คุ้กกี้ถือว่าเป็นของขวัญยอดนิยมที่เกือบจะ 90% เรียกว่าเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถรับประทานได้เลย รวมถึงรูปร่างของคุ้กกี้และแพคเกจกล่องที่ห่อหุ้มที่ทำออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้าซะเหลือเกิน ปัจจุบันมักอยู่กล่องที่ถูกออกแบบมาแบบไม่ต้องห่อ ดูสวยหรู เหมาะสำหรับการมอบให้คนพิเศษ เพื่อเป็น ของขวัญ ต้อนรับเทศกาลอีกด้วย
และเมื่อพูดถึงคุกกี้เพื่อเป็นของขวัญแล้ว คุ๊กกี้ยี่ห้อที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแล้วนั่นก็คือ อิมพีเรียล เพราะด้วยแพคเกจอันเป็นเอกลักษณ์ที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคือยี่ห้ออะไร และรสชาติที่กลางๆสามารถทานได้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ แต่ใครรู้มั่งว่าจริงแล้วที่มาของการให้คุกกี้ในเทศกาลต่างๆนั้นมาจากไหน และที่มาของอิมพีเรียลคืออะไร
การให้คุกกี้ในเทศกาล เกิดขึ้นครั้งแรกที่เดนมาร์ค ตั้งแต่ปี 1933 ที่หมู่บ้าน Norre Snede ด้วยสองสามีภรรยาคู่หนึ่งชื่อ Anna และ Marinus Kjeldsen ได้เริ่มทำร้านขายเบเกอรี่ขึ้น โดยทั้งสองคนตั้งชื่อร้านตามนามสกุลตัวเอง นั่นคือ Kjeldsens
เมื่อร้าน Kjeldsens เริ่มดังและมีชื่อเสียงมากขึ้นจากความอร่อยของคุกกี้เนย แอนนาก็เริ่มเดินทางไปขายคุกกี้ในต่างเมืองมากขึ้นจนเป็นที่รู้จักและโด่งดังจนกลายเป็นกิจการอาหารที่ใหญ่มากๆในเดนมาร์ค (ตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Kelsen Group)
และเนื่องจากสมัยก่อนคุกกี้ของ Kelsen เป็นรายเดียวที่ได้ทำคุกกี้เพื่อให้ใช้ในราชวงศ์ พอทำแบบเดียวกันหมดทุกชิ้นก็ดูแปลกๆ เลยเริ่มทำคุกกี้ออกมาหลายแบบ แล้วใส่ห่อเล็กๆ เพื่อใช้ในงานเลี้ยงต่างๆ ได้
เวลาผ่านไป เมื่อคุกกี้ของ Kelsen นำออกมาขายให้คนข้างนอกได้ซื้อ ก็เลยยังใช้ชื่อ Royal Dansk เพื่อสื่อถึงการเคยทำคุกกี้เข้าวัง ซึ่งคุกกี้ของ Royal Dansk มีเอกลักษณ์คือเป็นคุกกี้ที่ทำจากเนยธรรมชาติ ในกล่องจะมีคุกกี้หลายแบบ และรวมเป็นห่อกระดาษเล็กๆ และเอกลักษณ์อีกอย่างคือกล่องเหล็ก เหตุผลที่ใช้กล่องเหล็กคือเพื่อคงความสดของคุกกี้ ลดแรงกระแทกจากภายนอก และผู้รับสามารถนำไปใช้ต่อได้ ไม่ต้องทิ้งเหมือนกล่องกระดาษ
กล่องของ Royal Dansk จะเป็นกล่องเหล็กสีฟ้า ฝรั่งเรียกกันว่า "The Blue Tin"หน้ากล่องไม่ได้มีรูปทหารแต่อย่างใด (ทหารในวังของราชวงศ์เดนมาร์ค ใส่ชุดสีแดง หมวกสูง แบบทหารอังกฤษ)
