สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวที่โตเกียว สภาพอากาศเดือนนั้นถือว่าเป็นฤดูร้อนของโตเกียว อุณหภูมิคล้ายเมืองไทยมาก (แต่เจอดีเปรสชั่นพอดีเลยมีฝนมาแจมบ้าง) หลังจากขึ้นรถไฟใต้ดิน/บนดิน/รถโดยสาร/รถเมล์/แท็กซี่/JR ฯลฯ รวมถึงเดินเท้ามาหลายวันจนขาลากแล้ว (คนญี่ปุ่นเดินเก่งมากๆ) เมื่อสังเกตุว่าชาวโตเกียวนิยมใช้จักรยานเยอะมากเช่นกัน มีจุดจอดรถจักรยานสาธารณะเยอะมาก และที่โดดเด่นไปกว่านั้น ฟุตบาทจะแบ่งเป็น 2 ซีก ซีกหนึ่งสำหรับคนเดิน อีกซีกหนึ่งสำหรับจักรยาน คนเดินถนนที่นี่ใช้ชีวิตร่วมกับรถจักรยานได้อย่างกลมกลืน และที่สำคัญที่สุด หัวฟุตบาทจะทำเป็นทางลาดเพื่อสะดวกในการปั่นจักรยาน
ตำรวจสายตรวจก็ยังปั่นจักรยาน
หัวฟุตบาททำเป็นทางลาด ปั่นได้สบายๆ และจอดรถจักรยานไว้ได้ทุกที่(ถ้าไม่มีป้ายห้ามจอด)
หัวฟุตบาทเป็นทางลาดส่งผลดีถึงผู้พิการที่ต้องนั่งวีลแชร์
จอดแล้วแจว รถเมล์มาแล้ว
ที่โอไดบะ มีจักรยานให้เช่า(หยอดเหรียญ)
ผมก็เลยเกิดความคิดถึง MTB ที่บ้านขึ้นมาทันที สอบถามเพื่อนคนหนึ่ง เป็นกุ๊กร้านอาหารไทยในชินจูกุ แกก็ใจดีให้ยืมจักรยานมาหนึ่งคัน
นับเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้ปั่นจักรยานท่องโตเกียว ไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ ที่อยู่หลบสายตาหากใช้ยานพาหนะชนิดอื่น
จะได้เข้าถึงความเป็นโตเกียวแท้ๆดูบ้าง ชีวิตไม่ต้องเร่งรีบ ปั่นไป แวะไป ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ นับว่าเป็น Once in my Life time เลยทีเดียว
ข้อควรทราบก่อนปั่นจักรยานเที่ยวโตเกียว(อันนี้เพื่อนที่อยู่โตเกียวบอกผมมาอีกที บางข้อ เท็จจริงอย่างไรก็ไม่แน่ใจ)
-จักรยานที่ญี่ปุ่นทุกคันมีทะเบียนรถ ต้องเตรียมทะเบียนไว้พร้อมให้ตรวจ
-จักรยานที่เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ห้ามลงปั่นบนผิวถนน ปั่นได้บนฟุตบาทเท่านั้น
-จักรยานที่มีเกียร์ ลงปั่นบนผิวถนนได้ ให้ปั่นชิดขอบทางยกเว้นแซงรถที่จอดหรือรถที่ชะลอ
-จักรยานให้ปั่นคนเดียวห้ามซ้อน
-จักรยานที่ติดตั้งเบาะเด็ก ให้เด็กซ้อนได้
-ปั่นกลางคืน จักรยานต้องติดตั้งไฟส่องสว่าง(อย่างน้อยด้านหน้า) ไม่เช่นนั้นถูกจับ/ปรับ
-ไม่จำเป็นต้องสวมหมวกนิรภัย เพื่อความปลอดภัย สวมไว้แล้วดีเอง
-จอดได้ทุกที่ยกเว้นที่มีป้ายห้ามจอด สายตรวจจะมาเขียนใบสั่งเหน็บไว้ หากจอดข้ามคืนอาจโดนยกไปไว้ที่ป้อมหรือที่ สน.
