พาเที่ยว ชัยนาท ฉบับ 2 วัน 1 คืน

Update กระทู้พาเที่ยววัดแล้วที่ลิงค์นี้ครับ  http://ppantip.com/topic/33034324
----

สำหรับปลายปีนี้ ใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ผมอยากแนะนำ จ.ชัยนาท เป็นอีกตัวเลือกนึงครับ ผมรู้จักจังหวัดนี้เพราะเพื่อนได้เปิดโรงแรมเล็กๆอยู่ แล้วผมได้มีโอกาสช่วยถ่ายรูปโรงแรม เลยทำให้ผมได้รู้จักชัยนาทมากขึ้น ถ้าใครนึกถึงชัยนาทแล้วรู้สึกว่าเป็นจังหวัดเหงาๆ ผมขออนุญาตเล่าผ่านรูปถ่ายของผมครับ


     ออกจากกรุงเทพสายๆวันเสาร์ครับ เดินทางราวๆ 2 ชม. มาถึงโรงแรมช่วงเที่ยง โรงแรมชื่อ เฌิณ (Schön) อยู่ในอำเภอเมือง บนถนนพหลโยธิน ที่เฌิณต้อนรับด้วย Welcome Drink ที่เป็นน้ำอิตาเลี่ยนโซดาครับ


     โรงแรมมีทั้งหมด 10 ห้อง 10 ดีไซน์ ทุกห้องมี Facilities ครบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุ่น Rain shower โทรทัศน์ ตู้เย็น(มีห้องเดี่ยวห้องนึงที่ไม่มีตู้เย็นครับ แต่ห้องนี้ connect กับห้องนอนใหญ่ได้) Wi-fi อาหารเช้า ซึ่งอาหารเช้าของที่นี่เสิร์ฟคู่กับกาแฟสด ที่มีคุณภาพไม่แพ้ร้านกาแฟดังๆ ที่นี่จึงเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ควบคู่กับโรงแรม Boutique น่ารักๆไปด้วย


ล๊อบบี้และส่วนร้านกาแฟ






บรรยากาศรอบๆ








     หลังจากเข้าเชคอินที่โรงแรม เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินทางต่อจากโรงแรมราวๆ 30 กิโลเมตร ไปที่วนอุทยานถ้ำเพชร ถ้ำทอง  ตาคลี นครสวรรค์ครับ
     ถ้ำเพชร ถ้ำทอง ประกอบไปด้วยถ้ำต่างๆ รวม 9 ถ้ำที่เปิดให้เข้าชมแล้ว (รวมที่ยังไม่เปิดมี 70 ถ้ำ) ที่นี่คนยังไปเที่ยวไม่เยอะ เลยทำให้ยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก เจ้าหน้าที่บอกว่ามีถ้ำวังไข่มุกที่ยังเป็นถ้ำเป็นอยู่ ทางเดินจากหน้าอุทยานไปถึงทางเข้าแต่ละถ้ำ ห่างประมาณ 200  - 800 เมตร ระหว่างทางนั้นมีจุดพักชมวิว เพื่อให้เสพธรรมชาติกันตลอดทาง ส่วนบรรยากาศในถ้ำผมขออนุญาตไม่เล่านะครับเนื่องจากในถ้ำค่อนข้างมืด  อากาศในถ้ำค่อนข้างชื้นและเย็น เหมือนถ้ำปกติทั่วไป ผมได้เข้าไปชมมา 2 ถำ มีค้างคาวเจ้าถิ่นห้อยหัวอยู่ทั้ง 2 ถ้ำเลยครับ



จุดชมวิวทางเข้าถ้ำไข่มุก


ระหว่างทางไปถ้ำไข่มุก



พระอาทิตย์กำลังจะตกตอนออกมาจากวนอุทยาน


     ออกจากถ้ำราวๆ 5 โมงเย็น สำหรับช่างภาพนับว่าเป็นนาทีทองก่อนพระอาทิตย์ตก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ได้แสงเย็นสวยๆ สำหรับผมแล้วผมเลือกเดินทางไปวัดธรรมมามูล แต่จะขอยังไม่รีวิวเรื่องตัววัด เพราะจะขอเก็บไว้รีวิวทริปวัดในครั้งต่อไป ขอนำรูปพระอาทิตย์ตกสวยๆสำหรับทางเลือกนี้มาฝากครับ

พระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางขึ้นวัดธรรมามูล


     ไหว้พระเสร็จท้องก็เริ่มร้อง ผมเลือกที่จะไปเดินถนนคนเดินคุ้งสำเภา (ตลาดมโนรมย์) เหมาะแก่การหาของทานเล่น ถนนคนเดินที่นี่ยังไม่ใหญ่มาก เป็นถนนเส้นเดียวตรงๆ ริมแม่น้ำ ยาวประมาน 1 กม. 2ข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าของคนท้องถิ่น โดยทั่วไปจะขายขนม ของฝากชิ้นเล็กๆ แต่สำหรับผมแล้วเย็นนี้ผมฝากท้องไว้ที่นี่เลยครับ





     สำหรับท่านที่อยากทานอาหารเย็นเนื้อๆเน้นๆเป็นมื้อจริงจัง ขอแนะนำให้ไปทานที่ร้านริมชลบนถนนพหลโยธินมุ่งไปทางนครสวรรค์ครับ อยู่ห่างจากตลาดนี้ไปราวๆ 2 กม. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนี้นะครับ เพียงแค่เป็นร้านที่ผมไปทานเป็นประจำ อาหารจัดว่าอร่อยและไม่แพงครับ
     วันนี้ไม่มีรูปมาฝาก  แต่เมนูแนะนำก็คือ ลาบสุโขทัย ลาบหอมเครื่องเทศทานคู่กับหมี่กรอบ ปลาช่อนน้ำตก ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ฉู่ฉี่ แกงคั่วหอยขม ผัดฉ่า.... ชัยนาทเป็นจังหวัดติดแม่น้ำครับ เพราะฉะนั้นที่นี่จะขื้นชื่อเรื่องความสดของปลาแม่น้ำ

     หลังจากที่เที่ยวกันมาประมานนึงก็คงถึงเวลากลับห้องพัก ผักผ่อนกันตามอัธยาศัยที่ เฌิณ
คืนนี้ผมนอนห้องนี้ครับ CLOUD



     ตื่นมาเช้าวันอาทิตย์ วันนี้ผมตื่นเช้าหน่อยเพื่อมารอใส่บาตรที่ตลาดเช้ามโนรมย์ ตรงนี้เป็นส่วนแพขนานยนต์ ที่ข้ามไปฝั่งอุทัยธานี้ได้ครับ ห่างจากโรงแรมประมาณ 12 กม. ได้ ถึงตลาดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนิดหน่อย ใส่บาตรเสร็จผมก็เดินตลาดเพื่อปากท้องต่อครับ ตลาดมโนรมย์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำครับ อยู่ตรงข้ามกับถนนคนเดินที่เพิ่งไปเดินกันมาเมื่อคืน (มาจากแยกคุ้งสำเภา หันหน้าเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา ตลาดเลี้ยวซ้าย ถนนคนเดินเลี้ยวขวาครับ) ที่นี่จะนำของที่เป็นวิถีชาวบ้านจริงๆมาขาย เช่นบ้านใครปลูกผลไม้ ก็จะนำผลไม้มาขาย บ้านใครปลูกผักก็จะนำผักมาขาย บางร้านที่ขายปลาขายกุ้ง ก็เป็นปลาเป็นกุ้งที่ชาวบ้านจับกันแต่เช้าสดๆเลยครับ








     กลับมาจากตลาด ผมนำอาหารสดมาให้แม่ครัวที่โรงแรมปรุงให้เป็นอาหารเที่ยงครับ และทานอาหารเช้าพร้อมกาแฟสดของโรงแรมที่อยู่ในเซทห้องนอนครับ


     สำหรับเพื่อนนักปั่น เช้านี้แดดยังอ่อนๆไม่แรงมาก ยังพอมีเวลาที่จะปั่น จกย ที่บ้านกลำ บรรยากาศร่มรื่นครับ ปั่นไปเสพธรรมชาติไปผมว่าหายเหนื่อยเลยครับ หรือนักวิ่งจะวิ่งเพลินๆก็ได้นะครับ อากาศเริ่มหนาวแล้ว ผมว่าน่าจะชิว    


