ด้วยความที่เราใช้บนิการรถแทกซี่บ่อย เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ที่ไม่ดีโดยเฉพาะพฤติกรรมการโก่งราคาที่ชอบทำกันมากโดยเฉพาะเวลาไปไกลๆและเวลามากับชาวต่างชาติค่ะ

เรื่องแรกที่เราจะเล่าคือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันฮาโลวีนค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นนักศึกษาอยู่มหาลัยรัฐแห่งหนึ่งย่านรังสิต ทุกปีจะมีนักศึกษาต่างชาติมาแลกเปลี่ยนที่มหาลัย แล้วในคืนั้นเรากับเพื่อนฝรั่งก็ได้นัดกันแต่งตัวเป็นผีซอมบี้ ราวๆ15 คน (รวมเรา) แล้วก็กะว่าจะไปปาร์ตี้ที่ route66 เรากับเพื่อนๆเลยแบ่งกลุ่มกันขึ้นแท็กซี่ โดยคันเรามี6คน นั่งซ้อนกันไป มีเรา เพื่อนคนญี่ปุ่น3คน อเมริกัน1คน ฝรั่งเศส1คน พอขึ้นไปแท็กซี่ คนขับถามว่าไปไหน เราบอกว่าไป route66 แถวพระราม9 คนขับบอกว่าขอ 700รวมทางด่วน  เราเลยอธิบายให้เพื่อนๆฟัง เพื่อนทุกคนก็โอเคเพราะถือว่าหารกัน แต่รากฎว่ขับไปขับมาไม่ขึ้นทางด่วน เพราะเพื่อนเราที่มาแลกเปลี่ยนทุกคนคุ้นชินเส้นทแถวนี้มากเพราะนั่งรถเข้ากรุงเทพบ่อย รวมทั้งเราด้วย เพื่อนคนญี่ปุ่นคนนึงก็ถามเราว่า ไม่ขึ้นทางด่วนหรอ เพิ่งเลยมาตะกี๊เอง เราเลยบอกคนขับว่า"โอย จะขึ้นได้ยังไงล่ะทางด่วน นั่งซ้อนขนาดนี้ ขึ้นไปก็โดนจับสิ" เรากับเพื่อนเลยขอต่อราคาเพราะแทกซี่ไม่ขึ้นทางด่วน แล้วระยะทางถ้าคิดเป็นมิเตอร์ยังไงๆก็ไม่เกิน200 คนขับเลยทำหงุดหงิด แล้วบอกว่า "จะต่ออะไรนักหนา ไม่ขึ้นทางด่วนแต่ก็ขับด่วนให้แล้วเนี่ย เหยียบสุดแล้วจะต่อทำไม เรียกไปไกลขนาดนี้ไม่มีคันไหนเค้าเปิดมีเตอน์ให้หรอก "  สุดท้ายก็ต้องจำใจจ่ายค่ะ  


เรื่องที่สองเกิดขึ้นงานวันพ่อค่ะ เรากะแฟน(คนฝรั่งเศส)ไปเที่ยวงานวันพ่อกันที่แถวสนามหลวง ซึ่งเป็นวันที่รถติดมากและหาแทกซี่กลับยากมาก แต่แฟนเราอยากเห็นบรรยากาศเราเลยพาไปค่ะ ตอนขากลับเดินหาแทกซี่กันขาลาก หาไม่ได้ มีบอกว่ารถติดบ้าง แก๊สหมดบ้าง ไม่รับบ้างจนมาถึงคันสุดท้ายที่รับ เราบอกว่าไปมหาลัยนี้ๆค่ะ คนขับพยักหน้า แต่ไม่บอกว่าจะไม่คิดตังตามมิเตอร์ ซึ่งเราก็ไม่รู้อะไร เพราะขึ้นไปแรกๆคนขับก็กดมิเตอร์ (คนขับอายุไม่เกิน26ปี ตัวผอม น่าตาแว้นๆ) พอนั่งไปสักพักบอก ไกลเกินมิเตอร์ไม่ไหวนะ ขอ600ละกัน เราเลยบอกว่าอ้าวพี่ นั่งมาจนจะถึงแล้วทำไมเพิ่งบอกล่ะคะ หนูก็เป็นนักศึกษา มากันสองคนนั่งแท็กซี่จ่าย600ไม่ไหหรอก คนขับก็บอก "ไหวสิ ฝรั่งเค้าทำงานเงินเดือนเยอะอยู่แล้ว" เรานี่ขึ้นมากเราบอกเค้าว่าพวกเราสองคนยังเป็นนักศึกษา แฟนหนูก็ยังเรียนอยู่ที่เดียวกันยังไม่มีเงินเดือน ทำไมพี่ไม่บอกแต่แรกอ่ะคะว่าไม่มิเตอร์หนูจะได้ไม่ขึ้น เสร็จแล้วคนขับเร่งเครื่อง ขับเร็วมาก ดีที่รถไม่เยอะเพราะเป็นชานเมืองตอนกลางคืน แต่คนขับทำไม่พอใจ แฟนเราก็ไม่เข้าใจ สุดท้ายเราเลยควักตัง 600 แล้วจ่ายมันไปแล้วลงจากรถเดินกะแฟนไปที่หอเพราะจากตรงนั้นมันไม่ไกลมากแล้ว

