ความตั้งใจเดิม
ซิโก้ ใช้ระบบทีม 4-2-3-1 ในครี่งแรก โดยให้ชนาธิป กับ เกริกฤทธิ์ ถอยลงมาช่วยแดนกลาง มีกีรติ เป็นหน้าเป้า ใช้ศูนย์หน้าร่างใหญ่ เก็บบอล ครี่งหลังหรือเมื่อต้องการเร่งเกม ใช้ระบบทีม 4-3-3 เปลี่ยนศูนย์หน้าที่มีความเร็ว ความสด ความเด็ดขาดลงไปแทน ดัน ชนาธิป เกริกฤทธิ์ ขี้นเป็นปีก กลางถ่างออก ยืนแค่ 3 ตัว ไม่ครองบอลนาน เล่นเร็ว ออกปีก โจมตีด้านข้าง ตบเข้าใน สลับกับการโจมตีเป็นกลุ่ม จากแดนกลาง
ผลลัพธ์
4-2-3-1 ถ้าไม่ 0-0 ก็เสียประตู แบบที่ว่าคนดู งง ว่าศูนย์หน้า ทำบ้าอะไรอยู่ ทำไมเล่นไม่ออก เล่นไม่ดี ครองบอลไม่ได้ กองหลังคู่ต่อสู้ ค่อนข้าง สบาย ชิว ๆ ไม่ได้หวาดเสียวเท่าไหร่
พอเปลี่ยน เป็น 4-3-3 เกม กลับเร็วขี้น บุกแหลก เพรสสูง ได้บอลแดนกลาง รีบสาดออกปีก โจมตี ตบเข้าใน ชิงกันไปมาหน้ากรอบ กลับได้ผลแหะ ได้ประตูบ่อย แถมไม่ค่อยโดนสวนให้หวาดเสียว
เกมกับมาเลย์ นัดแรก ครี่งแรก เห็นได้ชัด แม้มาเลย์จำทำประตูไม่ได้ แต่ตกเป็นรองจากการถูกเพรสซิ่ง แม้อดิศักดิ์ ลงเป็นศูนย์หน้า ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นเดียวกับกีรติ จนต้องเลยมาปลายครี่งหลัง ปรับเป็น 4-3-3 จึงได้สองประตู
จีงสรุปได้ว่า
4-2-3-1 ไม่เหมาะ กับทีมชาติไทย อย่างแน่นอน แม้จะดึงมุ้ย มาเล่นเป็นหน้าเป้า ผมว่า ผลลัพธ์ ก็คงเป็นแบบเดิม บอลไปไม่ถึง บอลไม่ได้ตกลงในจุดที่เป็น ชี้ตาย เพราะ กองกลางปัจจุบัน สารัช - ชารีล - ประกิต ไม่ใช่กองกลางประเภท ชั่งเงิน ชั่งทอง มาแต่กำเนิด ไม่ใช่กองกลางประเภท ครองบอลได้นาน จับบอลนานกับตัวแล้วคันคะเยอ แต่เป็นกองกลาง ประเภท ฮาร์ดแมน ทำงานหนัก ฟิตแย่งเร็ว ขยัน เล่นเร็ว ออกบอลเร็ว ( แม่นมั่ง ไม่แม่นมั่ง ) รีบจัด รีบส่ง สไตล์ EMS
จะโทษกองกลางอย่างเดียวก็ไม่ใช่ หน้าเป้าเอง ในไทยลึค ก็หาทำยายาก ดีสุด นั่นก็ กีรติ นะแหละครับ แต่ให้ทำงานโดดเดี่ยว ท่ามกลางกองหลัง แถมบอลที่ส่งมาให้ ส่งมาเรียด ๆ ... ( จะบ้าเหรอ กีรติ ตัวอย่างยักษ์ ส่งมาเรียด ๆ พวก มนุษย์ ข้างล่างก็เก็บไปกินหมดสิ ส่งแบบเนี่ยเหมาะจะส่งให้สเมิฟ โน้น ) จะส่งให้หน้าเป้า มันต้องลอยมา ไม่อก ก็หัว โยนยาวมาโลด จะได้ไปต่อได้ แถมส่ง แบบคิดว่า กีรติ เร็วหนักหนา
