ใบทำใบขับขี่รถยนต์ครั้งแรก ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ (จตุจักร) เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีประสบการณ์ไม่ค่อยดีมาเล่าให้ฟังครับ..
เริ่มจากเข้าไปจองคิวอบรมผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้า ได้คิวนัดหมายประมาณ 20 วันคือวันที่ 26 ธ.ค. (นอกจากจองออนไลน์ยังเปิดให้จองผ่านโทรศัพท์และจองด้วยตัวเองที่สนง.ขนส่งได้) หลังจากจองเสร็จเรียบร้อย ระบบจะให้รหัสมาซึ่งต้องรีบจดไว้ไม่งั้นจะไม่สามารถค้นหารหัสตัวนี้ได้อีก ^^
พอถึงวันนัดหมาย หลักฐานที่ต้องเตรียมไปด้วยคือ สำเนาบัตรประชาชน และใบรับรองแพทย์ที่ตอนไปขอต้องระบุว่าใช้สำหรับทำใบขับขี่ ซึ่งแพทย์จะระบุว่าไม่เป็นโรคที่ไม่สามารถขับรถได้ แต่เรื่องใบรับรองแพทย์ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าใครไม่ได้เตรียมไปด้วยพอไปถึงที่สนง.ขนส่ง จะมีพี่วินมาถามตลอดว่ามีใบรับรองแพทย์มั๊ย ถ้าไม่มีก็จะมีบริการพาไปส่งถึงคลินิคกันเลยทีเดียว.. ส่วนเรื่องสำเนาบัตรประชาชน ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้มีมติครม.ว่าการติดต่อราชการไม่จำเป็นต้องถ่ายสำเนาแล้ว สามารถยื่นตัวจริงได้เลย ไม่รู้ว่าทำไมในทางปฏิบัติถึงยังไม่เปลี่ยน???
วันนัดหมายผมขับรถไปตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้าก็แทบจะไม่มีที่จอดรถแล้ว แม้ว่าจะเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องรถ เรื่องการขนส่ง ออกระเบียบควบคุมเยอะแยะ แต่ในสนง.กลับไม่มีการจัดระเบียบของพื้นที่เลย พื้นที่จอดอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ จะไปติดต่อที่ไหนก็ไม่ทราบ อยากจอดตรงไหนก็จอด ขาว-แดง ขาว-ดำ ก็เห็นจอดกันได้หมด
ถ้าใครยังไม่เคยไป แนะนำให้ถามไปเรื่อยๆ ว่าทำใบขับขี่ที่ไหน เพราะไม่มีป้ายบอกทาง ตึกอาคารก็เยอะ ผมเลือกถามเจ้าหน้าที่ที่ตึกข้างหน้า "ตึก 5 ชั้น 2" ซึ่งต้องเดินไปอีกตึกที่อยู่ลึกเข้าไป สังเกตยอดตึกให้ดีจะมีเขียนบอก พอไปถึงก็ขึ้นไปชั้น 2 บริเวณบันไดระหว่างทางขึ้นจะมีขั้นตอนอะไรต่างๆ นานาเยอะแยะไปหมด พอมีเวลาก็เลยไล่อ่านที่ป้ายใหญ่ๆ ก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เข้าใจว่าจะต้องไปทำอะไรตรงไหนก่อน เพราะมันไม่สัมพันธ์กับตำแหน่งพื้นที่เลย ไม่เป็นไร ลองไปดูก่อนแล้วกัน.. ขึ้นไปชั้น 2 โอ้...