระ อีกรูปก็ตัดหญ้า แต่งต้นไม้ มีทำโบสอยู่ 2 รูป ทำรูปทรงส่วนต่างๆของพระ 1 รูป กวาดลาน 1 รูป หลังฉันเสร็จแต่ละคนก็แยกย้ายไป ผมเริ่มจากการไปกวาดเศษใบไม้ก่อน คนมาไหว้พระได้รู้สึกดีที่วัดสะอาด เหนื่อยมากเลยนะ ใบไม้ตกทุกวัน อยู่วัดนี้ผมอยู่ 15 วันมีออกไปรับงานนอกแค่ครั้งเดียวเอง เรียกได้ว่า พระวัดนี้ได้เงินน้อยมาก พูดแบบตรงๆเลยนะ  พออยู่ไปวัน 2 วัน ผมได้ทำงานในส่วนอื่นบ้าง ทำงานจนตัวดำ เช้ายันเย็น พระที่นี่สุดยอดเลยครับ ขยันกันจริงๆ เวลามีคนมา หล่อพระ ผมต้องขันน็อตที่เป็นบล็อกหล่อพระให้แน่น แล้วก็ผสมปูนให้เวลา ญาติโยมมาเทปูนลงบล็อก พระที่หล่อนี่สูงกว่าตัวผมนิดนึง อังสะผมนี่เปลื้อนคาบน้ำมันทุกตัวครับ เพราะต้องทาเคลือบก่อน ยอมรับครับงาน หล่อพระนี่เหนื่อยมากเพราะต้องทำในที่ร้อนๆน็อตก็หลายตัว ได้รับมอบให้ทำคนเดียว เพราะเค้าเห็นว่าทำได้ อีกรูปก็ไปช่วงส่วนโบส พอแห้งก็ต้องแกะ ต้องหาพระรูปอื่นมาช่วยแงะ กลัวแตก พอเสร็จแล้วก็ล้างประกอบเผื่อมีญาติโยมมาหล่อพระต่อ ตอนผมอยู่หล่อพระได้10 กว่าองค์ได้เลยครับ บางวันมี 2-3 องค์ เหนื่อยมาก แต่มีความสุข ที่วัดมีแค่ 3บล็อคครับ วันไหนไม่มีใครมาหล่อพระจะไปช่วบแบกปูนทำ โบสถ์ใหม่ สร้างมานานมากแล้วทำไปเรื่อยๆ เห็นพระรูปเก่าบอกมา วันๆจะมี ญาติโยมมาช่วย 4-5 คน บางวันก็ไม่มี สร้างด้วยแรงศรัทธาจริงๆ ก่อนนอนผมก็จะสวดมนต์บทใหญ่ แล้วอ่านหนังสือพระแล้วก็นอน ตอนนอนนี่หลับสบายเลย คงเพราะเพลียและเหนื่อยมาก

                ผมอยู่ที่วัดมาได้หลายวัน รู้สึกสงบ ไม่มีไรให้คิด แค่งานที่ต้องทำก็ยันเย็นแล้วครับ ตอนพ่อแม่และแฟนมาเยี่ยมนี่เห็นผมแต่ละครั้งนี่กลางแดดตลอด มีล่มใหญ่กลาง1 อัน ชุดไขควงช่าง น้ำมัน อยู่กับบล็อก หรือไม่ก็หลังคาโบส พ่อแม่และแฟนทำท่าเหมือนเป็นห่วงผมมาก เข้าใจนะครับจากเด็ก กรุงเทพ เดินห้าง นอนแอร์ กลับบ้านเล่นเกมส์ งานบ้านไม่เคยจับ เรียนสายบริหารมา พ่อแม่โอ๋มาตั้งแต่เด็ก แม่ไม่เคยเห็นผมลำบากก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ที่ผมต้องปีนบันได หล่อปูน ทำไรที่ไม่เคยทำ ผมก็บอกแม่ว่า สนุกดีครับ มีได้ทาสีด้วย หล่อบล็อกส่วนต่างๆของพระก็มี แต่อันนี้ยากแตกง่าย งานประจำวันของผมคือเช้า ตื่น ตี 4.30 ล้างหน้าแปลงฟัน > ตี 5นิดๆ ออกบิณฑบาต > 7 โมง กว่าๆ ฉันเช้า >  8 โมง กวาดลาน > 10โมง ทำบล็อกพระ  > 11โมง ฉันเที่ยง > เที่ยง ทำบล็อกพระต่อ >บ่าย 2 ทำโบส ยาวๆ ยัน 5-6 โมงเย็น > 6 โมงเย็น อาบน้ำ  > ทุ่ม สวดมนต์ อ่านหนังสือ 3 ทุ่ม แล้วเข้านอนนอน