จนสุดท้ายคุกกี้ก็เป็นของฝากยอดฮิตของฝรั่ง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ การไปเยี่ยมเพื่อนฝูงจะนิยมซื้อคุกกี้ไปฝาก ซึ่งคุกกี้ Royal Dansk ก็เป็นหนึ่งในของฝากยอดฮิต และคุกกี้ Royal Dansk จดสิทธิบัตรการทำคุกกี้ของตัวเองไว้ด้วย ปัจจุบันเป็นคุกกี้เดนมาร์คที่ขายดีที่สุดในอเมริกา และส่งออกไปขายใน 130 ประเทศ
มาถึงเมืองไทย คาดเดาว่าอิมพีเรียลน่าจะลอกคุกกี้ Royal Dansk มา เพราะถ้าซื้อลิขสิทธิ์น่าจะยังใช้ชื่อเดิม เพราะแบรนด์เขาอินเตอร์มาก และด้วยเอกลักษณ์ของแพคเกจที่เป็นกล่องเหล็กและคุกกี้หลายแบบในห่อเล็กๆ ส่วนรูปทหารที่อยู่ในหน้ากล่อง ไม่ใช่ทหารอังกฤษ แต่เป็นทหารในวังเดนมาร์ค เพราะต้องการสื่อถึงแบรนด์ Royal Dansk
การให้คุกกี้เป็นของขวัญในไทยนั้น ในสมัยก่อนเขานิยมให้คุกกี้เป็นของขวัญเวลาไปเยี่ยมเพื่อนฝูง เพราะน่าจะซึมซับวัฒนธรรมมาจากฝรั่ง และการโฆษณาของคุกกี้ (เหมือนโฆษณาแบรนด์สมัยนี้)
คุกกี้อิมพีเรียล ผลิตโดย KCG Group ซึ่งเป็นดำเนินธุรกิจทางด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศ เช่น เนย ชีส และอาหารกระป๋อง ตั้งแต่ปี 2501คิดดูเอาว่านานขนาดไหนที่อิมพีเรียลอยู่คู่กับคนไทย
ถึงแม้บางครั้งเราอาจจะอยากได้ของขวัญประเภทอื่นที่ไม่ใช่คุกกี้ (ไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตาม) แต่พอรู้ถึงที่มาของการให้ และรายละเอียดย่อยๆแล้ว ก็ถือว่าเก๋ไม่หยอกทีเดียว แถมรสชาติของขนมก็อร่อยทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ถือเป็นของขวัญที่ดีเลยทีเดียว
ที่มา :
http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1164711
เทศกาลปีใหม่ .... เทศกาลคุ๊กกี้
และเมื่อพูดถึงคุกกี้เพื่อเป็นของขวัญแล้ว คุ๊กกี้ยี่ห้อที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแล้วนั่นก็คือ อิมพีเรียล เพราะด้วยแพคเกจอันเป็นเอกลักษณ์ที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคือยี่ห้ออะไร และรสชาติที่กลางๆสามารถทานได้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ แต่ใครรู้มั่งว่าจริงแล้วที่มาของการให้คุกกี้ในเทศกาลต่างๆนั้นมาจากไหน และที่มาของอิมพีเรียลคืออะไร
การให้คุกกี้ในเทศกาล เกิดขึ้นครั้งแรกที่เดนมาร์ค ตั้งแต่ปี 1933 ที่หมู่บ้าน Norre Snede ด้วยสองสามีภรรยาคู่หนึ่งชื่อ Anna และ Marinus Kjeldsen ได้เริ่มทำร้านขายเบเกอรี่ขึ้น โดยทั้งสองคนตั้งชื่อร้านตามนามสกุลตัวเอง นั่นคือ Kjeldsens
เมื่อร้าน Kjeldsens เริ่มดังและมีชื่อเสียงมากขึ้นจากความอร่อยของคุกกี้เนย แอนนาก็เริ่มเดินทางไปขายคุกกี้ในต่างเมืองมากขึ้นจนเป็นที่รู้จักและโด่งดังจนกลายเป็นกิจการอาหารที่ใหญ่มากๆในเดนมาร์ค (ตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Kelsen Group)