คนเยอะมาก ไหนว่าจำกัดคนอบรม 100 คน/วัน นี่มันน่าจะเกิน 100 คนนะ เห็นคนต่อคิวจากเคาร์เตอร์ข้างในทะลุออกมาข้างนอก ตวัดเลื้อยขึ้นไปตามบันไดชั้น 3 ตัดสินใจเดินขึ้นชั้น 3 ไปต่อหางแถว พอดีเจอพี่ใจดีคนหนึ่ง สงสัยมาที่นี่จนชำนาญ บอกว่ามาทำใบขับขี่ใหม่ให้เข้าแถวตรงนี้แหละ และพี่คนเดิมยังคอยบอกคนอื่นๆ ที่ยืนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าต้องไปตรงไหนต่ออีก พี่แกยังคอยสังเกตคนที่ใส่เสื้อวิน และจะคอยบอกว่า "ใบขับขี่สาธารณะให้แทรกเข้าไปข้างใน เข้า 2 แถวแรก" เพิ่งรู้ว่าที่เห็นคนเยอะๆ ไม่ได้มีเฉพาะทำใบขับขี่ใหม่เท่านั้น ยังมีใบขับขี่สาธารณะ ใบขับขี่หายมาทำใบใหม่ และคงจะมีติดต่ออย่างอื่นอีกที่มารวมกันในเช้าวันเดียวกัน และตรงเคาร์เตอร์ติดต่อรับบัตรคิวก็ไม่ได้แยกแถวว่าติดต่ออะไร จะต้องเข้าแถวไหน พอไปรับบัตรจะถามว่ามาติดต่ออะไร จนท.ก็จะหยิบบัตรติวสีต่างๆ เพื่อแยกประเภทให้ แล้วก็ไปนั่งรอ
จุดต่อมาที่ต้องมารอ ต้องดูให้ดี เพราะมีหลายมุม มีทั้งที่นั่งรอ เข้าแถว ยืนกระจุกตัว ต้องเข้ากลุ่มให้ถูก บังเอิญผมไปนั่งผิดที่ คนข้างๆ ก็คงมาครั้งแรกเหมือนกัน เห็นผมถือบัตรคิวสีชมพู ก็ถามว่าได้บัตรคิวจากไหน ผมบอกว่าเคาร์เตอร์ให้มา พี่แกคงกลัวว่าไม่มีบัตรคิว ก็เลยกลับไปขอใหม่ ผมว่าคนนั้นโดนด่าไปเรียบร้อยแล้วล่ะ เพราะตรงเคาร์เตอร์นี่อย่าถามมากนะครับ จนท.จะขึ้นเสียงเหมือนว่าคุณทำผิดอะไรซักอย่าง แนะนำว่าให้ถามคนข้างๆ แทนดีกว่าแม้ว่าคนที่คุณถามตอบไม่ได้ จะมีคนใจดีคนอื่นคอยฟังคำถามคุณอยู่และจะต้องมีคนอธิบายให้ฟัง ผมยืนยัน!!
พอรู้ตัวว่าไปรอผิดที่ก็เลยเดินหาจุดที่ถูกต้องใหม่ เจอแล้ว.. สรุปว่าต้องไปรอกลุ่มที่อยู่หลังเคาร์เตอร์รับบัตรคิวนั่นแหละ ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนการเขียนคำร้องขอทำใบขับขี่ และถ่ายรูปติดใบขับขี่ ใครอยากมีรูปสวยๆ บนบัตรต้องเตรียมตัวให้ดีนะครับ เพราะจะไม่มีฉากหลังให้ แต่ฉากหลังก็จะเป็นคนที่นั่งรออยู่คิวอยู่ข้างหลังนั่นแหละ ถ้ามุมไม่ดี รูปบนบัตรเราก็จะเหมือนถ่ายเซลฟีกับคนแปลกหน้ายังไงยังงั้น ..เสร็จจากขั้นตอนนี้ จนท.บอกให้ไปชั้น 3
เดินขึ้นไปชั้น 3 เข้าไปข้างในจะมีฝั่งซ้าย ฝั่งขวา ไม่มีป้ายบอกว่าให้ไปฝั่งไหน สังเกตเอาเองนะครับ มีคนนั่งรอทั้งสองฝั่ง คนที่นั่งฝั่งขวามีเปิดทีวีให้ดู เห็นทุกคนนั่งจ้องกัน ผมก็เหลือบไปดูด้วย ซวยแล้วว มันเป็น VDO สอนเรื่องการขับขี่ นี่ผมมาไม่ทัน VDO อบรมสอบใบขับขี่ใช่มั๊ย?? ดูได้ซักพัก จนท.ตะโกนแจ้งว่า ให้ตั้งใจดูดีๆ เดี๋ยวจะทำไม่ถูก เพิ่งรู้ว่าที่กำลังดู เป็น VDO สอนขั้นตอนการทดสอบสมรรถภาพ ซึ่งก่อนเข้าทดสอบจะต้องยื่นเอกสารที่ติดมาตั้งแต่ชั้น 2 เพื่อรับบัตรคิวเข้าทดสอบ การทดสอบเริ่มจาก ทดสอบตาบอดสี, สายตาเอียง, ปฏิกิริยาความเร็วของเท้า, มุมมองของตา
การทดสอบทั้ง 4 ขั้นตอนไม่มีปัญหาอะไร แต่เริ่มมีอารมณ์ก็ตอนที่เห็น จนท. พาคน 3 คนออกมาจากห้องของ จนท. ที่อยู่ติดกันกับห้องทดสอบมาเข้าคิวทดสอบ และอธิบายแนะนำว่าทดสอบมีอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไร ซึ่ง จนท.ที่พามาส่งน่าจะเป็นระดับหัวหน้าเพราะไม่ได้มีหน้าที่ประจำจุดใดจุดหนึ่ง แต่เดินดูจุดต่างๆ แล้วคนที่ยืนรอข้างนอกล่ะ มี จนท.คอยอธิบายว่าต้องทำอะไรบ้างมั๊ย? หรือต้องหาทางช่วยเหลือตัวเอง? ใจเย็นๆ ครับ ใจเย็นๆ ผมอาจจะมโนไปเอง