ผมจึงสรุปว่า หาทางทำกินแบบอื่นดีกว่า แบบนี้ เจอญี่ปุ่น เกาหลี คงเละ ตั้งแต่ครี่งแรก
นอกเสียจากว่า จะหากลางอัฉริยะ มาจุติได้สักคน พอลุ้น
ส่วน 4-3-3 พอไปไหว ในระดับอาเซี่ยน+ทีมแขก นี่แหละ คือเราแย่งบอลเก่ง สุด ในอาเซี่ยนแน่นอน แต่ถ้าเจอพี่หลี พี่ยุ่น คงต้องพิจารณาใหม่ เรื่องการแย่งบอลมาเล่นเร็ว พวกนี้ ถึก ไถ แย่งบอลเก่ง
ดังนั้นจะไปบอลโลก น่าพิจารณา 4-6-0 ไปเลย ใหน ๆ ก็หาหน้าเป้าไม่ได้ ใช้ สเมิฟ น้อย คอยแล๊บ ออกไปเล่น ใส่แดนกลาง สักตัว นิสัยชั่งทอง ไปช่วยงานสักตำแหน่ง ก็น่าพิจารณา จะได้ ปรับพฤติกรรมการส่งด่วน เป็นส่งแบบกลมกล่อม ละเมียด ละไม รับประกันผล ก็น่าจะดีขี้นได้ แดนกลางที่เพิ่มอย่างน้อยก็เอาไว้เล่นลิงกับกลางพี่หลี พี่ยุ่น สักครึ่ง เป็นการทอนกำลังกันก่อน อาศัยคนมาก ลิงหมู่ ก็น่าจะไม่เสียเปรียบนัก
ครี่งหลัง ได้เสีย ค่อยเปลี่ยนเอา หน้าลงเอากลางออก ดันกลางไปเล่นปีก ใส่ 4-3-3 เต็มระบบ แบบนี้พอสู้กันได้ ใหน ๆ นักเตะเรา เร็ว ๆ จี๊ด เยอะ ปรับระบบเป็น ส่งด่วน ทีนี้ก็ไม่น่าเสียหายอะไร
น่าพิจารณา นะคร๊าบ 4-6-0 เนี่ย สเปน ใช้ตอนเป็นแชมป์โลกเชียวนา
วิพากษ์ การทำทีมของซิโก้ .... suzuki cup 2014
ซิโก้ ใช้ระบบทีม 4-2-3-1 ในครี่งแรก โดยให้ชนาธิป กับ เกริกฤทธิ์ ถอยลงมาช่วยแดนกลาง มีกีรติ เป็นหน้าเป้า ใช้ศูนย์หน้าร่างใหญ่ เก็บบอล ครี่งหลังหรือเมื่อต้องการเร่งเกม ใช้ระบบทีม 4-3-3 เปลี่ยนศูนย์หน้าที่มีความเร็ว ความสด ความเด็ดขาดลงไปแทน ดัน ชนาธิป เกริกฤทธิ์ ขี้นเป็นปีก กลางถ่างออก ยืนแค่ 3 ตัว ไม่ครองบอลนาน เล่นเร็ว ออกปีก โจมตีด้านข้าง ตบเข้าใน สลับกับการโจมตีเป็นกลุ่ม จากแดนกลาง
ผลลัพธ์
4-2-3-1 ถ้าไม่ 0-0 ก็เสียประตู แบบที่ว่าคนดู งง ว่าศูนย์หน้า ทำบ้าอะไรอยู่ ทำไมเล่นไม่ออก เล่นไม่ดี ครองบอลไม่ได้ กองหลังคู่ต่อสู้ ค่อนข้าง สบาย ชิว ๆ ไม่ได้หวาดเสียวเท่าไหร่
พอเปลี่ยน เป็น 4-3-3 เกม กลับเร็วขี้น บุกแหลก เพรสสูง ได้บอลแดนกลาง รีบสาดออกปีก โจมตี ตบเข้าใน ชิงกันไปมาหน้ากรอบ กลับได้ผลแหะ ได้ประตูบ่อย แถมไม่ค่อยโดนสวนให้หวาดเสียว
เกมกับมาเลย์ นัดแรก ครี่งแรก เห็นได้ชัด แม้มาเลย์จำทำประตูไม่ได้ แต่ตกเป็นรองจากการถูกเพรสซิ่ง แม้อดิศักดิ์ ลงเป็นศูนย์หน้า ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นเดียวกับกีรติ จนต้องเลยมาปลายครี่งหลัง ปรับเป็น 4-3-3 จึงได้สองประตู
