สวัสดีค่ะ ชื่อส้มค่ะ ^_^ น่าจะเป็นครั้งแรกในห้อง Blueฯ
ปกติวนเวียนอยู่แต่ห้องก้นครัว ((หาของกินตามประสาคนอ้วน)) กับ ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง ((ตามประสาผู้หญิง))
มีเข้าห้องจตุจักร โพสรูปแมว ห้องชายคา ดูเรื่องบ้าน ประปราย
วันนี้อารามตื่นเต้น ((มาก)) เพราะวันพฤหัสนี้ก็จะได้ไปเที่ยวอเมริกาแล้ว ฝั่งตะวันตก (LA, Sandiego, Vagas)
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์พอเป็นไอเดีย แนวทางให้เพื่อนๆ ค่ะ
(รูปภาพประกอบ หามาจาก internet นะคะ เดี๋ยวไปมาแล้วจะถ่ายมาอวดใหม่
)
เริ่มกันเลยดีกว่า ^^/ ถ้าพูดถึงอเมริกา การจะไปเที่ยวได้ คนไทยอย่างเราก็ต้องมีวีซ่าค่ะ
ก่อนหน้านี้วีซ่าเป็นเรื่องลำบ๊ากลำบาก จะต้องไปซื้อ pin code ที่ไปรษณีย์ มาลงทะเบียน บลาๆ
แต่ เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องค่า เพราะว่าเราสามารถกรอกข้อมูลใน application รวมถึงลงทะเบียน
ปริ้นใบจ่ายเงิน ไปจ่ายที่ธนาคาร เสร็จแล้วจองวันนัดสัมภาษณ์ได้ทางอินเตอร์เน็ต ((สบ๊ายยยยยยย))
อะๆ เรามาดูกันเลย ขั้นตอนในการกรอก application สำหรับการสมัครวีซ่าชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)
1. กรอกแบบฟอร์มสมัครวีซ่า Online Nonimmigrant Visa Application (DS-160)
https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx เลือก Location (เบอร์ 1) แล้ว ก็รอโหลดสักครู่ กด Start application (เบอร์ 2) เลยค่ะ ก็จะไปหน้าให้กรอกข้อมูล กรอกตามจริงเลยค่ะ ถ้าไม่เข้าใจคำถาม เอาเมาส์ไปชี้ก็จะมีแปลเป็นไทย หลังจากกรอกข้อมูล อัพโหลดรูปเสร็จ ก็ save อ่อ เราสามารถพิมพ์แล้ว save ข้อมูลเป็นระยะได้นะคะ 1 Application id อยู่ได้ 30 วันค่ะ
2. เข้าไปที่เว็บ
https://www.ustraveldocs.com/th ทำการสร้างบัญชีขึ้นมา (Create account) เลือกประเภทของวีซ่าและค่าธรรมเนียมตามวีซ่าประเภทนั้นๆ ซึ่งจะได้แบบฟอร์มใบฝากเงินธนาคารที่มีรายละเอียดตามที่ท่านกรอก ให้พิมพ์แบบฟอร์มใบฝากเงินธนาคารนั้นออกมา ของส้มตอนนั้นเสียไป USD 160 แต่เค้าจะ convert เป็นเรทเงินบาทมาให้นะคะ 5000 กว่าๆ นำใบฝากเงินธนาคารที่ได้มาไปยังธนาคาร เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมสมัครวีซ่า
3. เข้าไปกำหนดนัดหมายวันสัมภาษณ์ที่
https://www.ustraveldocs.com/th โดยการจะจองวันเนี่ย ต้องรอประมาณ 1 วันทำการหลังจากจ่ายเงินที่ธนาคารแล้ว โดยทางเว็บจะ update ให้เองค่ะ (แต่เก็บใบฝากเงินไว้ก็ดี) เวลาจองวันเค้าจะมีช่วงเวลาให้เลือกเลยนะคะ เริ่มตั้งแต่ 7.00/ 7.15/ 7.30/ 7.45 ไปเรื่อยๆ ค่ะ และจะมีจำนวนคนบอกด้วยว่าตอนนี้มีคนจองคิวกี่คนแล้ว
4. ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มีข้อสงสัย ลองเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์เลยนะคะ
www.ustraveldocs.com/th
พอเราจองวันสัมภาษณ์ได้แล้ว ก็มาเตรียมตัว+เตรียมเอกสารกัน ใครที่มีงานประจำและทำงานกับบริษัทที่เป็น Global ส้มคิดว่าได้เปรียบนิดหน่อยค่ะ ((ความเห็นส่วนตัวนะคะ))
เอกสารที่ส้มเตรียมไปวันนั้นมี ดังนี้
1. หนังสือรับรองการทำงานจากที่บริษัท ภาษาอังกฤษ (ออกให้โดยบริษัทเลยนะคะ) โดยงระบุ ตำแหน่ง เงินเดือน ระยะเวลาที่ลางานซึ่งจะต้องสอดคล้องกับระยะเวลาที่จะอยู่ในประเทศอเมริกา
2. หนังสือเชิญจากเพื่อน ภาษาอังกฤษ (Invitation letter) มีหรือไม่มี ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ถ้าไปเที่ยวเอง แต่ของส้มเพื่อนเรียน phD อยู่ที่นั่น แล้วจะไปเที่ยวด้วยกัน เลยให้เพื่อนทำหนังสือมาให้
3. Statement Bank เตรียมไป 2 บัญชี บัญชีเงินเดือน และบัญชีเงินเก็บ (มียอดเงิน 6 หลัก)
4. รูปถ่าย (เผื่อไว้ก่อน)
5. พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน
6. ITINERARY INFORMATION ที่จองตั๋วไว้ ยังไม่ได้คอนเฟิร์มนะคะ แค่จองไว้ก่อน ส้มให้เอเยนต์ที่บริษัทจองให้ค่ะ
7. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมตัวจริง สำเนาทะเบียนบ้าน
วันสัมภาษณ์ ((โอยตื่นเต้น)) ส้มนัดไว้ 7.00 ค่ะ ก็ไปที่สถานฑูตอเมริกา (ถนนวิทยุ) ถึงตอนตีห้ากว่าๆ เริ่มมีคนมาต่อคิวแล้ว ก็นยืนเข้าคิวกันไป ^_^ เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ จนใกล้ๆ 7 โมงเช้า
เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเรียกคนที่นัดรอบ 7 โมง ออกมาตั้งแถว แล้วก็ตรวจเอกสารคร่าวๆ ว่าขอ VISA แบบไหน แล้วก็แจกบัตรคิว อ่อ กระเป๋าเป้ไม่ให้เข้านะคะ ถ้าไปคนเดียวแนะนำให้เอาไปแค่กระเป๋าสตางค์ มือถือ 1 เครื่องกะเอกสาร พอค่ะ มือถือเนี่ยก็ต้องฝากตรงทางเข้า (หลังจากเข้าไปแล้ว) ฝากพร้อมกับบัตรประชาชน เค้าจะให้เบอร์ที่มีสายรัดข้อมือมาถือไว้ เพื่อไว้แลกตอนกลับ
เข้าไปแล้วก็เข้าไปตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็ดึงเอกสารแค่
1. หนังสือรับรองการทำงานจากที่บริษัท
2. หนังสือเชิญจากเพื่อน (Invitation letter)
3. พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน ออกมาไว้ข้างบนให้เราถือเข้าไป พร้อมทั้งให้จดเลขที่ EMS (Tracking Number) ไว้ด้วย
