เพิ่งจบมาได้สองสามเดือน อยากทำงานแล้วล่ะค่ะ
จบป.ตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมีชื่อพอสมควร เพิ่งจบโทนิติวิทยาศาสตร์ด้วยค่ะ
ตอนแรกเราก็อยากสอบราชการ แต่เพิ่งไปสอบบังคับคดีมา เราไม่ได้อ่านหนังสือเต็มที่ด้วย ผลออกมาวันนี้ว่าไม่ผ่าน ก็ตามนั้น
แต่เราอยากมีงานแล้วค่ะ อยากทำงาน เราสมัครไปที่ไหนก็ไม่ได้ บางที่เขาก็ไม่รับบ้าง บางที่เขาก็เรียกสัมภาษณ์ แล้วก็บอกเราว่า วุฒิเราสูงเกินไป คือเราก็ไม่ได้เลือกงานนะคะ อย่างตอนที่จบใหม่ๆ เราสมัครแม้แต่พนักงานร้านซีเอ็ด พนักงานขายหนังสือเงินเดือนไม่ถึงหมื่นนี่แหละค่ะ เขาก็บอกว่าอะไรเราก็ได้หมด ทัศนคติอะไรนี่เขาก็บอกว่าผ่าน แต่ที่ไม่ผ่านคือวุฒิเราดีเกินไป (หลายๆ ที่พูดมาแบบนี้เลยค่ะ) ยิ่งเราจบโทด้วย เรายิ่งไปได้ไกล
แหม...โทนิติวิทย์ มีที่ไหนเขาเปิดรับมั่งล่ะน่ะ =="
เรามานั่งนึกก็พอเข้าใจทางเขาอยู่บ้าง อาจจะเป็นเพราะเขาเห็นชื่อมหาวิทยาลัย (คือไม่ได้แบบจุฬา ธรรมศาสตร์นะคะ แต่ก็มีชื่อพอตัวเหมือนกัน) เห็นวุฒิเรา (แค่วุฒิตรีเขาก็แทบจะไม่เอาละมั้ง) แล้วมาสมัครงานแบบกวาดมันทุกอย่างเลย ตอนนั้นเราสมัครหมดจริงๆ ค่ะ พนักงานขายเสื้อผ้า พนักงานคอลเซ็นเตอร์ นู่นนั่นนี่ แต่ก็ไม่ได้ คนสัมภาษณ์เขาคงมองว่าเรามีทางไปได้มากกว่า เขาอาจอยากได้คนที่อยู่กับเขาได้นานๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาสอนงานด้วยล่ะมั้งคะ แล้วก็คิดว่ายังไงเราก็คงไม่อยู่กับเขานานแน่ด้วย
ตอนนี้ บอกตรงๆ เลยค่ะว่ารู้สึกถึงคำว่า 'ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด' กันเลยทีเดียว
แล้วเราก็ยิ่งเจ็บใจตัวเองเข้าไปอีก เพราะเราดันทำอะไรหลายอย่างได้ด้วย ตอนเรียนตรี-โท เราลองเขียนนิยาย ก็ได้ตีพิมพ์ เราก็เลยอาศัยการที่รู้จักกับคนในสำนักพิมพ์ของานปกนิยายมาทำบ้าง เป็นฟรีแลนซ์ไปเรื่อยๆ เอาเงินมาใช้เรียน เงินตอนที่ได้เขียนนิยายก็เอามาเรียนโท คือเราเรียนรู้งานอื่นค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นพวกเด็กกิจกรรมด้วย เรียกว่าทักษะนอกจากกฎหมายเรามี แต่เราไปสมัครงานพวกนั้นไม่ได้เพราะวุฒิไม่ให้
ตอนเรียนโทนี่รู้สึกเหมือนโดนขายฝันพิกล เพราะตอนนั้นอาจารย์และพี่ๆ ตำรวจที่รู้จักกันเขาบอกว่าอีกหน่อยเขาจะเปิดรับวุฒิป.โทนิติวิทย์ เราตกลงเรียน ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกชอบงานพิสูจน์หลักฐาน (เราเคยเรียนตัวเลือกตอนเรียนตรี แล้วชอบมาก รู้สึกเหมือนนี่แหละ อาชีพในฝันของเราเลย) ยิ่งเราทำวิจัยกับอาจารย์หมอเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและจิตเวชยิ่งสนุก อาจารย์ยังออกปากว่าเราเหมาะที่จะเป็นนักวิจัย ไอ้เราก็รอไปสิ รอให้เขาเปิดสอบ แต่ปีแล้วปีเล่าเขาก็เปิดแต่ป.ตรี วิทยาศาสตร์เฉยๆ ซึ่งนิติวิทย์ อย่างกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุเนี่ย เท่าที่เราเรียนมา ต้องประยุกต์ศาสตร์หลายๆ สาขามาก ไม่ได้เน้นไปที่สาขาใดสาขาหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งการรับป.โทนิติวิทย์น่าจะเป็นอะไรที่ตรงกับความต้องการของสายงานมากกว่า แต่ก็นั่นแหละ...เขาไม่เปิดรับ ก็ยังไม่เท่าไหร่
