ขอเล่าของข้าพเจ้านิดนึงก่อนนะ เมื่อก่อนเด็กๆจะถูกสอนว่าเวลาทำบุญ "ไม่ต้องขออะไรหรอก เพราะ แค่ทำก็ได้บุญแล้ว"
การกระทำนั้นสำเร็จในตัวแล้ว ถ้าขอก็เหมือนว่าเราต้องการที่จะรับมากกว่าการให้ หลังจากนั้นเวลาทำบุญก็เลยไม่ได้ขอพรอะไร
จนตอนม.1 อาจารย์ก็สอนว่า คนเราเกิดมามีทั้งกรรมดีและชั่ว เวลาเราทำบุญก็ขออุทิศบุญกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวลา
ตั้งแต่นั้นผมเวลาทำบุญก็ขอว่า “ขออุทิศบุญกุศลที่ได้ทำ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าชาติไหนภพใด ทั้งที่ร่วมเกินทางกาย วาจา หรือใจ ทั้งที่ตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี และอุทิศให้ดวงจิตและดวงวิญญาญที่ยังเวียนวายในสังสาวัท ไม่ว่าในภพใดภูมิใด ขอให้ยกโทษและอโหสิกรรมให้ด้วย”
จนเมื่อไม่นานนี้ผมไปเป็นเพื่อนน้าไปดูดวง ผมก็ไหว้พระทำบุญแล้วก็ท่องเหมือนอย่างเคย
ตอนนั้นหมอดูทักเราทั้งที่ยังไม่ได้พูดไรมา เขาก็ทักเป็นคนๆ เรียงจนมาถึงผม
เขาก็ถามว่า “ทำไมเวลาทำบุญไม่ขออะไรบ้างล่ะ”
ผม : (แบบอึ้งรู้ได้ไงว่าเราไมได้ขออะไร จะว่าผมท่องสั้นก็คงไม่ใช่ ผมแอบนั่งนานทั้งที่นั่งท่องแค่นั้น) “ผมก็ขอให้เจ้ากรรมนายเวรแล้วนะครับ แค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว อีกอย่างผมก็ไม่รู้จะขออะไร”
“ถ้าไม่ขอแล้วเขาจะรู้ไหมว่าต้องการอะไร เขาจะให้เราถูกไหม ไม่อยากมีงานการดีๆ หรือมีเงิน มีโชคมีลาภบ้างรึไง”(เขาในที่นี้หมายถึงสิ่ง ศักสิทธิ์)
.....ผมนิ่งคิดซัก 5 วิได้ เลยนึกออกอยากขอเรื่องงาน ผมอยากทำงานราชการ “เอิ่มม ก็มีบ้างครับ”
“งั้นไปจุดธุปขอใหม่ ขอเยอะๆ เขาจะได้ให้เราให้ถูก ไม่ขอแล้วเขาจะรู้ไหม”
หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมก็เลยขอตามเนียม ในเรื่องลวดลายมังกร ว่า....
"ขออย่าลำบากยากจนยามเจ็บ/แก่
เมื่อถึงอายุขัยให้ตายอย่างสงบ
ขอให้ญาติพี่น้องมีแต่ความสุขความเจริญ"
และก็ขออุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นหลักๆที่ผมขอ (นอกนั้นตามวาระ)
แล้วคุณเชื่อตามแนวคิดไหน? แล้วถ้าขอขอกันว่าอะไรบ้างบอกหน่อยได้ไหม?
เชื่อตามแนวคิดไหนในการ "ขอพร" และ ขอกันว่าอะไรบ้าง?
การกระทำนั้นสำเร็จในตัวแล้ว ถ้าขอก็เหมือนว่าเราต้องการที่จะรับมากกว่าการให้ หลังจากนั้นเวลาทำบุญก็เลยไม่ได้ขอพรอะไร
จนตอนม.1 อาจารย์ก็สอนว่า คนเราเกิดมามีทั้งกรรมดีและชั่ว เวลาเราทำบุญก็ขออุทิศบุญกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวลา
ตั้งแต่นั้นผมเวลาทำบุญก็ขอว่า “ขออุทิศบุญกุศลที่ได้ทำ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าชาติไหนภพใด ทั้งที่ร่วมเกินทางกาย วาจา หรือใจ ทั้งที่ตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี และอุทิศให้ดวงจิตและดวงวิญญาญที่ยังเวียนวายในสังสาวัท ไม่ว่าในภพใดภูมิใด ขอให้ยกโทษและอโหสิกรรมให้ด้วย”
จนเมื่อไม่นานนี้ผมไปเป็นเพื่อนน้าไปดูดวง ผมก็ไหว้พระทำบุญแล้วก็ท่องเหมือนอย่างเคย
ตอนนั้นหมอดูทักเราทั้งที่ยังไม่ได้พูดไรมา เขาก็ทักเป็นคนๆ เรียงจนมาถึงผม
เขาก็ถามว่า “ทำไมเวลาทำบุญไม่ขออะไรบ้างล่ะ”
ผม : (แบบอึ้งรู้ได้ไงว่าเราไมได้ขออะไร จะว่าผมท่องสั้นก็คงไม่ใช่ ผมแอบนั่งนานทั้งที่นั่งท่องแค่นั้น) “ผมก็ขอให้เจ้ากรรมนายเวรแล้วนะครับ แค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว อีกอย่างผมก็ไม่รู้จะขออะไร”
“ถ้าไม่ขอแล้วเขาจะรู้ไหมว่าต้องการอะไร เขาจะให้เราถูกไหม ไม่อยากมีงานการดีๆ หรือมีเงิน มีโชคมีลาภบ้างรึไง”(เขาในที่นี้หมายถึงสิ่ง ศักสิทธิ์)
.....ผมนิ่งคิดซัก 5 วิได้ เลยนึกออกอยากขอเรื่องงาน ผมอยากทำงานราชการ “เอิ่มม ก็มีบ้างครับ”
“งั้นไปจุดธุปขอใหม่ ขอเยอะๆ เขาจะได้ให้เราให้ถูก ไม่ขอแล้วเขาจะรู้ไหม”
หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมก็เลยขอตามเนียม ในเรื่องลวดลายมังกร ว่า....
"ขออย่าลำบากยากจนยามเจ็บ/แก่
เมื่อถึงอายุขัยให้ตายอย่างสงบ
ขอให้ญาติพี่น้องมีแต่ความสุขความเจริญ"
และก็ขออุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นหลักๆที่ผมขอ (นอกนั้นตามวาระ)
แล้วคุณเชื่อตามแนวคิดไหน? แล้วถ้าขอขอกันว่าอะไรบ้างบอกหน่อยได้ไหม?