เอกสารอื่นๆ ก้อคืนให้เราเก็บไว้ เสร็จแล้วก็เข้าห้องไปรอสัมภาษณ์ ก่อนเข้าจะมีคนถามอยู่หน้าประตูห้องอีกรอบ ((สกรีนกันเยอะจริงๆ)) มีให้สแกนนิ้ว และถามคำถามทั่วๆ ไป ไปทำไม ไปกี่วัน บลาๆ
เข้ามารอคิว สัมภาษณ์ค่ะ ท่านกงศุลจะเป็นคนสัมภาษณ์ ของส้มโชคดีมากกกกกกกกกกกกกกก ท่านกงศุลใจดีมากค่ะ
แกพยายามถามภาษาไทย แต่ส้มตอบอังกฤษ 555+ ถามไม่เยอะค่ะ
1. ไปทำไม ไปกี่วัน ไปไหนบ้าง ไปกับใคร
ส้ม: ไปเที่ยวค่ะ ไป 12 วัน ไป LA, Sandiego, Vegas ไปกับเพื่อนใน Invitation letter ค่ะ เพื่อนเรียน phD ที่นั่น
2. ทำงานที่ บริษัท... (ดูหนังสือรับรอง) นี้ใช่มั้ย
ส้ม: ใช่ค่ะ ^___^
3. โอเคครับ เดี๋ยวส่งวีซ่าให้
ส้ม: ตกใจ!! หนูผ่านแล้วหรอคะ ได้วีซ่ากี่ปีคะ
กงศุล: 10ปี ครับ
ส้ม: ยกมือไหว้ ขอบคุณมากค่ะ เดินออกมาตัวปลิวๆ สายใจ ฮ้าาาาาาาาาา
ตอนเดินออกมาเอามือถือ ที่ฝากไว้ ตอน 8 โมงนิดๆ รวมๆ แล้วใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ ถ้านับจากรอบสัมภาษณ์
สามวันทำการ พาสปอร์ตก็ส่งกลับมาที่บ้าน เย้ ^^/
หลังจากนั้นก็ Confirm ตั๋ว ให้เอเยอนต์ออก E-ticket ให้ค่ะ เดี๋ยวเรื่องตั๋วเครื่องบิน การซื้อประกัน การจองที่พักในอเมริกา Amtrak เที่ยวบิน domestic และตั๋วดิสนีย์ Universal จะมาต่อภาคสองนะคะ
[CR] ((MissMikan in USA ตอนที่ 1)) มาขอ VISA USA แบบท่องเที่ยว กันเถอะ
ปกติวนเวียนอยู่แต่ห้องก้นครัว ((หาของกินตามประสาคนอ้วน)) กับ ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง ((ตามประสาผู้หญิง))
มีเข้าห้องจตุจักร โพสรูปแมว ห้องชายคา ดูเรื่องบ้าน ประปราย
วันนี้อารามตื่นเต้น ((มาก)) เพราะวันพฤหัสนี้ก็จะได้ไปเที่ยวอเมริกาแล้ว ฝั่งตะวันตก (LA, Sandiego, Vagas)
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์พอเป็นไอเดีย แนวทางให้เพื่อนๆ ค่ะ
(รูปภาพประกอบ หามาจาก internet นะคะ เดี๋ยวไปมาแล้วจะถ่ายมาอวดใหม่ )
เริ่มกันเลยดีกว่า ^^/ ถ้าพูดถึงอเมริกา การจะไปเที่ยวได้ คนไทยอย่างเราก็ต้องมีวีซ่าค่ะ
ก่อนหน้านี้วีซ่าเป็นเรื่องลำบ๊ากลำบาก จะต้องไปซื้อ pin code ที่ไปรษณีย์ มาลงทะเบียน บลาๆ
แต่ เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องค่า เพราะว่าเราสามารถกรอกข้อมูลใน application รวมถึงลงทะเบียน
ปริ้นใบจ่ายเงิน ไปจ่ายที่ธนาคาร เสร็จแล้วจองวันนัดสัมภาษณ์ได้ทางอินเตอร์เน็ต ((สบ๊ายยยยยยย))
อะๆ เรามาดูกันเลย ขั้นตอนในการกรอก application สำหรับการสมัครวีซ่าชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)