แต่เปิดรับ ปวช. ปวส. มาทำงานนิติวิทย์นี่แหละ เราเครียดเลย TT^TT
เราไม่ได้ดูถูกคนจบสายอาชีพนะคะ ย้อนเวลากลับไปได้เราอาจจะเลือกเรียนสายอาชีพก็ได้เพราะงานรองรับเยอะมากให้ตายเถอะ แต่ว่าสายอาชีพก็ไม่ได้ตรงกับความต้องการของสายงานนิติวิทยาศาสตร์นะคะ =="
ส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์...รอไปเถอะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะเปิดรับ นี่ก็ล่วงเข้าปีที่สามแล้วล่ะมั้งที่ไม่เปิด
เราเรียนจบโทมา เคว้งคว้างอยู่ซักพักก็ตั้งหลัก กะสอบเนติฯ เพราะตอนเรียนโทเรามุ่งไปที่นิติวิทย์อย่างเดียวเลย (เราทำฟรีแลนซ์ไปด้วย) เราก็อ่านหนังสือไปเดือนกว่า ไปสอบ แน่นอนว่าไม่ได้ 555555 แต่อย่างน้อยเราถือว่าเราได้เห็นแนวข้อสอบ ความยากของมันแล้ว เราก็เตรียมพร้อมที่จะสู้กับเนติฯ เทอมต่อไป จะไปสอบตั๋วทนาย...ดันไม่มีตังอีก
ตอนนี้เราอยากได้งานมากกกกกกกกกกก...จริงๆ ค่ะ
แต่เราไม่อยากกว้านหาอีกแล้ว เราเหนื่อย เราอยากได้งานที่มันตรงสายที่เราเรียนซักที (เพราะไอ้ที่ไม่ตรงสาย ถึงเรามีความสามารถแต่เขาก็ไม่เอา) เราสงสารพ่อแม่ อยากส่งเงินไปให้ท่านบ้าง เราอยากส่งน้องเรียน อยากช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน ตอนนี้งานเงินเดือนเท่าไหร่เราก็ยอมทำแหละค่ะ
จริงๆ ตอนนี้เราอยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เพราะอย่างน้อยสาขาที่เรียนจบมามันก็ค่อนข้างพิเศษอยู่ เป็นวิชาที่สามารถนำไปสอนเสริมให้เด็กกฎหมายหรือเด็กวิทย์ที่สนใจได้ อย่างมหาลัยเรามีวิชาสืบสวนสอบสวนและนิติวิทยาศาสตร์ อาชญวิทยา อะไรพวกนี้ เราเรียนมา เราก็อยากถ่ายทอด แต่เราก็ไม่รู้ว่าที่ไหนที่เขามีหลักสูตรแบบนี้ให้เราไปสอน หรือมีที่ไหนที่เราจะสามารถไปเสนอหลักสูตรได้ ราชภัฎก็เหมือนจะรับตามวุฒิที่เขาเปิดสอบ เอกชนเราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะรับมั้ย เราเคยส่งประวัติตัวเองไปที่เอกชนที่หนึ่ง ก็ไม่เห็นเขาตอบกลับอะไรมาด้วย ส่วนมหาลัยรัฐอื่นๆ ก็อย่างที่ว่า ถ้าเขาไม่ประกาศรับสมัครเราก็ไม่รู้ช่องทางที่จะส่งประวัติไปจริงๆ
งานกฎหมายอย่างอื่นเราก็อยากทำ อยากทำเสมียนทนายเพื่อจะเห็นกระบวนการทางกฎหมายให้มากขึ้น (อ้อ เผื่อท่านทนายความอยากจะถามแนวทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ เราก็จะได้ช่วยด้วย) อยากเก็บเงินสอบข้าราชการ สอบตั๋วทนาย อยากเก็บเงินเรียนปริญญาเอก (แม่บอกว่าเราบ้าเรียน แต่เราก็อยากเรียนจริงๆ อยากพัฒนาตัวเอง อยากรู้ อยากทำวิจัย อยากศึกษาด้านที่ตัวเองชอบให้ลึกขึ้นเรื่อยๆ และอยากนำสิ่งที่รู้มาถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อไปด้วย) เฮ้อ...