              จนเหลืออีก 4 วันก่อนพิธีลาบรรพชาของผม คืนนั้นนอนอยู่ 4-5 ทุ่มแล้วมั้ง มีเสียงโคร้งเค้งๆ และก็หมาเห่า มีคนมาขโมยบาตรกับพวกจานครับ ไม่น่าเชื่อจะมีคนมาขโมยของวัดพระอยู่ด้านล่างเห็นก็ช่วยกันไล่ไป มีต่อสู้กันเล็กน้อย ผมนี่ออกมาก็ไม่ทันเหตุการณ์ละ เลยพากันไปดู ตู้บริจาค สรุปโดนแงะไปครับ ไม่น่าเชื่อนี่ชีวิตตอนผมตอนบวชจะเจอโจรขโมยตู้บริจาค แต่เงินไม่มากที่นี่คนบริจาคน้อย

              พออีกคืนพระก็ไม่กล้านอนกัน ผลัดกันเฝ้ายาม คนในหมู่บ้านก็มาช่วยกันดูอีกแรง คืนนั้นไม่มีอะไรเกินขึ้น   พออีกคืน ไม่มีใครมาช่วยเฝ้าละทีนี้ พอตกดึกครับได้ยินเสียงหมาเห่าไล่คนไป ไปทางด้านหลัง มีพระที่ตื่นออกมากัน 3 รูป รวมผม เพราะดึกมากแล้ว สงสัยจะไม่ได้ยินเสียงกัน พระอีกรูปบอก ไม่ต้องปลุกหรอกเผื่อไม่มีอะไรจะพากันเสียขวัญกันป่าวๆ ผมก็เดินไปกับแก พระอีกรูปเฝ้าหน้ากุฏิ เดินไปซักพักแกบอกให้ผมไปดูทางด้านขวา ให้ไปเรียกอีกรูปนึงไปเป็นเพื่อน  ทางที่แกไปมันอันตรายเพราะหมาพึ่งวิ่งไล่มาทางที่ผมกับพระอีกรูปกำลังเดินไป พระรูปนี้เหมือนคนมีวิชานะผมว่า  55  แกเลยดูไม่กลัวแล้วเอาก้อนอะไรมาให้ผม บอกรักษาไว้ให้ดี หลวงพี่ให้ ตอนนี้ผมก็เลี่ยมคล้องคออยู่ครับ แล้วผมก็เดินกลับด้วยความโมโหโจรนะครับ เลือดรักวัดเข้าสิง แบบกับวัดกับวายังทำได้เลยเดินไปทางที่พระอีกรูปให้ไปดู ไม่กลัวมันมาดักตีหัวเลยเนอะ  55  
             หลังจากนั้นพึ่งคิดได้ ผมยังตัดอารมณ์โกรธไม่ได้  จึงตัดสินใจเดินไปที่กุฐิก่อนเพื่อให้พระอีกรูปไปเป็นเพื่อนแต่ก็ไม่เห็นพระอีกรูปและ สงสัยไปดูทางอื่นเลยตัดสินใจไปคนเดียว แล้วเดินมาซักพักเดินวนไปวนด้วยความโมโห พอรู้สึกตัวอีกที นี่มัน เราเดินวนตรงเมรุนี่หว่า เดินวนอยู่ตรงนั้นมาซักพัก ได้สติ ไม่เอาละจะกลับ พอเหลือบไปเห็นใต้เมรุ ก็อดใจไม่ได้ เลยมองเข้าไป ดีนะไม่เห็นอะไร แล้วคิดในใจ ชีวิตนึงจะมีใครมาอยู่ตรงเมรุตอนเที่ยงคืนคนเดียวบ้าง 55 อย่างกับในหนัง ลมพัดเย็นเชียบ เมื่อก่อนแค่คิดมาเข้าห้องน้ำวัดตอนกลางคืนก็สยองและ สุดท้ายกลับดีกว่า ช่างโจรไปก่อน อิอิ สรุปก็ไม่เจอโจรแล้วก็แยกย้ายไปนอน