1. กรอกแบบฟอร์มสมัครวีซ่า Online Nonimmigrant Visa Application (DS-160) https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx เลือก Location (เบอร์ 1) แล้ว ก็รอโหลดสักครู่ กด Start application (เบอร์ 2) เลยค่ะ ก็จะไปหน้าให้กรอกข้อมูล กรอกตามจริงเลยค่ะ ถ้าไม่เข้าใจคำถาม เอาเมาส์ไปชี้ก็จะมีแปลเป็นไทย หลังจากกรอกข้อมูล อัพโหลดรูปเสร็จ ก็ save อ่อ เราสามารถพิมพ์แล้ว save ข้อมูลเป็นระยะได้นะคะ 1 Application id อยู่ได้ 30 วันค่ะ
2. เข้าไปที่เว็บ https://www.ustraveldocs.com/th ทำการสร้างบัญชีขึ้นมา (Create account) เลือกประเภทของวีซ่าและค่าธรรมเนียมตามวีซ่าประเภทนั้นๆ ซึ่งจะได้แบบฟอร์มใบฝากเงินธนาคารที่มีรายละเอียดตามที่ท่านกรอก ให้พิมพ์แบบฟอร์มใบฝากเงินธนาคารนั้นออกมา ของส้มตอนนั้นเสียไป USD 160 แต่เค้าจะ convert เป็นเรทเงินบาทมาให้นะคะ 5000 กว่าๆ นำใบฝากเงินธนาคารที่ได้มาไปยังธนาคาร เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมสมัครวีซ่า
3. เข้าไปกำหนดนัดหมายวันสัมภาษณ์ที่ https://www.ustraveldocs.com/th โดยการจะจองวันเนี่ย ต้องรอประมาณ 1 วันทำการหลังจากจ่ายเงินที่ธนาคารแล้ว โดยทางเว็บจะ update ให้เองค่ะ (แต่เก็บใบฝากเงินไว้ก็ดี) เวลาจองวันเค้าจะมีช่วงเวลาให้เลือกเลยนะคะ เริ่มตั้งแต่ 7.00/ 7.15/ 7.30/ 7.45 ไปเรื่อยๆ ค่ะ และจะมีจำนวนคนบอกด้วยว่าตอนนี้มีคนจองคิวกี่คนแล้ว
4. ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มีข้อสงสัย ลองเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์เลยนะคะ www.ustraveldocs.com/th
พอเราจองวันสัมภาษณ์ได้แล้ว ก็มาเตรียมตัว+เตรียมเอกสารกัน ใครที่มีงานประจำและทำงานกับบริษัทที่เป็น Global ส้มคิดว่าได้เปรียบนิดหน่อยค่ะ ((ความเห็นส่วนตัวนะคะ))
เอกสารที่ส้มเตรียมไปวันนั้นมี ดังนี้
1. หนังสือรับรองการทำงานจากที่บริษัท ภาษาอังกฤษ (ออกให้โดยบริษัทเลยนะคะ) โดยงระบุ ตำแหน่ง เงินเดือน ระยะเวลาที่ลางานซึ่งจะต้องสอดคล้องกับระยะเวลาที่จะอยู่ในประเทศอเมริกา
2. หนังสือเชิญจากเพื่อน ภาษาอังกฤษ (Invitation letter) มีหรือไม่มี ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ถ้าไปเที่ยวเอง แต่ของส้มเพื่อนเรียน phD อยู่ที่นั่น แล้วจะไปเที่ยวด้วยกัน เลยให้เพื่อนทำหนังสือมาให้
3. Statement Bank เตรียมไป 2 บัญชี บัญชีเงินเดือน และบัญชีเงินเก็บ (มียอดเงิน 6 หลัก)
4. รูปถ่าย (เผื่อไว้ก่อน)
5. พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน
6. ITINERARY INFORMATION ที่จองตั๋วไว้ ยังไม่ได้คอนเฟิร์มนะคะ แค่จองไว้ก่อน ส้มให้เอเยนต์ที่บริษัทจองให้ค่ะ
7. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมตัวจริง สำเนาทะเบียนบ้าน
วันสัมภาษณ์ ((โอยตื่นเต้น)) ส้มนัดไว้ 7.00 ค่ะ ก็ไปที่สถานฑูตอเมริกา (ถนนวิทยุ) ถึงตอนตีห้ากว่าๆ เริ่มมีคนมาต่อคิวแล้ว ก็นยืนเข้าคิวกันไป ^_^ เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ จนใกล้ๆ 7 โมงเช้า
เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเรียกคนที่นัดรอบ 7 โมง ออกมาตั้งแถว แล้วก็ตรวจเอกสารคร่าวๆ ว่าขอ VISA แบบไหน แล้วก็แจกบัตรคิว อ่อ กระเป๋าเป้ไม่ให้เข้านะคะ ถ้าไปคนเดียวแนะนำให้เอาไปแค่กระเป๋าสตางค์ มือถือ 1 เครื่องกะเอกสาร พอค่ะ มือถือเนี่ยก็ต้องฝากตรงทางเข้า (หลังจากเข้าไปแล้ว) ฝากพร้อมกับบัตรประชาชน เค้าจะให้เบอร์ที่มีสายรัดข้อมือมาถือไว้ เพื่อไว้แลกตอนกลับ
เข้าไปแล้วก็เข้าไปตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็ดึงเอกสารแค่
1. หนังสือรับรองการทำงานจากที่บริษัท
2. หนังสือเชิญจากเพื่อน (Invitation letter)
3. พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน ออกมาไว้ข้างบนให้เราถือเข้าไป พร้อมทั้งให้จดเลขที่ EMS (Tracking Number) ไว้ด้วย
เอกสารอื่นๆ ก้อคืนให้เราเก็บไว้ เสร็จแล้วก็เข้าห้องไปรอสัมภาษณ์ ก่อนเข้าจะมีคนถามอยู่หน้าประตูห้องอีกรอบ ((สกรีนกันเยอะจริงๆ)) มีให้สแกนนิ้ว และถามคำถามทั่วๆ ไป ไปทำไม ไปกี่วัน บลาๆ
เข้ามารอคิว สัมภาษณ์ค่ะ ท่านกงศุลจะเป็นคนสัมภาษณ์ ของส้มโชคดีมากกกกกกกกกกกกกกก ท่านกงศุลใจดีมากค่ะ
แกพยายามถามภาษาไทย แต่ส้มตอบอังกฤษ 555+ ถามไม่เยอะค่ะ
1. ไปทำไม ไปกี่วัน ไปไหนบ้าง ไปกับใคร
ส้ม: ไปเที่ยวค่ะ ไป 12 วัน ไป LA, Sandiego, Vegas ไปกับเพื่อนใน Invitation letter ค่ะ เพื่อนเรียน phD ที่นั่น
2. ทำงานที่ บริษัท... (ดูหนังสือรับรอง) นี้ใช่มั้ย
ส้ม: ใช่ค่ะ ^___^
3. โอเคครับ เดี๋ยวส่งวีซ่าให้
ส้ม: ตกใจ!! หนูผ่านแล้วหรอคะ ได้วีซ่ากี่ปีคะ
กงศุล: 10ปี ครับ
ส้ม: ยกมือไหว้ ขอบคุณมากค่ะ เดินออกมาตัวปลิวๆ สายใจ ฮ้าาาาาาาาาา
ตอนเดินออกมาเอามือถือ ที่ฝากไว้ ตอน 8 โมงนิดๆ รวมๆ แล้วใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ ถ้านับจากรอบสัมภาษณ์
สามวันทำการ พาสปอร์ตก็ส่งกลับมาที่บ้าน เย้ ^^/
หลังจากนั้นก็ Confirm ตั๋ว ให้เอเยอนต์ออก E-ticket ให้ค่ะ เดี๋ยวเรื่องตั๋วเครื่องบิน การซื้อประกัน การจองที่พักในอเมริกา Amtrak เที่ยวบิน domestic และตั๋วดิสนีย์ Universal จะมาต่อภาคสองนะคะ