A : ดูจบผมนี่รีบลุกเลยครับ!
B : ทำไมครับ หนังไม่สนุกเหรอ?
A : ลุกขึ้นไปโทรหาเพื่อนชวนกันไปร้านเหล้า ฮ่าๆๆ
เพราะบรรยากาศในหนังนี่ชวนหิวเหล้า + เล่า ขึ้นมาจริงๆซะอย่างงั้น 55
ทั้งเบียร์ วิสกี้ เตกิล่า ว้อดก้า โอ้ยเยอะแยะไปหมด สมชื่อเรื่องรักหมดแก้วจริงๆ ไหนจะบุหรี่และถ้าสังเกตุดีผมว่ามีปุ๊นด้วยนะ (เอ๊ะ ตรงนี้พูดได้รึเปล่าเอ่ย) แหม่ มันช่างสมจริงซะเหลือเกิน เข้าใจคนในวงเหล้าอย่างลึกซึ้งเลยก็ว่าได้ ทั้งบรรยากาศที่สนุก เฮฮา ทำอะไรรั่วๆกัน พูดถึงวีรกรรมสมัยยังเด็ก และที่ขาดไม่ได้ในวงเหล้าคือเรื่องความรัก อกหัก รักคุด ที่พูดกันได้ไม่รู้จบจนทำให้ผมนี่อินกับไปบรรยากาศแบบนี้ได้ไม่ยาก
เข้าเรื่องกันดีกว่า 55
หนังเริ่มจาก "บั๊กโจ้" (ปอนด์- ณปรัชญ์ รัตนนิตย์) กับ "ไฟเลี้ยว” (น้ำหวาน- พิไลพร สุปินชมภู)
หนุ่ม-สาวนักศึกษาที่ถูกขังอยู่ในสเตเดียมทำให้ต้องอยู่ด้วยกัน รู้จักกันจนกลายมาเป็นแฟนกัน
จนเมื่อเรียนจบ เลี้ยว(ขอเรียกสั้นๆ) ตัดสินใจไม่ขอใช้คำว่าแฟน แค่ให้รู้ว่า "เรารักกัน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกัน แกเข้าใจนะ" โจ้ตกลงที่รับสถานะนี่เอาไว้ เพราะถึงแม้เลี้ยวจะพูดแบบนั่นก็ไม่ได้มีอะไรต่างออกไปจากเดิม ทั้งคู่ก็ยังคงนอนเตียงเดียวกัน อยู่ห้องเดียวกันอยู่ดี
ณ จุดนี้เองจึงกลายเป็นความ
อย่างไม่หยุดยั้งระหว่างเลี้ยวและโจ้ !!!!
ก็เพราะ "เรารักกัน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกัน แกเข้าใจนะ" มันเป็นไปไม่ได้ไงละครับ คนเราอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกันทุกคืน จะไม่ให้ผูกพันได้ยังไงไหวละ พร้อมตัวละครที่อยู่ในสถานะที่ผมขอเรียกว่า "โตไม่พร้อมกัน” ทำให้ความต้องการต่างๆ ทั้งความคิด ความรักมองต่างกันออกไปจนกลายปัญหาใหญ่ของความสัมพันธ์ระหว่างเลี้ยวและโจ้
หลังจากนี้เราก็ได้เห็นทั้งคู่ต่อสู้กับใจตัวเองและกฎเกณฑ์ที่เลี้ยวตั้งขึ้น โดยมีตัวละครต่างๆในวงเหล้าที่ไม่ใช่มีดีแค่เรียกเสียงฮาแต่ยังเรียกน้ำตาไปได้หลายแกลลอนเลยทีเดียว
เริ่มที่มาช่า รับบทเป็นพี่ อุ๊ เจ๊เปรี้ยวเจ๊ใหญ่เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่ของวงเหล้า การกลับมาของมาช่าครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลย ครั้งแรกก็ไม่คิดว่าจะมีบทบาทขนาดนี้นะ นึกว่าเอามางั้นๆแหละ เรียกเรทติ้ง แต่ที่ไหนได้นางคือตัวแม่จริงๆ หนังให้พื้นที่กับมาช่ามากพอสมควร ทำให้เจ๊ช่ามีเวลาให้วาดลีลาการแสดงได้อย่างเต็มฟัดเต็มเหนี่ยว เมื่อบทจะตลกเจ๊ก็สุดจริงๆ โดยหนังให้ทำให้เห็นว่าพี่อุ๊(มาช่า)นี่เป็นเจ๊ที่เมาทั้งวันทั้งคืน ดูเหมือนจะไร้สาระ เมาไปวันๆ แต่พอถึงบทจะเศร้าก็เรียกน้ำตาเราไปได้เต็มๆ ตอนออกจาโรงยังแอบสะเทือนใจ พอมาเฉลยตอนหลังนี่แบบตกใจเลยอะ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั่นไปดูกันเองดีกว่า ไม่อยากสปอย