ระบายมาซะยาว แต่ที่ต้องการคำตอบมีนิดเดียวจริงๆ เท่านั้นล่ะค่ะ
ณ จุดนี้เราอยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยค่ะ เราอยากรู้ว่าถ้าเราจะสมัครเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เราจะต้องทำยังไงดีค่ะ เราจะเดินท่อมๆ ไปสมัครกับคณบดีทั้งที่เขาไม่เปิดรับสมัครได้ไหม
แต่ช่วงระหว่างที่ยังไม่ได้เป็นอาจารย์ เราก็คงตระเวนหางานไปเรื่อยๆ ล่ะค่ะ อย่างน้อยก็ยังมีเงินส่งไปให้ที่บ้าน ไม่ต้องให้ที่บ้านส่งมาด้วย
บางทีเราก็เหนื่อยค่ะ รู้ว่ามีคนเหนื่อยมากกว่าเราเยอะ เราก็ไม่เคยจะระบายให้ใครฟัง แม้แต่แฟนเราก็ไม่บอก แต่บางที...แค่ได้ระบายออกมันก็ดีขึ้นบ้างจริงๆ นะคะ
ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านจนจบค่ะ อาจจะวกไปวนมา ระบายอะไรมากมายบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ขอระบายค่ะ เครียดมาก อยากทำงานแล้ว อยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
จบป.ตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมีชื่อพอสมควร เพิ่งจบโทนิติวิทยาศาสตร์ด้วยค่ะ
ตอนแรกเราก็อยากสอบราชการ แต่เพิ่งไปสอบบังคับคดีมา เราไม่ได้อ่านหนังสือเต็มที่ด้วย ผลออกมาวันนี้ว่าไม่ผ่าน ก็ตามนั้น
แต่เราอยากมีงานแล้วค่ะ อยากทำงาน เราสมัครไปที่ไหนก็ไม่ได้ บางที่เขาก็ไม่รับบ้าง บางที่เขาก็เรียกสัมภาษณ์ แล้วก็บอกเราว่า วุฒิเราสูงเกินไป คือเราก็ไม่ได้เลือกงานนะคะ อย่างตอนที่จบใหม่ๆ เราสมัครแม้แต่พนักงานร้านซีเอ็ด พนักงานขายหนังสือเงินเดือนไม่ถึงหมื่นนี่แหละค่ะ เขาก็บอกว่าอะไรเราก็ได้หมด ทัศนคติอะไรนี่เขาก็บอกว่าผ่าน แต่ที่ไม่ผ่านคือวุฒิเราดีเกินไป (หลายๆ ที่พูดมาแบบนี้เลยค่ะ) ยิ่งเราจบโทด้วย เรายิ่งไปได้ไกล
แหม...โทนิติวิทย์ มีที่ไหนเขาเปิดรับมั่งล่ะน่ะ =="
เรามานั่งนึกก็พอเข้าใจทางเขาอยู่บ้าง อาจจะเป็นเพราะเขาเห็นชื่อมหาวิทยาลัย (คือไม่ได้แบบจุฬา ธรรมศาสตร์นะคะ แต่ก็มีชื่อพอตัวเหมือนกัน) เห็นวุฒิเรา (แค่วุฒิตรีเขาก็แทบจะไม่เอาละมั้ง) แล้วมาสมัครงานแบบกวาดมันทุกอย่างเลย ตอนนั้นเราสมัครหมดจริงๆ ค่ะ พนักงานขายเสื้อผ้า พนักงานคอลเซ็นเตอร์ นู่นนั่นนี่ แต่ก็ไม่ได้ คนสัมภาษณ์เขาคงมองว่าเรามีทางไปได้มากกว่า เขาอาจอยากได้คนที่อยู่กับเขาได้นานๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาสอนงานด้วยล่ะมั้งคะ แล้วก็คิดว่ายังไงเราก็คงไม่อยู่กับเขานานแน่ด้วย
ตอนนี้ บอกตรงๆ เลยค่ะว่ารู้สึกถึงคำว่า 'ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด' กันเลยทีเดียว