จีงสรุปได้ว่า
4-2-3-1 ไม่เหมาะ กับทีมชาติไทย อย่างแน่นอน แม้จะดึงมุ้ย มาเล่นเป็นหน้าเป้า ผมว่า ผลลัพธ์ ก็คงเป็นแบบเดิม บอลไปไม่ถึง บอลไม่ได้ตกลงในจุดที่เป็น ชี้ตาย เพราะ กองกลางปัจจุบัน สารัช - ชารีล - ประกิต ไม่ใช่กองกลางประเภท ชั่งเงิน ชั่งทอง มาแต่กำเนิด ไม่ใช่กองกลางประเภท ครองบอลได้นาน จับบอลนานกับตัวแล้วคันคะเยอ แต่เป็นกองกลาง ประเภท ฮาร์ดแมน ทำงานหนัก ฟิตแย่งเร็ว ขยัน เล่นเร็ว ออกบอลเร็ว ( แม่นมั่ง ไม่แม่นมั่ง ) รีบจัด รีบส่ง สไตล์ EMS
จะโทษกองกลางอย่างเดียวก็ไม่ใช่ หน้าเป้าเอง ในไทยลึค ก็หาทำยายาก ดีสุด นั่นก็ กีรติ นะแหละครับ แต่ให้ทำงานโดดเดี่ยว ท่ามกลางกองหลัง แถมบอลที่ส่งมาให้ ส่งมาเรียด ๆ ... ( จะบ้าเหรอ กีรติ ตัวอย่างยักษ์ ส่งมาเรียด ๆ พวก มนุษย์ ข้างล่างก็เก็บไปกินหมดสิ ส่งแบบเนี่ยเหมาะจะส่งให้สเมิฟ โน้น ) จะส่งให้หน้าเป้า มันต้องลอยมา ไม่อก ก็หัว โยนยาวมาโลด จะได้ไปต่อได้ แถมส่ง แบบคิดว่า กีรติ เร็วหนักหนา
ผมจึงสรุปว่า หาทางทำกินแบบอื่นดีกว่า แบบนี้ เจอญี่ปุ่น เกาหลี คงเละ ตั้งแต่ครี่งแรก
นอกเสียจากว่า จะหากลางอัฉริยะ มาจุติได้สักคน พอลุ้น
ส่วน 4-3-3 พอไปไหว ในระดับอาเซี่ยน+ทีมแขก นี่แหละ คือเราแย่งบอลเก่ง สุด ในอาเซี่ยนแน่นอน แต่ถ้าเจอพี่หลี พี่ยุ่น คงต้องพิจารณาใหม่ เรื่องการแย่งบอลมาเล่นเร็ว พวกนี้ ถึก ไถ แย่งบอลเก่ง
ดังนั้นจะไปบอลโลก น่าพิจารณา 4-6-0 ไปเลย ใหน ๆ ก็หาหน้าเป้าไม่ได้ ใช้ สเมิฟ น้อย คอยแล๊บ ออกไปเล่น ใส่แดนกลาง สักตัว นิสัยชั่งทอง ไปช่วยงานสักตำแหน่ง ก็น่าพิจารณา จะได้ ปรับพฤติกรรมการส่งด่วน เป็นส่งแบบกลมกล่อม ละเมียด ละไม รับประกันผล ก็น่าจะดีขี้นได้ แดนกลางที่เพิ่มอย่างน้อยก็เอาไว้เล่นลิงกับกลางพี่หลี พี่ยุ่น สักครึ่ง เป็นการทอนกำลังกันก่อน อาศัยคนมาก ลิงหมู่ ก็น่าจะไม่เสียเปรียบนัก
ครี่งหลัง ได้เสีย ค่อยเปลี่ยนเอา หน้าลงเอากลางออก ดันกลางไปเล่นปีก ใส่ 4-3-3 เต็มระบบ แบบนี้พอสู้กันได้ ใหน ๆ นักเตะเรา เร็ว ๆ จี๊ด เยอะ ปรับระบบเป็น ส่งด่วน ทีนี้ก็ไม่น่าเสียหายอะไร
น่าพิจารณา นะคร๊าบ 4-6-0 เนี่ย สเปน ใช้ตอนเป็นแชมป์โลกเชียวนา