หลังจากกระทู้ก่อนหน้านี้ ได้ไปถ่ายรูปกินขนมร้านคาเฟ่น่ารักๆที่กาญจนบุรีกันมาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/33026559
เราขับรถออกมาจากอ.ท่าม่วงกันสักชั่วโมงนึงได้ ใจจริงๆแล้วอยากไปเที่ยวกันอีกหลายที่แต่เวลามีจำกัด
เลยตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังช่องเขาขาดและน้ำตกไทรโยค ตอนแรกที่เลือกมาช่องเขาขาดเพราะว่าเคยเห็นแต่รูปภาพผ่านๆแว๊บๆ
ก็ไม่รู้ว่าคือที่เที่ยวแบบไหนยังไง แต่กว่าจะหาที่นี้เจอก็เล่นขับรถวนกันไปหลายรอบ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้ยากเลย
ดูใน google map จะถึงน้ำตกไทรโยคก่อน แล้วตามด้วยช่องเขาขาด พอขับผ่านป้ายช่องเขาขาดไปสักพัก
อ้าวว ทำไมมันอีกตั้งสี่สิบโลวะเนี่ยยย จะเชื่อป้ายหรือจะเชื่อแผนที่ดี กว่าจะหาทางกลับรถมาได้ก็เล่นเอาขับเลยไปสองสามโล
วนรถกลับมาที่ป้ายช่องเขาขาด นี่หรอทางเข้า ป้ายด้านหน้าจะเป็นทางเข้าของ กองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ตอนแรกก็งง มาจอดรถอยู่ข้างหน้าสักพักก็ไล่เพื่อนขับออกไป เพราะคิดว่าไม่ใช่ทางเข้าแน่ๆ ฮ่าๆๆ
แต่สุดท้ายก็ต้องวนมาที่เดิม ถึงรู้ว่าก่อนเข้าเราต้องลงรถเพื่อแลกบัตรด้วย แล้วเจ้าหน้าที่ถึงจะเปิดประตูให้ขับรถเข้าไปด้านใน
ตรงป้ายนี้เป็นในส่วนของพิพิธภัณฑ์ ด้านในจะมีการเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับเชลยศึกถูกเกณฑ์ให้มาขุดภูเขาให้เป็นช่องทางที่ให้รถไฟสามารถวิ่งผ่านได้ ตอนแรกก็ยืนๆอ่านไป ก็ยังไม่อินเท่าไหร่ เดินเข้าไปอีกหน่อยมีภาพวีดีโอเปิดบรรยายด้วย นั่งดูไปสักพักถึงกับอึดอัด แบบว่าโหวว แต่ละอย่าง
พวกเชลยนี่เขาได้กินข้าวแค่สองมื้อเองนะ เป็นข้าวกับผักกาดดองเค็ม แล้วเอาเรี่ยวแรงจากไหนไปขุดหินวะเนี่ย แต่ละคนนี่ผอมแห้งมาก ตายกันไปก็อย่างเยอะกว่าสะพานเส้นทางรถไฟจะสร้างเสร็จ
หลังจากออกมาจากส่วนของพิพิธภัณฑ์แล้ว เราก็จะเดินลงไปต่อที่ด้านล่าง ไปดูของจริงกันว่ามันเป็นยังไง
ใครที่จะมาเดินก็เตรียมรองเท้าที่สสมใส่สะดวกนิดนึง เพราะทางเดินเป็นหินจะทำให้เดินยากหน่อย แล้วถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็อาจจะลำบากเข้าไปอีก
จริงๆเส้นทางการเดินมียาวมาก ตั้งแต่จุดเริ่มตรงที่เรายืนกันอยู่นี้ทอดยาวไปเรื่อยๆ ยาวมากกกก เขาสร้างกันไปได้ยังไงโดยใช้ระยะเวลาแค่ยี่สิบเดือน
ทางลงช่วงแรกจะเป็นบันไดเดินสะดวกหน่อย ค่อยๆไปไม่ต้องรีบร้อน
