ที่ผ่านมา ใครที่ใช้ iPhone คงไม่เคยพบปัญหา iPhone ชาร์จแบตช้ากว่าจะเต็ม แบบโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ เพราะ Battery ที่มีใน iPhone มันช่างน้อยนิด ชาร์จแป้บเดียวก็เต็มแล้ว
แต่เวลานี้ iPhone 6 และ iPhone 6 + ได้ทลายสิ่งเหล่านั้นไปหมดแล้ว เพราะทั้งคู่มาพร้อม Battery ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก
ข้อมูล Battery เบื้องต้นเทียบระหว่าง iPhone 5 & iPhone 6 & iPhone 6 +
iPhone 5s : Li-Po 1560 mAh (5.92 Wh)
iPhone 6 : Li-Po 1810 mAh (6.9 Wh)
iPhone 6 + : Li-Po 2915 mAh (11.1 Wh)
จากข้อมูลด้านบน จะเห็นได้ชัดว่า ถ้าชาร์จไฟแบบเดิมๆ เวลาที่ใช้ในการชาร์จระหว่าง iPhone 5s และ iPhone 6 + จะต่างกันเท่าตัวเลยทีเดียว เลยเป็นที่มาของบทความนี้ จากการอ่านไปเรื่อยตาม Forum ต่างๆ พบว่าเราสามารถใช้ที่ชาร์จ iPad มาชาร์จ iPhone ได้ ที่สำคัญเมื่อนำมาชาร์จ iPhone 6 , iPhone 6 + จะใช้เวลาน้อยกว่าเดิมเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
หลายคนสงสัยว่าจริงรึปล่าว เรามีผลทดสอบในต่างประเทศมาให้ดูกันว่าจริงไหม ผมลองเข้าไปอ่านที่
http://forums.macrumors.com/showthread.php?t=1785460 แล้วพบว่า iPhone 6 + สามารถรับกำลังไฟได้ถึง 12 watt ในการชาร์จเลยทีเดียว แต่ iPhone 5s ได้แค่ 5 watt นะครับดังนั้นการนำที่ชาร์จ iPad มาชาร์จ iPhone 5s จึงไม่ต่างกับที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง
จากรูป (มาจาก User : 2IS Forum macrumors) จะเห็นได้ชัดว่า เมื่อชาร์จด้วยที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง iPhone 6 + เที่ยบกับที่ชาร์จที่ซื้อแบบกำลังไฟ 12 watt ตัวเครื่อง iPhone 6 + จะรับกำลังไฟที่ต่างกัน ดังนั้นเวลาที่ใช้ในการชาร์จย่อมเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
มาดูรูปที่ 2 (มาจาก macrumors) กัน จะเห็นว่า เมื่อต่อ iPhone 5s และ iPhone 6 + เข้ากับเครื่อง Mac ระบบ OSX รายงานรายละเอียดเกี่ยวกับ กำลังไฟของ iPhone 5s และ iPhone 6 + ต่างกันมาก จะเห็นได้ว่า iPhone 5s รับกำลังไฟได้สูงสุดที่ 500 mA ขณะที่ iPhone 6 + รับกำลังไฟสูงสุดได้ถึง 1600 mA เลยทีเดียว
ส่วนใครที่กังวลว่าจะอันตราย ไม่ต้องกังวล เพราะว่า Apple เป็นคนแนะนำเอง ว่าสามารถใช้ได้ไม่มีปัญหาตามรูปด้านล่าง
Update : ข้อมูลจากผู้ใช้งาน คุณ Earthlyjeans จาก Pantip แจ้งว่า ถ้าใช้ iPhone 6 + ในการชาร์จไฟจะเป็นดังนี้
ใช้ที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง iPhone 6 + แบต 20% ใช้เวลาในการชาร์จ 3 ชั่วโมง 30 นาที ถึงจะ 100%
ใช้ที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง iPad แบต 20% ใช้เวลาในการชาร์จ 1 ชั่วโมง 45 นาที ถึงจะ 100%
