สวนสนุก วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ที่เมืองออร์แลนโดในรัฐฟลอริดา ขานรับการเติบโตที่รวดเร็วของระบบการชำระเงินบนมือถือของแอปเปิล เตรียมเพิ่มการรองรับ Apple Pay ในสัปดาห์นี้ ตามมาด้วย ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่คาดจะรองรับระบบดังกล่าวได้ในปีหน้า (ปี 2015)

เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมนี้ แฟนๆของ วอลท์ ดิสนีย์ ที่มีแผนเดินทางไปใช้บริการ Walt Disney World Resort จะสามารถเลือกชำระเงินง่ายๆได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนด้วย Apple Pay (รวมถึง Google Wallet ระบบการชำระเงินบนมือถือของกูเกิลด้วย) โดยร้านค้าต่างๆของ วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ รวมถึงร้านอาหาร, บาร์ และบูธจำหน่ายตั๋ว จะสามารถเลือกชำระเงินได้ผ่านทาง Apple Pay (หลังประกาศความร่วมมือกันตั้งแต่เดือนกันยายน) สำหรับซุ้มที่ใช้เครื่องชำระเงินแบบพกพา จะได้รับการอัพเกรดเพื่อรองรับการชำระเงินดังกล่าวได้ในภายหลัง

วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ เป็นสถานที่พักผ่อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีผู้เข้ามาเที่ยวกว่า 50 ล้านคนต่อปี ในขณะที่ ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้เข้าเที่ยวมาเป็นอันดับสอง (กว่า 20 ล้านคนต่อปี) สำหรับสวนสนุกของดิสนีย์ในที่อื่นๆ อย่าง ปารีส, ฮ่องกง และโตเกียว สามารถทำรายได้ให้บริษัทได้กว่า 14.1พันล้านเหรียญฯในปี 2013

อนึ่ง แอปเปิล และ ดิสนีย์ มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน เริ่มตั้งแต่ข้อตกลงในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ Toy Story ที่สร้างโดยสูติโอ Pixar (ในปี 1995) ซึ่งมี สตีฟ จ๊อบส์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และในปี 2006 ดิสนีย์ ได้เข้าซื้อสตูดิโอ Pixar ด้วยมูลค่ากว่า 7.4พันล้านเหรียญฯ พร้อมทั้งให้หุ้นกับจ๊อบส์ เป็นจำนวน 138ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.5 เปอร์เซ็นต์

ที่มา AppleInsider