จากใจผู้ชายคนนึงที่กำลังเลี้ยงดูลูกหูหนวก

พอดีไปเห็นคลิปโครงการนี้ เลยอยากเอามาแชร์ครับ แต่ผมก็อยากเล่าประสบการณ์ของการเลี้ยงดูลูกชายที่มีปัญหาในการได้ยินเสียงครับ

ผมเริ่มต้นชีวิตการเป็นคุณพ่อค่อนข้างเร็วกว่าเพื่อนในกลุ่มครับ เพียงเพราะความสนุกและคึกคะนอง ใช่ครับ ผมทำผู้หญิงคนนึงท้องครับ
วินาทีแรกที่แฟนผม (ในตอนนั้น) มาบอกผมว่าเธอท้อง ผมอึ้ง และ สับสนทำอะไรไม่ถูก ด้วยความที่เพิ่งเรียนจบและเริ่มชีวิตการทำงานในบริษัทใหญ่ ทุกอย่างดูใหม่ และน่าตื่นเต้น น่าสนุกไปทั้งหมดครับ
ผมเที่ยวกับพี่ที่ทำงานเกือบทุกคืน ผมเจอแฟนผมในที่เที่ยว เราคบกันได้สามเดือน แฟนผมก็มาบอกว่าเธอท้องครับ
ความสับสน ความไม่มั่นคง ความเครียดเข้ามา ผมไม่รู้ว่าจะสามารถเลี้ยงดูแฟนและลูกที่กำลังจะเกิดมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอย่างไรดีครับ ทุกอย่างดูรุมเร้าเข้ามาในชีวิตผม ด้วยเงินเดือนของเด็กจบใหม่ไม่เกิน 2หมื่น จะเลี้ยงตัวเองยังลำบาก แต่นี่ต้องมาเลี้ยงคนอีกสองคน ผมไม่พร้อมครับ แต่ผมก็ไม่อยากทำในสิ่งที่ไม่ควรทำครับ ผมตัดสินใจเดินหน้าเข้าไปกราบคุณพ่อและคุณแม่ของแฟนผม และพ่อแม่ของผม เล่าเรื่องราวทั้งหมด และพยายามรับผิดชอบในทุกสิ่งที่เกิดครับ ช่วงก่อนคลอดผมเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ เริ่มหาเงินพิเศษจากการถ่ายภาพ ครั้งและ500 หรือพันนึงผมก็รับครับ เพื่อลูกที่กำลังจะเกิด

ค่าใช้จ่ายในการทำคลอด อยู่ที่ 45,000 ไม่รวมค่านู้นนี้สารพัด อีกหลายหมื่น เงินเดือนของผมที่เก็บมาหายวั้บไปกับการคลอดลูกครับ
ต้องขอบคุณญาติๆ ผมที่รับขวัญหลานคนแรกด้วยเงินและทอง ที่พอช่วยให้ผมสามารถเลี้ยงดูเค้าได้อย่างไม่ลำบากมากครับ

...สิ่งที่ผิดสังเกต และทำให้เค้า (ลูกของผม) ดูแตกต่าง ตลอดหลายเดือนที่เลี้ยงดูเค้า ผมสังเกต เค้าว่าเวลาเรียกหรือทำเสียงเค้าจะไม่สนใจ ผมจึงพอเค้าไปหาหมอ หมอวินิจฉัยคร่าวๆ ว่าน้องเค้าอาจจะมีความผิดปรกติทางการได้ยินเสียง ทางคุณหมอจึงให้เครื่องช่วยฟังมาใส่หูครับ แต่วินาที ที่ทราบว่าเค้าไม่เหมือนคนอื่นๆ น้ำตาผมไหลไม่หยุด ผมอยากให้เค้าเกิดมาเหมือนคนอื่น เหมือนผม เหมือนแม่ของเค้า เหมือนปู่ย่าตายาย ของเค้า เค้าจะไม่ได้ยินเสียงผมเรียกเค้า เค้าจะไม่ได้ยินเสียงผมและแฟนผมเวลาบอกว่า "พ่อกับแม่รักลูกนะ" ความคิดพวกนี้วนเวียนอยู่ในหัวผม จนน้ำตาผมไหลไม่หยุด
...หลังจากได้รับเครื่องช่วยฟังเสียงมา ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของผม มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เพราะลูกผมยังคงไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก ความสิ้นหวังถาโถมเข้ามา แต่สิ่งที่คนเป็นพ่อต้องทำคือซ้อนน้ำตาเอาไว้แล้วพยายามรักษาเค้าต่อไปครับ

...ความผิดปรกติทางการได้ยินเสียงไม่ใช่อุปสรรค เมื่อผมและแฟนผมเริ่มทำใจยอมรับสภาพของลูกที่ไม่เหมือนคนอื่นได้แล้ว พวกผมเริ่มหาวิธีสื่อสารกับลูกสารพัด มันทำให้เกิดรูปแบบการสื่อสารแบบที่แตกต่างขึ้นมา เค้าชอบให้ผมอุ้มกอดแล้วฮัมเพลงเบาๆ ผมเข้าใจว่าคลื่นเสียงและแรงสั่นจากหน้าอกผมมันคงสั่นไปถึงหัวใจของเค้า เค้าคงรับรู้ได้ว่าพ่อและแม่รักเค้าในเวลาที่เราอุ้มเค้าแล้วร้องเพลงให้เค้าฟัง เพลงที่พวกผมเลือกที่จะร้องให้เค้าฟัง เป็นเพลงรักทั้งหมดครับ เผื่อว่าวันใดวันหนึ่งที่เค้าเกิดได้ยินขึ้นมา เค้าจะได้รับรู้ว่าเพลงเหล่านี้คือเพลงที่พ่อและแม่ร้องให้เค้าฟังตั้งแต่ที่เค้าเกิดมาครับ