หลังถ่ายรูปนี้เสร็จ ฝนก็ตกพอดีครับ


      ปั่นเสร็จคงเป็นเวลาสัก 9-10 โมง กลับมาใช้ชีวิตเอื่อยๆที่โรงแรมอาบน้ำอาบท่า นอนตากแอร์ อ่านหนังสือสักเล่ม ก่อนลงมาทานอาหารเที่ยงที่สั่งของสดมาจากตลาดเมื่อเช้านี้ครับ


     กุ้งแม่น้ำแท้ๆๆๆๆๆ ขนาดไม่เท่ากันซักตัว เพราะมาจากธรรมชาติจริงๆ แต่ยืนยันว่าสด ใหญ่ อร่อย ไม่มีหัวตะกั่วแน่นอน แต่บอกก่อนว่า...ไม่ใช่ว่าจะมีให้ทานทุกวันนะครับ


     เชคเอ้าท์จากโรงแรมเสร็จก็อย่าเพิ่งรีบกลับกรุงเทพ ยังมีที่ท่องเที่ยวใกล้ๆโรงแรมอีกที่ 2ที่ ที่แรกเป็นวัดเขาพลองครับ (ที่ผมกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่ามองเห็นจากหลังโรงแรม) มาถึงแล้วก็อยากแนะนำให้ขึ้นไป การเดินทางไปวัดเขาพลองใช้รถยนต์ครับ สำหรับนักปั่นแล้ว ผมขอแนะนำให้ไปวัดเขาพลองช่วงเย็นของวันแรกครับ ทางขึ้นวัดเป็นเขา ลักษณะลาดชัน บรรยากาศข้างทางคล้ายภาคเหนือ ตอนผมขึ้นไปครั้งแรกช่วงเย็นๆ ภาพระหว่างทางตอนผมเคยเดินทางขึ้นปาย แม่ฮ่องสอนก็ผุดมาเลยครับ



ระหว่างทางเจอพี่คนนึงขี่จักรยานขึ้นมา แต่ถ่ายรูปไม่ทัน ทางมันชันครับ  พี่ที่ดูแลวัดบอกว่า นักจักรยานมาซ้อมปั่นขึ้นเขากันบ่อยครับ วันละ 7-8 รอบ


     ขึ้นมาถึงด้านบนตัววัด ผมก็ยังขออนุญาตไม่รีวิวเรื่องตัววัดเช่นเคยนะครับ เอาไว้รวบรวมรีวิวทริปไหว้พระที่ชัยนาทโดยเฉพาะดีกว่าครับ แต่ที่นี่ผมเก็บภาพเล็กๆน้อยๆมาฝากครับ จริงๆแล้วบนนี้มีเรื่องราวศักดิ์สิทธิ์ชวนขนลุกหลายเรื่อง ไว้จะมาเล่าให้ฟังครับ




สำหรับช่างภาพแลนด์สเคปแล้ว จุดนี้นับว่าสูงประมานนึงและสามารถมองเห็น จ.ชัยนาท ได้กว้างขวางมากครับ


แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ตรงนั้นครับ     ส่วนเฌิณก็อยู่ตรงไหนซักตรง กลางๆรูปครับ


ลงมาจากวัดเขาพลองถ้ายังไม่เหนื่อยกันมากนักก็แนะนำให้ไปต่อที่เขื่อนเจ้าพระยาครับ พระอาทิตย์ตกที่นี่น่ารักเลยครับ จากเขื่อนมีทางออกกลับกทม ได้เลย


     สำหรับทริปนี้อาจจะเข้ม หรืออาจจะบางไปสำหรับใครบางคน ก็อยากแนะนำให้สลับสถานที่ท่องเที่ยวกันดูนะครับ ผมคิดว่าการรีวิวโรงแรมและจังหวัดชัยนาทครั้งนี้จะสร้างบรรยากาศน่าเที่ยวให้ จังหวัดชัยนาท ไม่มากก็น้อยผมก็ยินดีแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

ปล. รูปในรีวิวนี้ ผมนำมาจากหลายๆครั้งที่ผมไปชัยนาทนะครับ เอามายำให้เป็นทริป 2 วัน 1 คืน จะได้ดูตามกันง่ายๆครับ


สวัสดีครับ  เจอกันกระทู้หน้าครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่