             ตอนสึกผมยังไม่อยากจะสึกด้วยซ้ำครับ รู้สึกสงบ  อยู่กับตัวเองได้คิดอะไรเยอะแยะ ได้ทำอะไรหลายๆอย่างให้เกิดประโยชน์มากมาย แต่มีงานที่ต้องทำ มีแฟนที่ต้องดูแลและพ่อกับแม่ด้วย แต่แค่นี้ผมก็ได้อะไรกลับมาเยอะแล้วครับ  โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และที่สำคัญหลังจากบวชเสร็จผมเลิกกลัวผีเลยครับ สุดยอด จากใจร้อนๆตอนนี้ผมใจเย็นลงได้มาก แฟนที่ทะเลาะกันบ่อยแต่ก่อน ตอนนี้ไม่เคยทะเลาะกันเลยครับ อย่างมากแค่งอนกันนิดๆ  ผมสามารถคุยโวได้แล้วครับ ผมไปอยู่หน้าเมรุตอนเที่ยงคืนคนเดียวมาแล้วครับ  สุดยอด
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 49
อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ  ตัวผมอยู่วัดมาตั้งแต่เด็ก ป.5 จนจบป.ตรี ตอนนี้จะหลัก 3 ปลายๆ  เลยค่อนข้างคุ้นกับชีวิตอย่างนี้ ถ้าวัดต่างหวัดที่เป็นวัดเล็กๆพระท่านจะทำเองทุกอย่าง อย่าถามหาเลยครับกิจนิมนต์บางเดือน 500 บาทยังไม่ถึง.......
.......อยากให้เห็นเพื่อนของผมท่านหนึ่ง คือคนในหมู่บ้านเดียวกันนี้ละ เหมือนกับเจ้าของกระทู้ แต่จะหนักกว่าหน่อยคือท่านเมื่อก่อนกินเหล้าแทนน้ำสาวเยอะ จนพ่อแม่ขอให้บวชให้หน่อย ท่านก็เลยมาหาบอกว่าจะมาบวชที่บ้านจะดีไหมผมสนับสนุนเต็มที่ ตอนแรกตั้งใจ 15 วันเหมือนกัน เพราะลางานมาได้แค่นั้น ตอนนี้ 11 ปีผ่านแล้วครับ จนเป็นเจ้าอาวาส ท่านเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม จนได้เปรียญธรรม ปธ.4และจบปริญญาเอก ตอนเรียน ป.โท ท่านก็ชวนไปด้วยขับรถรับส่งท่าน  จนทำให้ผมมีโอกาศได้เรียน พธม. ( แฟนยังบอกให้ไปบวชเลย) งานที่วัดทำเองทุกอย่างไล่ตั้งแต่ตั้งสำหรับ เทกระโถน จนถึงล้างถ้วยชาม งานก่อสร้างทุกอย่างที่พอทำได้ ท่านสอนทุกคนว่า อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ  ถ้าพอทำได้ทำ  พระเณร 6 รูป ช่วยกันทุกอย่าง แต่จะมีเด็กที่หมู่บ้านมาช่วยเพราะท่านจะช่วยสอนเด็กด้วยครับ ท่านจบวิศวะเครื่องกลมา ........ ตอนนี้หน้าที่หลักของท่านคือเลี้ยงหมากับแมวที่เขาเอามาปล่อยที่วัด ผมเคยถามเล่นว่าจบ ดร. เขาให้ไปสอนหนังสือช่วยทำไมไม่ไป.....ท่านตอบกลับมา.....ขี้เกียจ.....แค่เรียนให้เด็กที่วัดดู ......ประโยคสั้นๆ.... ส่วนตัวผมที่บ้านจะช่วยค่ำน้ำค่าไฟ ที่วัดเดือนละ 3000 ทำมาอย่างนี้ตั้งแต่ปี 47
ความคิดเห็นที่ 33
ผมบวช 7 วัน เพราะจังหวะลาได้แค่นั้น พอดีแม่ผมท่านมีลูกยาก..ไปบนขอให้ได้ผมมาที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่นครศรีฯ
แล้วก็มีผมมา จน 24 ปีล่ะ
ผมเรียนจบช่วงนั้นน้ำท่วมใหญ่ กทม. จังหวะบวชเลยไม่ได้บวช ดันได้งานอีกก็เลยลากยาว
จนป่วยหนักต้องเจาะหัวใจ จู่ๆมีคุณยายเดินทางมาเยี่ยม บอกให้บวชที่แม่ไปบนไว้
คนแถวบ้านก็พากันทักให้ไปบวช ก็เลยได้บวชครับ ดูตามดวงก็ตกถึงตาย ปีนั้นเจอทั้งราหู เจอทั้งดาวเสาร์
เจอทั้งเจ้ากรรมนายเวร หมอดู3คนทักเหมือนกันหมด ใจเสียมากครับ  ตัดสินใจบอกโยมแม่ว่าบวช
ไปหาพระอาจารย์กราบจะขอบวช ท่านบอกว่าให้สวดอิติปิโส สวดพาหุง แล้วแผ่เมตตา
ก็ได้ไปบวชที่วิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
ได้รับฉายา "โชติปญฺโญ"


ไม่จัดงานอะไรเลย ไม่รับวงดนตรีอะไร บวชให้พ่อให้แม่ บวชตามที่ท่านขอไว้
ผมคิดว่าระยะเวลาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ
ขอแค่เรารู้ตัวว่าเราทำอะไร ได้อะไร เก็บเกี่ยวอะไรไว้บ้างเท่านั้นครับ
พระบวชมาเป็น10พรรษาถ้ามั่วสีกาก็เปล่าประโยชน์ คนได้บวชแค่วันเดียว แต่เข้าถึงแก่นของศาสนาก็เป็นบุญแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่