เสร็จจากการทดสอบต้องเดินไปอีกฝั่ง เตรียมตัวเข้าห้องอบรมตอน 10.00น. ซึ่งมีเวลาเหลือพอที่กินข้าวเช้า เข้าห้องน้ำ ใครจะลงไปข้างล่างฝากเอกสารไว้ที่จุดลงทะเบียนหน้าห้องอบรมได้ครับ พอใกล้ถึงเวลา 10.00น. จนท.จะเรียกให้เข้าแถวเซนต์ชื่ออบรมรอบเช้า ใบเซนต์ชื่อมีรอบเช้า-รอบบ่าย ดูดีๆ นะครับ เซนต์ผิดโดนด่านะครับ คนข้างหน้าโดนมาแล้ว ถามก็ไม่ได้นะครับ "ลองใช้เซ้นต์ดูซิ ว่าคนอื่นๆ เขาทำอะไร" ผมว่า จนท. ที่ทำงานให้บริการ ไม่ควรจะมีทัศนคติแบบนี้นะ ถึงแม้ว่าคนที่มาอบรมจะดูเป็นเด็กแว้นก็เถอะ แต่เขาควรจะมีสิทธิได้รับบริการที่ดีเทียบเท่ากับ 3 คนที่ผมเจอในห้องทดสอบสมรรถภาพนะ
ขนส่งเริ่มปรับเกณฑ์ในการสอบใบขับขี่ให้ยากขึ้น?? ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมา โดยเข้ารับการอบรม 4 ชม./เพิ่มข้อสอบจาก 30 เป็น 50 ข้อ/ ต้องทำถูก 90% หรือ 45 ข้อ ..ตอนเข้าอบรมจะมีทั้งผู้ที่เข้าอบรมระบบเก่าและระบบใหม่ ระบบใหม่จะได้การ์ดขาวๆ มาแผ่นหนึ่งเพื่อใช้สแกนเข้าออกห้องทั้งรอบเช้าและรอบบ่าย แต่ระบบเก่าจะไม่มี ต้องใช้วิธีการเซ็นต์ชื่อหน้าห้อง แต่แม้ผมจะใช้ระบบใหม่ก็ยังต้องเซ็นต์ชื่อหน้าห้องเหมือนกัน ความแตกต่างมันอยู่ตรงไหน?? แล้วระบบสแกนนี่ก็มีปัญหา error ยุ่งยากช่างเทคนิคมาแก้เสียเวลาอีก เข้าใจว่ากำลังทดลองระบบอยู่
ในห้องอบรม มีคนเกินครึ่งห้องนั่งรออยู่ก่อนแล้ว สังเกตว่านั่งรอตั้งแต่ก่อนที่ จนท.จะบอกว่ายังมีเวลาเหลือ ใครหิวข้าว หรืออยากเข้าห้องน้ำก็ให้ไปได้ ยังไม่ถึงเวลาอบรม พอคนที่ลงทะเบียนใกล้จะครบ และใกล้ถึงเวลาอบรม ก็มี จนท.นำหนังสือมาขาย เป็นหนังสือคู่มือกฏระเบียบจราจร ราคาเล่มละ 50 บาท ใครจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แต่เล่มนี้มีข้อสอบ สำหรับคนที่ซื้อ จนท.บอกให้พับหน้าที่ให้อ่านโดยเฉพาะ คล้ายๆ เก็งข้อสอบ นี่ผมมาเรียนพิเศษติวสอบทำใบขับขี่เหรอ??? 10 โมงผ่านไป ยังขายหนังสือไม่เสร็จ กว่า VDO จะเริ่มเปิดก็ปาเข้าไป 10 โมงกว่าๆ VDO เป็นเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามแยกที่กล้องจับภาพไว้ได้ ถือว่าน่าสนใจพอสมควร ถ้าใครดูเรื่องจริงผ่านจอ น่าจะเคยดูมาบ้าง แต่ที่นี่อาจจะมีน้อยกว่า นอกจากนี้ก็มี VDO แนะนำการขับรถที่ดี ที่ถูกต้องโดยนัดแสดงสมัครเล่น งบการผลิตอาจจะน้อยคงจะใช้นักแสดงใน สนง.กันเอง แต่ทำ VDO ทั้งที น่าจะทำให้ดี เพราะยังไงก็ใช้สำหรับคนที่ขับรถทั้งประเทศดูอยู่แล้ว น่าจะมีการออกแบบให้ดีหน่อยว่าต้องการให้เกิดผลอะไร ใส่ใจรายละเอียดทุกจุด ผมรู้สึกว่าอบรม 2 ชม.รอบเช้าแทบจะไม่ได้อะไรเลย ไม่มีตัวเลขที่ระบุเรื่อง เวลา ระยะทาง หรือสิ่งที่เป็นข้อควรจำอะไรหลักๆ สำคัญๆ
สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ จนท.ที่ขายหนังสือบอกว่า คนที่มีซื้อหนังสือ ไม่ต้องดู VDO เพราะเป็นเรื่องสามัญสำนึกทั่วไปของคนขับรถที่ต้องมี ให้อ่านตามหน้าที่ให้พับ อ้าว!! แล้วคนที่ไม่ได้ซื้อหนังสือล่ะ? ก็ต้องนั่งดู VDO ที่แม้ จนท.ยังไม่ได้ให้ความสำคัญเลยอย่างนั้นหรือ?? ..2 ชม.ผ่านไป สังเกตเห็นมีทั้งคนกำลังนั่งอ่านหนังสือ และบางคนก็นั่งหลับ รวมทั้งผมด้วย
พักเที่ยงไปกินข้าว จนท.บอกว่าให้มาให้ทัน ไม่ต้องออกไปกินข้าวข้างนอก ข้างในมีโรงอาหาร ใครที่ซื้อหนังสือก็นั่งอ่านหน้าที่บอกไว้ ข้าวโรงอาหารถือว่าแพงกว่าปกติทั่วไป จริงๆ แล้วคนที่มาติดต่อราชการมีทุกระดับแต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่รับจ้าง ทั้งมอร์เตอร์ไซต์และแท็กซี่ ราคาอาหารให้ถูกลงกว่านี้ถือเป็นภารกิจการบริการประชาชนอย่างหนึ่ง
อบรมรอบบ่ายมีอาจารย์มาให้ความรู้เรื่องกฏหมาย ข้อบังคับการจราจร เอาเข้าจริงคนที่มาพูดคือ จนท.ระดับชำนาญงาน การพูดก็เป็นการอ่านตามสไลด์ที่ไม่ได้เตรียมมาเองเข้าใจว่าเป็นของส่วนกลางที่ทำไว้แล้ว ในฐานะที่ผมออกแบบสไลด์ใช้งานอยู่บ่อยๆ ถือว่าสไลด์ที่ใช้บรรยายยังใช้ไม่ได้ ทั้งการใช้สีสันฉูดฉาด การใช้การ์ตูนเต้นๆ มาใช้รูปที่ไม่คมชัด การจัดวางข้อความ รูปภาพ โดยสรุปผมคาดหวังการบรรยายที่เป็นมืออาชีพมากกว่านี้ จนท.อาจจะมีความรู้ในระดับชำนาญงาน แต่ไม่มีทักษะในการนำเสนอเพียงพอ!! นอกจากสไลด์ ยังมีเสียงที่ทั้งเบาทั้งแตก ไม่รู้ว่าข้างหลังได้ยินชัดมั๊ย เพราะผมนั่งข้างหน้า อบรมรอบบ่ายใช้เวลาประมาณชม.กว่าๆ หลังจากนั้นก็ได้เวลาสอบ ที่ต้องย้ายไปอีกห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน เป็นเครื่องสอบแบบ e-exam คือใช้บัตรที่ได้มาแตะที่ตัวเครื่องแล้วก็เริ่มสอบได้ ข้อสอบมี 50 ข้อ ต้องถูกไม่ต่ำกว่า 45 ข้อ หลังจากสอบเสร็จก็จะแจ้งผลผ่าน/ไม่ผ่านได้ทันที ใครไม่ผ่านก็สามารถมาสอบใหม่ได้อีก
3 ครั้ง หากยังไม่ผ่านก็ต้องไปนั่งอบรมใหม่ตั้งแต่ต้น สอบข้อเขียนผ่านแล้วถึงจะได้สิทธิในการสอบภาคปฏิบัติ เอาไว้จะมีรีวิวกันใหม่
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านซะยาวเลย ตอนแรกๆ ยอมรับว่ามีอารมณ์ ทั้งเรื่องการใช้เส้นเข้ามาและเรื่องการขายหนังสือในห้อง ก็รอจนถึงวันนี้เพื่อให้อารมณ์เย็นลง ให้เหลือเป็นการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์และมีข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น หากกระทบกับกรม หรือ จนท.ก็สามารถอธิบายแย้งกลับได้ ไม่ได้ต้องการให้เกิดความชิงชัง ขัดแย้ง แต่คาดหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นเสียงสะท้อนเพื่อให้มีการปรับปรุงการบริการของภาครัฐให้ดีขึ้น.