อีกคนที่ประทับใจมากคือ อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รับบทเป็นตัวเองชื่อ “พี่แมน” แต่ตุ๊ดแตกอย่าบอกใคร ฮ่าๆ
คนนี้บอกเลยว่าฉากไหนที่มีนาง นางกินเรียบจ้า ขนาดฉากที่ไม่มีบทพูดไปยืนเต้นข้างๆ จอนางยังดึงดูดสายตาหรือเรียกง่ายๆว่าแย่งซีนได้ตลอด(อันนี้ชมนะครับ) เพราะการมีพี่อ๊อฟเข้ามาทำให้หนังมีสีสันขึ้นเยอะเลย แถมฝีไม้ลายมือการแสดงก็ไม่ธรรมดาเลย ดูธรรมชาติสุดๆ เป็นตัวละครที่ไม่ว่าจะพูดอะไรเราก็เชื่อเชื่อว่าเขาพูดออกมาแบบนั่นจริงๆ ทำแบบนั่นจริงๆ เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลย และพอถึงฉากเศร้าเขาก็ทำได้ดีขึ้นไปอีก ผมนี่อินเลยละ
ตามมาด้วยสงกรานต์ เดอะว๊อยซ์ รับบท “เจ๊ด” คาแรกเตอร์แว๊นซ์มุกเสี่ยว , เอ็ม- บุดด้า เบลส รับบท "นุ" ทายาทมหาเศรษฐี , ป๊อบ-ปองกูร รับบท “พี่โบ้” ศาลพระภูมิวงเหล้า ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่แพ้กัน
ทั้งทีมนักแสดงหน้าใหม่หน้าเก่า ตัวแม่อย่างมาช่า และเจ๊อ๊อฟ พร้อมบรรกาศสนุกสนานท่ามกลางวงเหล้าเสียงดนตรีเพราะคงทำให้หลายคนเพลินเพลินและอินไปกับเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ส่วนใครที่ไม่ใช่คอเหล้าก็ลองเข้าไปดูนะครับว่าบรรยากาศของวงเหล้าเขาตลกโปกฮากันแค่ไหน
และแน่นอนนอกจากความสนุกและความฮา หนังยังคงให้อะไรที่มากกว่านั้นและกลับมาขบคิดพอประมาณทั้งในแง่การใช้ชีวิตและความรัก
ปล. เพลงประกอบเพราะมาก ลองไปฟังกันดูนะครับ
[SR] (รีวิวหนัง) รักหมดแก้ว ไม่เมาเหล้าแต่เมารัก
A : ดูจบผมนี่รีบลุกเลยครับ!
B : ทำไมครับ หนังไม่สนุกเหรอ?
A : ลุกขึ้นไปโทรหาเพื่อนชวนกันไปร้านเหล้า ฮ่าๆๆ
เพราะบรรยากาศในหนังนี่ชวนหิวเหล้า + เล่า ขึ้นมาจริงๆซะอย่างงั้น 55
ทั้งเบียร์ วิสกี้ เตกิล่า ว้อดก้า โอ้ยเยอะแยะไปหมด สมชื่อเรื่องรักหมดแก้วจริงๆ ไหนจะบุหรี่และถ้าสังเกตุดีผมว่ามีปุ๊นด้วยนะ (เอ๊ะ ตรงนี้พูดได้รึเปล่าเอ่ย) แหม่ มันช่างสมจริงซะเหลือเกิน เข้าใจคนในวงเหล้าอย่างลึกซึ้งเลยก็ว่าได้ ทั้งบรรยากาศที่สนุก เฮฮา ทำอะไรรั่วๆกัน พูดถึงวีรกรรมสมัยยังเด็ก และที่ขาดไม่ได้ในวงเหล้าคือเรื่องความรัก อกหัก รักคุด ที่พูดกันได้ไม่รู้จบจนทำให้ผมนี่อินกับไปบรรยากาศแบบนี้ได้ไม่ยาก
เข้าเรื่องกันดีกว่า 55
หนังเริ่มจาก "บั๊กโจ้" (ปอนด์- ณปรัชญ์ รัตนนิตย์) กับ "ไฟเลี้ยว” (น้ำหวาน- พิไลพร สุปินชมภู)
หนุ่ม-สาวนักศึกษาที่ถูกขังอยู่ในสเตเดียมทำให้ต้องอยู่ด้วยกัน รู้จักกันจนกลายมาเป็นแฟนกัน
จนเมื่อเรียนจบ เลี้ยว(ขอเรียกสั้นๆ) ตัดสินใจไม่ขอใช้คำว่าแฟน แค่ให้รู้ว่า "เรารักกัน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกัน แกเข้าใจนะ" โจ้ตกลงที่รับสถานะนี่เอาไว้ เพราะถึงแม้เลี้ยวจะพูดแบบนั่นก็ไม่ได้มีอะไรต่างออกไปจากเดิม ทั้งคู่ก็ยังคงนอนเตียงเดียวกัน อยู่ห้องเดียวกันอยู่ดี
ณ จุดนี้เองจึงกลายเป็นความอย่างไม่หยุดยั้งระหว่างเลี้ยวและโจ้ !!!!