-จอดทิ้งไว้ควรล็อคกุญแจ ไม่เช่นนั้นอาจมีหาย (ไม่ได้ตั้งใจขโมย แต่รถมันเยอะ หยิบผิดคัน)
-ใช้ทางม้าลายได้เหมือนคนเดินถนน
-เวลาปั่นบนฟุตบาท ถ้าคนเดินเห็นจะหลบให้ หากไม่ได้มองหรือหันหลังให้เราถ้าเราไม่ให้เสียงเราก็ต้องเลื้อยไปเอง
-เติมลมยางได้ที่ป้อมตำรวจทุกป้อม (โคบันใจดี สูบให้อีกต่างหาก)
คันนี้เองที่เพื่อนผมซึ่งเป็นกุ๊กร้านอาหารไทยในชินจูกุให้ยืมมาปั่นท่องโตเกียว
ช่วงไหนที่ฟุตบาทกว้างๆ ก็จะแยกคนเดินกับจักรยานออกจากกัน นี่เป็นถนนแถวๆวัดอาซากุสะ
จักรยานให้เช่าก็มี แต่แพงมาก และไม่ให้เช่าข้ามคืน
โดนใบเตือนแล้วครับ ตำรวจกลับมาอีกรอบมีหวังโดนยกแน่ๆ
ป้ายบอกชัดเจน
มาถึงหน้า The University Art Museum
อุเอโนะ พาร์ค
ออกจาสวนก็มาเจอ ตึกทางซ้ายน่าแวะมั่กๆ 555
ปั่นรอบพระราชวังอิมพีเรียล
มาถึง 5แยกชิบุย่า ซะที
แวะทักทายเจ้าฮาจิโกะ
กลับมาถึงชินจูกุ เอารถมาส่งคืน
ใบทะเบียนรถจักรยานต้องติดตัวไว้เสมอ พร้อมให้ตรวจ
วันแรก ชินจูกุ-อากิบะ-มึนเซ็นนากาโจ
วันที่สอง มึนเซ็นนากาโจ-ข้ามแม่น้ำซุเมดะ-ตึกฟองเบียร์-วัดอาซากุสะ-สวนอุเอโนะ-พระราชวังอิมพีเรียล-ชิบุย่า-ฮาราจูกุ-ชินจูกุ
สนุกมากครับ เป็นการสัมผัสชีวิตชาวกรุงโตเกียวได้เป็นอย่างดี เข้าได้ทุกซอยทุกซอย ได้เห็นชีวิตคนหนุ่มสาว คนแก่เฒ่า คนพิการ ฯลฯ
ที่ใช้ชีวิตในโตเกียวให้กลมกลืนกันไป ปั่นไปก็ดูแผนที่ไป ผมใช้แผนที่บนไอโฟน แวะ 7-11 เกาะ wi-fi ฟรีทุกสาขา มีเนินขึ้น-ลงบ้างเล็กน้อยตามภูมิประเทศ มีฝนปรอยๆเล็กน้อยตกๆหยุดๆสลับกันไปก็เลยไม่ร้อนนัก นี่ถ้ามีจักรยานพับซักคัน เอาโหลดใต้ท้องเครื่องบินไป ก็ปั่นจากสนามบินได้สบายเลย
ปล.ใช้เวลาเขียนกระทู้/ทำรูป นานมาก(ดองไว้นานมากด้วย) แต่ขออุทิศให้นักท่องเที่ยวชาวไทยแห่งพันทิปทุกท่าน เพื่อเป็นการตอบแทน ที่ผมได้เข้ามาเก็บเกี่ยวข้อมูลในนี้ก่อนเดินทางไปยังเมืองต่างๆทุกครั้งครับ
ชวนไปปั่นจักรยานท่องโตเกียว
ตำรวจสายตรวจก็ยังปั่นจักรยาน
หัวฟุตบาททำเป็นทางลาด ปั่นได้สบายๆ และจอดรถจักรยานไว้ได้ทุกที่(ถ้าไม่มีป้ายห้ามจอด)
หัวฟุตบาทเป็นทางลาดส่งผลดีถึงผู้พิการที่ต้องนั่งวีลแชร์
จอดแล้วแจว รถเมล์มาแล้ว
ที่โอไดบะ มีจักรยานให้เช่า(หยอดเหรียญ)
ผมก็เลยเกิดความคิดถึง MTB ที่บ้านขึ้นมาทันที สอบถามเพื่อนคนหนึ่ง เป็นกุ๊กร้านอาหารไทยในชินจูกุ แกก็ใจดีให้ยืมจักรยานมาหนึ่งคัน
นับเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้ปั่นจักรยานท่องโตเกียว ไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ ที่อยู่หลบสายตาหากใช้ยานพาหนะชนิดอื่น
จะได้เข้าถึงความเป็นโตเกียวแท้ๆดูบ้าง ชีวิตไม่ต้องเร่งรีบ ปั่นไป แวะไป ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ นับว่าเป็น Once in my Life time เลยทีเดียว
ข้อควรทราบก่อนปั่นจักรยานเที่ยวโตเกียว(อันนี้เพื่อนที่อยู่โตเกียวบอกผมมาอีกที บางข้อ เท็จจริงอย่างไรก็ไม่แน่ใจ)
-จักรยานที่ญี่ปุ่นทุกคันมีทะเบียนรถ ต้องเตรียมทะเบียนไว้พร้อมให้ตรวจ
-จักรยานที่เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ห้ามลงปั่นบนผิวถนน ปั่นได้บนฟุตบาทเท่านั้น
-จักรยานที่มีเกียร์ ลงปั่นบนผิวถนนได้ ให้ปั่นชิดขอบทางยกเว้นแซงรถที่จอดหรือรถที่ชะลอ
-จักรยานให้ปั่นคนเดียวห้ามซ้อน
-จักรยานที่ติดตั้งเบาะเด็ก ให้เด็กซ้อนได้
-ปั่นกลางคืน จักรยานต้องติดตั้งไฟส่องสว่าง(อย่างน้อยด้านหน้า) ไม่เช่นนั้นถูกจับ/ปรับ
-ไม่จำเป็นต้องสวมหมวกนิรภัย เพื่อความปลอดภัย สวมไว้แล้วดีเอง
-จอดได้ทุกที่ยกเว้นที่มีป้ายห้ามจอด สายตรวจจะมาเขียนใบสั่งเหน็บไว้ หากจอดข้ามคืนอาจโดนยกไปไว้ที่ป้อมหรือที่ สน.
