ในพุทธศาสนามีเรื่องอกาลิโกอยู่ด้วยนอกจากธรรมเพื่อการพ้นทุกข์แล้วก็ยังมีเรืองโลกกลม
เรื่องจักรวาลจำนวนมากและเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกตอนนี้วิทยาศาสตร์ยังหาไม่พบ เรื่องของจิต
เรื่องกายทิพย์ตอนนี้ทางการแพทย์ก็เจอกันบ้างแล้วสภาวิจัยไทยเคยแปลออกมาขายแล้วที่ยกตัวอย่างมานี้เพื่อ
บอกว่าพุทธศาสนามีหลายเรื่องที่เอื้อต่อทางโลกอยู่มิใช่น้อยไม่แปลกเลยที่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
จะสนใจสนทนาธรรมกับองค์ทะไลลามะเป็นประจำทุกปี
และที่กล่าวกันว่าพุทธศาสนาไม่เอื้อไม่เกื้อกูลกับเรื่องทางโลกแบบวิทยาศาสตร์นั้นเหมือนไม่สงเสริมความคิดความเจริญทางโลกนั้น
เป็นเพียงเรื่องความเข้าใจผิดของชาวพุทธบางกลุ่มเท่านั้นที่อ่านพระสูตรไม่แตก แยกแยะประเด็นไม่ได้ว่า
ทรงรับรองนักคิดทางโลกแต่ทรงห้ามเฉพาะภิกษุสงฆ์ไม่ให้คิดในเรื่องทางโลกและไม่ให้ทำงานแบบชาวบ้านชาวโลกด้วย
เพราะไม่เป็นไปเพื่อพระนิพพานไม่ได้ห้ามคนทั่วไปเพราะพุทธศาสนาไม่ขวางโลกขว้างความเจริญ
ของชาวโลกอย่างที่ชาวพุทธบางกลุ่มเข้าใจผิดกันอยู่
[๑๗๒๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาป-
*สถาน ใกล้พระนครราชคฤห์ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว บุรุษคนหนึ่งออกจากเมืองราชคฤห์ เข้าไปยังสระโบกขรณี
ชื่อสุมาคธา ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก ครั้นแล้ว นั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ณ ขอบสระโบก-
*ขรณีชื่อสุมาคธา เข้าได้เห็นกองทัพประกอบด้วยองค์ ๔ เข้าไปสู่ก้านบัว ที่ขอบสระโบกขรณี
ชื่อสุมาคธา ครั้นแล้ว ได้มีความคิดว่า เราชื่อว่าเป็นคนบ้า ชื่อว่าเป็นคนมีจิตฟุ้งซ่านเสียแล้ว
เราเห็นสิ่งที่ไม่มีในโลก ครั้งนั้น บุรุษนั้นเข้าไปยังนครบอกแก่หมู่มหาชนว่า ท่านผู้เจริญ
ทั้งหลาย เราชื่อว่าเป็นคนบ้า ชื่อว่าเป็นคนมีจิตฟุ้งซ่านเสียแล้ว เราเห็นสิ่งที่ไม่มีในโลก หมู่
มหาชนถามว่า ดูกรบุรุษผู้เจริญ ท่านเป็นบ้าได้อย่างไร ท่านมีจิตฟุ้งซ่านอย่างไร สิ่งอะไรที่ไม่มี
ในโลกซึ่งท่านเห็นแล้ว?
บุ. ดูกรท่านผู้เจริญทั้งหลาย จะบอกให้ทราบ เราออกจากกรุงราชคฤห์ เข้าไปยังjavascript:void(0);
สระโบกขรณีชื่อสุมาคธา ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก ครั้นแล้ว นั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ณ
ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา เราได้เห็นกองทัพประกอบด้วยองค์ ๔ เข้าไปสู่ก้านบัวที่ขอบสระ
โบกขรณีชื่อสุมาคธา เราเป็นบ้าได้อย่างนี้ เรามีจิตฟุ้งซ่านอย่างนี้ ก็สิ่งนี้ไม่มีในโลก เราเห็น
แล้ว.
มหา. ดูกรบุรุษผู้เจริญ ท่านเป็นบ้าแน่ ท่านมีจิตฟุ้งซ่านแน่ ก็และสิ่งนี้ไม่มีในโลก
ท่านเห็นแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้นได้เห็นสิ่งที่เป็นจริง ไม่ใช่ได้เห็นสิ่งที่ไม่เป็นจริง.