some.mile // เยี่ยมเยียนเชลยศึกแห่งประวัติศาสตร์ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ กับพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราขับรถออกมาจากอ.ท่าม่วงกันสักชั่วโมงนึงได้ ใจจริงๆแล้วอยากไปเที่ยวกันอีกหลายที่แต่เวลามีจำกัด
เลยตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังช่องเขาขาดและน้ำตกไทรโยค ตอนแรกที่เลือกมาช่องเขาขาดเพราะว่าเคยเห็นแต่รูปภาพผ่านๆแว๊บๆ
ก็ไม่รู้ว่าคือที่เที่ยวแบบไหนยังไง แต่กว่าจะหาที่นี้เจอก็เล่นขับรถวนกันไปหลายรอบ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้ยากเลย
ดูใน google map จะถึงน้ำตกไทรโยคก่อน แล้วตามด้วยช่องเขาขาด พอขับผ่านป้ายช่องเขาขาดไปสักพัก
อ้าวว ทำไมมันอีกตั้งสี่สิบโลวะเนี่ยยย จะเชื่อป้ายหรือจะเชื่อแผนที่ดี กว่าจะหาทางกลับรถมาได้ก็เล่นเอาขับเลยไปสองสามโล
วนรถกลับมาที่ป้ายช่องเขาขาด นี่หรอทางเข้า ป้ายด้านหน้าจะเป็นทางเข้าของ กองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ตอนแรกก็งง มาจอดรถอยู่ข้างหน้าสักพักก็ไล่เพื่อนขับออกไป เพราะคิดว่าไม่ใช่ทางเข้าแน่ๆ ฮ่าๆๆ
แต่สุดท้ายก็ต้องวนมาที่เดิม ถึงรู้ว่าก่อนเข้าเราต้องลงรถเพื่อแลกบัตรด้วย แล้วเจ้าหน้าที่ถึงจะเปิดประตูให้ขับรถเข้าไปด้านใน
ตรงป้ายนี้เป็นในส่วนของพิพิธภัณฑ์ ด้านในจะมีการเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับเชลยศึกถูกเกณฑ์ให้มาขุดภูเขาให้เป็นช่องทางที่ให้รถไฟสามารถวิ่งผ่านได้ ตอนแรกก็ยืนๆอ่านไป ก็ยังไม่อินเท่าไหร่ เดินเข้าไปอีกหน่อยมีภาพวีดีโอเปิดบรรยายด้วย นั่งดูไปสักพักถึงกับอึดอัด แบบว่าโหวว แต่ละอย่าง
พวกเชลยนี่เขาได้กินข้าวแค่สองมื้อเองนะ เป็นข้าวกับผักกาดดองเค็ม แล้วเอาเรี่ยวแรงจากไหนไปขุดหินวะเนี่ย แต่ละคนนี่ผอมแห้งมาก ตายกันไปก็อย่างเยอะกว่าสะพานเส้นทางรถไฟจะสร้างเสร็จ
หลังจากออกมาจากส่วนของพิพิธภัณฑ์แล้ว เราก็จะเดินลงไปต่อที่ด้านล่าง ไปดูของจริงกันว่ามันเป็นยังไง
ใครที่จะมาเดินก็เตรียมรองเท้าที่สสมใส่สะดวกนิดนึง เพราะทางเดินเป็นหินจะทำให้เดินยากหน่อย แล้วถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็อาจจะลำบากเข้าไปอีก
จริงๆเส้นทางการเดินมียาวมาก ตั้งแต่จุดเริ่มตรงที่เรายืนกันอยู่นี้ทอดยาวไปเรื่อยๆ ยาวมากกกก เขาสร้างกันไปได้ยังไงโดยใช้ระยะเวลาแค่ยี่สิบเดือน
ทางลงช่วงแรกจะเป็นบันไดเดินสะดวกหน่อย ค่อยๆไปไม่ต้องรีบร้อน