...เริ่มจากความไม่พร้อม เรียนรู้จากความผิดปรกติ เติบโตด้วยความรัก ทุกวันนี้แม้ว่าเค้าจะโตเกินกว่าที่ผมและแฟนผมจะอุ้มได้ตลอดเวลา แต่ผมและแฟนผมก็จะพยายามกอดเค้าไว้เสมอแล้วบอกว่ารักทุกครั้งที่กอดเค้า เวลานอนผมจะให้เค้านอนระหว่างผมและแฟนผมครับ ให้เค้าได้อยู่ระหว่างไออุ่นของความรักจากผมและแฟนของผม ให้เค้าไม่รู้สึกว่าเค้าขาดความรักหรือขาดในสิ่งที่คนอื่นมี คนอื่นสามารถครับ

...ทุกวันนี้ คนที่เป็นพ่อหรือแม่ของลูกที่ไม่เหมือนคนอื่น นอกจากที่จะต้องเลี้ยงดูลูกแล้ว ต้องหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อสอนลูก และเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเค้าครับ
เดิม ผมและแฟนจากที่เป็นคนใจร้อน ติดเที่ยวรักสนุก กลับเปลี่ยนไปเป็นคนใจเย็น และทุกวันนี้ ทุกครั้งที่ผมมองลูกและแฟนผม ผมมั่นใจว่า พวกเค้าสอนให้ผมรู้จักคำว่ารักที่แท้จริงนอกเหนือจากรักจากพ่อและแม่ แต่เป็นรักที่พ่อแม่มอบให้ลูก เป็นรักที่ผมและแฟนมอบให้เค้า อาจจะเป็นโชคดีในโชคร้ายที่เกิดขึ้นกับผม
ไม่ว่าอะไรจะเกิด วันนี้หรือวันข้างหน้า ผมมั่นใจว่ามันจะไม่มีโชคร้ายอีกแล้วครับ ในเมื่อผมได้เรียนรู้การรับความรักจากพ่อแม่ของผม พ่อแม่ของแฟนผม และ เรียนรู้การให้ความรักแก่ลูกของผม การให้ความรักแก่แฟนของผม หรือครอบครัวของผม

ผมขอเป็นกำลังใจให้แก่ครอบครัวทุกครอบครัวที่มีลูกที่ไม่เหมือนคนอื่นครับ อยากจะบอกว่า ความรักอยู่ในทุกลมหายใจ และกำลังใจดีๆ เริ่มจากความรักที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวของพวกคุณครับ

สุดท้าย อยากให้ทุกคนที่ได้ร่วมโครงการในคลิปนี้ครับ เพราะทุกคลิปหรือทุกภาพทาง AIS  จะบริจาคเงิน 10บาทให้แก่ มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ครอบครัวผมผมเลี้ยงดูได้ แต่มีอีกหลายครอบครัว ที่เค้าไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กที่เกิดมาไม่เหมือนคนอื่นได้ครับ ผมอยากให้คนใน pantip ช่วยกันมอบโอกาสดีๆ ให้แก่เด็กเหล่านี้ครับ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ทุกๆ 1,000 คน มีเด็ก 3 คน เกิดมาพร้อมกับการไม่ได้ยิน เอไอเอสเชิญชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของก­ารเปิดโอกาสในการได้ยินเสียงแรกให้กับน้อง­ๆ โดยให้ร่วมส่งคำอวยพรปีใหม่ให้กับน้องๆผู้­บกพร่องทางการได้ยิน เป็นคลิปวิดีโอ หรือ ภาพถ่ายอวยพรด้วยท่าทางภาษากาย ด้วยการใส่ #aisbeautifulsound ผ่านช่องทาง Facebook และ Instagram ทุกๆ คลิปวิดีโอ หรือ ภาพถ่ายที่ส่งเข้ามา เอไอเอสบริจาค ครั้งละ 10 บาทให้กับมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการมอบโอกาสในการได้ย­ินเสียงแรกในชีวิต

“หนึ่งเสียงจากใจคุณ สร้างเสียงแรกให้ใครอีกหลายคน”

AIS: Beautiful sound

3 out of every 1000 children were born with hearing disabilities, AIS would like to invite you to be a part of this project giving opportunities for those with hearing disabilities to hear clearly for the first time by sending your New Year wishes to them. Post your video clips or photo making sign language for New Year wishes and hash tag #aisbeautifulsound via Facebook and Instagram. AIS will donate 10 Baht for every video clip and photo to The Foundation for The Deaf Under The Royal Patronage of Her Majesty The Queen.

“One sound in your heart is the first sound they will hear”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่