แล้วเราก็ยิ่งเจ็บใจตัวเองเข้าไปอีก เพราะเราดันทำอะไรหลายอย่างได้ด้วย ตอนเรียนตรี-โท เราลองเขียนนิยาย ก็ได้ตีพิมพ์ เราก็เลยอาศัยการที่รู้จักกับคนในสำนักพิมพ์ของานปกนิยายมาทำบ้าง เป็นฟรีแลนซ์ไปเรื่อยๆ เอาเงินมาใช้เรียน เงินตอนที่ได้เขียนนิยายก็เอามาเรียนโท คือเราเรียนรู้งานอื่นค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นพวกเด็กกิจกรรมด้วย เรียกว่าทักษะนอกจากกฎหมายเรามี แต่เราไปสมัครงานพวกนั้นไม่ได้เพราะวุฒิไม่ให้
ตอนเรียนโทนี่รู้สึกเหมือนโดนขายฝันพิกล เพราะตอนนั้นอาจารย์และพี่ๆ ตำรวจที่รู้จักกันเขาบอกว่าอีกหน่อยเขาจะเปิดรับวุฒิป.โทนิติวิทย์ เราตกลงเรียน ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกชอบงานพิสูจน์หลักฐาน (เราเคยเรียนตัวเลือกตอนเรียนตรี แล้วชอบมาก รู้สึกเหมือนนี่แหละ อาชีพในฝันของเราเลย) ยิ่งเราทำวิจัยกับอาจารย์หมอเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและจิตเวชยิ่งสนุก อาจารย์ยังออกปากว่าเราเหมาะที่จะเป็นนักวิจัย ไอ้เราก็รอไปสิ รอให้เขาเปิดสอบ แต่ปีแล้วปีเล่าเขาก็เปิดแต่ป.ตรี วิทยาศาสตร์เฉยๆ ซึ่งนิติวิทย์ อย่างกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุเนี่ย เท่าที่เราเรียนมา ต้องประยุกต์ศาสตร์หลายๆ สาขามาก ไม่ได้เน้นไปที่สาขาใดสาขาหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งการรับป.โทนิติวิทย์น่าจะเป็นอะไรที่ตรงกับความต้องการของสายงานมากกว่า แต่ก็นั่นแหละ...เขาไม่เปิดรับ ก็ยังไม่เท่าไหร่
แต่เปิดรับ ปวช. ปวส. มาทำงานนิติวิทย์นี่แหละ เราเครียดเลย TT^TT
เราไม่ได้ดูถูกคนจบสายอาชีพนะคะ ย้อนเวลากลับไปได้เราอาจจะเลือกเรียนสายอาชีพก็ได้เพราะงานรองรับเยอะมากให้ตายเถอะ แต่ว่าสายอาชีพก็ไม่ได้ตรงกับความต้องการของสายงานนิติวิทยาศาสตร์นะคะ =="
ส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์...รอไปเถอะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะเปิดรับ นี่ก็ล่วงเข้าปีที่สามแล้วล่ะมั้งที่ไม่เปิด
เราเรียนจบโทมา เคว้งคว้างอยู่ซักพักก็ตั้งหลัก กะสอบเนติฯ เพราะตอนเรียนโทเรามุ่งไปที่นิติวิทย์อย่างเดียวเลย (เราทำฟรีแลนซ์ไปด้วย) เราก็อ่านหนังสือไปเดือนกว่า ไปสอบ แน่นอนว่าไม่ได้ 555555 แต่อย่างน้อยเราถือว่าเราได้เห็นแนวข้อสอบ ความยากของมันแล้ว เราก็เตรียมพร้อมที่จะสู้กับเนติฯ เทอมต่อไป จะไปสอบตั๋วทนาย...ดันไม่มีตังอีก
ตอนนี้เราอยากได้งานมากกกกกกกกกกก...จริงๆ ค่ะ