กรมการขนส่งทางบกไม่มีความเป็นมืออาชีพ!! ในการทำใบขับขี่รถยนต์
เริ่มจากเข้าไปจองคิวอบรมผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้า ได้คิวนัดหมายประมาณ 20 วันคือวันที่ 26 ธ.ค. (นอกจากจองออนไลน์ยังเปิดให้จองผ่านโทรศัพท์และจองด้วยตัวเองที่สนง.ขนส่งได้) หลังจากจองเสร็จเรียบร้อย ระบบจะให้รหัสมาซึ่งต้องรีบจดไว้ไม่งั้นจะไม่สามารถค้นหารหัสตัวนี้ได้อีก ^^
พอถึงวันนัดหมาย หลักฐานที่ต้องเตรียมไปด้วยคือ สำเนาบัตรประชาชน และใบรับรองแพทย์ที่ตอนไปขอต้องระบุว่าใช้สำหรับทำใบขับขี่ ซึ่งแพทย์จะระบุว่าไม่เป็นโรคที่ไม่สามารถขับรถได้ แต่เรื่องใบรับรองแพทย์ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าใครไม่ได้เตรียมไปด้วยพอไปถึงที่สนง.ขนส่ง จะมีพี่วินมาถามตลอดว่ามีใบรับรองแพทย์มั๊ย ถ้าไม่มีก็จะมีบริการพาไปส่งถึงคลินิคกันเลยทีเดียว.. ส่วนเรื่องสำเนาบัตรประชาชน ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้มีมติครม.ว่าการติดต่อราชการไม่จำเป็นต้องถ่ายสำเนาแล้ว สามารถยื่นตัวจริงได้เลย ไม่รู้ว่าทำไมในทางปฏิบัติถึงยังไม่เปลี่ยน???
วันนัดหมายผมขับรถไปตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้าก็แทบจะไม่มีที่จอดรถแล้ว แม้ว่าจะเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องรถ เรื่องการขนส่ง ออกระเบียบควบคุมเยอะแยะ แต่ในสนง.กลับไม่มีการจัดระเบียบของพื้นที่เลย พื้นที่จอดอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ จะไปติดต่อที่ไหนก็ไม่ทราบ อยากจอดตรงไหนก็จอด ขาว-แดง ขาว-ดำ ก็เห็นจอดกันได้หมด
ถ้าใครยังไม่เคยไป แนะนำให้ถามไปเรื่อยๆ ว่าทำใบขับขี่ที่ไหน เพราะไม่มีป้ายบอกทาง ตึกอาคารก็เยอะ ผมเลือกถามเจ้าหน้าที่ที่ตึกข้างหน้า "ตึก 5 ชั้น 2" ซึ่งต้องเดินไปอีกตึกที่อยู่ลึกเข้าไป สังเกตยอดตึกให้ดีจะมีเขียนบอก พอไปถึงก็ขึ้นไปชั้น 2 บริเวณบันไดระหว่างทางขึ้นจะมีขั้นตอนอะไรต่างๆ นานาเยอะแยะไปหมด พอมีเวลาก็เลยไล่อ่านที่ป้ายใหญ่ๆ ก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เข้าใจว่าจะต้องไปทำอะไรตรงไหนก่อน เพราะมันไม่สัมพันธ์กับตำแหน่งพื้นที่เลย ไม่เป็นไร ลองไปดูก่อนแล้วกัน.. ขึ้นไปชั้น 2 โอ้...คนเยอะมาก ไหนว่าจำกัดคนอบรม 100 คน/วัน นี่มันน่าจะเกิน 100 คนนะ เห็นคนต่อคิวจากเคาร์เตอร์ข้างในทะลุออกมาข้างนอก ตวัดเลื้อยขึ้นไปตามบันไดชั้น 3 ตัดสินใจเดินขึ้นชั้น 3 ไปต่อหางแถว พอดีเจอพี่ใจดีคนหนึ่ง สงสัยมาที่นี่จนชำนาญ บอกว่ามาทำใบขับขี่ใหม่ให้เข้าแถวตรงนี้แหละ และพี่คนเดิมยังคอยบอกคนอื่นๆ ที่ยืนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าต้องไปตรงไหนต่ออีก พี่แกยังคอยสังเกตคนที่ใส่เสื้อวิน และจะคอยบอกว่า "ใบขับขี่สาธารณะให้แทรกเข้าไปข้างใน เข้า 2 แถวแรก" เพิ่งรู้ว่าที่เห็นคนเยอะๆ ไม่ได้มีเฉพาะทำใบขับขี่ใหม่เท่านั้น ยังมีใบขับขี่สาธารณะ ใบขับขี่หายมาทำใบใหม่ และคงจะมีติดต่ออย่างอื่นอีกที่มารวมกันในเช้าวันเดียวกัน และตรงเคาร์เตอร์ติดต่อรับบัตรคิวก็ไม่ได้แยกแถวว่าติดต่ออะไร จะต้องเข้าแถวไหน พอไปรับบัตรจะถามว่ามาติดต่ออะไร จนท.