-จอดทิ้งไว้ควรล็อคกุญแจ ไม่เช่นนั้นอาจมีหาย (ไม่ได้ตั้งใจขโมย แต่รถมันเยอะ หยิบผิดคัน)
-ใช้ทางม้าลายได้เหมือนคนเดินถนน
-เวลาปั่นบนฟุตบาท ถ้าคนเดินเห็นจะหลบให้ หากไม่ได้มองหรือหันหลังให้เราถ้าเราไม่ให้เสียงเราก็ต้องเลื้อยไปเอง
-เติมลมยางได้ที่ป้อมตำรวจทุกป้อม (โคบันใจดี สูบให้อีกต่างหาก)
คันนี้เองที่เพื่อนผมซึ่งเป็นกุ๊กร้านอาหารไทยในชินจูกุให้ยืมมาปั่นท่องโตเกียว
ช่วงไหนที่ฟุตบาทกว้างๆ ก็จะแยกคนเดินกับจักรยานออกจากกัน นี่เป็นถนนแถวๆวัดอาซากุสะ
จักรยานให้เช่าก็มี แต่แพงมาก และไม่ให้เช่าข้ามคืน
โดนใบเตือนแล้วครับ ตำรวจกลับมาอีกรอบมีหวังโดนยกแน่ๆ
ป้ายบอกชัดเจน
มาถึงหน้า The University Art Museum
อุเอโนะ พาร์ค
ออกจาสวนก็มาเจอ ตึกทางซ้ายน่าแวะมั่กๆ 555
ปั่นรอบพระราชวังอิมพีเรียล
มาถึง 5แยกชิบุย่า ซะที
แวะทักทายเจ้าฮาจิโกะ
กลับมาถึงชินจูกุ เอารถมาส่งคืน
ใบทะเบียนรถจักรยานต้องติดตัวไว้เสมอ พร้อมให้ตรวจ
วันแรก ชินจูกุ-อากิบะ-มึนเซ็นนากาโจ
วันที่สอง มึนเซ็นนากาโจ-ข้ามแม่น้ำซุเมดะ-ตึกฟองเบียร์-วัดอาซากุสะ-สวนอุเอโนะ-พระราชวังอิมพีเรียล-ชิบุย่า-ฮาราจูกุ-ชินจูกุ
สนุกมากครับ เป็นการสัมผัสชีวิตชาวกรุงโตเกียวได้เป็นอย่างดี เข้าได้ทุกซอยทุกซอย ได้เห็นชีวิตคนหนุ่มสาว คนแก่เฒ่า คนพิการ ฯลฯ
ที่ใช้ชีวิตในโตเกียวให้กลมกลืนกันไป ปั่นไปก็ดูแผนที่ไป ผมใช้แผนที่บนไอโฟน แวะ 7-11 เกาะ wi-fi ฟรีทุกสาขา มีเนินขึ้น-ลงบ้างเล็กน้อยตามภูมิประเทศ มีฝนปรอยๆเล็กน้อยตกๆหยุดๆสลับกันไปก็เลยไม่ร้อนนัก นี่ถ้ามีจักรยานพับซักคัน เอาโหลดใต้ท้องเครื่องบินไป ก็ปั่นจากสนามบินได้สบายเลย
ปล.ใช้เวลาเขียนกระทู้/ทำรูป นานมาก(ดองไว้นานมากด้วย) แต่ขออุทิศให้นักท่องเที่ยวชาวไทยแห่งพันทิปทุกท่าน เพื่อเป็นการตอบแทน ที่ผมได้เข้ามาเก็บเกี่ยวข้อมูลในนี้ก่อนเดินทางไปยังเมืองต่างๆทุกครั้งครับ