สวัสดีครับ นี้คือการรีวิวหนังเรื่องที่ 2 ของผมนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างถือว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ขออธิบายเป็นข้อๆเหมือนเดิม
1 เนื้อเรื่อง
สำหรับภาคนี้นะครับ ได้นำเรื่องราวต่างๆมาจากฉบับการ์ตูนปกติมาหลายๆตอน แล้วเอามาปะติบปะต่อกัน ตั้งแต่โดราเอมอนกับโนบิตะ ป๊ะกันใหม่ๆ รวมถึงของวิเศษณ์ที่เราเห็นหน้าค่าตาบ่อย ทำให้ดูปกติทำธรรมดา ไม่พิเศษอะไรมากมาย
2 ฉาก ซีจี
ผมว่า นี้เป็นจุดที่เด่นสุดของภาคนี้เลยหละ ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกทำให้มีมิติ ทำให้เป็นแอนนิเมท แล้วดูดีมาก ตลอดระยะเวลาที่นั่งดู ตั้งแต่เทรลเลอร์ มันสัมผัสได้ถึงความแปลกใหม่ของภาพตลอดทั้งเรื่องราว แน่นอนหละครับ เราดูโดราเอม่อนมาตั้งแต่ยังเด็ก ภาพติดตาเราคือการ์ตูนลายเส้นสีสวย น่ารักๆ ผมว่ามันคือจุดขายที่น่าดูชมมาก ฉากบางฉากผมโคตรปริ่มเลย โดยเฉพาะฉากริมแม่น้ำ มันสวยมาก การเก็บรายละเอียดทุ่งหญ้า ท้องฟ้า และทางรถไฟ ได้เวิร์คสวยมากครับ รวมถึงตัว บอดี้ของโนบิตะ ที่ผมชอบเหลือเกิน โดยเฉพาะเส้นผมทรงหน้าม้าเต่อของโนบิตะที่มีมิติสะบัดไปสะบัดมามันช่างน่าชังเหลือเกิน เพราะผมเผลอนึกบ่อยๆครั้งว่าโนบิตะ ตัดสกินเฮด แถมตาของโดราเอม่อน ตอนทำแบ้ว อีก ชอบมากเลยหละครับ ถือว่าการทำภาพของออกมาเป็นแบบนี้ถือว่าผ่านครับ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่เจาะใจนะ เพราะการมีมานานของการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้เราติดลายเส้นเก่าๆเหมือนกัน ใครที่ไม่รีบร้อนรอดูในระบบ 3D ก็ไม่ขัดครับ เพราะเอาจริลๆแล้ว นี้คือสิ่งที่เขาต้องการนำเสนอครับ
3 อารมณ์
ถึงซีจีจะเป็นจุดเด่นของภาคนี้ แต่เรื่องของอารมณ์เป็นสิ่งที่ผมตั้งตารอมากที่สุด เพราะว่า โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ หลายๆภาคตั้งมาตรฐานการทำซึ้งไว้ดีมากผมนี่น้ำตาไหลเลย แต่พอมาถึงภาคนี้ ก็......... มีบ้างครับที่ซึ้ง แต่ไม่ถึงกับน้ำตาไหล แค่พอรู้สึกอิ่มเท่านั้น ไม่ผิดหวังมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่กินใจมากเหมือนกัน แน่นอนละครับ เพราะ...
ข้อเสีย
ของภาคนี้ คือการดำเนินเรื่องอย่างเร่งรีบ แล้วใช้ความสัมพันธ์ของโดราเอม่อนและโนบิตะที่มีอายุมากกว่าวัยรุ่นสมัยนี้มาย่อให้เหลือ ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งผมว่ายากมากที่จะสื่อออกมาให้คนดูเห็นและรู้สึกถึงฟีลนั้นนะครับ(โดยส่วนตัวนะ) มันไม่อินเลยจริง อาจเป็นเพราะบ่อน้ำตาผมลึก 3 เมตร รึเปล่า เพราะถ้าลึก 1 เมตร คือร้องแน่ๆ 2 เมตร อาจจะซึมๆเล็กน้อยนะครับ นั่งแอบปาดกันไป เพราะโตแล้ว อายคนข้างๆ 555
สิ่งที่ผมชอบจาก โดราเอม่อนภาคนี้ คือ
- ซีจีที่ผมให้คะแนนเต็ม 5 นะครับ
- เพลงประกอบที่เพราะเหลือเกิน เพลง Himawari no Yakusoku (คำสัญญาแห่งดอกทานตะวัน)
- ฉากที่ผมชอบมากที่สุด คือ ฉากที่โนบิตะไปนั่งแถวริมแม่น้ำที่มีทางรถไฟแล่นข้ามผ่าน
- ส่วนโมเม้นที่ผมชอบมากที่สุด คือ ตอนที่โนบิตะกลับมาจากบ้านหลังจากซัดน้ำยาแห่งคำโกหกไปซะหมดขวด ผมอินครับช่วงนี้ ถือว่าจบได้สวย อิอิ
จบละครับ ถ้าใครชอบการรีวิวของผม ติดตามผมได้ที่เพจนี้นะครับ มือใหม่ฝากตัวด้วย
https://www.facebook.com/moviesboo?ref=hl