ก็เพราะ "เรารักกัน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกัน แกเข้าใจนะ" มันเป็นไปไม่ได้ไงละครับ คนเราอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกันทุกคืน จะไม่ให้ผูกพันได้ยังไงไหวละ พร้อมตัวละครที่อยู่ในสถานะที่ผมขอเรียกว่า "โตไม่พร้อมกัน” ทำให้ความต้องการต่างๆ ทั้งความคิด ความรักมองต่างกันออกไปจนกลายปัญหาใหญ่ของความสัมพันธ์ระหว่างเลี้ยวและโจ้
หลังจากนี้เราก็ได้เห็นทั้งคู่ต่อสู้กับใจตัวเองและกฎเกณฑ์ที่เลี้ยวตั้งขึ้น โดยมีตัวละครต่างๆในวงเหล้าที่ไม่ใช่มีดีแค่เรียกเสียงฮาแต่ยังเรียกน้ำตาไปได้หลายแกลลอนเลยทีเดียว
เริ่มที่มาช่า รับบทเป็นพี่ อุ๊ เจ๊เปรี้ยวเจ๊ใหญ่เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่ของวงเหล้า การกลับมาของมาช่าครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลย ครั้งแรกก็ไม่คิดว่าจะมีบทบาทขนาดนี้นะ นึกว่าเอามางั้นๆแหละ เรียกเรทติ้ง แต่ที่ไหนได้นางคือตัวแม่จริงๆ หนังให้พื้นที่กับมาช่ามากพอสมควร ทำให้เจ๊ช่ามีเวลาให้วาดลีลาการแสดงได้อย่างเต็มฟัดเต็มเหนี่ยว เมื่อบทจะตลกเจ๊ก็สุดจริงๆ โดยหนังให้ทำให้เห็นว่าพี่อุ๊(มาช่า)นี่เป็นเจ๊ที่เมาทั้งวันทั้งคืน ดูเหมือนจะไร้สาระ เมาไปวันๆ แต่พอถึงบทจะเศร้าก็เรียกน้ำตาเราไปได้เต็มๆ ตอนออกจาโรงยังแอบสะเทือนใจ พอมาเฉลยตอนหลังนี่แบบตกใจเลยอะ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั่นไปดูกันเองดีกว่า ไม่อยากสปอย
อีกคนที่ประทับใจมากคือ อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รับบทเป็นตัวเองชื่อ “พี่แมน” แต่ตุ๊ดแตกอย่าบอกใคร ฮ่าๆ
คนนี้บอกเลยว่าฉากไหนที่มีนาง นางกินเรียบจ้า ขนาดฉากที่ไม่มีบทพูดไปยืนเต้นข้างๆ จอนางยังดึงดูดสายตาหรือเรียกง่ายๆว่าแย่งซีนได้ตลอด(อันนี้ชมนะครับ) เพราะการมีพี่อ๊อฟเข้ามาทำให้หนังมีสีสันขึ้นเยอะเลย แถมฝีไม้ลายมือการแสดงก็ไม่ธรรมดาเลย ดูธรรมชาติสุดๆ เป็นตัวละครที่ไม่ว่าจะพูดอะไรเราก็เชื่อเชื่อว่าเขาพูดออกมาแบบนั่นจริงๆ ทำแบบนั่นจริงๆ เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลย และพอถึงฉากเศร้าเขาก็ทำได้ดีขึ้นไปอีก ผมนี่อินเลยละ
ตามมาด้วยสงกรานต์ เดอะว๊อยซ์ รับบท “เจ๊ด” คาแรกเตอร์แว๊นซ์มุกเสี่ยว , เอ็ม- บุดด้า เบลส รับบท "นุ" ทายาทมหาเศรษฐี , ป๊อบ-ปองกูร รับบท “พี่โบ้” ศาลพระภูมิวงเหล้า ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่แพ้กัน
ทั้งทีมนักแสดงหน้าใหม่หน้าเก่า ตัวแม่อย่างมาช่า และเจ๊อ๊อฟ พร้อมบรรกาศสนุกสนานท่ามกลางวงเหล้าเสียงดนตรีเพราะคงทำให้หลายคนเพลินเพลินและอินไปกับเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ส่วนใครที่ไม่ใช่คอเหล้าก็ลองเข้าไปดูนะครับว่าบรรยากาศของวงเหล้าเขาตลกโปกฮากันแค่ไหน
และแน่นอนนอกจากความสนุกและความฮา หนังยังคงให้อะไรที่มากกว่านั้นและกลับมาขบคิดพอประมาณทั้งในแง่การใช้ชีวิตและความรัก
ปล. เพลงประกอบเพราะมาก ลองไปฟังกันดูนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น