เรื่องสุดท้ายไม่มีอะไรมากค่ะ เรากะแฟนไปสถานีรถไฟรังสิตเพื่อไปจองตั๋วรถไฟให้เพื่อนแฟนที่มาหาจากฝรั่งเศสไปเที่ยวเชียงใหม่ พอเสร็จธุระ เรากับแฟนเลยโบกแท็กซี่กลับหอ
เรา: ไปมหาลัยนี้ๆๆ ออกถนนเชียงรากค่ะ ที่หอพักบลาๆๆ
แท็กซี่: 150 นะ
เรา: ไม่ไปค่ะ
แท็กซี่: ปกติไปเท่าไหร่ล่ะ
เรา: ปกตินั่งมิเตอร์ค่ะ
แท็กซี่: โถถ มิเตอร์ก็90 เกือบๆ 100 แล้ว ขอ100นึงแล้วกัน
เรา: ไม่เป็นไรค่ะไม่ไป
แท็กซี่: อ่ะ มิเตอร์ก็ได้
จนมาถึงหน้าหอ จ่ายตังถือว่าจบเรื่องค่ะ เพราะก็จ่ายตามมิเตอร์

ที่อยากจะบอกคือ เราไม่ชอบการที่แท็กซี่เรียกราคาเหมาทั้งๆที่เป็นแท็กซี่มิเตอร์ค่ะ เราไม่รู้ว่าผิดกฎหมายหรือเปล่า แต่อยากให้นึกถึงใจเขาใจเราค่ะ เพราะเราขึ้นแทกซี่เพราะไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆในเวลานั้น ซึ่งเราก็รู้ว่าคุณทำมาหากิน  คนใช้บริการก็ทำมาหากินค่ะ แล้วยิ่งเราเป็นนักศึกษาขอตังพ่อแม่ใช้ แทนที่เราจะจ่ายแค่ 100-200 เรากลับต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่าหลายเท่าตัว

แล้วโดยเฉพาะเวลากับชาวต่างชาติที่พวกคุณแท็กซี่มองว่าเค้าโง่เพราะฟังภาษาเราไม่รู้เรื่องเลยกินราคาซะจนเค้าอดบ่นไม่ได้ว่าประเทศเราแท็กซี่ พ่อค้าแม่ค้โกงเงินแค่ไหน พอเถอะค่ะ เอาใจเขาใส่ใจเราบ้าง ขนาดเราเป็นคนไทยเราโดนขนาดนี้เรายังรู้สึกแย่เลย เพื่อนเราแฟนเราเป็นชาวต่างชาติมาเมืองไทยมาเอาประสบการณ์ดีๆ แต่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ บอกตามตรงอายค่ะ อายที่คนไทยทำมาค้าขายด้วยการโกง


อยากให้แท็กซี่ไทยเปลี่ยนพฤติกรรมค่ะ

ถ้าเราเขียนผิดตรงไหน เขียนไม่เข้าใจตรงไหนเราจะมาแก้ทีหลังนะคะ พอดีเล่นบนมือถือ