หลังจากตอนจบของซีรี่ย์ Legend of Korra เชื่อว่าแฟนๆส่วนใหญ่...แม้แต่ชาวประชา Korrasami เองก็คิดว่าตอนจบนั้นเป็นการจบแบบปลายเปิด ทิ้งจินตนาการให้กองอวยฝั่งต่างๆ(กรณีนี้คือ Makorra และ Korrasami)ไปสานต่อเอาเอง(ชักจะคล้าย Anime เข้าไปทุกที) เราอาจจะพูดเล่นตะโกนฉลองในหน้าเว็บต่างๆว่า
"Korrasami is canon!!" บ้าง แต่ลึกๆผมเชื่อว่าหลายคนก็ยังเผื่อใจไว้เล็กๆว่าสุดท้ายแล้วมันก็ต่างคนต่างเชื่อ....
หึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ......ฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึ........ฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุ......โฮะโฮะโฮะโฮะโฮะโฮะโฮะโฮะ!!!!!!
http://mikedimartinostory.com/2014/12/22/korrasami-confirmed/
http://bryankonietzko.tumblr.com/post/105920055427/michaeldantedimartino-korrasami-confirmed-now
พระเจ้า(ของซีรี่ย์)คอนเฟิร์มเองเลยครับ!!!! ไม่ใช่แฟนเซอร์วิส! ไม่ได้ประกาศ Ship war ฉากจับมือตอนจบนั้นท่านไมค์กับท่านไบรอันระบุเลยว่าคอร่ากับอาซามิชอบพอกันแบบ
คู่รักจริงๆ!!!
ตอนแรกว่าจะแปลหมดทั้ง 2 หน้า แต่ไม่ไหว
ขี้เกียจทำงานมาเหนื่อย เลยขอ Quote แค่ส่วนสำคัญมาให้อ่านกันนะครับ(แต่ถ้าใครตามซีรี่ย์นี้อยู่ก็คงอ่าน Eng ออกอยู่แล้วล่ะมั้ง?)
----
-ไมค์-
Our intention with the last scene was to make it as clear as possible that yes, Korra and Asami have romantic feelings for each other. The moment where they enter the spirit portal symbolizes their evolution from being friends to being a couple.
I’ve already read some heartwarming and incredible posts about how this moment means so much for the LGBT community. Once again, the incredible outpouring of support for the show humbles me. As Tenzin says, “Life is one big bumpy ride.” And if, by Korra and Asami being a couple, we are able to help smooth out that ride even a tiny bit for some people, I’m proud to do my part, however small it might be.
ในฉากสุดท้ายของเรื่องนั้น เราตั้งใจจะทำให้มันชัดเจนที่สุดว่า "ใช่ คอร่าและอาซามิมีความรู้สึกในเชิงพิศวาส(Romance)ต่อกัน" ช่วงเวลาที่ทั้ง 2 เดินเข้าไปในประตูโลกวิญญาณนั้นสื่อถึงการยกระดับความสัมพันธ์จากเพื่อนไปเป็นคู่รัก
ผมได้อ่านข้อความที่ชวนอบอุ่นใจจากหลายๆคนที่บอกว่าฉากจบนั้นมีความหมายต่อกลุ่ม LGBT(Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender) มากขนาดไหน เป็นอีกครั้งที่กำลังใจอันล้นหลามเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกถ่อมตัว อย่างที่เทนซินว่า "ชีวิตก็คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค" และถ้าการที่คอร่ากับอาซามิกลายเป็นคู่รักกันนั้นสามารถช่วยให้ใครหลายๆคนมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคในชีวิตของพวกเขาได้ ผมก็รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนช่วย ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด"
----
สรุป ปิดคดี เลิกศาล การดีเบตยุติได้ พระผู้สร้างท่านตรัสแล้ว เรือ(Ship)ลำนี้ติดปืนใหญ่(canon)อย่างเป็นทางการ S.S. Korrasami จะแล่นสู่ 7 คาบสมุทรอย่างสมภาคภูมิ!!
ปล. อัพเดทสถานะปัจจุบัน...
หน้าจอ Notebook
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หน้า Facebook
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หน้าจอ Iphnoe
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-
Legend of Korra : โปรดิวเซอร์พูดถึงกรณี Korrasami "ไม่ได้บอกใบ้ ไม่ได้จบปลายเปิด..."(แปลบทความจาก ผกก. Spoil ตอนจบ)
หึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ......ฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึ........ฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุ......โฮะโฮะโฮะโฮะโฮะโฮะโฮะโฮะ!!!!!!
http://mikedimartinostory.com/2014/12/22/korrasami-confirmed/
http://bryankonietzko.tumblr.com/post/105920055427/michaeldantedimartino-korrasami-confirmed-now
พระเจ้า(ของซีรี่ย์)คอนเฟิร์มเองเลยครับ!!!! ไม่ใช่แฟนเซอร์วิส! ไม่ได้ประกาศ Ship war ฉากจับมือตอนจบนั้นท่านไมค์กับท่านไบรอันระบุเลยว่าคอร่ากับอาซามิชอบพอกันแบบคู่รักจริงๆ!!!
ตอนแรกว่าจะแปลหมดทั้ง 2 หน้า แต่ไม่ไหว
ขี้เกียจทำงานมาเหนื่อย เลยขอ Quote แค่ส่วนสำคัญมาให้อ่านกันนะครับ(แต่ถ้าใครตามซีรี่ย์นี้อยู่ก็คงอ่าน Eng ออกอยู่แล้วล่ะมั้ง?)-ไมค์-
Our intention with the last scene was to make it as clear as possible that yes, Korra and Asami have romantic feelings for each other. The moment where they enter the spirit portal symbolizes their evolution from being friends to being a couple.
I’ve already read some heartwarming and incredible posts about how this moment means so much for the LGBT community. Once again, the incredible outpouring of support for the show humbles me. As Tenzin says, “Life is one big bumpy ride.” And if, by Korra and Asami being a couple, we are able to help smooth out that ride even a tiny bit for some people, I’m proud to do my part, however small it might be.
ในฉากสุดท้ายของเรื่องนั้น เราตั้งใจจะทำให้มันชัดเจนที่สุดว่า "ใช่ คอร่าและอาซามิมีความรู้สึกในเชิงพิศวาส(Romance)ต่อกัน" ช่วงเวลาที่ทั้ง 2 เดินเข้าไปในประตูโลกวิญญาณนั้นสื่อถึงการยกระดับความสัมพันธ์จากเพื่อนไปเป็นคู่รัก
ผมได้อ่านข้อความที่ชวนอบอุ่นใจจากหลายๆคนที่บอกว่าฉากจบนั้นมีความหมายต่อกลุ่ม LGBT(Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender) มากขนาดไหน เป็นอีกครั้งที่กำลังใจอันล้นหลามเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกถ่อมตัว อย่างที่เทนซินว่า "ชีวิตก็คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค" และถ้าการที่คอร่ากับอาซามิกลายเป็นคู่รักกันนั้นสามารถช่วยให้ใครหลายๆคนมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคในชีวิตของพวกเขาได้ ผมก็รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนช่วย ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด"
สรุป ปิดคดี เลิกศาล การดีเบตยุติได้ พระผู้สร้างท่านตรัสแล้ว เรือ(Ship)ลำนี้ติดปืนใหญ่(canon)อย่างเป็นทางการ S.S. Korrasami จะแล่นสู่ 7 คาบสมุทรอย่างสมภาคภูมิ!!
ปล. อัพเดทสถานะปัจจุบัน...
หน้าจอ Notebook [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หน้า Facebook [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หน้าจอ Iphnoe [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้