ก็จะหยิบบัตรติวสีต่างๆ เพื่อแยกประเภทให้ แล้วก็ไปนั่งรอ
จุดต่อมาที่ต้องมารอ ต้องดูให้ดี เพราะมีหลายมุม มีทั้งที่นั่งรอ เข้าแถว ยืนกระจุกตัว ต้องเข้ากลุ่มให้ถูก บังเอิญผมไปนั่งผิดที่ คนข้างๆ ก็คงมาครั้งแรกเหมือนกัน เห็นผมถือบัตรคิวสีชมพู ก็ถามว่าได้บัตรคิวจากไหน ผมบอกว่าเคาร์เตอร์ให้มา พี่แกคงกลัวว่าไม่มีบัตรคิว ก็เลยกลับไปขอใหม่ ผมว่าคนนั้นโดนด่าไปเรียบร้อยแล้วล่ะ เพราะตรงเคาร์เตอร์นี่อย่าถามมากนะครับ จนท.จะขึ้นเสียงเหมือนว่าคุณทำผิดอะไรซักอย่าง แนะนำว่าให้ถามคนข้างๆ แทนดีกว่าแม้ว่าคนที่คุณถามตอบไม่ได้ จะมีคนใจดีคนอื่นคอยฟังคำถามคุณอยู่และจะต้องมีคนอธิบายให้ฟัง ผมยืนยัน!!
พอรู้ตัวว่าไปรอผิดที่ก็เลยเดินหาจุดที่ถูกต้องใหม่ เจอแล้ว.. สรุปว่าต้องไปรอกลุ่มที่อยู่หลังเคาร์เตอร์รับบัตรคิวนั่นแหละ ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนการเขียนคำร้องขอทำใบขับขี่ และถ่ายรูปติดใบขับขี่ ใครอยากมีรูปสวยๆ บนบัตรต้องเตรียมตัวให้ดีนะครับ เพราะจะไม่มีฉากหลังให้ แต่ฉากหลังก็จะเป็นคนที่นั่งรออยู่คิวอยู่ข้างหลังนั่นแหละ ถ้ามุมไม่ดี รูปบนบัตรเราก็จะเหมือนถ่ายเซลฟีกับคนแปลกหน้ายังไงยังงั้น ..เสร็จจากขั้นตอนนี้ จนท.บอกให้ไปชั้น 3
เดินขึ้นไปชั้น 3 เข้าไปข้างในจะมีฝั่งซ้าย ฝั่งขวา ไม่มีป้ายบอกว่าให้ไปฝั่งไหน สังเกตเอาเองนะครับ มีคนนั่งรอทั้งสองฝั่ง คนที่นั่งฝั่งขวามีเปิดทีวีให้ดู เห็นทุกคนนั่งจ้องกัน ผมก็เหลือบไปดูด้วย ซวยแล้วว มันเป็น VDO สอนเรื่องการขับขี่ นี่ผมมาไม่ทัน VDO อบรมสอบใบขับขี่ใช่มั๊ย?? ดูได้ซักพัก จนท.ตะโกนแจ้งว่า ให้ตั้งใจดูดีๆ เดี๋ยวจะทำไม่ถูก เพิ่งรู้ว่าที่กำลังดู เป็น VDO สอนขั้นตอนการทดสอบสมรรถภาพ ซึ่งก่อนเข้าทดสอบจะต้องยื่นเอกสารที่ติดมาตั้งแต่ชั้น 2 เพื่อรับบัตรคิวเข้าทดสอบ การทดสอบเริ่มจาก ทดสอบตาบอดสี, สายตาเอียง, ปฏิกิริยาความเร็วของเท้า, มุมมองของตา
การทดสอบทั้ง 4 ขั้นตอนไม่มีปัญหาอะไร แต่เริ่มมีอารมณ์ก็ตอนที่เห็น จนท. พาคน 3 คนออกมาจากห้องของ จนท. ที่อยู่ติดกันกับห้องทดสอบมาเข้าคิวทดสอบ และอธิบายแนะนำว่าทดสอบมีอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไร ซึ่ง จนท.ที่พามาส่งน่าจะเป็นระดับหัวหน้าเพราะไม่ได้มีหน้าที่ประจำจุดใดจุดหนึ่ง แต่เดินดูจุดต่างๆ แล้วคนที่ยืนรอข้างนอกล่ะ มี จนท.คอยอธิบายว่าต้องทำอะไรบ้างมั๊ย? หรือต้องหาทางช่วยเหลือตัวเอง? ใจเย็นๆ ครับ ใจเย็นๆ ผมอาจจะมโนไปเอง