แต่เราไม่อยากกว้านหาอีกแล้ว เราเหนื่อย เราอยากได้งานที่มันตรงสายที่เราเรียนซักที (เพราะไอ้ที่ไม่ตรงสาย ถึงเรามีความสามารถแต่เขาก็ไม่เอา) เราสงสารพ่อแม่ อยากส่งเงินไปให้ท่านบ้าง เราอยากส่งน้องเรียน อยากช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน ตอนนี้งานเงินเดือนเท่าไหร่เราก็ยอมทำแหละค่ะ
จริงๆ ตอนนี้เราอยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เพราะอย่างน้อยสาขาที่เรียนจบมามันก็ค่อนข้างพิเศษอยู่ เป็นวิชาที่สามารถนำไปสอนเสริมให้เด็กกฎหมายหรือเด็กวิทย์ที่สนใจได้ อย่างมหาลัยเรามีวิชาสืบสวนสอบสวนและนิติวิทยาศาสตร์ อาชญวิทยา อะไรพวกนี้ เราเรียนมา เราก็อยากถ่ายทอด แต่เราก็ไม่รู้ว่าที่ไหนที่เขามีหลักสูตรแบบนี้ให้เราไปสอน หรือมีที่ไหนที่เราจะสามารถไปเสนอหลักสูตรได้ ราชภัฎก็เหมือนจะรับตามวุฒิที่เขาเปิดสอบ เอกชนเราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะรับมั้ย เราเคยส่งประวัติตัวเองไปที่เอกชนที่หนึ่ง ก็ไม่เห็นเขาตอบกลับอะไรมาด้วย ส่วนมหาลัยรัฐอื่นๆ ก็อย่างที่ว่า ถ้าเขาไม่ประกาศรับสมัครเราก็ไม่รู้ช่องทางที่จะส่งประวัติไปจริงๆ
งานกฎหมายอย่างอื่นเราก็อยากทำ อยากทำเสมียนทนายเพื่อจะเห็นกระบวนการทางกฎหมายให้มากขึ้น (อ้อ เผื่อท่านทนายความอยากจะถามแนวทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ เราก็จะได้ช่วยด้วย) อยากเก็บเงินสอบข้าราชการ สอบตั๋วทนาย อยากเก็บเงินเรียนปริญญาเอก (แม่บอกว่าเราบ้าเรียน แต่เราก็อยากเรียนจริงๆ อยากพัฒนาตัวเอง อยากรู้ อยากทำวิจัย อยากศึกษาด้านที่ตัวเองชอบให้ลึกขึ้นเรื่อยๆ และอยากนำสิ่งที่รู้มาถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อไปด้วย) เฮ้อ...
ระบายมาซะยาว แต่ที่ต้องการคำตอบมีนิดเดียวจริงๆ เท่านั้นล่ะค่ะ
ณ จุดนี้เราอยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยค่ะ เราอยากรู้ว่าถ้าเราจะสมัครเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เราจะต้องทำยังไงดีค่ะ เราจะเดินท่อมๆ ไปสมัครกับคณบดีทั้งที่เขาไม่เปิดรับสมัครได้ไหม
แต่ช่วงระหว่างที่ยังไม่ได้เป็นอาจารย์ เราก็คงตระเวนหางานไปเรื่อยๆ ล่ะค่ะ อย่างน้อยก็ยังมีเงินส่งไปให้ที่บ้าน ไม่ต้องให้ที่บ้านส่งมาด้วย
บางทีเราก็เหนื่อยค่ะ รู้ว่ามีคนเหนื่อยมากกว่าเราเยอะ เราก็ไม่เคยจะระบายให้ใครฟัง แม้แต่แฟนเราก็ไม่บอก แต่บางที...แค่ได้ระบายออกมันก็ดีขึ้นบ้างจริงๆ นะคะ
ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านจนจบค่ะ อาจจะวกไปวนมา ระบายอะไรมากมายบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