หวังว่าพอจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ บ้างนะครับ
http://myrelaxday.blogspot.com/
มาชาร์จไฟ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus แบบเต็มกำลังกันเถอะ
แต่เวลานี้ iPhone 6 และ iPhone 6 + ได้ทลายสิ่งเหล่านั้นไปหมดแล้ว เพราะทั้งคู่มาพร้อม Battery ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก
ข้อมูล Battery เบื้องต้นเทียบระหว่าง iPhone 5 & iPhone 6 & iPhone 6 +
iPhone 5s : Li-Po 1560 mAh (5.92 Wh)
iPhone 6 : Li-Po 1810 mAh (6.9 Wh)
iPhone 6 + : Li-Po 2915 mAh (11.1 Wh)
จากข้อมูลด้านบน จะเห็นได้ชัดว่า ถ้าชาร์จไฟแบบเดิมๆ เวลาที่ใช้ในการชาร์จระหว่าง iPhone 5s และ iPhone 6 + จะต่างกันเท่าตัวเลยทีเดียว เลยเป็นที่มาของบทความนี้ จากการอ่านไปเรื่อยตาม Forum ต่างๆ พบว่าเราสามารถใช้ที่ชาร์จ iPad มาชาร์จ iPhone ได้ ที่สำคัญเมื่อนำมาชาร์จ iPhone 6 , iPhone 6 + จะใช้เวลาน้อยกว่าเดิมเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
หลายคนสงสัยว่าจริงรึปล่าว เรามีผลทดสอบในต่างประเทศมาให้ดูกันว่าจริงไหม ผมลองเข้าไปอ่านที่
http://forums.macrumors.com/showthread.php?t=1785460 แล้วพบว่า iPhone 6 + สามารถรับกำลังไฟได้ถึง 12 watt ในการชาร์จเลยทีเดียว แต่ iPhone 5s ได้แค่ 5 watt นะครับดังนั้นการนำที่ชาร์จ iPad มาชาร์จ iPhone 5s จึงไม่ต่างกับที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง
จากรูป (มาจาก User : 2IS Forum macrumors) จะเห็นได้ชัดว่า เมื่อชาร์จด้วยที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง iPhone 6 + เที่ยบกับที่ชาร์จที่ซื้อแบบกำลังไฟ 12 watt ตัวเครื่อง iPhone 6 + จะรับกำลังไฟที่ต่างกัน ดังนั้นเวลาที่ใช้ในการชาร์จย่อมเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
มาดูรูปที่ 2 (มาจาก macrumors) กัน จะเห็นว่า เมื่อต่อ iPhone 5s และ iPhone 6 + เข้ากับเครื่อง Mac ระบบ OSX รายงานรายละเอียดเกี่ยวกับ กำลังไฟของ iPhone 5s และ iPhone 6 + ต่างกันมาก จะเห็นได้ว่า iPhone 5s รับกำลังไฟได้สูงสุดที่ 500 mA ขณะที่ iPhone 6 + รับกำลังไฟสูงสุดได้ถึง 1600 mA เลยทีเดียว
ส่วนใครที่กังวลว่าจะอันตราย ไม่ต้องกังวล เพราะว่า Apple เป็นคนแนะนำเอง ว่าสามารถใช้ได้ไม่มีปัญหาตามรูปด้านล่าง
Update : ข้อมูลจากผู้ใช้งาน คุณ Earthlyjeans จาก Pantip แจ้งว่า ถ้าใช้ iPhone 6 + ในการชาร์จไฟจะเป็นดังนี้
ใช้ที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง iPhone 6 + แบต 20% ใช้เวลาในการชาร์จ 3 ชั่วโมง 30 นาที ถึงจะ 100%
ใช้ที่ชาร์จที่แถมมากับเครื่อง iPad แบต 20% ใช้เวลาในการชาร์จ 1 ชั่วโมง 45 นาที ถึงจะ 100%
หวังว่าพอจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ บ้างนะครับ
http://myrelaxday.blogspot.com/