เสร็จจากการทดสอบต้องเดินไปอีกฝั่ง เตรียมตัวเข้าห้องอบรมตอน 10.00น. ซึ่งมีเวลาเหลือพอที่กินข้าวเช้า เข้าห้องน้ำ ใครจะลงไปข้างล่างฝากเอกสารไว้ที่จุดลงทะเบียนหน้าห้องอบรมได้ครับ พอใกล้ถึงเวลา 10.00น. จนท.จะเรียกให้เข้าแถวเซนต์ชื่ออบรมรอบเช้า ใบเซนต์ชื่อมีรอบเช้า-รอบบ่าย ดูดีๆ นะครับ เซนต์ผิดโดนด่านะครับ คนข้างหน้าโดนมาแล้ว ถามก็ไม่ได้นะครับ "ลองใช้เซ้นต์ดูซิ ว่าคนอื่นๆ เขาทำอะไร" ผมว่า จนท. ที่ทำงานให้บริการ ไม่ควรจะมีทัศนคติแบบนี้นะ ถึงแม้ว่าคนที่มาอบรมจะดูเป็นเด็กแว้นก็เถอะ แต่เขาควรจะมีสิทธิได้รับบริการที่ดีเทียบเท่ากับ 3 คนที่ผมเจอในห้องทดสอบสมรรถภาพนะ
ขนส่งเริ่มปรับเกณฑ์ในการสอบใบขับขี่ให้ยากขึ้น?? ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมา โดยเข้ารับการอบรม 4 ชม./เพิ่มข้อสอบจาก 30 เป็น 50 ข้อ/ ต้องทำถูก 90% หรือ 45 ข้อ ..ตอนเข้าอบรมจะมีทั้งผู้ที่เข้าอบรมระบบเก่าและระบบใหม่ ระบบใหม่จะได้การ์ดขาวๆ มาแผ่นหนึ่งเพื่อใช้สแกนเข้าออกห้องทั้งรอบเช้าและรอบบ่าย แต่ระบบเก่าจะไม่มี ต้องใช้วิธีการเซ็นต์ชื่อหน้าห้อง แต่แม้ผมจะใช้ระบบใหม่ก็ยังต้องเซ็นต์ชื่อหน้าห้องเหมือนกัน ความแตกต่างมันอยู่ตรงไหน?? แล้วระบบสแกนนี่ก็มีปัญหา error ยุ่งยากช่างเทคนิคมาแก้เสียเวลาอีก เข้าใจว่ากำลังทดลองระบบอยู่
ในห้องอบรม มีคนเกินครึ่งห้องนั่งรออยู่ก่อนแล้ว สังเกตว่านั่งรอตั้งแต่ก่อนที่ จนท.จะบอกว่ายังมีเวลาเหลือ ใครหิวข้าว หรืออยากเข้าห้องน้ำก็ให้ไปได้ ยังไม่ถึงเวลาอบรม พอคนที่ลงทะเบียนใกล้จะครบ และใกล้ถึงเวลาอบรม ก็มี จนท.นำหนังสือมาขาย เป็นหนังสือคู่มือกฏระเบียบจราจร ราคาเล่มละ 50 บาท ใครจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แต่เล่มนี้มีข้อสอบ สำหรับคนที่ซื้อ จนท.บอกให้พับหน้าที่ให้อ่านโดยเฉพาะ คล้ายๆ เก็งข้อสอบ นี่ผมมาเรียนพิเศษติวสอบทำใบขับขี่เหรอ??? 10 โมงผ่านไป ยังขายหนังสือไม่เสร็จ กว่า VDO จะเริ่มเปิดก็ปาเข้าไป 10 โมงกว่าๆ VDO เป็นเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามแยกที่กล้องจับภาพไว้ได้ ถือว่าน่าสนใจพอสมควร ถ้าใครดูเรื่องจริงผ่านจอ น่าจะเคยดูมาบ้าง แต่ที่นี่อาจจะมีน้อยกว่า นอกจากนี้ก็มี VDO แนะนำการขับรถที่ดี ที่ถูกต้องโดยนัดแสดงสมัครเล่น งบการผลิตอาจจะน้อยคงจะใช้นักแสดงใน สนง.กันเอง แต่ทำ VDO ทั้งที น่าจะทำให้ดี เพราะยังไงก็ใช้สำหรับคนที่ขับรถทั้งประเทศดูอยู่แล้ว น่าจะมีการออกแบบให้ดีหน่อยว่าต้องการให้เกิดผลอะไร ใส่ใจรายละเอียดทุกจุด ผมรู้สึกว่าอบรม 2 ชม.รอบเช้าแทบจะไม่ได้อะไรเลย ไม่มีตัวเลขที่ระบุเรื่อง เวลา ระยะทาง หรือสิ่งที่เป็นข้อควรจำอะไรหลักๆ สำคัญๆ
สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ จนท.ที่ขายหนังสือบอกว่า คนที่มีซื้อหนังสือ ไม่ต้องดู VDO เพราะเป็นเรื่องสามัญสำนึกทั่วไปของคนขับรถที่ต้องมี ให้อ่านตามหน้าที่ให้พับ อ้าว!! แล้วคนที่ไม่ได้ซื้อหนังสือล่ะ? ก็ต้องนั่งดู VDO ที่แม้ จนท.ยังไม่ได้ให้ความสำคัญเลยอย่างนั้นหรือ?? ..2 ชม.ผ่านไป สังเกตเห็นมีทั้งคนกำลังนั่งอ่านหนังสือ และบางคนก็นั่งหลับ รวมทั้งผมด้วย
พักเที่ยงไปกินข้าว จนท.บอกว่าให้มาให้ทัน ไม่ต้องออกไปกินข้าวข้างนอก ข้างในมีโรงอาหาร ใครที่ซื้อหนังสือก็นั่งอ่านหน้าที่บอกไว้ ข้าวโรงอาหารถือว่าแพงกว่าปกติทั่วไป จริงๆ แล้วคนที่มาติดต่อราชการมีทุกระดับแต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่รับจ้าง ทั้งมอร์เตอร์ไซต์และแท็กซี่ ราคาอาหารให้ถูกลงกว่านี้ถือเป็นภารกิจการบริการประชาชนอย่างหนึ่ง
อบรมรอบบ่ายมีอาจารย์มาให้ความรู้เรื่องกฏหมาย ข้อบังคับการจราจร เอาเข้าจริงคนที่มาพูดคือ จนท.ระดับชำนาญงาน การพูดก็เป็นการอ่านตามสไลด์ที่ไม่ได้เตรียมมาเองเข้าใจว่าเป็นของส่วนกลางที่ทำไว้แล้ว ในฐานะที่ผมออกแบบสไลด์ใช้งานอยู่บ่อยๆ ถือว่าสไลด์ที่ใช้บรรยายยังใช้ไม่ได้ ทั้งการใช้สีสันฉูดฉาด การใช้การ์ตูนเต้นๆ มาใช้รูปที่ไม่คมชัด การจัดวางข้อความ รูปภาพ โดยสรุปผมคาดหวังการบรรยายที่เป็นมืออาชีพมากกว่านี้ จนท.อาจจะมีความรู้ในระดับชำนาญงาน แต่ไม่มีทักษะในการนำเสนอเพียงพอ!! นอกจากสไลด์ ยังมีเสียงที่ทั้งเบาทั้งแตก ไม่รู้ว่าข้างหลังได้ยินชัดมั๊ย เพราะผมนั่งข้างหน้า อบรมรอบบ่ายใช้เวลาประมาณชม.กว่าๆ หลังจากนั้นก็ได้เวลาสอบ ที่ต้องย้ายไปอีกห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน เป็นเครื่องสอบแบบ e-exam คือใช้บัตรที่ได้มาแตะที่ตัวเครื่องแล้วก็เริ่มสอบได้ ข้อสอบมี 50 ข้อ ต้องถูกไม่ต่ำกว่า 45 ข้อ หลังจากสอบเสร็จก็จะแจ้งผลผ่าน/ไม่ผ่านได้ทันที ใครไม่ผ่านก็สามารถมาสอบใหม่ได้อีก
3 ครั้ง หากยังไม่ผ่านก็ต้องไปนั่งอบรมใหม่ตั้งแต่ต้น สอบข้อเขียนผ่านแล้วถึงจะได้สิทธิในการสอบภาคปฏิบัติ เอาไว้จะมีรีวิวกันใหม่
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านซะยาวเลย ตอนแรกๆ ยอมรับว่ามีอารมณ์ ทั้งเรื่องการใช้เส้นเข้ามาและเรื่องการขายหนังสือในห้อง ก็รอจนถึงวันนี้เพื่อให้อารมณ์เย็นลง ให้เหลือเป็นการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์และมีข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น หากกระทบกับกรม หรือ จนท.ก็สามารถอธิบายแย้งกลับได้ ไม่ได้ต้องการให้เกิดความชิงชัง ขัดแย้ง แต่คาดหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นเสียงสะท้อนเพื่อให้มีการปรับปรุงการบริการของภาครัฐให้ดีขึ้น.