กว่าจะมีเวลามา Review แต่ละครั้ง ช่วงนี้งานเยอะครับ จะพยายาม Review ไปเรื่อยๆนะครับ

กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip วันที่ 1 และ 2 ณ กรุงปราก http://ppantip.com/topic/32990276
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip วันที่ 3 และ 4 ณ กรุงเวียนนา http://ppantip.com/topic/32990276
Honeymoon Trip part 4 Salzbrug http://ppantip.com/topic/33020114
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 5  Salzburg & Munich http://ppantip.com/topic/33032451
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 6  Munich & Fussen  http://ppantip.com/topic/33038467
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 7  Schaffhausen & Stein am Rhein http://ppantip.com/topic/33045475
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 8  Zermatt & Glacier Paradise http://ppantip.com/topic/33075179
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 9  Interlaken & หมู่บ้านตีนเขา Jungfrau Joch http://ppantip.com/topic/33084332

วันที่ 5 (29/112557) Hallstatt
ช่วงเย็นวันที่ 28 พ.ย.2557 เรานั่งรถไฟจากเวียนนารอบ 15.00 น. ไปถึง Hallstatt ประมาณ 18.51 น. เราไปลงที่สถานีรถไฟ Obertraun Dachsteinhohen ครับ (เป็นเมืองติดกับ Hallstatt) เนื่องจากเราพักที่เมืองนี้เป็น Guest House ชื่อ Haus Marie (เนื่องจาก tripadvisor ให้คะแนนสูงทีเดียว และ Comments ต่างบอกว่าวิวที่โรงแรมนี้สวยมาก) พอไปถึงสถานีรถไฟ เจ้าของโรงแรมก็มารับเราถึงรถไฟเลยทีเดียว (ถ้ามาถึงช่วง 16.00 -20.00 โรงแรมมีบริการรับส่งฟรี)

โรงแรมน่ารักมากครับ เป็นบ้านพัก โดยทำเป็นโรงแรม มีห้องพักไม่กี่ห้อง เราไปถึงเราได้ห้องนอนชั้น 2 ทั้งชั้นเลยทีเดียว
บ้านพักในช่วงเช้า



เป็นวิวภูเขาล้อมรอบบ้านเลยครับ

สนามหญ้าหน้าบ้านและข้างบ้านเป็นน้ำแข็งไปหมดเลย

ห้องอาหารของที่พักมีแต่เรา 2 คน แต่วิวระหว่างนั่งทานอาหารเช้า สวยมาก


ลืมเล่าครับ ในคืนที่มาถึงที่พัก ผมได้เช็ค E-mail และเจอ Mail จากสายการบิน Aeroflot ว่าเที่ยวบินจาก Rome ไป Moscow รอบวันที่ 13 ธ.ค.57 เวลา 14.30 ถูกยกเลิก ซวยละสิครับตอนนั้น ใจหล่นไปที่ตะตุ่มทีเดียว เนื่องจากเราต้องนั่งเที่ยวบินนี้ไปยัง Moscow เพื่อต่อเครื่องกลับกรุงเทพ (นี่ถ้าไม่เช็ตเมลล์เลยตลอดทริปคงซวยตาย) ผมเลยส่งเมลล์กลับไปที่ Callcenter ของสายการบิน วันรุ่งขึ้นทางสายการบินก็แจ้งกลับมาจะเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินให้เป็นออกจาก Rome เวลา 14.25 ของวันที่ 13 ธ.ค.57 (เอ่อ ต่างกัน 5 นาที ยังมีเที่ยวบิน ถึงว่าทำไมยกเลิกเที่ยว 14.30) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เลยไม่มีปัญหาเรื่องเที่ยวบินตอนกลับละ

ต่อ Hallstatt ดีกว่าครับ ตอนไปถึงเราก็ถามเจ้าของโรงแรมว่า จากโรงแรมเราจะไป Hallstatt ยังไงได้ เจ้าของเค้าก็แนะนำว่า พอดีมีคู่แม่ลูกชาวจีนมาพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกับเรา น่าจะหารค่า Taxi ไปด้วยกันได้ เดี๋ยวเค้าเรียก Taxi ให้ ค่า Taxi ก็ราคา 16 EURO (หาร 4 คนก็คนละ 4 Euro เอง) เราเลยตกลง เช้าวันถัดมาเราเลยได้เพื่อนใหม่เป็นคู่แม่ลูกชาวจีน (เมือง Hallstatt เล็กมาก เดินไปตรงไหนก็เจอแล้วทักกันตลอด)

เราไป Hallstatt โดยเอากระเป๋าใบใหญ่ของเราไปด้วย เนื่องจากเจ้าของโรงแรมแนะนำว่า เราสามารถไปฝากกระเปากับ Tourist Information Center ของเมืองได้ เราจะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาโรงแรมอีก ขึ้นรถไฟจาก Hallstatt ไปได้เลย เราเลยให้ Taxi ไปส่งที่ Tourist Information Center  ปรากฏว่า...วันที่เราไปเป็นวันเสาร์ มันปิดดดดดดดดดดด อ๊ากกกกก (นี่ตรูจะต้องลากกระเป๋าใบนี้ไปเที่ยวด้วยหรือนี่) เลยไปถามชาวเมือง เค้าก็แนะนำว่าให้ลองไปฝากกระเป่าที่โรงแรมตรงท่าเรือที่โบสถ์กลางเมืองดู เราเลยลากกระเป๋าไปประมาณ 500 เมตร ระหว่างลากกระเป๋าไปก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แต่...

หมอกลงหนามากครับในช่วงเช้า

ข้างหน้า Tourist Information Center

ผมเช็คอากาศดูแล้ว หมอกจะลงจัดในช่วงเช้าและจะหายไปในช่วงบ่ายครับ
ระหว่างทางเดินไป




มันคือน้ำพุ แล้วเอาไม้มาปิดไว้ทำไมอ่ะ ใครรู้ข่วยบอกด้วยครับ


แถวๆท่าเรือครับ เห้อ มีแต่หมอก


โรงแรมและโบสถ์ที่ท่าเรือ


ว่าแล้วเราก็ลองไปถามโรงแรมเพื่อจะเอากระเป๋าไปฝาก ปรากฎว่าฝากได้ครับ แต่กระเป๋าละ 5 EURO!!! นาทีนั้น ยังไงก็ต้องฝากครับ
จัดการกระเป๋าเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวและถ่ายรูป

เซ็งตรงหมอกนี่แหละ จะหนาไปไหน






เดินขึ้นไปที่โบสถ์ด้านบนดีกว่า

แต่หมอก เอิ่มมม

สุสานเค้าสวยนะ



บนโบสถ์