..เรื่อง...โอลาพ่อ..เมื่อทรงรับรองนักคิดเรื่องโลกฯ!?
เรื่องจักรวาลจำนวนมากและเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกตอนนี้วิทยาศาสตร์ยังหาไม่พบ เรื่องของจิต
เรื่องกายทิพย์ตอนนี้ทางการแพทย์ก็เจอกันบ้างแล้วสภาวิจัยไทยเคยแปลออกมาขายแล้วที่ยกตัวอย่างมานี้เพื่อ
บอกว่าพุทธศาสนามีหลายเรื่องที่เอื้อต่อทางโลกอยู่มิใช่น้อยไม่แปลกเลยที่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
จะสนใจสนทนาธรรมกับองค์ทะไลลามะเป็นประจำทุกปี
และที่กล่าวกันว่าพุทธศาสนาไม่เอื้อไม่เกื้อกูลกับเรื่องทางโลกแบบวิทยาศาสตร์นั้นเหมือนไม่สงเสริมความคิดความเจริญทางโลกนั้น
เป็นเพียงเรื่องความเข้าใจผิดของชาวพุทธบางกลุ่มเท่านั้นที่อ่านพระสูตรไม่แตก แยกแยะประเด็นไม่ได้ว่า
ทรงรับรองนักคิดทางโลกแต่ทรงห้ามเฉพาะภิกษุสงฆ์ไม่ให้คิดในเรื่องทางโลกและไม่ให้ทำงานแบบชาวบ้านชาวโลกด้วย
เพราะไม่เป็นไปเพื่อพระนิพพานไม่ได้ห้ามคนทั่วไปเพราะพุทธศาสนาไม่ขวางโลกขว้างความเจริญ
ของชาวโลกอย่างที่ชาวพุทธบางกลุ่มเข้าใจผิดกันอยู่
[๑๗๒๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาป-
*สถาน ใกล้พระนครราชคฤห์ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว บุรุษคนหนึ่งออกจากเมืองราชคฤห์ เข้าไปยังสระโบกขรณี
ชื่อสุมาคธา ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก ครั้นแล้ว นั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ณ ขอบสระโบก-
*ขรณีชื่อสุมาคธา เข้าได้เห็นกองทัพประกอบด้วยองค์ ๔ เข้าไปสู่ก้านบัว ที่ขอบสระโบกขรณี
ชื่อสุมาคธา ครั้นแล้ว ได้มีความคิดว่า เราชื่อว่าเป็นคนบ้า ชื่อว่าเป็นคนมีจิตฟุ้งซ่านเสียแล้ว
เราเห็นสิ่งที่ไม่มีในโลก ครั้งนั้น บุรุษนั้นเข้าไปยังนครบอกแก่หมู่มหาชนว่า ท่านผู้เจริญ
ทั้งหลาย เราชื่อว่าเป็นคนบ้า ชื่อว่าเป็นคนมีจิตฟุ้งซ่านเสียแล้ว เราเห็นสิ่งที่ไม่มีในโลก หมู่
มหาชนถามว่า ดูกรบุรุษผู้เจริญ ท่านเป็นบ้าได้อย่างไร ท่านมีจิตฟุ้งซ่านอย่างไร สิ่งอะไรที่ไม่มี
ในโลกซึ่งท่านเห็นแล้ว?
บุ. ดูกรท่านผู้เจริญทั้งหลาย จะบอกให้ทราบ เราออกจากกรุงราชคฤห์ เข้าไปยังjavascript:void(0);
สระโบกขรณีชื่อสุมาคธา ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก ครั้นแล้ว นั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ณ
ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา เราได้เห็นกองทัพประกอบด้วยองค์ ๔ เข้าไปสู่ก้านบัวที่ขอบสระ
โบกขรณีชื่อสุมาคธา เราเป็นบ้าได้อย่างนี้ เรามีจิตฟุ้งซ่านอย่างนี้ ก็สิ่งนี้ไม่มีในโลก เราเห็น
แล้ว.
มหา. ดูกรบุรุษผู้เจริญ ท่านเป็นบ้าแน่ ท่านมีจิตฟุ้งซ่านแน่ ก็และสิ่งนี้ไม่มีในโลก
ท่านเห็นแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้นได้เห็นสิ่งที่เป็นจริง ไม่ใช่ได้เห็นสิ่งที่ไม่เป็นจริง.