ปิดท้ายด้วยเพลงเพราะๆครับ
[CR] รีวิว DORAEMON : STAND BY ME ( โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป )
1 เนื้อเรื่อง
สำหรับภาคนี้นะครับ ได้นำเรื่องราวต่างๆมาจากฉบับการ์ตูนปกติมาหลายๆตอน แล้วเอามาปะติบปะต่อกัน ตั้งแต่โดราเอมอนกับโนบิตะ ป๊ะกันใหม่ๆ รวมถึงของวิเศษณ์ที่เราเห็นหน้าค่าตาบ่อย ทำให้ดูปกติทำธรรมดา ไม่พิเศษอะไรมากมาย
2 ฉาก ซีจี
ผมว่า นี้เป็นจุดที่เด่นสุดของภาคนี้เลยหละ ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกทำให้มีมิติ ทำให้เป็นแอนนิเมท แล้วดูดีมาก ตลอดระยะเวลาที่นั่งดู ตั้งแต่เทรลเลอร์ มันสัมผัสได้ถึงความแปลกใหม่ของภาพตลอดทั้งเรื่องราว แน่นอนหละครับ เราดูโดราเอม่อนมาตั้งแต่ยังเด็ก ภาพติดตาเราคือการ์ตูนลายเส้นสีสวย น่ารักๆ ผมว่ามันคือจุดขายที่น่าดูชมมาก ฉากบางฉากผมโคตรปริ่มเลย โดยเฉพาะฉากริมแม่น้ำ มันสวยมาก การเก็บรายละเอียดทุ่งหญ้า ท้องฟ้า และทางรถไฟ ได้เวิร์คสวยมากครับ รวมถึงตัว บอดี้ของโนบิตะ ที่ผมชอบเหลือเกิน โดยเฉพาะเส้นผมทรงหน้าม้าเต่อของโนบิตะที่มีมิติสะบัดไปสะบัดมามันช่างน่าชังเหลือเกิน เพราะผมเผลอนึกบ่อยๆครั้งว่าโนบิตะ ตัดสกินเฮด แถมตาของโดราเอม่อน ตอนทำแบ้ว อีก ชอบมากเลยหละครับ ถือว่าการทำภาพของออกมาเป็นแบบนี้ถือว่าผ่านครับ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่เจาะใจนะ เพราะการมีมานานของการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้เราติดลายเส้นเก่าๆเหมือนกัน ใครที่ไม่รีบร้อนรอดูในระบบ 3D ก็ไม่ขัดครับ เพราะเอาจริลๆแล้ว นี้คือสิ่งที่เขาต้องการนำเสนอครับ
3 อารมณ์
ถึงซีจีจะเป็นจุดเด่นของภาคนี้ แต่เรื่องของอารมณ์เป็นสิ่งที่ผมตั้งตารอมากที่สุด เพราะว่า โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ หลายๆภาคตั้งมาตรฐานการทำซึ้งไว้ดีมากผมนี่น้ำตาไหลเลย แต่พอมาถึงภาคนี้ ก็......... มีบ้างครับที่ซึ้ง แต่ไม่ถึงกับน้ำตาไหล แค่พอรู้สึกอิ่มเท่านั้น ไม่ผิดหวังมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่กินใจมากเหมือนกัน แน่นอนละครับ เพราะ...
ข้อเสีย
ของภาคนี้ คือการดำเนินเรื่องอย่างเร่งรีบ แล้วใช้ความสัมพันธ์ของโดราเอม่อนและโนบิตะที่มีอายุมากกว่าวัยรุ่นสมัยนี้มาย่อให้เหลือ ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งผมว่ายากมากที่จะสื่อออกมาให้คนดูเห็นและรู้สึกถึงฟีลนั้นนะครับ(โดยส่วนตัวนะ) มันไม่อินเลยจริง อาจเป็นเพราะบ่อน้ำตาผมลึก 3 เมตร รึเปล่า เพราะถ้าลึก 1 เมตร คือร้องแน่ๆ 2 เมตร อาจจะซึมๆเล็กน้อยนะครับ นั่งแอบปาดกันไป เพราะโตแล้ว อายคนข้างๆ 555
สิ่งที่ผมชอบจาก โดราเอม่อนภาคนี้ คือ
- ซีจีที่ผมให้คะแนนเต็ม 5 นะครับ
- เพลงประกอบที่เพราะเหลือเกิน เพลง Himawari no Yakusoku (คำสัญญาแห่งดอกทานตะวัน)
- ฉากที่ผมชอบมากที่สุด คือ ฉากที่โนบิตะไปนั่งแถวริมแม่น้ำที่มีทางรถไฟแล่นข้ามผ่าน
- ส่วนโมเม้นที่ผมชอบมากที่สุด คือ ตอนที่โนบิตะกลับมาจากบ้านหลังจากซัดน้ำยาแห่งคำโกหกไปซะหมดขวด ผมอินครับช่วงนี้ ถือว่าจบได้สวย อิอิ
จบละครับ ถ้าใครชอบการรีวิวของผม ติดตามผมได้ที่เพจนี้นะครับ มือใหม่ฝากตัวด้วย
https://www.facebook.com/moviesboo?ref=hl
ปิดท้ายด้วยเพลงเพราะๆครับ