และเนื่องจากสมัยก่อนคุกกี้ของ Kelsen เป็นรายเดียวที่ได้ทำคุกกี้เพื่อให้ใช้ในราชวงศ์ พอทำแบบเดียวกันหมดทุกชิ้นก็ดูแปลกๆ เลยเริ่มทำคุกกี้ออกมาหลายแบบ แล้วใส่ห่อเล็กๆ เพื่อใช้ในงานเลี้ยงต่างๆ ได้
เวลาผ่านไป เมื่อคุกกี้ของ Kelsen นำออกมาขายให้คนข้างนอกได้ซื้อ ก็เลยยังใช้ชื่อ Royal Dansk เพื่อสื่อถึงการเคยทำคุกกี้เข้าวัง ซึ่งคุกกี้ของ Royal Dansk มีเอกลักษณ์คือเป็นคุกกี้ที่ทำจากเนยธรรมชาติ ในกล่องจะมีคุกกี้หลายแบบ และรวมเป็นห่อกระดาษเล็กๆ และเอกลักษณ์อีกอย่างคือกล่องเหล็ก เหตุผลที่ใช้กล่องเหล็กคือเพื่อคงความสดของคุกกี้ ลดแรงกระแทกจากภายนอก และผู้รับสามารถนำไปใช้ต่อได้ ไม่ต้องทิ้งเหมือนกล่องกระดาษ
กล่องของ Royal Dansk จะเป็นกล่องเหล็กสีฟ้า ฝรั่งเรียกกันว่า "The Blue Tin"หน้ากล่องไม่ได้มีรูปทหารแต่อย่างใด (ทหารในวังของราชวงศ์เดนมาร์ค ใส่ชุดสีแดง หมวกสูง แบบทหารอังกฤษ)
จนสุดท้ายคุกกี้ก็เป็นของฝากยอดฮิตของฝรั่ง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ การไปเยี่ยมเพื่อนฝูงจะนิยมซื้อคุกกี้ไปฝาก ซึ่งคุกกี้ Royal Dansk ก็เป็นหนึ่งในของฝากยอดฮิต และคุกกี้ Royal Dansk จดสิทธิบัตรการทำคุกกี้ของตัวเองไว้ด้วย ปัจจุบันเป็นคุกกี้เดนมาร์คที่ขายดีที่สุดในอเมริกา และส่งออกไปขายใน 130 ประเทศ
มาถึงเมืองไทย คาดเดาว่าอิมพีเรียลน่าจะลอกคุกกี้ Royal Dansk มา เพราะถ้าซื้อลิขสิทธิ์น่าจะยังใช้ชื่อเดิม เพราะแบรนด์เขาอินเตอร์มาก และด้วยเอกลักษณ์ของแพคเกจที่เป็นกล่องเหล็กและคุกกี้หลายแบบในห่อเล็กๆ ส่วนรูปทหารที่อยู่ในหน้ากล่อง ไม่ใช่ทหารอังกฤษ แต่เป็นทหารในวังเดนมาร์ค เพราะต้องการสื่อถึงแบรนด์ Royal Dansk
การให้คุกกี้เป็นของขวัญในไทยนั้น ในสมัยก่อนเขานิยมให้คุกกี้เป็นของขวัญเวลาไปเยี่ยมเพื่อนฝูง เพราะน่าจะซึมซับวัฒนธรรมมาจากฝรั่ง และการโฆษณาของคุกกี้ (เหมือนโฆษณาแบรนด์สมัยนี้)
คุกกี้อิมพีเรียล ผลิตโดย KCG Group ซึ่งเป็นดำเนินธุรกิจทางด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศ เช่น เนย ชีส และอาหารกระป๋อง ตั้งแต่ปี 2501คิดดูเอาว่านานขนาดไหนที่อิมพีเรียลอยู่คู่กับคนไทย
ถึงแม้บางครั้งเราอาจจะอยากได้ของขวัญประเภทอื่นที่ไม่ใช่คุกกี้ (ไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตาม) แต่พอรู้ถึงที่มาของการให้ และรายละเอียดย่อยๆแล้ว ก็ถือว่าเก๋ไม่หยอกทีเดียว แถมรสชาติของขนมก็อร่อยทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ถือเป็นของขวัญที่ดีเลยทีเดียว
ที่มา : http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1164711